ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 09, 2016, 03:50:12 pm »ชดใช้มิจฉาวาจาสู่ทางกุศล (บวชวาจา)
เดินทางมาครึ่งค่อนวัน บรรลุถึงภูเขาที่มียอดเขาสูงเทียมเมฆ ทันใดนั้นดินฟ้าอากาศกลับแปรปรวน พลันเสือร้ายตัวหนึ่งกระโจนเข้าใส่ทันที เห้งเจีย และโป้ยก่ายไหวทัน เข้ารุมต่อสู้กับเสือ เสือสู้ไม่ได้จึงถอดคราบเสือทิ้งแล้วกลายร่างเป็นคน กระชากมีดสั้นขึ้นมา ๒ เล่ม (วิตก = การปักจิตลงสู่อารมณ์ วิจาร = การพิจารณาอารมณ์) เป็นอาวุธเข้าฟาดฟัน ใส่เห้งเจียและโป้ยก่าย
เซียนฮอง ทหารเอกอึ้งฮองใต้อ๋อง ออกมาหลอกล่อให้เห้งเจีย และ โป้ยก่ายเผลอ ได้โอกาสบันดาลให้ลมพัดหอบเอาพระถังซัมจั๋งและม้าขาว ไปให้ปีศาจหนูขนเหลือง อึ้งฮองใต้อ๋อง ปากพ่นลมพิษ (มิจฉาวาจาการพูด ปดมดเท็จ) น้องชายของปีศาจเอ็กฮองใต้อ๋อง (อทินนาทาน = การลักขโมย พระโพธิสัตว์กวนอิมได้นำไปเฝ้าประตูหลังสำนักน่ำไฮ้) แล้วเซียนฮองทหารเอกของปีศาจหนูขนเหลืองออกมาสู้รบกับเห้งเจียและโป้ยก่าย ในที่สุดโป้ยก่ายสามารถฆ่าเซียนฮองตายด้วยคราดวิเศษ
ส่วนเห้งเจียถอนขนออกมาแล้วเป่าเนรมิต เป็นลิงบริวารเข้ารุมล้อมอึ้งฮองใต้อ๋อง (มิจฉาวาจา = การพูดปดมดเท็จ) ทันใดนั้นปีศาจหนูขนเหลือง เป่าปากพ่นลมพิษ เห้งเจียเสียทีโดนลมปากของปีศาจปลิวไปตามลม โดนลมพิษเข้าตาทั้งสองเจ็บปวดทรมานจวนเจียนแทบตาบอด ดีที่เห้งเจียคือซีเทียน ไต้เซีย ผู้มีฤทธิ์มากจึงตาไม่บอด ต้องเทียวหาหมอรักษาตาแต่หาไม่พบ ดีที่เทพารักษ์ประจำตัวตามคุ้มครองอยู่ได้หยอดยาใส่ตาให้
เมื่อหาย ตากลับสว่างกว่าเดิมเป็นร้อยเป็นพันเท่า และ ยังบอกเคล็ดลับในการปราบปีศาจหนูขนเหลืองปากพ่นลมพิษ เห้งเจียจึงเหาะไปนิมนต์เล่งเกี๊ยดโพธิสัตว์ (วจีสังขาร = การปรุงแต่งวาจา) ผู้ชอบเทศนายิ่งนัก
ทั้งสองเหาะกลับมาที่ถ้ำปีศาจ แล้วเห้งเจียร้องท้าให้ปีศาจออกจากถ้ำมาสู้กัน รบล่อหลอกมาหาเล่งเกี๊ยดโพธิสัตว์ๆ มียาบำบัดลมเม็ดหนึ่ง กับไม้กระบองมังกรทอง จึงขว้างไม้กระบองไปเป็นมังกรทอง ๘ เล็บ (อริยะมรรคองค์ ๘) ตรงเข้ารัดขยุ้มปีศาจไว้ในอุ้งเล็บทั้ง ๘ เห้งเจียเงื้อตะบองจะฆ่าเสีย เล้งเกี๊ยดโพธิสัตว์ร้องห้ามขอชีวิตปีศาจไว้ แต่จะจับไปถวายพระเซ็กเกียมองนีฮุดโจ๊ว (พระพุทธเจ้า)
เล่งเกี๊ยดโพธิสัตว์พาปีศาจไปแล้ว เห้งเจียกับโป้ยก่ายต่างช่วยกันพังทลายถ้ำและฆ่าสมุนปีศาจตายสิ้น จากนั้นช่วยเหลือพระถังซัมจั๋งออกมา แล้วเดินทางต่อไป
(ปีศาจหนูขนเหลืองปากพ่นลมพิษ คือ ผู้บวชที่นุ่งห่มเหลืองแล้ว ปากพ่นลมพิษ คือ มิจฉาวาจา พูดพล่าม อวดวิจารณ์ดี ชั่ว ปราศจากการวิตก วิจาร ทำให้ผู้ฟังมีปัญญามืดบอด เฉกเช่นปีศาจหนูขนเหลือง พ่นลมพิษ เข้าตาเห้งเจีย ทำให้ตาแทบบอด แต่เห้งเจียมีอำนาจทิพย์ประจำตัวรักษาตัวเองได้ ก็คือสามารถรู้ความจริงของวจีสังขารด้วยตนเองได้ เพราะปัญญา นั้นคือ การหยั่งรู้เหตุผลในความดี ความชั่ว ด้วยตนเองได้ ความมืดบอด จึงเป็นเพียงชั่วขณะ เมื่อหยั่งรู้ได้ตาจึงสว่างขึ้นหลายพันเท่า
ส่วนตอนที่เล่งเกี๊ยดโพธิสัตว์-วจีสังขาร ผู้ชอบเทศนาธรรม ได้ขว้างกระบองทองเป็นมังกรทอง ๘ เล็บ คือ มรรค ๘ = อริยะมรรคองค์ ๘ คือการทดใช้ มิจฉาวาจาให้เป็นไปในทางกุศล จะเกิดการสำรวมตั้งสติ ระงับความพลุ่งพล่าน ให้พูดแต่ธรรมะในทิศทางของอริยะมรรคองค์ ๘ จะน้อมนำให้ไปรับใช้พระพุทธเจ้าในการเผยแผ่ธรรมะของพระองค์ ถือเป็นการบวชกาย และการบวชวาจา
บวชกาย การบำเพ็ญประโยชน์ทางกายให้ผู้อื่นด้วยเมตตาชนิด ไม่หวังผลตอบแทน
บวชวาจา การบำเพ็ญประโยชน์ผู้อื่นด้วยวาจา ด้วยการพูดถึงธรรมะหนทางหลุดพ้นอันประเสริฐ ด้วยเมตตาให้ผู้อื่นได้เห็นแจ้งในธรรมะ)
จาก http://www.khuncharn.com/skills?start=7
อีกอัน ไซอิ๋ว ฉบับ อาจารย์ เขมานันทะ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=maekai&month=10-07-2008&group=15&gblog=1