ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2017, 11:09:58 pm »ถ้าหากว่าไม่ทำกรรมใหม่ อยู่ ๆ ไป
กรรมเก่าจะหมดไปเองไหม?
พระเดชพระคุณท่าน พระพรหมคุณาภรณ์ ( ป.อ.ปยุตโต)
ได้กรุณาตอบให้ทราบ ในหนังสือพุทธธรรม (ฉบับเดิม)
.........................................
แม้จะชดใช้กรรมเก่าไปเท่าไร ๆ ก็ไม่มีทางหมดไปได้
เหตุผลง่าย ๆ คือ
๑. คนเรายังมีชีวิต ก็คือเป็นอยู่ ต้องกินอยู่ เคลื่อนไหวอิริยาบท
ทำโน่นทำนี่ เมื่อยังไม่ตาย ก็อยู่นิ่งไม่ได้
๒. คนเหล่านี้เป็นมนุษย์ปุถุชน ก็มีโลภ โกรธ หลง
โดยเฉพาะความหลง หรือโมหะ นี้ที่มีอยู่ประจำในใจตลอดเวลา
เพราะยังไม่ได้รู้เข้าใจความจริงถึงสัจธรรม
เมื่อรวมทั้งสองข้อนี้ก็คือ คนที่อยู่เพื่อใช้กรรมนั้น เขาก็ยัง
ทำกรรมใหม่อยู่ตลอดเวลา แม้แต่โดยไม่รู้ตัว แม้จะไม่
เป็นบาปกรรมที่ร้ายแรง แต่ก็เป็นการกระทำที่ประกอบด้วย โมหะ
เช่นกรรมในรูปต่าง ๆ ของความประมาท ปลอยชีวิตเรื่อยเปื่อย
ถ้ามองลึกเข้าไปในใจ โลภะ โทสะ โมหะ ก็ผุดโผล่ขึ้นมา
ในใจของเขาอยู่เรื่อย ๆ ในลักษณะต่าง ๆ เช่น เศร้า ขุ่นมัว กังวล
อยากโน่นอยากนีหงุดหงิด เหงา เบื่อหน่าย กังวล คับข้อง ฯลฯ
นี่ก็คือการทำกรรมอยู่ตลอดเวลา แถมเป็นอกุศลกรรมเสียด้วย
เพราะฉนั้นอย่างนี้จึงไม่มีทางสิ้นกรรม ชดใช้ไปเท่าไรก็ไม่รู้
จักสิ้นสุด มีแต่เพิ่มกรรม
“ แล้วทำอย่างไร จะหมดกรรม”
การที่จะหมดกรรม ก็คือ ไม่ทำกรรมชั่ว ทำกรรมดี
และทำกรรมดียิ่งขึ้น คือแม้แต่กรรมดีก็เปลี่ยนให้ดีขึ้น
จากระดับหนึ่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
พูดเป็นภาษาพระว่า เปลี่ยนจากทำอกุศลกรรม
เป็นทำกุศลกรรมและทำกุศลกรรมระดับสูงขึ้นไป
จนถึงขั้นเป็น โลกุตตรกุศล
ถ้าใช้ภาษาสมัยใหม่ ก็พูดว่า พัฒนากรรมให้ดียิ่งขึ้น
เราก็จะมีศีล มีจิตใจ มีปัญญา ดีขึ้น ๆ ในที่สุดกจะพ้นกรรม
พูดสั้น ๆ ว่า กรรมไม่หมดไปด้วย การชดใช้กรรม
แต่หมดกรรมด้วยการพัฒนากรรม คือปรับปรุงตัวให้ทำ
กรรมที่ดียิ่งขึ้น ๆ จนพ้นขั้นของกรรมไปถึงขั้นทำ
แต่ไม่เป็นกรรม คือทำด้วยปัญญาที่บริสุทธิ์
ไม่ถูกครอบงำหรือชักจูง ด้วยโลภะ โทสะ โมหะ
จึงจะเรียกว่า พ้นกรรม
>>fb ใบโพธิ สิกขา
17 พฤศจิกายน 2014 ·
กรรมเก่าจะหมดไปเองไหม?
