ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: ตุลาคม 20, 2016, 02:08:31 pm »รวมเหตุอัศจรรย์บนฟากฟ้า ห้วงเวลาน้อมอาลัย ในหลวงในดวงใจ เสด็จสู่สวรรคาลัย
เหตุอัศจรรย์ อาจเป็นเรื่องที่คนยุคใหม่คิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล งมงาย แต่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่แล้ว นี่คือเรื่องที่ไม่ไกลพ้นไปจากความเชื่อเราเท่าใดนัก โดยเฉพาะเมื่อเป็นเหตุอัศจรรย์ที่เกี่ยวเนื่องกับคนในราชวงศ์
และนับตั้งแต่ ในหลวงในดวงใจ เสด็จสู่สวรรคาลัย ไปเมื่อบ่ายวันพฤหัสสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 เวลา 15.52 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ ห้วงเวลาก่อนหน้าจวบจนค่ำคืนแรกที่คนไทยไม่มีพ่อหลวง เลยไปจนถึงเพลาเคลื่อนพระบรมศพ นั้นก็พลันบังเกิดปรากฏการณ์บนฟากฟ้าหลากหลายเหตุการณ์ ซึ่งนับเป็นเรื่องอัศจรรย์ยิ่งนัก แต่หากคิดว่าพระองค์ท่านทรงเป็นสมมติเทพลงมาจุติ ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่เกิดขึ้นนี้ก็จะเป็นบทบันทึกของห้วงเวลาอันแสนเศร้าทางประวัติศาสตร์ที่สามารถเล่าสืบต่อชั่วลูกชั่วหลานได้ตราบนานเท่านาน
อัศจรรย์ท้องฟ้าเปิดเหนือโรงพยาบาลศิริราช
ไม่ปรากฏที่มาของผู้ถ่ายภาพ แต่ที่แชร์ต่อๆ กันจนมาถึงแพรวนั้นได้จากเพจคุณ “ณัชร สยามวาลา Nash Siamwalla, PhD” ซึ่งลงภาพนี้พร้อมโพสต์ข้อความว่า
“ภาพท้องฟ้าเปิดเหนือศิริราชตอนบ่ายแก่ๆ วันที่ ๑๓ ต.ค. ๒๕๕๙ สะกิดให้คิดมุมกลับได้ว่าป่านนี้บนสวรรค์คงกำลังเฉลิมฉลองต้อนรับการเสด็จฯ กลับของพระองค์ท่านอยู่ หลังจากที่ทรงเสียสละจุติจากเทวโลกลงมาอุบัติในมนุษยโลกเพื่อทรงงานช่วยเหลือดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุขพวกเราอยู่ตั้งนาน
ผู้เขียนเป็นผู้รู้น้อย แต่ขอเดาจากที่เคยได้ยินมาว่า ที่เห็นฟ้าเปิดเป็นแสงสว่างส่องลงมาท่ามกลางความมืดมนนี้ก็น่าจะเป็นขบวนเทวดา (ที่ตามปกติมีรังสีสว่างมากน้อยตามกำลังบุญ)ลงมากราบบังคมทูลเชิญให้เสด็จฯ กลับสวรรค์นั่นเอง
คนไทยเรายุคปัจจุบันมีบุญมากที่ได้เกิดทันแผ่นดินของพระโพธิสัตว์ผู้กำลังสั่งสมพระบารมีเพื่อจะไปเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ถ้ารักและอาลัยพระองค์ท่านก็พึงเจริญทาน ศีล และภาวนาบารมีตามรอยพระบาทกันเถิด
เพราะอย่าลืมว่า เพียงการอธิษฐานว่า “ขอเกิดเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป” นั้นไม่พอ แต่ต้องสร้างเหตุให้เหมาะสมที่จะได้ไปเกิดใต้เบื้องพระยุคลบาทด้วย
เหตุที่ว่านี้ คือต้องทำทั้งทาน ศีล และภาวนานั่นเอง
