ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: ตุลาคม 04, 2016, 10:15:12 am »บรมครูพูพู่อ่องสย้าต่อ
บรมครูพู่พู่อ่อง สุดยอดปรมาจารย์แห่งมอญพม่า
ตำนานพู่พู่อ่อง โดย ทิพยจักร
บรมครูพู่พู่อ่อง สุดยอดปรมาจารย์แห่งการเล่นแร่แปรธาตุ และยังเป็นหนึ่งในครูทั้งสิบสายยาแดง ท่านสำเร็จวิชาธาตุ ๔ สามารถควบคุมธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ได้อย่างเด็ดขาด นับเป็นผู้วิเศษแห่งเมืองมอญ ที่พระเจ้าบุเรงนองนับถือสุดหัวใจ
ตำนานเรื่องพู่พู่อ่องเล่าสืบต่อกันมาว่าท่านได้รับคัมภีร์วิเศษเป็นพระเวทย์วิชาอาคมที่จารึกลงบนแผ่นทอง ท่านได้ศึกษาคัมภีร์เล่มนี้ และเดินจาริกไปที่ต่าง ๆ จนสำเร็จวิชาในที่สุดเล่ากันว่าในขณะที่ท่านเดินจาริกแสวงหาความรู้นั้นท่านเคยจาริกไปถึงเมืองชมพูทวีปคืออินเดียในปัจจุบันคราวที่ท่านไปถึงเมืองอินเดียนั้นได้พบกับพระเจ้าปุดอตอนนั้นยังเป็นเจ้าชายยังมิได้ทันขึ้นครองราชย์คราวนั้นเมื่อพบกันจึงเกิดคำมั่นสัญยาว่าจะเป็นเพื่อนกันซื่อสัตย์ต่อกันตลอดชั่วชีวิต ต่อมาไม่นานพู่พู่อ่องสำเร็จซึ่งฌานสมาบัติและพระเวทย์วิเศษ สำเร็จปรอทธาตุอันวิเศษ ทำให้เป็นอมตะไม่มีวันแก่เฒ่า ไม่มีวันตาย ประกอบด้วยอิทฤทธิ์พิสดารยิ่งนัก ส่วนเจ้าชายปุดอก็ได้ขึ้นครองราชย์สมใจเป็นกษัตริย์ปุดอแห่งเมืองม่านหรือพม่านั่นเอง
พู่พู่อ่องครั้งนึงจึงเคยเป็นเพื่อนกับกษัตริย์ปุดอ ต่อมาเมื่อพู่พู่อ่องสำเร็จเป็นผู้วิเศษ พอกษัตริย์ปุดอรู้เข้าว่าเพื่อนของตนสำเร็จเป็นผู้วิเศษสมปรารถนาแล้วก็เกิดความระแวงว่าพู่พู่อ่องจะมาชิงราชบัลลังค์ เลยประกาศจับตัวแล้วประหารโดยฝังทั้งเป็น ทหารยกกองทัพออกตามหาพู่พู่อ่องจนเจอแล้วจับมัดตัวขึ้นเรือเพื่อพากลับมายังวังของกษัตริย์ เมื่อเรือเริ่มออกจากท่าทหารก็แทบหัวใจวาย เพราะพู่พู่อ่องไปยืนยิ้มอยู่ที่ฝั่ง พวกทหารต้องกลับขึ้นฝั่งไปใหม่เพื่อจับพู่พู่อ่องอีกครั้ง คราวรี้พวกทหารวิงวินว่า ถ้าพู่พู่อ่องไม่ไปด้วยคนที่จะตายคือพวกเขาแน่นอน พู่พู่อ่องสงสารเลยบอกว่าพวกเจ้าจงกลับไปหากษัตริย์ของเจ้าเถอะเราสัญญาว่าจะให้เจ้าจับตัวส่งกษัตริย์ของเจ้าอย่างแน่นอน
