ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 26, 2016, 04:31:36 am »หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ
วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
ครั้งหนึ่ง มีผู้พูดถึง "ผู้ยิ่งใหญ่" ระดับประเทศบางท่านให้ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี พระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมากล่าวรับรองไว้ด้วยองค์เองว่า "เป็นหนึ่งในสิบแห่งอนาคตพุทธวงศ์ เบื้องหน้า" พึงสังเกตว่า ดูหลวงพ่ออุตตมะท่าน "เฉย" มากๆ ก่อนที่จะปรารภออกมาอย่างราบเรียบที่สุด เหมือนมิได้ไยดีใดๆว่า
"เขาไม่ได้ทำประโยชน์อะไรมาก เหมือนในหลวงหรอก"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
หลวงตามหาบัวศิษย์เอกในองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่หลวงปู่มั่น ได้สั่งกับลูกศิษย์องค์อื่นๆว่า "ต่อไปถ้าผมไม่อยู่ให่พึ่งท่านมหาบัว" โดยหลวงตามหาบัว ได้กล่าวยกยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลายวาระมาก และในหลายวาระจะเตือนบุคคลที่คิดร้าย คิดไม่ดีต่อพระองค์ท่าน
“เราอย่าเห็นสิ่งปลีกย่อยดีกว่าส่วนรวมส่วนใหญ่นะ ส่วนใหญ่นั่นล่ะเป็นของสำคัญ พ่อกับแม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อะไรที่เป็นหลักของชาติ เป็นหัวใจของชาติให้พากันรักกันสงวน อย่าพากันทำลาย ลูกเต้าจะอวดดีกว่าพ่อกว่าแม่มันไม่ดีละ
คิดดูในพุทธศาสนา พระเจ้าอชาตศัตรูทำลายพระราชบิดา ก็ไม่เห็นเจริญอะไร ท่านว่า เย เกจิ พุทธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คตา เส น เต คมิสฺสนฺ อบายภูมิ พวกสัตว์ทั้งหลายถ้านึกลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มีความเทิดทูนในสิ่งที่ดีงามที่มีคุณมีประโยชน์ทั้งหลายแล้ว ผู้นั้นเจริญ ผู้ใดไปทำลายหลักใหญ่แล้วจะเอาให้ส่วนเล็กๆนี้ขึ้นครองบ้านครองเมืองมันก็ ไม่ดี ให้พากันรักษาหลักใหญ่เอาไว้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือหัวใจของชาติไทยเรา นี่ให้พากันจำเอาไว้นะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนี้คือหัวใจของ ชาติไทยเรา ให้พากันเทิดทูน อย่าพากันดูถูกเหยียดหยามทำลาย เช่นอย่างจะทำลายจะไม่ให้มีพระเจ้าอยู่หัว มันคนเกิดมาแล้วพ่อแม่ตายหมด มีแต่ลูกกำพร้าหยิมแหยมๆ มันใช้ไม่ได้นะ สกุลใดที่มีคนคับแคบอยู่ในบ้านนั้นเมืองนั้นแล้วสกุลนั้นไม่เจริญ สกุลใดที่มีความกว้างขวาง มีจิตใจอันกว้างขวาง พิจารณารอบคอบเพื่อทำประโยชน์แก่ส่วนรวมผู้นั้นเป็นผู้ดี
นี่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ของพวกเราคือหัวใจของคนไทยทั้งชาติ ให้พากันทะนุถนอมนะ อย่าพากันไปทำลาย จะมีแต่ลูกหยอมแหยมๆ พ่อแม่ผู้ให้ความร่มเย็นไม่มีมันไม่เกิดประโยชน์ อย่างไรต้องรักษาส่วนใหญ่เอาไว้ ในประเทศไทยเราก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี นี้คือหัวใจของชาติให้พากันเคารพเทิดทูน อะไรที่เป็นหลักใหญ่ของชาติของส่วนรวมให้พากันรักษา พากันเทิดทูน อย่าพากันทำลายโดยอวดดี
