ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: ตุลาคม 19, 2016, 07:52:57 pm »5 เรื่องราวแสนอบอุ่นของพ่อหลวง จากพระบรมวงศานุวงศ์และคนใกล้ชิด
ตลอดเวลาแห่งการครองราชย์ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ชาวไทยทุกคนคงได้เห็นภาพของพ่อหลวงทรงงานหนักอย่างไม่ลดละ แม้แต่ในขณะที่ทรงประชวร… และ 5 เรื่องราวอันแสนอบอุ่นต่อไปนี้ จะแสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงงานหนัก ด้วยเหตุผลสำคัญเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือ การมีพระราชหฤทัยอันมุ่งมั่นที่จะบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับราษฎรของพระองค์
“ฝรั่งชมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า เป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ไม่เหมือนใคร ทำให้สถาบันกษัตริย์ดำเนินไปอีกแนวหนึ่ง เป็นแนวใหม่ที่ไม่มีที่ไหนในโลก ไม่มีที่ไหนในโลกที่พระมหากษัตริย์จะออกไปแล้ว ประชาชนมานั่งเล่าถึงความทุกข์ แล้วพากันไปดูจนถึงหลังบ้าน”
พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานแก่กลุ่มนักข่าวหญิง เมื่อปี 2523
“เวลาที่ทรงพระสำราญ คือ เวลาที่เสด็จออกวางโครงการ พัฒนาประเทศ และเห็นว่าพระราชดำริคงจะมีประโยชน์ต่อประชาชนในเวลาที่เห็นผลจากโครงการต่างๆ อีกประการหนึ่ง สิ่งที่ทำให้ทรงพระสำราญ คือการได้ทอดพระเนตรเห็นประชาชนมีน้ำใจต่อท่านและประชาชนด้วยกัน ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินจะมีส่วนช่วยพระองค์ท่านได้ โดยการช่วยตัวเอง ช่วยเพื่อนร่วมชาติคนอื่นๆ มีความรักความสามัคคี ทำตนเป็นพลเมืองดี เห็นแก่ชาติบ้านเมือง”
พระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หนังสือในหลวงของเรา
“ในหลวงทรงห่วงใยประชาชนมาก เมื่อหนึ่งอาทิตย์มาแล้ว ในหลวงทอดพระเนตรข่าวน้ำท่วมเป็นเวลา 5 ชั่วโมงเต็มๆ ทำให้เห็นว่า ทรงห่วงประชาชนจนเครียดและทรงถ่ายออกมาเป็นเลือดจำนวนมาก ความดันพระโลหิตตก ต้องพาเข้าห้องฉุกเฉิน แต่ตอนนี้กลับสู่อาการปกติแล้ว ข้าพเจ้าเห็นแล้วใจไม่ดี ไม่อยากพูดในฐานะลูก แต่อยากพูดในฐานะของคนที่ดูแลท่านมาตลอด ทรงรักประชาชน ทรงห่วงทุกข์สุขของประชาชน จึงทำให้ออกมาในอาการป่วยดังกล่าว หมอยังหาแผลไม่ได้ว่าตรงไหนเลือดออก ตอนนี้ยังเฝ้าดูพระอาการอยู่ แต่อยากให้รู้ว่าใจท่านอยู่กับประชาชนเสมอ การที่ข้าพเจ้ามีพ่อแม่แบบนี้ สอนให้ข้าพเจ้ารู้จักรับใช้ประชาชน ทุกอย่างมันอยู่ในสายเลือดข้าพเจ้าที่ต้องรู้จักรับใช้ประชาชน ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม ไม่เลย คนเราถ้าเล่นละครเป็นฉากๆ จะเหนื่อยมาก แต่ถ้าทำด้วยใจไม่เหนื่อยเลย”
พระดำรัสของสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ 7 พฤศจิกายน 2554
“เท่าที่ผมทราบมานั้น ไม่มีอะไรทำให้ทั้งสองพระองค์สำราญพระราชหฤทัยเกินไปกว่าการที่ได้ทรงพบปะกับราษฎรของพระองค์ แม้จะใกล้หรือไกลก็ตามที ตามที่มีคำพังเพยแต่ก่อนว่า รัชกาลที่ 1 โปรดทหาร รัชกาลที่ 2 โปรดกวีและศิลปิน รัชกาลที่ 3 โปรดช่างก่อสร้าง (วัด) นั้น ผมกล้าต่อให้ได้ว่า รัชกาลที่ 9 นี้โปรดราษฎร และคนที่ได้เข้าเฝ้าฯ ใกล้ชิดที่สุดเสมอมาก็คือราษฎร มิใช่ใครที่ไหนเลย”
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช หนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน ฉบับวันที่ 16 พฤศจิกายน 2505
“ทรงเก็บประเทศไทยทั้งประเทศไว้ในพระราชหฤทัย ตัวนายแพทย์ผู้รักษาโรคหัวใจที่ถวายการรักษาผู้หนึ่งกล่าวว่า ถึงแม้จะได้รักษาคนไข้มากเพียงใด แต่จะให้ตัวเองมีใจเป็นปกติย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะพระองค์ท่านไม่ใช่เป็นคนไทยอย่างเดียว แต่พระองค์ท่านเป็นประเทศไทย เป็นไปตามที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงมาแล้วว่า เวลาที่ทรงพระประชวรแทบทุกครั้ง ไม่เคยเป็นอุปสรรคต่อการที่พระสมองจะดำริใดๆ ทั้งสิ้น เพราะการที่ทรงเป็นพระประมุขของประเทศไทย ย่อมจะต้องทรงรู้จักประเทศไทยได้ดี”
ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา บันทึกใน ทำเป็นธรรม
ขอบคุณภาพ จาก นิตยสารแพรว http://www.praew.com
จาก http://www.secret-thai.com/article/15736/5-stories-from-royal-family/