ทันทีที่ทหารพาเข้าเฝ้ากษัตริย์ปุดอ พู่พู่อ่องก็ปรากฏขึ้นในรูปของผู้โดนพันธนาการด้วยการมัด แต่เมื่อกษัตริย์ปุดอสั่งให้ไปฝังทั้งเป็น พู่พู่อ่องก็เนรมิตรตนลอยขึ้นไปกลางอากาศ อะไรก็จับไม่อยู่โซ่ตรวน เชือกมัดต่างหลุดลุ่ยออกทั้งหมด พู่พู่อ่องประกาศว่า การจะประหารเรานั้นท่านต้องลบอักขระที่ปรากฏขึ้นบนพื้นของพระราชวังให้ได้ ทันใดนั้นอักขระวิเศษก็ปรากฏขึ้นบนพื้นของพระราชวัง ทหารทุกคนต่างช่วยกันลบ แต่ยิ่งลบอักขระนั้นกลับยิ่งเพิ่ม มากขึ้น มากขึ้น จนเต็มพระราชวังไปหมด สุดท้ายก็ไม่มีใครลบอักขระวิเศษออกได้ พู่พู่อ่องกล่าวกับกษัตริย์ปุดอว่า ท่านตระบัดสัตย์ เพราะท่านเคยสัญญาว่าจะเป็นมิตรแก่เรา แต่บัดนี้ท่านกลับคำคิดสังหารเราเสีย ด้วยอคติที่โง่เขลา ด้วยความสามารถของเรานั้นสามารถทำให้ท่านปกครองโลกทั้งโลก พู่พู่อ่องกล่สวก่อนที่จะจากไป ในขณะที่กษัตริย์ปุดอสำนึกผิด ได้แต่เพียงวิงวอนว่า ขอให้พู่พู่อ่องช่วยคุ้มครองลูกหลานของท่านสืบไป จากนั้นพู่พู่อ่องก็อันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตากษัตริย์ุดอและปวงทหารทั้งหลาย ทิ้งไว้แต่ความเสียดายที่ไม่สามารถนำผู้มีความสามารถอย่างพู่พู่อ่องมาช่วยราชการบ้านเมืองเพื่อความผาสุกยิ่งๆขึ้นไป
จากนั้นมาพู่พู่อ่องได้กลายเป็นผู้วิเศษที่ล่องหนหายตัวไปตามสถานที่ต่างๆคอยดูว่าผู้ใดมีบุญวาสนามีใจสุจริตก็จะไปโปรดสอนวิชากรรมฐานและเล่นแร่แปรธาตุ เชื่อกันสืบมาตราบจนบัดนี้ว่าเดี๋ยวนี้พู่พู่อ่องก็ยังคงมีชีวิตสังขารเป็นอมตะ ท่านอยู่ที่เขาโปปา แต่มนุษย์ทั่วไปมองไม่เห็นเพราะท่านอยู่อีกมิติหนึ่งเหลื่อมซ้อนอยู่ต้องได้อภิญยาตาทิพย์มองเข้าไปจึงเห็นท่านได้ ดังนั้นผู้ใดปรารถนาจะพบพู่พู่อ่องท่านว่าให้พึงเจริญพระกรรมฐานจนได้ฌาน ๔ ประกอบด้วยพรหมวิหาร และคำสัตย์มีสีลเป็นที่รักในใจท่านก็จะได้พบพู่พู่อ่องตามปรารถนาที่สำคัญคือให้อธิษฐานถึงท่านเป็นประจำ
ท่านผู้อ่านเมื่อได้อ่านมาถึงตรงนี้อาจเข้าเค้าว่าเรื่องพู่พู่อ่องนั้นคล้ายๆกับเรื่องของหลวงปู่เทพโลกอุดรทางฝั่งไทยเรา ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงและอาจเป็นไปได้ด้วยว่าในความเป็นจริงโลกของอริยะหรือผู้ทรงฌานสมาบัตินั้นท่านเหล่านี้ย่อมรู้จักซึ่งกันและกัน ในโลกทางวัตถุเราสามารถสื่อสารเชื่อมโยงกันด้วยสัญญาณดาวเทียม สัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณวิทยุฉันใดก็ดีในโลกแห่งพลังจิตท่านย่อมเชื่อมโยงติดต่อกันด้วยจิตอันทรงพลานุภาพ อันว่าอำนาจจิตนั้นมีศักยภาพสูงยิ่งว่าคลื่นสัญญาณใดๆที่พวกเราใช้อยู่ในปัจจุบัน มีอานุภาพความชัดเจนความเร็วยิ่งกว่าคลื่นดาวเทียม โทรทัศน์ โทรศัพท์เป็นไหนๆ แต่ทั้งนี้ผู้ปรารถนาจะติดต่อสื่อสารด้วยอำนาจจิตพิเศษก็ต้องผ่านการฝึกฝนจนชำนาญมีสมาธิแก่กล้า จนสามารถรับคลื่นและส่งคลื่นจิตได้ตามปรารถนา
พู่พู่อ่องนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สำเร็จซึ่งวิชาปรอทวิชาเลขยันต์ วิชาการทำประคำ และวิชาการทำตัวยาวิเศษ ทั้งนี้ท่านทรงฌานสมาบัติสูงสุด ทั้งมีฤทธิ์อภิญญาอย่างเยี่ยมยอด กล่าวกันว่าท่านดำรงสังขารอยู่ได้ด้วยอำนาจจากฌานสมาบัติที่ท่านทรงไว้ เรียกว่าการทรงอิทธิบาท ๔ และประกอบกับท่านสำเร็จปรอทวิเศษและตัวยาวิเศษจึงทำให้ท่านอยู่ได้ชั่วกัปล์ คำว่ากัปล์นี้ไม่ได้หมายถึงระยะเวลา ๑๒๐ ปีตามกำหนดอายุมนุษย์ทั่วไป แต่หมายถึงระยะเวลาที่ยาวนานมากๆอาจเป็นหมื่นปี แสนปี ล้านปี หรือยาวนานกว่านั้นก็ทำได้ดังใจของท่านปรารถนาทุกประการ เล่ากันว่าพู่พู่อ่องนั้นท่านอธิษฐานรอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศรีอริเมตรตรัยมาอุบัติเมื่อท่านได้ฟังธรรมจากพระศรีอาริย์แล้วท่านก็จะเข้านิพพาน ณ กาลบัดนั้นเลยทีเดียว ดังนั้นดวงจิตดวงใจของท่านบรมครูพู่พู่อ่องนั้นเป็นดวงจิตที่พร้อมจะบรรลุธรรมขั้นสูงเพียงแต่ท่านอธิษฐานขอเข้าเฝ้าองค์พระศรีอาริย์ไว้เท่านั้นจึงชะลอจิตยั้งจิตไว้ยังไม่เข้าสู่มรรคผลขั้นสูงสุดและระหว่างนี้ท่านก็ทำหน้าที่โปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายที่พึงจะสงเคราะห์ได้ตามวาสนาบารมี
จาก http://www.rusi-sitta.com/article/60/ บรมครูพูพู่อ่องสย้าต่อ
มีอีก เพิ่มเติม ท่านพ่อครูโพมินข่อง บรมครูผู้อยู่เหนือสมมุติ http://aseanline.blogspot.com/2016/09/blog-post_69.html
พ่อครูโพมินข่อง http://aseanline.blogspot.com/2014/04/blog-post_4.html
พ่อครูพู่พู่อ่องและพ่อครูโพมินข่อง สายวิชาปะฐะมะสิทธิหรือวิชาสายยาแดง http://aseanline.blogspot.com/2014/04/blog-post.html
