ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 06, 2016, 12:36:22 am »
61 ประเทศใหญ่
ประเทศใหญ่ควรเป็นเหมือนตอนปลายของแม่น้ำใหญ่ อันตั้งอยู่ในที่ต่ำ
ที่ซึ่งสายน้ำเล็กๆไหลมารวมกัน เป็นที่รวมของหมู่ชนในโลก เป็นสตรีเพศของโลก
สตรีมีชัยเหนือบุรุษด้วยอาศัยความสงบ และบรรลุผลด้วยความสงบและความต่ำต้อย
ดังนั้นถ้าประเทศใหญ่ถ่อมตนต่อประเทศเล็ก การถ่อมตนนั่นเองจึงทำให้เหนือกว่า ผู้วางตนต่ำจึงอาจเข้าครอบครอง
ถ้าประเทศเล็กถ่อมตนต่อประเทศใหญ่ ประเทศเล็กก็อาจเข้าครอบครอง
มีบ้างเพื่อวางตนต่ำกว่าเพื่อจะได้เข้าครอบครอง มีบ้างที่ต่ำอยู่แล้วโดยธรรมชาติ และก็ได้ครอบครองโดยธรรมชาติ
สิ่งที่ประเทศใหญ่ต้องการคือการเข้าปกป้องประเทศอื่น
สิ่งที่ประเทศเล็กต้องการ คือการเข้าอยู่ภายใต้การปกป้อง
พิจารณาดูแล้วทั้งสองก็ได้ตามที่ตนปรารถนา มีลักษณะพึ่งพาอาศัยกัน
อันเกิดจากความต้องการภายใน มิได้ใช้กำลังบังคับข่มขืน
เป็นผลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดังนั้นประเทศใหญ่จึงควรตั้งตนไว้ในที่ต่ำ
62 สมบัติของโลก
เต๋าเป็นความลึกลับยิ่งของจักรวาล เป็นสมบัติของคนดี เป็นที่พักพิงของคนชั่ว
ถ้อยคำของกวีอาจขายได้ที่ตลาด / ความประพฤติอันสูงส่งอาจให้เป็นกำนัล
แม้จะมีคนชั่วอยู่บ้าง เหตุใดต้องไปขับไล่ไสส่ง
ในพิธีขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิ ในพิธีแต่งตั้งเสนาบดีทั้งสามตำแหน่ง
แทนที่จะส่งหยก และรถเทียมม้าสี่ไปให้เป็นบรรณาการ ส่งเต๋าไปให้เป็นบรรณาการจะดีกว่า
เพราะเป็นสิ่งที่โบราณพากันภาคภูมิใจ
มีคำโบราณได้กล่าวไว้ว่า " พยายามค้นหาคนชั่วและให้อภัย " ดังนั้นเต๋าจึงอาจนับได้ว่าเป็นสมบัติของโลก
63 ยากกับง่าย
ทำด้วยการไม่กระทำ ดูแลด้วยการไม่ดูแล ลิ้มรสด้วยการไม่ลิ้มรส
ถือที่เล็กเสมือนใหญ่ ถือที่น้อยเสมือนมาก ตอบแทนความชั่วด้วยความดี
จัดการกับสิ่งที่ยุ่งยากขณะที่ยังง่าย / จัดการกับสิ่งที่ใหญ่ขณะที่ยังเล็ก
ปัญหาที่แก้ยากของโลก จะต้องแก้ไขขณะที่ยังง่ายอยู่ / ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของโลก จะต้องแก้ไขขณะที่ยังเล็กอยู่
ดังนั้นการที่ปราชญ์ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานใหญ่ งานอันยิ่งใหญ่ก็สำเร็จลง