Cr.ไม่ปรากฏชื่อผู้ถ่ายภาพ มีผู้ส่งต่อ ๆ กันมาในไลน์ ท่านใดเป็นผู้ถ่ายภาพนี้ขอให้บอกมาด้วยนะคะ ประสงค์จะให้เครดิตท่านค่ะ”
แพรวเองก็ขอขอบคุณเจ้าของภาพมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
อัศจรรย์หมอกทุมเกตุ
ภาพชุดหมอกปกคลุมเหนือท้องฟ้ากรุงเทพมหานคร ได้มาจากเพจคุณ Bigg Sirirojwong ซึ่งได้ทยอยลงภาพชุดนี้ในเฟสบุ้คของเขาเมื่อเวลา 2.21 น.ของวันที่ 14 ตุลาคม พร้อมโพสต์ข้อความว่า
“คืนวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 วันเสด็จสวรรคตองค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เกิดปรากฏการณ์ “หมอกธุมเกตุ” ซึ่งตำรากล่าวถึงว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆ เกิดขึ้น เช่น เหตุการณ์สวรรคตของพระเจ้าแผ่นดินมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์
เมื่อครั้งองค์ในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 ก็มีบันทึกว่าได้เกิดปรากฏการณ์ “หมอกธุมเกตุ” นี้เช่นเดียวกัน ดังข้อความบางส่วนจากพระนิพนธ์ใน หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ เมื่อแผ่นดินสยามร้องไห้ ที่ได้บรรยายไว้ว่า
“พวกราษฎรเอาเสื่อไปปูนั่งกันเป็นแถวตลอดสองข้างทาง จะหาหน้าใครที่มีแม้แต่ยิ้มก็ไม่มีสักผู้เดียว ทุกคนแต่งดำน้ำตาไหลอย่างตกอกตกใจด้วยไม่เคยรู้รส อากาศมืดคุ้มมีหมอขาวลงจัดเกือบถึงหัวคนเดินทั่วไป ผู้ใหญ่เขาบอกว่านี่แหละหมอกธุมเกตุ(๑)ที่ในตำราเขากล่าวถึง ว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆเกิดขึ้น”
ปรากฏว่าภาพชุดนี้ถูกแชร์ต่อๆ กันไปเป็นวงกว้างในโลกโซเชียล และคาดว่าน่าจะมีคนติดต่อเข้าไปยังเจ้าของเพจเพื่อขอซื้อภาพเป็นจำนวนมาก แต่น่ารับถือเจ้าของเพจมากมายนัก เพราะแทนที่จะเมคมันนี่จากผลงานสุดยอด เขากลับออกมาประกาศผ่านเฟสบุ้คของเขาว่า
“มีหลายท่านขอไฟล์เต็มเพื่อนำไปอัดภาพ ของภาพพระบรมมหาราชวัง บางท่านขอซื้อ
ดังนั้นผมจึงขออนุญาต มอบไฟล์เต็มของภาพนี้ รวมถึง ภาพชุด “หมอกธุมเกตุ” ที่ถ่ายไว้ให้กับพวกเราคนไทยที่รักในหลวงทุกท่านครับ ท่านสามารถนำไปใช้ใดๆ หรือนำไปอัดภาพใหญ่ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาติครับ
ปล.ภาพเป็นไฟล์เต็มไม่มีตัวอักษรใดๆ (ยกเว้นภาพพระบรมมหาราชวังที่มีเครดิตชื่อผมใต้ภาพ เนื่องจากผมหาภาพต้นฉบับที่ไม่มีชื่อผมติดมุมภาพไม่เจอครับ)
สุดยอดเลยค่ะ
อัศจรรย์พระจันทร์ทรงกลด
ภาพนี้มาจากไอจีของคุณ @up2youha ซึ่งไม่ได้บอกว่าเป็นคนถ่ายภาพด้วยตนเอง แต่ชอบข้อความที่โพสต์ไว้จึงขออณุญาติแบ่งปันมา ณ ที่นี่
เป็นสิ่งอัศจรรย์วันสวรรคต
พระจันทร์ทรงกลดลดรัศมี
น้อมส่งดวงวิญญาณองค์ภูมี
สถิตเสถียรที่แดนฟ้าสวรรคาลัย
#ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
อัศจรรย์ฝูงนกบินวนเหนือพระบรมมหาราชวัง
สองภาพนี้ตัดมาจากคลิปความยาว 1.55 นาที ที่คุณ Pinny Shiori แชร์ไว้บนเพจของเธอ โดยมีข้อความประกอบคลิปว่า
“10.59 นาที เกิดปรากฏการณ์ฝูงนกรวมตัวบินวนไปรอบๆพระบรมมหาราชวังตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ และบินวนทวนเข็มนาฬิกาอีกนับครั้งไม่ถ้วนเหนือพระบรมมหาราชวังจนบัดนี้ก็ยังบินวนอยู่สร้างความประหลาดใจแก่ปชช.ที่มานั่งรอ เรากะแม่นั่งมองด้วยความอึ้งมาก ทุกคนบริเวณนี้ก็เช่นกัน”
หลัวจากนั้น เธอโพสต์อีก 1 คลิป พร้อมข้อความ
“ณ เวลาที่ใกล้เคลื่อนพระบรมศพ 12.10น. ก็เกิดเหตุการณ์ฝูงนกบินมารวมตัวกันอีกครั้งและมาหยุดเกาะตรงด้านบน ทุกตัวราวกับมาส่งเสด็จ และเกาะอยู่อย่างนั้น ไม่ขยับเขยื้อนเลย”
ภาพอัศจรรย์บนฟากฟ้าทุกภาพอาจมีความเห็นต่าง ซึ่งสามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ในพื้นที่ลิสต์นี้ผู้รวบรวมข้อมูลยอมรับว่าเหตุแห่งการรวมมาจากการ ‘มอง’ ตามแบบที่บรรพบุรุษของเรามอง เพราะอย่างน้อยๆ นี่ก็ช่วยเยียวยาความรู้สึกสูญสลายจากการสูญสิ้น ในหลวงในดวงใจ ไป ด้วยเชื่อว่าพระองค์ท่านเสด็จกลับคืนสู่สรวงสวรรค์แล้วนั่นเอง
แพรวขอขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพมา ณ ที่นี้
จาก http://www.praew.com/59717/luxury/king-in-my-heart-miracle/
เหตุอัศจรรย์ อาจเป็นเรื่องที่คนยุคใหม่คิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล งมงาย แต่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่แล้ว นี่คือเรื่องที่ไม่ไกลพ้นไปจากความเชื่อเราเท่าใดนัก โดยเฉพาะเมื่อเป็นเหตุอัศจรรย์ที่เกี่ยวเนื่องกับคนในราชวงศ์
และนับตั้งแต่ ในหลวงในดวงใจ เสด็จสู่สวรรคาลัย ไปเมื่อบ่ายวันพฤหัสสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 เวลา 15.52 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ ห้วงเวลาก่อนหน้าจวบจนค่ำคืนแรกที่คนไทยไม่มีพ่อหลวง เลยไปจนถึงเพลาเคลื่อนพระบรมศพ นั้นก็พลันบังเกิดปรากฏการณ์บนฟากฟ้าหลากหลายเหตุการณ์ ซึ่งนับเป็นเรื่องอัศจรรย์ยิ่งนัก แต่หากคิดว่าพระองค์ท่านทรงเป็นสมมติเทพลงมาจุติ ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่เกิดขึ้นนี้ก็จะเป็นบทบันทึกของห้วงเวลาอันแสนเศร้าทางประวัติศาสตร์ที่สามารถเล่าสืบต่อชั่วลูกชั่วหลานได้ตราบนานเท่านาน
อัศจรรย์ท้องฟ้าเปิดเหนือโรงพยาบาลศิริราช
ไม่ปรากฏที่มาของผู้ถ่ายภาพ แต่ที่แชร์ต่อๆ กันจนมาถึงแพรวนั้นได้จากเพจคุณ “ณัชร สยามวาลา Nash Siamwalla, PhD” ซึ่งลงภาพนี้พร้อมโพสต์ข้อความว่า
“ภาพท้องฟ้าเปิดเหนือศิริราชตอนบ่ายแก่ๆ วันที่ ๑๓ ต.ค. ๒๕๕๙ สะกิดให้คิดมุมกลับได้ว่าป่านนี้บนสวรรค์คงกำลังเฉลิมฉลองต้อนรับการเสด็จฯ กลับของพระองค์ท่านอยู่ หลังจากที่ทรงเสียสละจุติจากเทวโลกลงมาอุบัติในมนุษยโลกเพื่อทรงงานช่วยเหลือดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุขพวกเราอยู่ตั้งนาน
ผู้เขียนเป็นผู้รู้น้อย แต่ขอเดาจากที่เคยได้ยินมาว่า ที่เห็นฟ้าเปิดเป็นแสงสว่างส่องลงมาท่ามกลางความมืดมนนี้ก็น่าจะเป็นขบวนเทวดา (ที่ตามปกติมีรังสีสว่างมากน้อยตามกำลังบุญ)ลงมากราบบังคมทูลเชิญให้เสด็จฯ กลับสวรรค์นั่นเอง
คนไทยเรายุคปัจจุบันมีบุญมากที่ได้เกิดทันแผ่นดินของพระโพธิสัตว์ผู้กำลังสั่งสมพระบารมีเพื่อจะไปเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ถ้ารักและอาลัยพระองค์ท่านก็พึงเจริญทาน ศีล และภาวนาบารมีตามรอยพระบาทกันเถิด
เพราะอย่าลืมว่า เพียงการอธิษฐานว่า “ขอเกิดเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป” นั้นไม่พอ แต่ต้องสร้างเหตุให้เหมาะสมที่จะได้ไปเกิดใต้เบื้องพระยุคลบาทด้วย
เหตุที่ว่านี้ คือต้องทำทั้งทาน ศีล และภาวนานั่นเอง
Cr.ไม่ปรากฏชื่อผู้ถ่ายภาพ มีผู้ส่งต่อ ๆ กันมาในไลน์ ท่านใดเป็นผู้ถ่ายภาพนี้ขอให้บอกมาด้วยนะคะ ประสงค์จะให้เครดิตท่านค่ะ”
แพรวเองก็ขอขอบคุณเจ้าของภาพมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
อัศจรรย์หมอกทุมเกตุ
ภาพชุดหมอกปกคลุมเหนือท้องฟ้ากรุงเทพมหานคร ได้มาจากเพจคุณ Bigg Sirirojwong ซึ่งได้ทยอยลงภาพชุดนี้ในเฟสบุ้คของเขาเมื่อเวลา 2.21 น.ของวันที่ 14 ตุลาคม พร้อมโพสต์ข้อความว่า
“คืนวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 วันเสด็จสวรรคตองค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เกิดปรากฏการณ์ “หมอกธุมเกตุ” ซึ่งตำรากล่าวถึงว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆ เกิดขึ้น เช่น เหตุการณ์สวรรคตของพระเจ้าแผ่นดินมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์
เมื่อครั้งองค์ในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 ก็มีบันทึกว่าได้เกิดปรากฏการณ์ “หมอกธุมเกตุ” นี้เช่นเดียวกัน ดังข้อความบางส่วนจากพระนิพนธ์ใน หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ เมื่อแผ่นดินสยามร้องไห้ ที่ได้บรรยายไว้ว่า
“พวกราษฎรเอาเสื่อไปปูนั่งกันเป็นแถวตลอดสองข้างทาง จะหาหน้าใครที่มีแม้แต่ยิ้มก็ไม่มีสักผู้เดียว ทุกคนแต่งดำน้ำตาไหลอย่างตกอกตกใจด้วยไม่เคยรู้รส อากาศมืดคุ้มมีหมอขาวลงจัดเกือบถึงหัวคนเดินทั่วไป ผู้ใหญ่เขาบอกว่านี่แหละหมอกธุมเกตุ(๑)ที่ในตำราเขากล่าวถึง ว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆเกิดขึ้น”