ดังที่ท่านว่าอึ่งอ่างกับวัวนั่นละ เราก็เห็นในนิทานอีสปแต่ก่อนเรียนหนังสือ อึ่งอ่างตัวเท่ากำปั้นนี่ วัวมันตัวขนาดไหน ลูกอยู่ในรู แม่ไปหากิน ลืมแล้วนิทานอีสป มันเป็นอย่างไรละทีนี้ (ลูกเห็นวัว พอแม่กลับมาเล่าให้แม่ฟังว่าเจอตัวอะไรไม่รู้ใหญ่มาก แม่ก็พองตัว ลูกว่าใหญ่กว่านี้อีก) ได้ไหมๆ สุดท้ายสิ่งที่ได้คือพุงแตก นี่ระวังนะ ตัวเล็กๆ อย่าไปพองตัว มันไม่สมควรจะพอง อึ่งอ่างกับวัว วัวมันตัวใหญ่ขนาดไหน อึ่งอ่างตัวเท่ากำปั้น มาพอง มันตัวเท่านี้ไหมๆ เรื่อย สุดท้ายเลยตาย เข้าใจไหม นี่อึ่งอ่างกับวัวมันไม่ดีอย่างนั้นละ”
พระอาจารย์วัน อุตฺตโม (พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร)
วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม (วัดถ้ำพวง) อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
พระอาจารย์วัน อุตฺตโม เป็น พระอุปัฏฐากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ทำหน้าที่ยาวนาน ได้รับความไว้วางใจจากหลวงปู่มั่นและคณะสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่พระราชทานเพลิงศพท่านไม่นาน อัฐิ ท่านได้แปรสภาพเป็นพระธาตุ ท่านได้กล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า
“ก็มีแต่คนไม่ฉลาดเท่านั้นแหละ ถึงไม่รู้ว่าพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้มีดีอะไร”
พระสุพรหมยานเถร (ครูบาพรหมา พรหมจักโก) หรือครูบาพรหมจักร
วัดพระพุทธบาทตากผ้า ต.มะกอก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
ครูบาพรหมจักร ท่านเป็นพระที่มีจริยวัตรงดงาม เป็นที่ยอมรับทั้งในคุณธรรม และอำนาจจิต ท่านได้เหยียบหิน เป็นรอยเท้า ไว้ให้ลูกหลานได้กราบไหว้บูชา หลังงานพระราชทานเพลิงศพท่านไม่นาน อัฐิ ท่านได้แปรสภาพเป็นแก้วใสไร้มลทิล ครูบาพรหมจักร กล่าวถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า
"กระแสจิตของพระองค์ท่านมีพลัง พลังที่เกิดจากการปฏิบัติที่ดี"
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
หลวงปู่สิมเป็นพระปฏิบัติศิษย์ในองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านได้เคยเล่าว่า
“ครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนามเคยเป็นช้างนาฬาคิริง ส่วนในหลวงองค์ปัจจุบันเป็น ช้างป่าเลไลยก์นะ”
หมายเหตุ ; ช้างป่าเลไลยก์จะได้ตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้าในอนาคต ทรงพระนามว่า "พระสุมงคลพุทธเจ้า" เป็นองค์ที่ 10 ต่อจากพระศรีอาริยเมตไตร
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ท่านได้ปรารภว่า
“วันหนึ่งข้างหน้า ในหลวงจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งของโลก ในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ”
หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต
ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ จ.นนทบุรี
ท่านได้ปรารภว่า
" ในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ "
หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ
วัดป่าอาจารย์ตื้อ ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ท่านได้กล่าวกับลูกศิษย์ เมื่อมอบรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ไปว่า
“นี้รูปพระเจ้าแผ่นดิน เก็บดีๆ แด้นั้น เอาไว้ในห้องพระ กราบไหว้บูชา พระพุทธเจ้านะนั้น”
หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ (พระเทพวิทยาคม)
วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
