The PROmISE โอเปราร็อค ฉบับสั่งลา “วงตาวัน”
งานของวงตาวัน 3 ชุดที่ผ่านมา ถ้าคนที่เป็นแฟนของตาวันขนานแท้คงจะมองเห็นพัฒนาการทางดนตรีได้ตามลำดับ นับแต่งานชิ้นแรก “หุ่นกระบอก” เริ่มต้นจากความเป็นพ็อพร็อคง่ายๆ เข้มข้นปนโปรเกรสสีฟขึ้นมาหน่อยด้วยอัลบั้มที่ 2 “ม็อบ”
พอมาถึงอัลบั้ม “12 ราศี” ตัวตนที่แท้จริงเริ่มปรากฏเป็นโปรเกรสสีฟร็อคเต็มตัว แต่ไม่ซับซ้อนเหมือนงานของกลุ่มบัตเตอร์ฟลาย งานดนตรีของตาวันฟังง่าย เฉกเช่นงานของมือปืนห้องอัดต่างประเทศอย่าง TOTO มีความลงตัว เคลียร์และละเอียด
ไม่ใช่งานดนตรีที่สุกเอาเผากิน
อัลบั้มสุดท้ายของตาวัน นักฟังขนานแท้ยิ่งพลาดไม่ได้ สำหรับ The PROmISE เพราะอัลบั้มนี้เป็นความฝันอย่างหนึ่งที่วงตาวันวาดไว้ คือการสร้างเพลงออกสู่ตลาดโลก
นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เพลงในอัลบั้มสั่งลาเพื่อ “ยุบวง” จึงต้องเป็นเพลงภาษาอังกฤษล้วนๆ ยกเว้น 2 เพลงสุดท้ายที่จงใจทำเป็นไทยเวอร์ชั่น ความสำเร็จหรือล้มเหลวของอัลบั้มสุดท้าย จึงไม่ใช่เรื่องที่สมาชิกแต่ละคนในวงเป็นกังวล
แบบนี้ถึงจะเรียกว่าการสร้างงานอย่างอิสระ ไร้การครอบงำของการตลาด
The PROmISE เป็นโอเปราร็อก ที่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากมีเพื่อนฝูงในวงการมาเป็นธุระให้หลายๆ เรื่อง ช่วยกันเติมความฝันให้วงตาวันยิ่งใหญ่สมกับเป็นงานชิ้นสุดท้ายของวง โดยเฉพาะ ท็อด ทองดี ที่มาเป็นหัวหอกเขียนเพลงภาษาอังกฤษให้ ส่วนนักดนตรีสนับสนุนรายชื่อยาวเหยียดเต็มหน้า จาระไนกันไม่หมด
ใครที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ก็อย่าเพิ่งท้อถอย แม้จะไม่ง่ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง ค่อยๆ แปลค่อยๆ ทำความเข้าใจ อ่านไกด์ไลน์เนื้อหาที่เป็นภาษาไทยแล้วค่อยซึมซับเอา
แต่ขอบอกว่าต้องฟังต่อเนื่องทุกเพลง ห้ามพลาดตอนใดตอนหนึ่ง มิเช่นนั้นเรื่องราวของ The PROmISE จะขาดตอน ตั้งแต่แทร็คแรกยันแทร็คสุดท้าย เกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ได้ อันเป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งตั้งแต่ก่อกำเนิดจนถึงแตกดับ
แม้ให้คนที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษฟังอัลบั้มนี้ แค่ฟังงานดนตรีเพียงอย่างเดียวก็ยังรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่แห่งเรื่องราว เหมือนนั่งหลับตาอยู่ในโรงละครโอเปรา
แทร็คที่ 11 ที่ วิยะดา โกมารกุล ณ นคร ร้องเป็นไทยในเพลง SWANSONG ไพเราะและสวยงามด้วยความหมายของเพลง ตามต่อด้วยแทร็ค 12 ปิดท้าย LOVE CALLING (Thai Version) ร้องคู่กับ พงษ์พรหม สนิทวงศ์ ได้เยี่ยม ปิดฉากความรักอย่างเหมาะเจาะ
และวันนี้ “วงตาวัน” ก็ได้พิสูจน์ให้ตลาดเพลงไทยเห็นแล้วว่า นักร้องไม่จำเป็นต้องหล่อต้องสวยจนผิดปกติเหมือนเมื่อก่อน
ทุกอย่างมันอยู่ที่กึ๋นและฝีมือล้วนๆ เหมือนทอง ถ้าจะแท้มันต้องแท้ตั้งแต่ข้างใน มิใช่แท้แค่เปลือกนอก
สำหรับ "วงตาวัน" จัดว่าเป็นของแท้ ของจริงที่ผ่านการพิสูจน์แล้วจากนักฟัง อันเป็นตำนานขึ้นหิ้งไปแล้ว
http://www.cd2hand.com/index.php?topgroupid=1&subgroupid=31&groupid=10