พ่อครูโพมินข่อง สิทธาผู้สำเร็จแห่งเขาโปปา http://aseanline.blogspot.com/2014/08/2557.html
บรมครูพู่พู่อ่อง สุดยอดปรมาจารย์แห่งมอญพม่า
ตำนานพู่พู่อ่อง โดย ทิพยจักร
บรมครูพู่พู่อ่อง สุดยอดปรมาจารย์แห่งการเล่นแร่แปรธาตุ และยังเป็นหนึ่งในครูทั้งสิบสายยาแดง ท่านสำเร็จวิชาธาตุ ๔ สามารถควบคุมธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ได้อย่างเด็ดขาด นับเป็นผู้วิเศษแห่งเมืองมอญ ที่พระเจ้าบุเรงนองนับถือสุดหัวใจ
ตำนานเรื่องพู่พู่อ่องเล่าสืบต่อกันมาว่าท่านได้รับคัมภีร์วิเศษเป็นพระเวทย์วิชาอาคมที่จารึกลงบนแผ่นทอง ท่านได้ศึกษาคัมภีร์เล่มนี้ และเดินจาริกไปที่ต่าง ๆ จนสำเร็จวิชาในที่สุดเล่ากันว่าในขณะที่ท่านเดินจาริกแสวงหาความรู้นั้นท่านเคยจาริกไปถึงเมืองชมพูทวีปคืออินเดียในปัจจุบันคราวที่ท่านไปถึงเมืองอินเดียนั้นได้พบกับพระเจ้าปุดอตอนนั้นยังเป็นเจ้าชายยังมิได้ทันขึ้นครองราชย์คราวนั้นเมื่อพบกันจึงเกิดคำมั่นสัญยาว่าจะเป็นเพื่อนกันซื่อสัตย์ต่อกันตลอดชั่วชีวิต ต่อมาไม่นานพู่พู่อ่องสำเร็จซึ่งฌานสมาบัติและพระเวทย์วิเศษ สำเร็จปรอทธาตุอันวิเศษ ทำให้เป็นอมตะไม่มีวันแก่เฒ่า ไม่มีวันตาย ประกอบด้วยอิทฤทธิ์พิสดารยิ่งนัก ส่วนเจ้าชายปุดอก็ได้ขึ้นครองราชย์สมใจเป็นกษัตริย์ปุดอแห่งเมืองม่านหรือพม่านั่นเอง
พู่พู่อ่องครั้งนึงจึงเคยเป็นเพื่อนกับกษัตริย์ปุดอ ต่อมาเมื่อพู่พู่อ่องสำเร็จเป็นผู้วิเศษ พอกษัตริย์ปุดอรู้เข้าว่าเพื่อนของตนสำเร็จเป็นผู้วิเศษสมปรารถนาแล้วก็เกิดความระแวงว่าพู่พู่อ่องจะมาชิงราชบัลลังค์ เลยประกาศจับตัวแล้วประหารโดยฝังทั้งเป็น ทหารยกกองทัพออกตามหาพู่พู่อ่องจนเจอแล้วจับมัดตัวขึ้นเรือเพื่อพากลับมายังวังของกษัตริย์ เมื่อเรือเริ่มออกจากท่าทหารก็แทบหัวใจวาย เพราะพู่พู่อ่องไปยืนยิ้มอยู่ที่ฝั่ง พวกทหารต้องกลับขึ้นฝั่งไปใหม่เพื่อจับพู่พู่อ่องอีกครั้ง คราวรี้พวกทหารวิงวินว่า ถ้าพู่พู่อ่องไม่ไปด้วยคนที่จะตายคือพวกเขาแน่นอน พู่พู่อ่องสงสารเลยบอกว่าพวกเจ้าจงกลับไปหากษัตริย์ของเจ้าเถอะเราสัญญาว่าจะให้เจ้าจับตัวส่งกษัตริย์ของเจ้าอย่างแน่นอน