ผู้ให้คำสัตย์สาบานง่ายดายเกินไป ยากนักที่จะรักษาคำมั่นสัญญานั้น
ผู้ที่มองเห็นหลายสิ่งหลายอย่างว่าง่าย จะพบความยากลำบากเมื่อภายหลัง
ดังนั้นปราชญ์จึงพิเคราะห์สิ่งต่างๆ ว่ายากลำบาก และด้วยเหตุนั้นท่านจึงมิได้รับ ความยากลำบากใดๆ เลย
64 เริ่มทำเมื่อยังง่าย
สิ่งที่อยู่นิ่ง ง่ายที่จะเก็บรักษาไว้ / สิ่งที่ยังไม่เกิด ง่ายที่จะป้องกัน
สิ่งที่อ่อนนุ่ม ง่ายที่จะฉีกขาด / สิ่งที่บางเบา ง่ายที่จะปลิวฟุ้ง
จัดการก่อนที่เหตุจะเกิด จัดระเบียบก่อนที่จะยุ่งเหยิง
ไม้ใหญ่เต็มโอบเริ่มจากหน่อเล็ก / เก๋งสูงเก้าชั้น เริ่มจากก้อนดิน / ทางไกลพันลี้ เริ่มจากการเดินหนึ่งก้าว
ผู้ที่ทำจะล้มเหลว / ผู้ที่จับยึด จะลื่นหลุด / ด้วยปราชญ์มิได้กระทำ จึงไม่ล้มเหลว / มิได้จับยึด จึงไม่ลื่นหลุด
กิจการงานของผู้คนมักจะล้มเหลวเมื่อใกล้สำเร็จ
ด้วยการใช้ความระมัดระวังในตอนท้ายให้เท่ากับเริ่มแรก ความล้มเหลวย่อมจะไม่เกิดขึ้น
ดังนั้นปราชญ์ย่อมปรารถนาในสิ่งที่คนอื่นไม่พึงปรารถนา และไม่ให้คุณค่าแก่จุดหมายที่บรรลุได้ยาก
เรียนรู้ในสิ่งที่ผู้อื่นมิได้รู้ รื้อฟื้นในสิ่งที่คนมากมายได้หลงลืม
ท่านได้ช่วยทำให้ทุกสิ่งเติบโตและเป็นไปตามธรรมชาติ แต่มิได้หาญเข้ายุ่งเกี่ยวกับกฎธรรมชาติ
65 รู้ให้น้อย
แต่โบราณมา ผู้ที่หยั่งรู้เต๋า มิได้มุ่งหมายที่จะส่งเสริมคนให้รู้มาก
แต่ปล่อยให้จมอยู่กับความโง่งม รู้อยู่แต่สิ่งพื้นๆ และสามัญ หากประชาราษฎร์รู้มากเกินไปก็ปกครองยาก
ผู้ที่พยายามจะปกครองประเทศด้วยความรอบรู้ มีแต่จะนำความหายนะมาสู่
ผู้ที่ไม่พยายามจะปกครองประเทศด้วยความรอบรู้ มีแต่จะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่
ผู้ใดรู้หลักทั้งสองนี้ ย่อมรู้ถึงหลักการแต่โบราณ รักษาหลักการนี้ไว้ในใจ ย่อมได้รับ คุณความดีอันใหญ่หลวง
คุณความดีนั้น สุดที่จะกว้าง และลึก ใสสะอาด และยากที่จะไปถึง
มันวกกลับไปสู่ ต้นกำเนิดแห่งสรรพสิ่ง ก่อให้เกิด ความประสานกลมกลืน อันไม่มีสิ้นสุด

66 ที่ต่ำ
เต๋านั้นคล้ายกับแม่น้ำใหญ่และทะเลกว้าง แม่น้ำและทะเลเป็นใหญ่เหนือห้วงน้ำทั้งหลาย
ด้วยมันวางตนอยู่ในที่ต่ำ สายน้ำใหญ่น้อยจึงไหลมาสู่
ดังนั้นในการขึ้นเป็นใหญ่ในหมู่คน ปราชญ์ย่อมพูดจาถ่อมตน
เพื่อที่จะอยู่หน้าสุดในหมู่คน ท่านต้องกลับไปอยู่ข้างหลัง