พระเดชพระคุณท่าน พระพรหมคุณาภรณ์ ( ป.อ.ปยุตโต)
ได้กรุณาตอบให้ทราบ ในหนังสือพุทธธรรม (ฉบับเดิม)
.........................................
แม้จะชดใช้กรรมเก่าไปเท่าไร ๆ ก็ไม่มีทางหมดไปได้
เหตุผลง่าย ๆ คือ
๑. คนเรายังมีชีวิต ก็คือเป็นอยู่ ต้องกินอยู่ เคลื่อนไหวอิริยาบท
ทำโน่นทำนี่ เมื่อยังไม่ตาย ก็อยู่นิ่งไม่ได้
๒. คนเหล่านี้เป็นมนุษย์ปุถุชน ก็มีโลภ โกรธ หลง
โดยเฉพาะความหลง หรือโมหะ นี้ที่มีอยู่ประจำในใจตลอดเวลา
เพราะยังไม่ได้รู้เข้าใจความจริงถึงสัจธรรม
เมื่อรวมทั้งสองข้อนี้ก็คือ คนที่อยู่เพื่อใช้กรรมนั้น เขาก็ยัง
ทำกรรมใหม่อยู่ตลอดเวลา แม้แต่โดยไม่รู้ตัว แม้จะไม่
เป็นบาปกรรมที่ร้ายแรง แต่ก็เป็นการกระทำที่ประกอบด้วย โมหะ
เช่นกรรมในรูปต่าง ๆ ของความประมาท ปลอยชีวิตเรื่อยเปื่อย
ถ้ามองลึกเข้าไปในใจ โลภะ โทสะ โมหะ ก็ผุดโผล่ขึ้นมา
ในใจของเขาอยู่เรื่อย ๆ ในลักษณะต่าง ๆ เช่น เศร้า ขุ่นมัว กังวล
อยากโน่นอยากนีหงุดหงิด เหงา เบื่อหน่าย กังวล คับข้อง ฯลฯ
นี่ก็คือการทำกรรมอยู่ตลอดเวลา แถมเป็นอกุศลกรรมเสียด้วย
เพราะฉนั้นอย่างนี้จึงไม่มีทางสิ้นกรรม ชดใช้ไปเท่าไรก็ไม่รู้
จักสิ้นสุด มีแต่เพิ่มกรรม
“ แล้วทำอย่างไร จะหมดกรรม”
การที่จะหมดกรรม ก็คือ ไม่ทำกรรมชั่ว ทำกรรมดี
และทำกรรมดียิ่งขึ้น คือแม้แต่กรรมดีก็เปลี่ยนให้ดีขึ้น
จากระดับหนึ่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
พูดเป็นภาษาพระว่า เปลี่ยนจากทำอกุศลกรรม
เป็นทำกุศลกรรมและทำกุศลกรรมระดับสูงขึ้นไป
จนถึงขั้นเป็น โลกุตตรกุศล
ถ้าใช้ภาษาสมัยใหม่ ก็พูดว่า พัฒนากรรมให้ดียิ่งขึ้น
เราก็จะมีศีล มีจิตใจ มีปัญญา ดีขึ้น ๆ ในที่สุดกจะพ้นกรรม
พูดสั้น ๆ ว่า กรรมไม่หมดไปด้วย การชดใช้กรรม
แต่หมดกรรมด้วยการพัฒนากรรม คือปรับปรุงตัวให้ทำ
กรรมที่ดียิ่งขึ้น ๆ จนพ้นขั้นของกรรมไปถึงขั้นทำ
แต่ไม่เป็นกรรม คือทำด้วยปัญญาที่บริสุทธิ์
ไม่ถูกครอบงำหรือชักจูง ด้วยโลภะ โทสะ โมหะ
จึงจะเรียกว่า พ้นกรรม
>>fb ใบโพธิ สิกขา
17 พฤศจิกายน 2014 ·