ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 20, 2016, 12:46:44 am »นิตยสารซีเครท : Vol.7 No.183 10 Febuary 2016
Dhamma Daily
จะไปสู่สุคติได้อย่างไรเมื่อเป็นอัลไซเมอร์
พระไพศาล วิสาโล
แม่ของดิฉินโทรมาเล่าให้ฟังว่า ลูกชายอายุ 5 ขวบ ร้องไห้บอกยายว่า ไม่อยากตาย อยากอยู่นานๆ ดิฉันฟังแล้วไม่สบายใจมาก เด็กพูดแบบนี้ถือว่าแปลกไหมคะ
เป็นธรรมดาของเด็กที่ยังไม่เข้าใจความตาย หรือยังยอมรับความตายไม่ได้ คุณไม่ควรมองว่าเป็นปัญหามาก อย่างไรก็ตามการที่เด็กมีความรู้สึกเช่นนั้นคงเพราะมีคนพูดเรื่องความตายให้กลายเป็นเรื่องน่ากลัวหรือเลวร้าย หากอยากให้ลูกเข้าใจเรื่องนี้ตั้งแต่เล็ก ควรพูดถึงเรื่องความไม่เที่ยงหรือความแปรเปลี่ยนของสรรพสิ่ง ซึ่งปรากฏให้เห็นในชีวิตประจำวัน เช่น พระอาทิตย์ขึ้นแล้วตก ดอกไม้บานแล้วร่วงโรย หรือใบไม้ที่ผลิแล้วร่วง ต้นไม้เกิดแล้วตาย การปูพื้นในเรื่องนี้จะช่วยให้เด็กเข้าใจความตายได้ง่ายขึ้น
เคยฟังธรรมมาว่า ถ้าเผชิญความตายด้วยใจสงบหรือวางจิตให้เป็นกุศล จิตก็จะไปสู่สุคติได้ แต่ในกรณีแม่ของดิฉัน ท่านเป็นโรคอัลไซเมอร์ ไม่รู้จักแม้กระทั่งตัวเองเป็นใคร ท่านจะต้องทำอย่างไรให้ตายด้วยใจสงบได้หรือคะพระอาจารย์
คนที่เป็นอัลไซเมอร์นั้น ถึงแม้สมองจะบกพร่องจนจำอะไรไม่ได้แม้กระทั่งตัวเอง แต่จิตน่าจะมีความสามารถในการรับรู้อารมณ์อันเป็นกุศลได้ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ก็ตาม และเป็นไปได้ว่าเขาอาจมีความรู้สึกตัวเป็นพัก ๆ แม้ไม่บ่อยนักก็ตาม มีคนเล่าว่าเคยเห็นแม่ของตนซึ่งเป็นอัลไซเมอร์อย่างหนัก บางช่วงก็ลุกขึ้นมาสวดมนต์เวลาอยู่ลำพังในห้องนอน ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือ คุยเรื่องดี ๆ กับท่าน พูดถึงบุญกุศลที่ท่านเคยทำหรือความดีที่ท่านภาคภูมิใจ อ่านหนังสือธรรมะให้ท่านฟัง ชวนท่านสวดมนต์ย่อ ๆ ใจอันเป็นกุศลของคุณสามารถสื่อไปถึงใจของท่านได้ไม่มากก็น้อย คุณควรทำเช่นนี้เป็นประจำแม้ในยามที่ท่านป่วยหนักและใกล้ตาย ความรู้สึกดี ๆ ท่านที่ได้รับจากคุณ หรือจากการทำสิ่งดี ๆ ร่วมกับคุณ จะช่วยให้ท่านพบกับความสงบในวาระสุดท้ายได้
หนูเป็นคนไม่กลัวความตาย รู้สึกว่าความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ ธรรมดา แต่พอหนูพยายามบอกแฟนว่า ให้วางแผนชีวิตดีๆ ต่อไปถ้าพ่อเขาตายแล้ว เขาก็จะต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง (พ่อเขายังแข็งแรงดีค่ะ หนูแค่อยากให้เขาพึ่งตัวเองให้ได้)
ทั้งๆ ที่หนูหวังดี พูดเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นจริง แต่เขากลับโกรธหนู หาว่าหนูไปแช่งพ่อเขา หนูควรต้องทำอย่างไรคะ ถ้าต้องการเตือนสติเขาเรื่องนี้ แต่พูดตรงๆ ไม่ได้
ควรเตือนเขาทางอ้อม ด้วยการพูดถึงกรณีอื่น เช่น คนที่ตายแบบกะทันหัน ทั้ง ๆ ที่มีสุขภาพดี ทำให้ลูกหลานเป็นทุกข์มาก เพราะไม่ได้เตรียมใจไว้เลยกับเรื่องนี้ หรือเกิดเรื่องวุ่นวายเพราะผู้ตายไม่ได้ทำมรดกไว้เลย หากเป็นกรณีของคนใกล้ตัว หรือคนที่เขารู้จัก หรือเป็นคนดัง ก็น่าจะช่วยให้เขาฉุกคิดหรือเฉลียวใจ ไม่ประมาทกับเรื่องแบบนี้ นอกจากนี้ควรบอกเขาด้วยว่า พุทธศาสนาไม่ได้มองว่าการพูดเรื่องนี้เป็นอัปมงคลหรือเป็นการแช่ง หากเป็นการพูดเพื่อเตือนใจให้ไม่ประมาท ถือว่าเป็นเรื่องดี เป็นมงคลอย่างยิ่งเลยทีเดียว ดังมีพุทธภาษิตว่า การไม่ประมาทในธรรมทั้งปวง เป็นมงคลอันสูงสุด
ปู่ของดิฉันเสียชีวิตไป 6 ปีได้แล้ว แต่ดิฉันยังทำใจไม่ได้ ทุกครั้งที่นึกถึงท่าน ดิฉันก็จะร้องไห้ ท่านเลี้ยงดิฉันมาตั้งแต่เด็ก รักและมีพระคุณกับดิฉันมาก แต่ท่านชอบด่าและใส่ร้ายแม่ของดิฉัน ดิฉันจึงโกรธและพูดจาไม่ดีกับท่านมาตลอด กระทั่งท่านเสียชีวิต ดิฉันจึงสำนึกสิ่งที่ทำไม่ดีกับท่าน อยากจะแก้ไขแต่ทำไม่ได้แล้ว พยายามกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศล แต่ก็รู้สึกว่าช่วยอะไรไม่ได้ ดิฉันอยากจะทำใจเรื่องนี้ให้ได้ จะต้องทำอย่างไรคะพระอาจารย์
คุณลองเขียนจดหมายถึงท่าน หรือพูดต่อหน้าภาพถ่ายของท่าน เสมือนว่าท่านนั่งอยู่ข้างหน้าคุณ แล้วเล่าความในใจของคุณให้ท่านฟัง กล่าวคำขอโทษท่าน รวมทั้งขอบคุณที่ท่านดูแลคุณเป็นอย่างดี เวลาคุณนั่งสมาธิแล้วใจสงบ อาจเชิญท่านมาหาคุณในจินตนาการ แล้วพูดทุกอย่างที่คุณอยากพูดกับท่าน วิธีเหล่านี้น่าจะช่วยปลดเปลื้องความรู้สึกผิดในใจคุณได้
จาก http://www.visalo.org/article/secret255902.html