นี่เป็นเหตุที่ว่าทำไมเมื่อปราชญ์อยู่เบื้องบน ประชาชนอยู่เบื้องล่างจึงไม่รู้สึกเป็นภาระหนัก
เมื่อปราชญ์อยู่หน้า ประชาชนก็มิทำร้าย
ดังนั้นประชาชนทั้งมวลต่างยินดีที่จะยกปราชญ์ไว้ในที่สูง เคารพยกย่อง ให้เกียรติ และไม่มีวันถอดถอนท่าน
ด้วยเหตุว่าท่านมิได้ไปแข่งขันชิงดีกับผู้ใด จึงไม่มีใครมาแข่งขันชิงดีกับท่าน
67 แก้วสามประการ
คนทั่วโลกพากันกล่าวว่า " คำสอนเกี่ยวกับเต๋านั้นคล้ายกับสิ่งโง่ๆ มากนัก "
ด้วยเต๋ายิ่งใหญ่แท้เชียว จึงคล้ายกับสิ่งโง่ๆ ถ้าไม่คล้ายกับสิ่งโง่ๆ เต๋าก็คงหมดความยิ่งใหญ่ไปนานแล้ว
ข้าพเจ้ามีทรัพย์อยู่สามประการ ซึ่งข้าพเจ้ายึดถือและสงวนรักษาไว้
ประการแรกคือ ความรัก / ประการที่สองคือ กระทำแต่พอควร / ประการที่สามคือ การไม่เป็นเอกในโลก
ด้วยความรักจึงไร้ความกลัว / ด้วยกระทำแต่พอควร จึงมีความกว้างขวาง
ด้วยการไม่เป็นเอกในโลก จึงอาจเป็นเอกในบรรดาผู้ปกครอง
หากใครละทิ้งความรัก ถือเอาแต่ความกล้า / ละทิ้งความพอควร ถือเอาแต่อำนาจ
ละทิ้งการอยู่หลัง ถือเอาแต่การอยู่หน้า / ชีวิตของเขาจะต้องดับสูญลง
ด้วยอาศัยความรัก จึงมีชัยในการจู่โจม และปลอดภัยในการป้องกัน
อาวุธของสวรรค์คือความรัก ผู้ใช้อาวุธแห่งสวรรค์จะไม่มีวันพินาศ
68 การไม่แข่งขัน
ทหารที่กล้าหาญไม่ดุร้าย นักสู้ที่ดีไม่โกรธง่าย ผู้พิชิตที่ยิ่งใหญ่ ไม่สู้ในเรื่องเล็กน้อย
ผู้รู้จักเลือกใช้คนได้ดี ย่อมตั้งตนต่ำกว่าผู้อื่น
นี่คือคุณความดีของการไม่แข่งขันช่วงชิง
นี่คือความสามารถในการช่วงใช้คน นำไปสู่สถานะอันสูงส่งเคียงคู่กับฟ้า อันมีมาแต่เก่าก่อน
69 ยุทธธรรม
มีหลักความจริงแห่งยุทธศาสตร์อยู่ว่า ข้าพเจ้ามิกล้าจะเป็นผู้เริ่มรุก ยอมแต่จะเป็นผู้ตั้งรับ
มิกล้าคืบหน้าแม้สักนิ้ว แต่ยอมถอยเป็นก้าว นั่นคือการเดินทัพโดยไม่จัดรูปขบวน
ไม่โบกแขนเสื้อสั่งให้รบ ไม่จู่โจมไปเบื้องหน้า รบคล้ายดั่งไร้ศัตรู
ไม่มีภัยใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการดูแคลนข้าศึก การดูแคลนข้าศึกทำให้สูญเสียทรัพย์ทั้งสาม
ดังนั้นเมื่อกองทัพอันมีแสนยานุภาพเท่าเทียมกันมาประจัญหน้ากัน กองทัพที่ได้ชัยคือกองทัพที่รู้จักโศกศัลย์
70 ใครอาจเข้าใจ
คำสั่งสอนของข้าพเจ้า ง่ายที่จะเข้าใจและง่ายที่จะปฏิบัติ แต่ไม่มีใครสามารถข้าใจและสามารถปฏิบัติ
