ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2017, 04:17:17 pm »https://www.mx7.com/view2/BzRDnMpSJ00BRmAC
ต่อจากตอนที่แล้ว
พูดอธิษฐานพลางก็หยิบไม้เท้าจุ่มลงไปในขัน แล้วเอาเทียนที่จุดไว้หมดตามลงไปในน้ำ ความรู้สึกของตัวเองและเชื่อว่าจะเป็นน้ำมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์รักษาเจ็บป่วยให้หายได้ เสร็จแล้วก็เอาจอกเล็ก ๆ ตักน้ำในขันใหญ่ มาพยุงช้อนหัวแสนให้ตั้งตัวขึ้นกรอกน้ำมนต์ทางปากให้ดื่มเข้าไป แล้วก็ปล่อยให้นอนอย่างเดิม คอยเฝ้าดูอาการว่ามันจะมีอะไรดีขึ้น สองสามีภรรยาท้อใจสงสารลูก ข้าวปลาก็กินไม่ลง ตัวร้อนเป็นไฟ มียาอะไรให้กินหมดแล้วไม่หาย นึกในใจว่า คราวนี้เห็นทีจะสิ้นชื่อเสียแล้วลูกเอ๋ย ไม้เท้าของคุณตาก็ไม่เห็นช่วยอะไรเจ้าได้เลย
นายหมาโกรธขึ้นมาก็พูดว่า มันน่าหักใส่ไฟจริง ๆ ถึงเวลาเข้าที่คับขันจริง ก็ไม่เห็นช่วยอะไรได้ ตามที่คุณตาได้พูดไว้ มันเป็นไม้เท้าธรรมดานี่เอง ไม่เห็นศักดิ์สิทธิ์อะไรเลย
แสนนอนฟังได้ยินพ่อพูดด้วยความโกรธเช่นนั้นก็ตกใจ แม้ตัวจะไม่มีแรงไม่มีกำลัง ก็พยายามร้องบอกมาว่า
อย่าพ่อ ข้ารับปากกับคุณตาไว้แล้วว่า จะรักษาไว้
นายหมาเมื่อได้ยินลูกห้ามเช่นนั้นก็นึกได้ ต่างก็นั่งกอดเข่ามองดูลูกชายเฉย คิดว่าตั้งแต่เช้าจนถึงบัดนี้ ก็กำลังเข้าได้เข้าไฟแล้ว ข้าวยังไม่ตกถึงท้อง เจ้าลูกชายนั่งมองดูตากัน เมื่อนึกถึงพวกมอญที่เคยมารับฟืนไปขาย ในเรือมียารักษาโรคและป้องกันของใช้ทั้งขายและเอามาแลกเปลี่ยน กะปิ น้ำปลา กุ้งแห้ง ปลาเค็มที่เคยมาก็หายไป เรือเจ๊กเฮงซึ่งเคยมาค้าขายกับหมู่บ้านก็ยังไม่มา เสียงนกทะเลมันร้องตามชายเลนน้ำกำลังจะลง มันคงวิ่งเที่ยวจิกปลากิน ทำให้สองผัวเมียกลุ้มอกกลุ้มใจทันใดนั้น นายหมามองไปเห็นตัวดำยาว ๆ แสงสว่างจากไฟเทียนที่ทำน้ำมนต์ เห็น
มันกำลังเลื้อยตรงมาที่แสนลูกชายกำลังนอน ยิ่งเพ่งมองดูให้ชัด ก็เห็นเป็นงูตัวดำ ๆ อีกศอกเดียว ก็จะเลื้อยถึงตัวแสน ด้วยความตกใจกลัวลูกที่กำลังนอนป่วยจะถูกงูฉกกัด เที่ยวมองหาไม้ที่ใกล้มือเพื่อจะตีงู ก็เหลือบไปเห็นไม้เท้าของคุณตายังพาดไว้ที่ปากขัน มือเร็วเท่าความคิด รีบโดดไปฉวยได้ไม้เท้า ก็ฟาดกระหน่ำลงไปที่ตัวงูกำลังเลื้อยคลานเข้ามาตีอย่างเต็มแรง หวดฟาดอย่างไม่นับครั้ง จนไม้เท้าหักออกสองท่อน เพราะกำลังแรงของนายหมา เจ้างูนั้นก็นอนนิ่งไม่กระดุกกระดิก นายหมาเหนื่อยหอบเพราะตื่นเต้นตกใจ นางบางเข้าไปเขี่ยดูว่ามันเป็นงูอะไร และมันเข้ามาได้อย่างไร พอยกเทียนขึ้นส่องก็หัวเราะออกมาว่า
