ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: มกราคม 07, 2017, 02:09:38 am »หลังพบความสุขที่แท้จริง ดร.เกริก มีมุ่งกิจ ได้มุ่งสู่เส้นทางแห่งความยั่งยืน ด้วยการใช้ความรักและความรู้ทางวนเกษตร มาถ่ายทอดการสร้างป่าปลูกเอง เพื่อใช้เป็นโรงเรียนสอนคนกล้าคืนถิ่น คนกล้าที่จะเลิกเดินตามความฟุ้งเฟ้อ และวัตถุนิยมในสังคมเมือง ก้าวสู่การเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใช้ความรู้เพื่อพัฒนาเกษตรกรรมแบบยั่งยืน อย่างพอเพียง และเพียงพอ ไม่ทำเกษตรเชิงเดี่ยว ไม่ใช้สารเคมี และบริหารจัดการทรัพยากรเป็นดังที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสไว้ ให้คนไทยปลูกป่า 3 อย่างเพื่อประโยชน์ 4 อย่าง ซึ่ง ดร.เกริก มีมุ่งกิจ ได้ตั้งปณิธานไว้ว่า จะน้อมนำแนวทางพระราชดำรัสซึ่งเป็นสิ่งที่จะได้ทดแทนพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ด้วยการสร้างคนกล้าคืนถิ่น ทำให้คนไทยหลุดพ้นจากความจนด้วยการปลูกต้นไม้ เพราะต้นไม้คือ ชีวิต ต้นไม้ให้ปัจจัยสี่ ต้นไม้ให้โอกาสทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ต้นไม้ยังช่วยในการดูแลปกป้องดินและน้ำให้กับโลกเราด้วย
"ถ้าพูดถึงปณิธานต้นไม้ เราเป็นคนกรุงเทพฯ เราเป็นคนเมือง เราอยากเห็นป่าในเมือง ทำไมคนเราต้องออกจากเมืองไปหาป่า ทำไมไม่อยู่ในเมืองที่มีป่า มีอาคารที่อยู่ร่วมกันได้ ง่ายๆสั้นๆ เราออกมาจากบ้านหรือเราอยู่พื้นที่ในบ้าน เราสามารถมีความสุข มีสภาพแวดล้อมที่เป็นระบบนิเวศที่สมบูรณ์แล้วก็มีความหลากหลายได้ โดยที่เราคนเมืองไม่ต้องเอาตัวออกไปหาในที่อื่น แต่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นได้ในเมือง โดยที่เป็นป่าในเมือง"
หนึ่งในเหตุผลของ กลุ่มบิ๊กทรี หรือ Big Trees Project กลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวกันของคนในเมืองที่เห็นว่า เรื่องของต้นไม้เป็นเรื่องใหญ่ และพวกเขาจะไม่ยอมให้การจัดการต้นไม้ผิดๆเกิดขึ้นอีก จากประเด็นตัดไม้ใหญ่ในเมือง กลายเป็นการรวมตัวกันของคนรุ่นใหม่ ที่มองเห็นคุณค่าของต้นไม้จนกลายเป็นพลังนับแสนในโลกออนไลน์ ที่พร้อมจะเป็นอาสาสมัครปกป้องพื้นที่เขียวด้วยกัน และได้สร้างการมีส่วนร่วมผลักดัน จนเป็นส่วนหนึ่งของ เครือข่ายต้นไม้ในเมือง ที่พาเรื่องต้นไม้ไปไกลถึงนโยบายระดับภาครัฐ
เมื่อสิบกว่าปีก่อน ไม่มีใครไม่รู้จัก ดาบวิชัย สุริยุทธ (ปัจจุบัน ร.ต.ต. วิชัย สุริยุทธ) ในฐานะคนบ้าปลูกต้นไม้สองล้านต้น ปลูกคนเดียว ตามถนนหนทาง ตามวัด ตามที่สาธารณะ เพราะดาบวิชัยเห็นว่าอำเภอปรางค์กู่แห้งแล้ง
พอหลังจากไปอบรมโครงการแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ดาบวิชัยก็มีปณิธานอยากปลูกต้นไม้เพื่อช่วยในหลวง ร.9 สร้างแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง โดยเริ่มจากปลูกต้นไม้ เนื่องจากเชื่อว่าต้นไม้จะทำให้ชุมชนได้ประโยชน์ คือ ทำมาหากินได้ ให้ร่มเงาได้ ให้ความสวยงาม แก่พื้นที่ที่แห้งแล้งได้ และเพราะต้นไม้เป็นสิ่งเดียวที่ตำรวจจนๆ คนหนึ่งจะทำได้ด้วยสองมือ ดาบวิชัยจึงปลูกทุกวัน วันละ 2-3 กม. จนมีคนมาพบเข้าแล้วนำเรื่องราวของดาบไปทำโฆษณา
หลังโด่งดังบนจอทีวี ดาบได้รางวัลมานับร้อยตั้งแต่ระดับชุมชน ถึงระดับโลก ออกรายการทีวีมาเกือบ 50 รายการ ต้นไม้เล็กๆ เติบใหญ่ สองข้างทางถนนหลายสายให้คนใช้ประโยชน์ จนถึงวันนี้ … ดาบวิชัยต้องฟอกไต วันเว้นวัน และต้องระวังโรคแทรกซ้อน ทั้งหัวใจ และเบาหวาน แต่ไม่ว่าจะเจ็บป่วยแค่ไหน ดาบวิชัยยังคงเดินหน้าสร้างคนที่มีอยู่น้อยนิดเพื่อให้พวกเขาเห็นคุณค่าของต้นไม้ ด้วยการผลักดัน แนวคิด พืชสวน นาป่า คันนาทองคำ ให้ชุมชนเห็นประโยชน์ของต้นไม้ใหญ่ ..ซึ่งดูเหมือนไม่ง่ายเลย เมื่อลูกศิษย์ที่มีน้อยนิดของพ่อดาบ ก็ถูกมองจากชุมชนว่าบ้า เหมือนที่ดาบวิชัยถูกมองมาก่อน
รายการร่วมฝันเพื่อเมืองไทย ได้ลองเชื่อมโยงกลุ่มบิ๊กทรี ที่เห็นต้นไม้ต้นเดียวก็เป็นเรื่องใหญ่แล้ว ไปพบกับดาบวิชัย ผู้ที่เคยปลูกต้นไม้สองสามล้านต้นด้วยสองมือ เพื่อสนับสนุนคนสองเมืองให้ช่วยเหลือกัน
กบ ตัวแทนบิ๊กทรี ได้ช่วยดาบวิชัยทำแฟนเพจ ซึ่งจะช่วยรวบรวมคนบ้าปลูก ที่กบเชื่อว่ามีอยู่มาก โดยหวังว่า พลังจากภายนอกจะมาช่วยดาบวิชัยรักษาต้นไม้ และขยายแนวคิดพืชสวน นาป่า คันนาทองคำของแกให้นานที่สุด พลังของการใช้สื่อทำให้ลูกศิษย์ลูกหาเกิดความตื่น ประสาน สื่อสารแลกเปลี่ยนความรู้ แม้แต่ลูกแท้ๆ ของดาบที่ต้องไปทำงานในเมือง ก็กลับมาดูแล และพยายามช่วยสานต่อปณิธานของพ่อที่มีต่อพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 ไม่เสื่อมคลาย เรียกความสดชื่นให้ดาบวิชัยมีพลังในการใช้ชีวิตต่อ อย่างที่แกพูดบ่อยๆ "จะปลูกต้นไม้จนวันตาย "
เพิ่มเติม http://program.thaipbs.or.th/DreamofThailandProgram/episodes?page=2
https://www.youtube.com/playlist?list=PL1OCDcTGJwC43a5R67qWxWXlz_nKB6VZw