ถ้อยคำของข้าพเจ้าย่อมมีหลักเกณฑ์อยู่ / ความประพฤติของข้าพเจ้าย่อมมีหลักการอยู่
ด้วยไม่มีใครรู้สิ่งเหล่านี้ จึงไม่มีใครเข้าใจข้าพเจ้า มีคนเข้าใจข้าพเจ้าน้อยแสนน้อย
และข้าพเจ้าก็อยู่เหนือคุณค่าที่อาจให้
ด้วยปราชญ์มักสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อหยาบอยู่ภายนอก และประดับหยกเนื้อดีไว้ภายใน

71 ผู้รู้
ผู้ที่รู้ว่าตนเองไม่รู้นั้นคือผู้สูงสุด ผู้ที่คิดว่าตนเองรู้นั้นเต็มไปด้วยอวิชชา
ผู้ที่รู้ว่าอวิชชาคืออวิชชา ย่อมหลีกเลี่ยงจากอวิชชาพ้น
ปราชญ์นั้นปราศจากอวิชชา เพราะท่านรู้ว่าอวิชชาคืออวิชชา
ดังนั้นอวิชชาจึงไม่อาจเข้าครอบงำดวงจิตของท่าน
72 ใช้ความนุ่มนวล
เมื่อประชาราษฎร์ไม่เกรงกลัวการข่มเหงด้วยกำลังอำนาจ อำนาจอันยิ่งใหญ่ก็ตกอยู่กับพวกเขาแล้ว
อย่าได้เหยียดหยามชีวิตความเป็นอยู่ของไพร่ฟ้า อย่าได้รังเกียจเผ่าพันธุ์เชื้อสายของไพร่ฟ้า
ด้วยท่านมิได้เกลียดชังเขา ท่านก็จะไม่ถูกเกลียดชังด้วย
ดังนั้นปราชญ์ย่อมรู้ในตน แต่ท่านก็มิได้แสดงออก / รักในตน แต่ก็มิได้สร้างเสริมตัวตนให้สูงขึ้น
ปราชญ์ย่อมคัดค้านการข่มเหงด้วยกำลังอำนาจ และสนับสนุนการใช้ความนุ่มนวล
73 ร่างแหแห่งฟากฟ้า
ผู้กล้าหาญที่มุทะลุดุดันจะต้องตาย ผู้กล้าหาญที่ไม่บ้าบิ่นจะคงชีวิตอยู่
ในระหว่างสิ่งทั้งสองนี้ บางครั้งเกิดประโยชน์บางครั้งเกิดโทษ
หากสวรรค์ชิงชังคนบางคน ใครจะรู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด แม้แต่ปราชญ์ยังถือว่าเป็นปัญหาที่ยากยิ่ง
ทางแห่งเต๋านั้นมีความดีเด่น
ในการได้ชัยโดยมิได้ต่อสู้ ได้รับโดยมิต้องพูด มาหาโดยมิต้องเรียก สำเร็จผลโดยมิต้องวางแผนกระทำ
ร่างแหแห่งฟากฟ้านั้นกว้างใหญ่ไพศาล ถึงแม้แหจะมีตาห่าง แต่เมื่อครอบคลุมสรรพสิ่งอยู่แล้ว ก็ไม่มีอะไรสามารถเล็ดลอดออกไปได้
74 การลงโทษ
ประชาราษฎร์ไม่พรั่นพรึงต่อความตาย เหตุใดจึงพยายามเอาโทษประหารไปสยบ
หากราษฎรกลัวความตายจริง เมื่อจับผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยการประหาร เหตุใดจึงมีผู้กระทำผิดต่อไปอีก
มักจะมีผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการทำหน้าที่ตัดสินลงโทษ อยู่เหนือความเป็นความตายของผู้คน
ผู้ที่ดำรงตำแหน่งตุลาการเปรียบได้กับสามัญชนผู้ถือขวานไปตัดต้นไม้ แทนช่างไม้ผู้ยิ่งยง
ผู้ที่ถือขวานแทนช่างไม้ ยากนักที่จะหนีพ้นบาดแผลจากคมขวาน
75 ไม่เข้ายุ่งเกี่ยว
เมื่อราษฎรอดอยากยากแค้นเพราะผู้ปกครองเก็บภาษีมากเกินไป
ราษฎรที่หิวโหยย่อมไม่อาจปกครองได้ นี่เกิดจากผู้ปกครองเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากเกินไป ทำให้ปกครองพลเมืองไม่ได้
พลเมืองต่างไม่กลัวความตาย เพราะความกระวนกระวายที่จะหาเลี้ยงชีวิต นี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้เขาไม่กลัวตาย
ผู้ที่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของประชาราษฎร์ เท่ากับช่วยยกระดับชีวิตของราษฎรให้สูงขึ้น

76 ของสูง
เมื่อคนเกิดมาใหม่ๆ นั้นร่างกายมักอ่อนนุ่ม เมื่อตายกลับแข็งกระด้าง
เมื่อสัตว์และพืชมีชีวิตอยู่มันจะอ่อนหยุ่น เมื่อตายมันกลับแข็งและแห้ง
ความแข็งกระด้างเป็นคุณลักษณะของความตาย / ความอ่อนนุ่มเป็นคุณลักษณะของความมีชีวิต
ดังนั้นเมื่อกองทัพแข็งแกร่งเกินไป ก็จะพ่ายในสมรภูมิ / ถ้าต้นไม้แข็งแกร่งเกินไป ก็จะถูกตัดโค่นลง
ความแข็งความกระด้างเป็นของต่ำ ความอ่อนความนุ่มเป็นของสูง
77 วิถีแห่งเต๋า
วิถีแห่งเต๋านั้น ไม่คล้ายกับคันธนูที่โก่งเตรียมจะยิงหรอกหรือ
ปลายทั้งสองลดต่ำลงมาและตรงกลางพองขึ้น ความยาวอันมีพลังนั้นหดสั้น ความยาวอันไร้พลังนั้นขยายยาว
ด้วยหนทางแห่งฟากฟ้าเท่านั้น ที่นำเอาส่วนเกินจากผู้ที่มีมาก ไปให้กับผู้ที่มีไม่เพียงพอ
แต่หนทางของคนธรรมดาหาเป็นเช่นนั้นไม่
คนสามัญมักจะชิงเอาจากผู้มีน้อยไปเพิ่มพูนให้แก่ผู้มีมาก
ผู้ใดเล่าที่มีพอเพียงและแบ่งปันแจกจ่ายให้แก่โลกทั้งโลก มีเพียงแต่บุคคลผู้ดำเนินตามวิถีแห่งเต๋าเท่านั้น
ดังนั้นปราชญ์ย่อมกระทำกิจแต่ไม่เข้าครอบครอง ก่อเกิดผลสำเร็จแต่ไม่ต้องการความเชื่อถือ
ด้วยท่านไม่ปรารถนาเป็นผู้เด่นยิ่งกว่าใครๆ
78 ความอ่อนโยนมีชัยต่อทุกสิ่ง
ไม่มีสิ่งใดจะอ่อนนุ่มไปกว่าน้ำ แต่ไม่มีสิ่งใดจะยิ่งไปกว่าน้ำ
ในการมีชัยเหนือสิ่งที่แข็ง นับว่าไม่อาจหาสิ่งใดมาเปรียบเทียบ ไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทน
ความอ่อนแอมีชัยต่อความแข็งแรง ความอ่อนโยนมีชัยต่อความแข็งกระด้าง ไม่มีใครที่ไม่รู้ แต่ไม่มีใครที่ปฏิบัติ