โธ่ พ่ออ้ายหนู ตาแกฝาดไปเสียแล้ว ก็นั่นมันผ้าขี้ริ้วนี่นา ตาฝาดเห็นเป็นงูไปได้
นายหมาหัวเราะไม่ออกพลางพูดว่า ข้าเห็นแก่ตาว่ามันเป็นงูจริง ๆ ตาไม่ฝาด ข้าสาบานได้ แต่ไหงมันมากลายเป็นผ้าขี้ริ้วไปได้ ข้าก็ไม่รู้แต่แล้วนางบางก็ร้องขึ้นว่า “นั่นอะไรเกลื่อนกลาดไปหมด มันส่องแสงแวววาวเหมือนเศษแก้ว” พลางนางบางก็วิ่งไปหยิบเอามาดู เมื่อสองกับแสงไฟแล้วมันแวววับ นางบาง ดีใจร้องออกมาว่า
โอ้โฮ ! พ่ออ้ายแสน นี่มันเพชร ข้าว่าเพชรแท้ ๆ อย่างดีด้วย มาดู ข้าเคยเห็นผู้ดีบางกอกเขาทำแหวนใส่กันราคามันแพงน๊า ข้าว่าคราวนี้เราไม่จนแล้ว
นายหมาผู้สามีเกิดตื่นเต้นขึ้นมาอีก รีบแย่งจากมือนางบางมาส่องไฟดู เห็นแล้วก็ตาลุกวาวด้วยความดีใจพลางบอกว่า ไหนเราหาดูอีกชิ มันต้องมีหลายเม็ดแน่ ดูมันเกลื่อนบ้าน
สองสามีภรรยาทั้งก้มทั้งคลานพากันค้นหา ก็ได้เพชรรวมทั้งหมดมีจำนวนสิบเม็ดพอดี สองสามีภรรยาต่างพากันตื่นเต้นดีใจ พลางเขย่าลูกชายซึ่งกำลังหลับ ๆ ตื่น ๆ ด้วยพิษไข้ พ่อแม่ดีใจลืมว่าลูกชายกำลังป่วย พลางพูดว่า อ้ายแสนลูกรักของพ่อ คราวนี้เราคงรวยกันใหญ่แล้ว คงพ้นทุกข์ความยากจนกันเสียที
นางบางได้ไปหยิบเอาไม้เท้าที่หักมาพิจารณาดู ก็เห็นข้างในไม้เท้านั้นเป็นโพรง และยังเห็นว่าข้างในยังมีเพชรคับแน่นอัดค้างอยู่ในไม้เท้าอีก ๒ เม็ด ใหญ่กว่าเม็ดอื่น ๆ พลางร้องออกมาว่า อ้าวพี่หมานี่ยังมีอีก ๒ เม็ด ใหญ่กว่าเม็ดอื่น แต่แคะไม่ออก
ตกลง สองสามีภรรยาได้เพชรมีค่าจากไม้เท้าคุณตา รวมเสร็จสิบสองเม็ด ทุกเม็ดห่อสำลีและกระดาษอย่างเรียบร้อย เมื่อไม้เท้าหักก็กระเด็นออกไปคนละทางทำให้ตื่นเต้น แล้วสองสามีภรรยาก็ปรึกษากันว่า เราจะทำอย่างไรกันดีกับเพชรเหล่านี้ นางบางบอกว่าให้เจ๊กเฮงนำไปให้เจ๊กช่างทอง หรือพวกร้านขายทองเขาตีราคาดู เลือกเอาเม็ดเล็กที่สุด เราก็คงจะรู้ราคามันดีแล้วเราค่อยเอาไปขายภายหลังรุ่งขึ้นเรือเจ๊กเฮงก็แวะมาหมู่บ้านชายทะเล เอาของออกมาเร่ขายและแลกเปลี่ยนกับพวกกุ้งแห้ง ปลาเต็มและกะปิ แล้วแต่ใครจะแลกหรือซื้อขายก็ได้ตามแต่จะตกลง ทั้งเจ๊กเฮงกับพวกลูกน้องได้มาค้าขายแลกเปลี่ยนเป็นประจำเก่าแก่ รู้จักคนทั้งหมู่บ้านทั้งตำบล ใครจะต้องการอะไรเจ๊กเฮงก็หามาให้เป็นผู้รับใช้อย่างซื่อตรง เป็นที่ไว้วางใจของชาวบ้านทั่วไป
ยังมีต่อ
https://img.techpowerup.org/190903/postjung-00000x70i.jpg