ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 28, 2016, 02:59:16 am »หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
นาทีชีวิต!!! หลวงปู่ชอบเจอเสือระยะเผาขน ... มารู้จากหลวงปู่มั่นว่า ที่แท้เสือตัวนั้นคือ...!!?
ย้อนกลับไปในสมัยที่ "หลวงปู่ชอบ ฐานสโม" ออกธุดงค์ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ตามหาหลวงปู่มั่นเพื่อกราบถวายตัวเป็นศิษย์นั้น ระหว่างทางท่านได้แวะพักเจริญภาวนาที่ถ้ำแห่งหนึ่ง
ในถ้ำแห่งนี้เองที่หลวงปู่ชอบได้เจอกับเสือโคร่งอย่างจังขณะที่ท่านกำลังเดินจงกรมอยู่หน้าถ้ำ แสงสว่างของดวงจันทร์ทำให้เห็นลายของเสืออย่างชัดเจน มันกำลังซุ่มตัวอย่างเงียบๆ พอเข้าใกล้ในระยะประชิด มันก็กระโจนออกมาส่งเสียงคำรามข่มขวัญ
ท่านเล่าถึงความรู้สึกในขณะนั้นว่า
"หัวใจแทบจะหยุดเต้นเอา ตาก็ค้าง ปากก็แห้ง กำลังเรี่ยวแรงแขนขาดูอ่อนล้าไปหมด สติสตังหล่นหกตกหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ในขณะนั้น
เจ้าเสือโคร่งลายพาดกลอนเดินย่างสามขุมพร้อมจ้องมองหลวงปู่ชอบไม่วางสายตา เข้าใกล้ท่านแค่ ๒ วา แล้วก็นั่งจ้องมองอยู่อย่างนั้น ท่านตัดสินใจใช้วิธี "เจริญเมตตาภาวนา" โดยลืมตาจ้องมองเสือ เฝ้าดูความรักตัวกลัวตายของตนเอง พร้อมตั้งจิตอธิษฐานว่า
"หากในอดีตชาติเคยมีเวรกรรมกับเสือโคร่งตัวนี้มาก่อนก็ยินดีที่จะชดใช้ให้ในชาตินี้ แต่ถ้าไม่เคยมีกรรมต่อกันมาก่อนก็ขออำนาจแห่งคุณศีลคุณธรรมที่เคยบำเพ็ญมาในอดีตชาติจนถึงปัจจุบัน จงดลบันดาลให้เสือหนีไปจากที่นี่"
พออธิษฐานสละชีวิตเสร็จ หลวงปู่ชอบก็จ้องมองดูว่าเสือโคร่งจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อไป ทั้งคนและเสือต่างจ้องมองคุมเชิงกันนานพอควร ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมละสายตาจากกัน ผ่านไป ๑๐ นาที หลวงปู่ชอบเริ่มตั้งสติได้ คุมใจอยู่ จึงเดินเข้าหาเสืออย่างช้าๆ หนึ่งก้าว เจ้าเสือโคร่งส่งเสียงคำรามขู่นัยว่า ห้ามเข้าใกล้ไปกว่านี้ ปฏิกิริยาของเจ้าเสือทำให้ท่านหยุดการเคลื่อนไหวแล้วบอกกับมันว่า
"ที่นี่เป็นที่ของพระ ท่านมาปฏิบัติธรรมบำเพ็ญเพียร ไม่ใช่สถานที่ของเจ้าที่จะมาเที่ยวเล่นเพ่นพ่านอยู่อย่างนี้ ถ้าหากจะเล่นก็ให้ไปเล่นสนุกกับเพื่อนๆ ของเจ้าโน่น อย่าได้มารบกวนเรา เราเองก็กลัวเจ้าเหมือนกันนะ หนีไปที่อื่นซะ"
ว่าแล้วท่านก็ไล่มัน... "ไป!"
พอพูดจบ หลวงปู่ชอบก็ทำท่าเหมือนจะเอื้อมมือไปจับตัวของมัน เจ้าเสือตกใจกระโจนพรวดพราดหายวับไปต่อหน้าต่อตา
ในที่สุด หลวงปู่ชอบก็เดินธุดงค์ตามทันหลวงปู่มั่นที่สำนักสงฆ์เมี่ยงแม่สาย อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากกราบนมัสการหลวงปู่มั่นเป็นที่เรียบร้อย ท่านจึงได้เล่าประสบการณ์พบเจอเสือบริเวณถ้ำแห่งนั้นให้พระอาจารย์ใหญ่ฟัง
หลวงปู่มั่นชี้แจงความกระจ่างว่า
เสือตัวที่ท่านเจอมาไม่ใช่เสือจริงหรอก เป็นเสือที่เทพเขาจำแลงแปลงร่างมาเพื่อที่จะทดสอบจิตใจของท่านเท่านั้น เขาอยากรู้ว่า ท่านกล้าเป็นกล้าตายในการปฏิบัติธรรมไหม เขาเลยแปลงเป็นเสือมาพิสูจน์จิตใจของท่านดู ที่เขามาแสดงอาการข่มขู่ก็เพื่อที่จะทดลองความกล้าในจิตใจของท่าน ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ท่านตายหรอก อย่างมากเขาก็ทำให้ท่านกลัวเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะมาเอาชีวิตของท่าน ถ้าเป็นเสือจริงๆ โดยธรรมชาติแล้ว ถ้ามันได้มาหาแบบนี้แล้วล่ะก็ แสดงว่ามันมีเจตนาที่จะจับท่านกินเป็นอาหารแน่นอน ...
พวกเทวดานี้เขามีฤทธิ์เดชมากกว่ามนุษย์ เขาสามารถที่จะจำแลงแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้ตามที่เขาปรารถนาอยากเป็น แต่การจำแลงแปลงร่างของเขาเป็นได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น สุดท้ายก็กลับคืนสู่อัตภาพภูมิเดิมของเขา
หลวงปู่ชอบนั่งฟังคำสอนอธิบายของหลวงปู่มั่น จึงทำให้สิ้นสงสัยไปจนหมด
จาก http://panyayan.tnews.co.th/contents/200779/