ดังนั้นปราชญ์จึงกล่าวไว้ว่า ผู้ที่สามารถทนรับการใส่ร้ายของโลกได้ สมควรที่จะเป็นผู้ดูแลรักษาอาณาจักร
ผู้ที่ทนแบกรับบาปโทษของโลกไว้ได้ สมควรเป็นกษัตริย์ปกครองโลก
คำพูดที่ตรงไปตรงมานั้น ดูคล้ายเป็นคำที่บิดเบี้ยวและเป็นคำเท็จ
79 หนทางอันยุติธรรม
เมื่อความโกรธขึ้งถูกไกล่เกลี่ยลงได้ แน่ใจได้ว่ายังมีบางส่วนหลงเหลืออยู่ ดังนี้จะนับได้ว่ามันจบสิ้นลงด้วยความดีได้อย่างไร
ดังนั้นปราชญ์ย่อมเป็นผู้อ่อนข้อให้ ในการเจรจาทำความตกลง และจะไม่ยอมเป็นผู้เอาเปรียบในการทำสัญญา
หนทางของผู้มีคุณความดีคือการเจรจาตกลง / หนทางของผู้ไร้คุณความดีคือการบังคับขู่เข็ญ
หนทางแห่งเต๋านั้นยุติธรรมยิ่ง มันจะอยู่เคียงข้างของผู้ที่มีความดีงาม
80 ประเทศในฝัน
หวังให้ประเทศเล็กที่มีพลเมืองน้อย
มีอาหารพอที่จะเลี้ยงดูพลเมือง มากกว่าที่เขาต้องการถึงสิบเท่าร้อยเท่า
ให้ประชาชนเห็นคุณค่าของชีวิต และไม่ท่องเที่ยวพเนจรไปไกล
ถึงแม้จะมีพาหนะเรือและรถ ก็ไม่มีใครปรารถนาจะขับขี่
ถึงแม้จะมีเกราะและอาวุธ ก็ไม่มีโอกาสจะใช้ ให้กลับไปใช้การจดจำเรื่องราว
ด้วยการผูกเงื่อนแทนการเขียนหนังสือ
ให้เขานึกว่าอาหารพื้นๆ นั้นโอชะ / เสื้อผ้าอันสามัญนั้นสวยงาม / บ้านเรือนธรรมดานั้นสุขสบาย / ประเพณีวิถีชีวิตนั้นน่าชื่นชม
ในระหว่างเพื่อนบ้านต่างเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน
จนอาจได้ยินเสียงไก่ขันสุนัขเห่าจากข้างบ้าน และตราบจนวันสุดท้ายของชีวิต จะไม่มีใครได้เคยออกไปนอกประเทศของตนเลย
81 ถ้อยคำที่แท้
คำจริงนั้นฟังดูไม่ไพเราะ คำที่ไพเราะไม่มีความจริง
คนดีไม่ได้พิสูจน์โดยการถกเถียง คนที่ถกเถียงเก่งไม่ใช่คนดี
คนฉลาดไม่รู้มาก คนที่รู้มากไม่ฉลาด
ปราชญ์ย่อมไม่สะสมเพิ่มพูนเพื่อตนเอง ชีวิตของท่านมีอยู่เพื่อผู้อื่น แต่ท่านกลับยิ่งร่ำรวยขึ้น
ท่านให้บริจาคแก่ผู้อื่น แต่ท่านยิ่งมีขึ้นทับทวี
วิถีแห่งเต๋านั้น มีแต่คุณไม่เคยให้โทษ
วิถีแห่งปราชญ์นั้น มีแต่กอปรกิจให้สำเร็จ โดยไม่แก่งแย่งแข่งขัน

แจก ภาพ อาจารย์เต๋า เล่าจื้อ ใหญ่มาก
http://img2.artron.net/auction/2013/art503494/d/art5034940800.jpg
http://img5.artron.net/auction/2013/art002722/d/art0027220136.jpg
http://img2.artron.net/auction/2013/art503712/d/art5037126141.jpg