ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: มกราคม 07, 2017, 02:48:12 am »เปิดประวัติ 3 สมเด็จ นาคหลวง !
ร.3 ร.5 และ ร.9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
แต่ละรูประดับ..เอกอุ !
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (สา ปุสฺสเทโว ป.ธ.9)
วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม
สามเณรนาคหลวงในรัชกาลที่ 3
1. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว ป.ธ.9) วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ทรงสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ขณะเป็นสามเณร มีอายุเพียง 18 ปี (พ.ศ.2374) ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดฯรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้รับการอุปสมบท ณ วัดราชาธิวาส (สมอราย) ก่อนจะย้ายตามพระภิกษุพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาจำพรรษาที่วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ลาสิกขาออกไประยะหนึ่งจึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้อุปสมบทเป็นครั้งที่สอง โปรดให้ไปครองวัดราชประดิษฐ์ฯ เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" ในปี พ.ศ.2422 ที่สุดได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในปี พ.ศ. 2434 (ในสมัยรัชกาลที่ 5)
สมเด็จพระวันรัต (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9)
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
สามเณรนาคหลวงในรัชกาลที่ 5
2. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9) วัดเบญจมพิตรดุสิตวนาราม ทรงสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ขณะเป็นสามเณร มีอายุเพียง 20 ปี (พ.ศ.2451) ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดฯรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้รับการอุปสมบท ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (เป็นเณรนาคหลวงที่บวชวัดพระแก้วเป็นรูปแรก) ต่อมาได้เป็นเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น "สมเด็จพระวันรัต" ในปี พ.ศ.2490 ที่สุดได้รับการสถาปนาขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 14 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในปี พ.ศ.2503 (ในรัชกาลที่ 9)
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.9)
วัดญาณเวศกวัน
สามเณรนาคหลวงในรัชกาลที่ 9
3. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.9) วัดพระพิเรนทร์ กรุงเทพมหานคร (ก่อนย้ายไปจำพรรษา ณ วัดญาณเวศกวัน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม) สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ขณะเป็นสามเณร อายุ 22 ปี และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เข้ารับการอุปสมบทเป็นนาคหลวง ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2504 โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9) สมเด็จพระสังฆราช วัดเบญจมบพิตรฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" เป็นกรณีพิเศษ เป็นสมเด็จพระราชาคณะ รูปสุดท้าย ในสมัยรัชกาลที่ 9 ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา
ถ้าสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.9) ได้รับการสถาปนาขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในรัชกาลที่ 10 ก็จะเป็นเณรนาคหลวงองค์ที่ 3 ที่ได้เป็นสมเด็จพระสังฆราช หรืออีกนัยหนึ่ง เป็นสมเด็จพระสังฆราช นาคหลวง รูปที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เรียงรัชกาลจากปีที่สอบได้ คือ รัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 นับว่าน่าอัศจรรย์ !
จาก อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม
ร.3 ร.5 และ ร.9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
แต่ละรูประดับ..เอกอุ !
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (สา ปุสฺสเทโว ป.ธ.9)
วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม
สามเณรนาคหลวงในรัชกาลที่ 3
1. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว ป.ธ.9) วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ทรงสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ขณะเป็นสามเณร มีอายุเพียง 18 ปี (พ.ศ.2374) ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดฯรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้รับการอุปสมบท ณ วัดราชาธิวาส (สมอราย) ก่อนจะย้ายตามพระภิกษุพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาจำพรรษาที่วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ลาสิกขาออกไประยะหนึ่งจึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้อุปสมบทเป็นครั้งที่สอง โปรดให้ไปครองวัดราชประดิษฐ์ฯ เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" ในปี พ.ศ.2422 ที่สุดได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในปี พ.ศ. 2434 (ในสมัยรัชกาลที่ 5)
สมเด็จพระวันรัต (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9)
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
สามเณรนาคหลวงในรัชกาลที่ 5
2. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9) วัดเบญจมพิตรดุสิตวนาราม ทรงสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ขณะเป็นสามเณร มีอายุเพียง 20 ปี (พ.ศ.2451) ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดฯรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้รับการอุปสมบท ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (เป็นเณรนาคหลวงที่บวชวัดพระแก้วเป็นรูปแรก) ต่อมาได้เป็นเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น "สมเด็จพระวันรัต" ในปี พ.ศ.2490 ที่สุดได้รับการสถาปนาขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 14 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในปี พ.ศ.2503 (ในรัชกาลที่ 9)
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.9)
วัดญาณเวศกวัน
สามเณรนาคหลวงในรัชกาลที่ 9
3. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.9) วัดพระพิเรนทร์ กรุงเทพมหานคร (ก่อนย้ายไปจำพรรษา ณ วัดญาณเวศกวัน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม) สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ขณะเป็นสามเณร อายุ 22 ปี และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เข้ารับการอุปสมบทเป็นนาคหลวง ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2504 โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9) สมเด็จพระสังฆราช วัดเบญจมบพิตรฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" เป็นกรณีพิเศษ เป็นสมเด็จพระราชาคณะ รูปสุดท้าย ในสมัยรัชกาลที่ 9 ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา
ถ้าสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.9) ได้รับการสถาปนาขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในรัชกาลที่ 10 ก็จะเป็นเณรนาคหลวงองค์ที่ 3 ที่ได้เป็นสมเด็จพระสังฆราช หรืออีกนัยหนึ่ง เป็นสมเด็จพระสังฆราช นาคหลวง รูปที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เรียงรัชกาลจากปีที่สอบได้ คือ รัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 นับว่าน่าอัศจรรย์ !
จาก อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม