ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2016, 08:07:40 pm »'อยู่กับปัจจุบัน' ฮิมานชู โซนิ : วิปัสสนาบนหน้าข่าว
โดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์ เรื่อง วัดสระเกศ ภาพ
เป็นครั้งที่ ๔ แล้ว ที่ฮิมานชู โชนิ พระเอกผู้แสดงเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ และพระพุทธเจ้าในภาพยนตร์ซีรีส์ “พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก” เดินทางมาประเทศไทย พร้อมกับความประทับใจกลับไปอินเดียทุกครั้งจนต้องมาแล้วมาอีก
ล่าสุดมีการพบปะกับแฟนคลับที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ เมื่อบ่ายสองโมงของวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้กล่าวกับพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ว่ารู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กลับบ้าน และเขาเตรียมการที่จะบวชในประเทศไทยด้วยอย่างน้อย ๗ วันในช่วงหลังออกพรรษา คือประมาณปลายปีนี้เอง
การที่ฮิมานชู โชนิ เอ่ยปากว่าจะบวช ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือท่านเจ้าคุณเทอด ญาณวชิโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เล่าให้ฟังว่า แม้ว่าเขาจะเป็นฮินดู ก่อนที่เขาจะแสดงเป็นพระพุทธเจ้าเขาต้องศึกษาพระพุทธศาสนามากและต้องอ่านหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าไม่น้อย ต้องไปนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมในหลายๆ ที่ อาทิ กับพระลามะจากทิเบตที่ลี้ภัยมาอยู่ในอินเดีย ไปฝึกนั่งสมาธิวิปัสสนาของท่านอาจารย์โกเอ็นกา หลายๆ คอร์ส ทำให้มีความรู้เรื่องพระพุทธศาสนาพอสมควร
“หลังจากที่เขามาเมืองไทย เขาเห็นความเป็นพระพุทธศาสนาที่มีชีวิตมาก สิ่งหนึ่งที่เขาพูดตอนพบปะกับแฟนคลับก็คือ หลักการของพระพุทธศาสนาอยู่ตรงที่การได้อยู่กับปัจจุบัน เมื่ออยู่กับปัจจุบัน ความทุกข์ในอดีตก็ไม่ปรากฏ ไม่กังวลกับอนาคต และเห็นทุกสิ่งทุกอย่างประจักษ์แจ้งอยู่ต่อหน้าต่อตานี้
“เขาได้ความรู้ว่า แม้ว่าทุกคนจะต่างเชื้อชาติและสัญชาติ ไม่ว่าจะอยู่ในสหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฯลฯ แต่สิ่งหนึ่งที่จะทำให้คนเรามีความสุขได้คือนำธรรมของพระพุทธเจ้าไปใช้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา และความสุขนี้เหมือนกันหมด คือ เกิดสันติในใจ และเมื่อเกิดสันติในใจก็จะทำให้เกิดสันติสุขของโลกด้วย”
เพราะธรรมะนั้น ทำให้เกิดปัญญา เห็นความจริงของชีวิตที่วนเวียนอยู่ในกฎแห่งกรรม เมื่อพบตรงนี้ก็หยุดที่จะเบียดเบียนกัน ชีวิตก็กลับมาสู่โหมดของความพอเพียง เมื่อพอเพียง ทรัพยากรบนโลกนี้ก็พอที่จะแบ่งปันกัน ดังที่มหาตมะ คานธีกล่าวไว้ว่า ทรัพยากรในโลกมีเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงคนทั้งโลก แต่มีไม่เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงคนที่มีความโลภเพียงคนเดียว ...
อีกประเด็นหนึ่งที่ฮิมานชู โชนิ เห็นก็คือ ศรัทธาของคนไทยที่มีต่อพระพุทธศาสนา ท่านเจ้าคุณเทอดเล่าให้ฟังต่อมาว่า ...