วันที่11ม.ค.2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถเสด็จฯไปยังวัดบ้านไร่เพื่ออัญเชิญบรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงบุษบกเหนืออุโบสถวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยมีเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ "หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ" ได้มีการตระเตรียมกันอย่างยิ่งใหญ่ และมีประชาชนกว่า 2 แสนคนเฝ้ารับเสด็จฯ ในคราวนั้นหลวงพ่อคูณ เตรียมเงินจำนวน 72 ล้านบาท ทูลเกล้าฯถวายในหลวง โดยเสด็จพระราชกุศล
หลังจากส่งเสด็จฯแล้ว หลวงพ่อคูณกล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า "หายเหนื่อยแล้ว"
โดยหลวงพ่อคูณได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไว้เมื่อปี 2538ในหนังสือ "บันทึกวันประวัติศาสตร์ เสด็จฯวัดบ้านไร่"
หลวงพ่อคูณ ไว้อย่างน่าสนใจว่า
ผู้สื่อข่าว : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสหรือไม่
หลวงพ่อคูณ : "ท่านไม่ได้พูดอะไรเลย ท่านไม่ได้ตรัสอะไรเลยทั้งสองพระองค์"
ผู้สื่อข่าว : ทั้งสองพระองค์รับสั่งถึงสารทุกข์สุกดิบของหลวงพ่อคูณอย่างไรบ้าง
A : "ท่านถามถึงน้ำที่ไหลเข้าบึง ก็บึงที่เห็นอยู่ตรงนี้ ถามกับพวกหน่วยชลประทานว่าทำอย่างไร น้ำจะมา น้ำจะไหล"
ผู้สื่อข่าว: คำแรกที่หลวงพ่อคูณได้พูดออกไปกับในหลวงใช้คำว่าอะไร
หลวงพ่อคูณ : "ก็ไม่ได้พูดอะไร เจอกันก็เห็นกันไกลๆ"
ผู้สื่อข่าว : ตอนที่ในหลวงทรงถ่ายภาพหลวงพ่อคูณ รับสั่งอย่างไรบ้าง
หลวงพ่อคูณ : "ไม่ได้ตรัสอะไร ให้ยืนเฉยๆแล้วท่านก็ถ่าย ดูเหมือนสองครั้ง"
ผู้สื่อข่าว : ครั้งแรกที่หลวงพ่อคูณพบกับในหลวงและราชินี รู้สึกตื่นเต้นหรือไม่
หลวงพ่อคูณ : "ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรหรอก รู้สึกว่าดีใจหลาย"
ผู้สื่อข่าว: วันนี้หลวงพ่อเหนื่อยมากมั้ย หลวงพ่อคูณกล่าวว่า
หลวงพ่อคูณ : "กูไม่เหนื่อยอะไร ก็พออยู่ได้ กูยังได้จับพระหัตถ์ของพระเจ้าแผ่นดินอีกหละ ท่านก็ไม่เห็นว่า"
ผู้สื่อข่าว : จับตอนไหน
หลวงพ่อคูณ : "จับตอนที่ขึ้นรถขากลับ"
ผู้สื่อข่าว : ในหลวงได้รับสั่งอะไรพิเศษหรือไม่
หลวงพ่อคูณ : "ไม่มี ท่านก็ห่วงแต่เรื่องน้ำมากที่สุดเลย"
ผู้สื่อข่าว : พระองค์ห่วงเพราะกลัวน้ำเสียใช่หรือไม่
หลวงพ่อคูณ : หลวงพ่อคูณตอบ ไม่ใช่กลัวประชาชนจะอดน้ำ อยากให้ไปทำทางน้ำ ขุดลอกให้มีน้ำเข้าบึงเข้าบ่อนั่นแหละ
ผู้สื่อข่าว : เงินที่หลวงพ่อคูณถวาย 72 ล้านบาท ในหลวงมีรับสั่งอย่างไรบ้าง
หลวงพ่อคูณ : "ก็ไม่ได้ตรัสอะไร กูก็ไม่ได้ว่าอะไร ทูลเกล้าฯด้วยใจศรัทธาจริงๆ ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆทั้งสิ้น"
ผู้สื่อข่าว : หลวงพ่อคูณใช้คำแทนตัวเองว่าอะไร
หลวงพ่อคูณ : "ก็ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นหรอก"
จนเวลาผ่านไปศิษย์ใกล้ชิด ก็แอบไปถามท่านว่า “ตอนที่เดินบนโบสถ์ ผมถามจริงเถอะหลวงพ่อ คุยอะไรเล่าให้ผมฟังหน่อย”
แล้วคำแรกที่หลวงพ่อกล่าวคือ
“มึงรู้ไหม มือพระองค์ เป็นมือ คนทำงาน อย่างก๊ะ ชาวไร่ ชาวนา แข็งกะด้าง มากๆ”
แล้วศิษย์ใกล้ชิด ก็ถามหลวงพ่อว่า หลวงพ่อใช้คำ เรียกว่าอะไร หลวงพ่อท่านเงียบ แล้วก็ตอบว่า พระองค์ พูดประโยคแรกว่า
“หลวงพ่อครับ พูดตามปกติ นะครับ ผมเป็นคนไทย”
ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา
จาก http://www.oknation.net/blog/bon2009/2016/06/15/entry-1
ลิ้ง สำรอง http://www.sookjai.com/index.php?topic=179124.0