ทันทีที่ทหารพาเข้าเฝ้ากษัตริย์ปุดอ พู่พู่อ่องก็ปรากฏขึ้นในรูปของผู้โดนพันธนาการด้วยการมัด แต่เมื่อกษัตริย์ปุดอสั่งให้ไปฝังทั้งเป็น พู่พู่อ่องก็เนรมิตรตนลอยขึ้นไปกลางอากาศ อะไรก็จับไม่อยู่โซ่ตรวน เชือกมัดต่างหลุดลุ่ยออกทั้งหมด พู่พู่อ่องประกาศว่า การจะประหารเรานั้นท่านต้องลบอักขระที่ปรากฏขึ้นบนพื้นของพระราชวังให้ได้ ทันใดนั้นอักขระวิเศษก็ปรากฏขึ้นบนพื้นของพระราชวัง ทหารทุกคนต่างช่วยกันลบ แต่ยิ่งลบอักขระนั้นกลับยิ่งเพิ่ม มากขึ้น มากขึ้น จนเต็มพระราชวังไปหมด สุดท้ายก็ไม่มีใครลบอักขระวิเศษออกได้ พู่พู่อ่องกล่าวกับกษัตริย์ปุดอว่า ท่านตระบัดสัตย์ เพราะท่านเคยสัญญาว่าจะเป็นมิตรแก่เรา แต่บัดนี้ท่านกลับคำคิดสังหารเราเสีย ด้วยอคติที่โง่เขลา ด้วยความสามารถของเรานั้นสามารถทำให้ท่านปกครองโลกทั้งโลก พู่พู่อ่องกล่สวก่อนที่จะจากไป ในขณะที่กษัตริย์ปุดอสำนึกผิด ได้แต่เพียงวิงวอนว่า ขอให้พู่พู่อ่องช่วยคุ้มครองลูกหลานของท่านสืบไป จากนั้นพู่พู่อ่องก็อันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตากษัตริย์ุดอและปวงทหารทั้งหลาย ทิ้งไว้แต่ความเสียดายที่ไม่สามารถนำผู้มีความสามารถอย่างพู่พู่อ่องมาช่วยราชการบ้านเมืองเพื่อความผาสุกยิ่งๆขึ้นไป
จากนั้นมาพู่พู่อ่องได้กลายเป็นผู้วิเศษที่ล่องหนหายตัวไปตามสถานที่ต่างๆคอยดูว่าผู้ใดมีบุญวาสนามีใจสุจริตก็จะไปโปรดสอนวิชากรรมฐานและเล่นแร่แปรธาตุ เชื่อกันสืบมาตราบจนบัดนี้ว่าเดี๋ยวนี้พู่พู่อ่องก็ยังคงมีชีวิตสังขารเป็นอมตะ ท่านอยู่ที่เขาโปปา แต่มนุษย์ทั่วไปมองไม่เห็นเพราะท่านอยู่อีกมิติหนึ่งเหลื่อมซ้อนอยู่ต้องได้อภิญยาตาทิพย์มองเข้าไปจึงเห็นท่านได้ ดังนั้นผู้ใดปรารถนาจะพบพู่พู่อ่องท่านว่าให้พึงเจริญพระกรรมฐานจนได้ฌาน ๔ ประกอบด้วยพรหมวิหาร และคำสัตย์มีสีลเป็นที่รักในใจท่านก็จะได้พบพู่พู่อ่องตามปรารถนาที่สำคัญคือให้อธิษฐานถึงท่านเป็นประจำ
ท่านผู้อ่านเมื่อได้อ่านมาถึงตรงนี้อาจเข้าเค้าว่าเรื่องพู่พู่อ่องนั้นคล้ายๆกับเรื่องของหลวงปู่เทพโลกอุดรทางฝั่งไทยเรา ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงและอาจเป็นไปได้ด้วยว่าในความเป็นจริงโลกของอริยะหรือผู้ทรงฌานสมาบัตินั้นท่านเหล่านี้ย่อมรู้จักซึ่งกันและกัน ในโลกทางวัตถุเราสามารถสื่อสารเชื่อมโยงกันด้วยสัญญาณดาวเทียม สัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณวิทยุฉันใดก็ดีในโลกแห่งพลังจิตท่านย่อมเชื่อมโยงติดต่อกันด้วยจิตอันทรงพลานุภาพ อันว่าอำนาจจิตนั้นมีศักยภาพสูงยิ่งว่าคลื่นสัญญาณใดๆที่พวกเราใช้อยู่ในปัจจุบัน มีอานุภาพความชัดเจนความเร็วยิ่งกว่าคลื่นดาวเทียม โทรทัศน์ โทรศัพท์เป็นไหนๆ แต่ทั้งนี้ผู้ปรารถนาจะติดต่อสื่อสารด้วยอำนาจจิตพิเศษก็ต้องผ่านการฝึกฝนจนชำนาญมีสมาธิแก่กล้า จนสามารถรับคลื่นและส่งคลื่นจิตได้ตามปรารถนา
พู่พู่อ่องนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สำเร็จซึ่งวิชาปรอทวิชาเลขยันต์ วิชาการทำประคำ และวิชาการทำตัวยาวิเศษ ทั้งนี้ท่านทรงฌานสมาบัติสูงสุด ทั้งมีฤทธิ์อภิญญาอย่างเยี่ยมยอด กล่าวกันว่าท่านดำรงสังขารอยู่ได้ด้วยอำนาจจากฌานสมาบัติที่ท่านทรงไว้ เรียกว่าการทรงอิทธิบาท ๔ และประกอบกับท่านสำเร็จปรอทวิเศษและตัวยาวิเศษจึงทำให้ท่านอยู่ได้ชั่วกัปล์ คำว่ากัปล์นี้ไม่ได้หมายถึงระยะเวลา ๑๒๐ ปีตามกำหนดอายุมนุษย์ทั่วไป แต่หมายถึงระยะเวลาที่ยาวนานมากๆอาจเป็นหมื่นปี แสนปี ล้านปี หรือยาวนานกว่านั้นก็ทำได้ดังใจของท่านปรารถนาทุกประการ เล่ากันว่าพู่พู่อ่องนั้นท่านอธิษฐานรอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศรีอริเมตรตรัยมาอุบัติเมื่อท่านได้ฟังธรรมจากพระศรีอาริย์แล้วท่านก็จะเข้านิพพาน ณ กาลบัดนั้นเลยทีเดียว ดังนั้นดวงจิตดวงใจของท่านบรมครูพู่พู่อ่องนั้นเป็นดวงจิตที่พร้อมจะบรรลุธรรมขั้นสูงเพียงแต่ท่านอธิษฐานขอเข้าเฝ้าองค์พระศรีอาริย์ไว้เท่านั้นจึงชะลอจิตยั้งจิตไว้ยังไม่เข้าสู่มรรคผลขั้นสูงสุดและระหว่างนี้ท่านก็ทำหน้าที่โปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายที่พึงจะสงเคราะห์ได้ตามวาสนาบารมี
จาก http://www.rusi-sitta.com/article/60/ บรมครูพูพู่อ่องสย้าต่อ
มีอีก เพิ่มเติม ท่านพ่อครูโพมินข่อง บรมครูผู้อยู่เหนือสมมุติ http://aseanline.blogspot.com/2016/09/blog-post_69.html
พ่อครูโพมินข่อง http://aseanline.blogspot.com/2014/04/blog-post_4.html
พ่อครูพู่พู่อ่องและพ่อครูโพมินข่อง สายวิชาปะฐะมะสิทธิหรือวิชาสายยาแดง http://aseanline.blogspot.com/2014/04/blog-post.html
พ่อครูโพมินข่อง สิทธาผู้สำเร็จแห่งเขาโปปา http://aseanline.blogspot.com/2014/08/2557.html