ปรากฏว่าภาพชุดนี้ถูกแชร์ต่อๆ กันไปเป็นวงกว้างในโลกโซเชียล และคาดว่าน่าจะมีคนติดต่อเข้าไปยังเจ้าของเพจเพื่อขอซื้อภาพเป็นจำนวนมาก แต่น่ารับถือเจ้าของเพจมากมายนัก เพราะแทนที่จะเมคมันนี่จากผลงานสุดยอด เขากลับออกมาประกาศผ่านเฟสบุ้คของเขาว่า
“มีหลายท่านขอไฟล์เต็มเพื่อนำไปอัดภาพ ของภาพพระบรมมหาราชวัง บางท่านขอซื้อ
ดังนั้นผมจึงขออนุญาต มอบไฟล์เต็มของภาพนี้ รวมถึง ภาพชุด “หมอกธุมเกตุ” ที่ถ่ายไว้ให้กับพวกเราคนไทยที่รักในหลวงทุกท่านครับ ท่านสามารถนำไปใช้ใดๆ หรือนำไปอัดภาพใหญ่ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาติครับ
ปล.ภาพเป็นไฟล์เต็มไม่มีตัวอักษรใดๆ (ยกเว้นภาพพระบรมมหาราชวังที่มีเครดิตชื่อผมใต้ภาพ เนื่องจากผมหาภาพต้นฉบับที่ไม่มีชื่อผมติดมุมภาพไม่เจอครับ)
สุดยอดเลยค่ะ
อัศจรรย์พระจันทร์ทรงกลด
ภาพนี้มาจากไอจีของคุณ @up2youha ซึ่งไม่ได้บอกว่าเป็นคนถ่ายภาพด้วยตนเอง แต่ชอบข้อความที่โพสต์ไว้จึงขออณุญาติแบ่งปันมา ณ ที่นี่
เป็นสิ่งอัศจรรย์วันสวรรคต
พระจันทร์ทรงกลดลดรัศมี
น้อมส่งดวงวิญญาณองค์ภูมี
สถิตเสถียรที่แดนฟ้าสวรรคาลัย
#ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
อัศจรรย์ฝูงนกบินวนเหนือพระบรมมหาราชวัง
สองภาพนี้ตัดมาจากคลิปความยาว 1.55 นาที ที่คุณ Pinny Shiori แชร์ไว้บนเพจของเธอ โดยมีข้อความประกอบคลิปว่า
“10.59 นาที เกิดปรากฏการณ์ฝูงนกรวมตัวบินวนไปรอบๆพระบรมมหาราชวังตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ และบินวนทวนเข็มนาฬิกาอีกนับครั้งไม่ถ้วนเหนือพระบรมมหาราชวังจนบัดนี้ก็ยังบินวนอยู่สร้างความประหลาดใจแก่ปชช.ที่มานั่งรอ เรากะแม่นั่งมองด้วยความอึ้งมาก ทุกคนบริเวณนี้ก็เช่นกัน”
หลัวจากนั้น เธอโพสต์อีก 1 คลิป พร้อมข้อความ
“ณ เวลาที่ใกล้เคลื่อนพระบรมศพ 12.10น. ก็เกิดเหตุการณ์ฝูงนกบินมารวมตัวกันอีกครั้งและมาหยุดเกาะตรงด้านบน ทุกตัวราวกับมาส่งเสด็จ และเกาะอยู่อย่างนั้น ไม่ขยับเขยื้อนเลย”
ภาพอัศจรรย์บนฟากฟ้าทุกภาพอาจมีความเห็นต่าง ซึ่งสามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ในพื้นที่ลิสต์นี้ผู้รวบรวมข้อมูลยอมรับว่าเหตุแห่งการรวมมาจากการ ‘มอง’ ตามแบบที่บรรพบุรุษของเรามอง เพราะอย่างน้อยๆ นี่ก็ช่วยเยียวยาความรู้สึกสูญสลายจากการสูญสิ้น ในหลวงในดวงใจ ไป ด้วยเชื่อว่าพระองค์ท่านเสด็จกลับคืนสู่สรวงสวรรค์แล้วนั่นเอง
แพรวขอขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพมา ณ ที่นี้
จาก http://www.praew.com/59717/luxury/king-in-my-heart-miracle/