"อาตมาเห็นเขาน้ำตาไหลเลย เขาบอกว่า เขาเป็นเพียงคนที่แสดงเป็นพระพุทธเจ้า แต่คนไทยก็ยังให้ความรักต่อตัวเขามากขนาดนี้ เขามองว่าพระพุทธศาสนาได้เติมเต็มให้คนไทย สังคมไทย และประเทศไทย เพราะฉะนั้นในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เขาก็จะมาร่วมงานบวชชีพราหมณ์ที่วัดสระเกศจัดบวชให้ลูกผู้หญิง ซึ่งจะมีการบวชตั้งแต่เช้า ถือศีล ๘ แล้วออกตอนเย็น อันจะทำให้เขาเห็นความเชื่อมโยงของความเป็นไทย ความเป็นพระพุทธศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ทีี่ทำให้เขาเห็นความงามในความเป็นไทย เขาก็จะมาร่วมพิธีด้วยทั้งวัน เป็นความตั้งใจของเขา”
ช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ฮิมานชู ไม่ได้อยู่เฉยๆ เขากลับมาศึกษาพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้น ไม่ใช่แต่เฉพาะในประเทศไทย เขาไปสิงคโปร์ ไปประเทศต่างๆ สำหรับในประเทศไทย ที่วัดสระเกศ ท่านเจ้าคุณเทอดเล่าว่า มีพระชาวเนปาล ที่พูดภาษาฮินดีได้ พูดไทยก็ได้ ซึ่งเคยบวชอยู่ที่วัดสระเกศ แล้วกลับไปสร้างวัดอยู่ที่ประเทศเนปาล ก็กำลังสอนสมาธิให้เขาอยู่ แล้วเขาก็ตั้งใจว่าจะบวชสักระยะหนึ่ง เพื่อที่จะได้เรียนรู้พระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น
“วัดเขาจะมาบวชก็คือวัดสระเกศนี่เอง เพราะเขามีความอุ่นใจว่า เขาบอกว่ามาที่นี่เหมือนกลับบ้าน โดยเฉพาะเขาได้รู้ว่าบนภูเขาทองเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นองค์จริงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และขุดจากประเทศของเขาในกรุงกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ นั่นคือเหตุผลที่เขาจะมาบวชที่นี่”
สำหรับท่านเจ้าคุณเทอด ก็มีความประทับใจพระเอกผู้แสดงเป็นพระพุทธเจ้าเป็นอย่างมากเช่นกัน ท่านบอกว่า เห็นการแสดงออกของเขามีความนอบน้อม อ่อนโยน เขากราบพระ ไหว้พระด้วยความงดงาม
“ที่สำคัญก็คือซีรีส์พระพุทธเจ้าชุดนี้ ทำให้คนไทยรักในพระพุทธศาสนามากขึ้น รักพระพุทธเจ้ามากขึ้น เห็นความเป็นมนุษย์ธรรมดาของเจ้าชายสิทธัตถะในการที่จะเข้าถึงมรรคผลนิพพานได้ด้วยปัญญาอย่างแท้จริง”
ท่านเจ้าคุณเทอด ยังมีข้อคิดให้อีกว่า ซีรีส์ชุดนี้เป็นกำลังใจให้กับผู้คนทั่วไปที่อาจจะยังเข้าใจพระพุทธศาสนาไม่ดีพอ ว่าแท้จริงแล้ว พระพุทธศาสนา สามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาความทุกข์ในชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายได้ ไม่เพียงแต่เฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น แต่ยังหมายรวมไปถึงการแก้ปัญหาด้านปากท้อง ชนชั้นวรรณะ เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ไปจนถึงมิติทางด้านจิตใจที่จะทำให้เราพ้นทุกข์ได้ในปัจจุบันชาติได้ โดยอาศัยศีล สมาธิ และปัญาอย่างมีความเพียรในการปฏิบัติบนหนทางสายกลาง ซึ่งมีอริยมรรคมีองค์แปดเป็นวิธีการที่จะนำไปสู่ความพ้นทุกข์ได้จริง
อย่างไรด็ตาม ความดีความชอบทั้งหมด คงอดกล่าวถึงทีมงานผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ไปไม่ได้ ตั้งแต่ความตั้งใจของ ดร.โมดี้ ผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนามาแต่วัยหนุ่ม และใช้เวลาในการแสวงหาข้อมูลจากพระไตรปิฎกเถรวาท มหายาน และวัชรยานมาหลายสิบปี เขาเคยไปกราบหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ พระอาจารย์เซนชาวเวียดนาม ที่หมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส หากสังเกตกดีๆ ในซีรีส์ชุดนี้ยังมีกลิ่นอายของเรื่อง “คือเมฆสีขาว ทางก้าวเก่าแก่” (Old path white clouds) หนังสือพุทธประวัติที่่หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ เขียนขึ้นใหม่ในบทหนังด้วย
นอกจากนี้เขายังพาฮิมานชู โชนิ ไปศึกษาพุทธศาสนาวัชรยานกับองค์ดาไลลามะ กว่าจะประมวลผลออกมาเป็นมหากาพย์ชุดนี้ที่โลกไม่ลืม ที่ทำให้รักษาแก่นพระธรรมไว้ได้และมีความสนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจตามสไตล์ของหนังที่ไม่ออกนอกลู่นอกทางเท่าไร ซึ่งทำให้ลมหายใจของพระพุทธองค์ ซึ่งก็คือ “พระธรรม” ยังคงดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน แม้เวลาจะผ่านไปถึง ๒๖๐๔ ปี
สำหรับฮิมานชู โชนิเอง ก็นับว่าไม่เพียงประสบความสำเร็จในจอเท่านั้น แต่นอกจอเขายังได้ทีมงานที่ช่วยเขาในเรื่องการแสดง ดูแลเขาในหลายๆ เรื่อง มาเป็นภรรยาคู่ชีวิต และที่สำคัญทำให้เขาพบพระพุทธศาสนาที่มีชีวิตในประเทศไทย จนทำให้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะมาบวชในปลายปีนี้ และอาจมีแผนที่จะไปฝึกปฏิบัติวิปัสสนาที่วัดป่าสักแห่งในประเทศไทย ที่จะทำให้เขาได้เข้าถึงหัวใจของพระพุทธศาสนาที่นำไปสู่การพ้นทุกข์ทางใจได้อย่างแท้จริง
แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นก็ให้เรากลับมาอยู่กับปัจจุบัน เพราะสิ่งต่างๆ นั้นล้วนไม่เที่ยงแท้แน่นอน
จาก http://www.komchadluek.net/news/amulets/233350