ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: ธันวาคม 03, 2017, 09:03:00 pm »IMG_000000009779000000003 by sirivat sirivat, on Flickr
ทุกวันนี้มีความเชื่อที่แพร่หลายว่า คนเราจะก้าวหน้าได้ต้องมีความโลภ
เพราะความโลภจะผลักดันให้เกิดความขยันขันแข็ง
บางคนพูดไปถึงขั้นว่า ถ้าอยากรวยก็ต้องเป็นหนี้เยอะ ๆ
เพราะเมื่อเป็นหนี้แล้ว จะอยู่นิ่งเฉย นั่งเล่นนอนเล่นไม่ได้
ต้องตั้งหน้าทำงานหาเงินเพื่อใช้หนี้ ในที่สุดก็จะรวยไปเอง
คำพูดข้างต้นถูกต้องเพียงครึ่งเดียว ตรงที่บอกว่าคนเราจะร่ำรวย
หรือประสบความสำเร็จได้ต้องขยันขันแข็ง
แต่ความขยันนั้นไม่จำเป็นต้องขับเคลื่อนด้วยความโลภเสมอไป
มีคนเป็นอันมากที่เมื่อถูกกระตุ้นให้เกิดความโลภแล้ว ก็เข้าหาการพนัน
หรือหนักกว่านั้นคือลักขโมยและฉ้อโกง
เพราะคิดว่าวิธีเหล่านั้นเป็นทางลัดที่จะทำให้รวยเร็ว ๆ
ในสายตาของคนเหล่านั้น ซึ่งมีอยู่มากมายในเมืองไทย
การขยันทำงานเป็นวิธีที่ให้ผลช้า
แต่ก็อย่างที่เรารู้กัน คนที่หมกมุ่นกับการพนัน ลักขโมย หรือฉ้อโกงแล้ว
แทนที่ชีวิตจะเจริญก้าวหน้า กลับเสื่อมถอยและตกต่ำไม่ช้าก็เร็ว
ไม่ใช่ความโลภดอก แต่เป็นความพอเพียงต่างหากที่ทำให้ชีวิตเจริญก้าวหน้า
ทุกวันนี้เราพูดถึงความพอเพียงกันมาก แต่เข้าใจกันน้อย
ความพอเพียงที่จะทำให้ชีวิตก้าวหน้าได้ หมายถึง
ความพอเพียงในการบริโภคเป็นเบื้องต้น
มีเงินมากเท่าไรก็ตามแต่หากจับจ่ายใช้สอยไม่หยุดเอาแต่ เที่ยว และ เล่น เช่น เที่ยวห้าง เที่ยวสถานบันเทิง
เล่นการพนัน เล่นหวย ฯลฯ สักวันก็ต้องยากจนหรือมีหนี้สินท่วมตัวในทางตรงข้าม ความประหยัดมัธยัสถ์ จับจ่ายใช้สอยหรือบริโภคอย่างรู้จักประมาณ ไม่ฟุ่มเฟือย เป็นหนทางสู่ความเจริญก้าวหน้า
สิ่งหนึ่งที่คนไทยไม่ค่อยทราบกันก็คือ
ประเทศที่เจริญก้าวหน้าอย่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
ล้วนเป็นผลมาจากความประหยัดมัธยัสถ์ของผู้คน
แรนดี้ เพาช์ นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำด้านคอมพิวเตอร์
ผู้เขียนหนังสือเรื่อง The Last Lecture อันโด่งดัง
เล่าว่าเมื่อเขาเป็นเด็ก แม้พ่อแม่มีฐานะการเงินที่ดี
แต่ทั้งครอบครัวแทบไม่เคยไปกินอาหารนอกบ้านเลย
ปีหนึ่ง ๆ พ่อแม่พาลูกไปดูหนังในโรงเพียงหนึ่งถึงสองครั้งเท่านั้น
ดูโทรทัศน์สิ พ่อแม่มักจะบอกลูก ๆ อย่างนี้ มันฟรีรู้ไหม
ดีกว่านั้นก็ไปห้องสมุด ขอยืมหนังสือมาสักเล่ม
คราวหนึ่งผู้เขียนมีโอกาสเยี่ยมเพื่อนที่ทำงานใน บริษัท GM
ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
เพื่อนผู้เขียนเป็นวิศวกรระดับปริญญาเอกซึ่งมีเงินเดือนสูงพอสมควร
แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือเธอและเพื่อน ๆ
ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสระดับเดียวกัน นำอาหารกลางวันมากินที่สำนักงาน
ไม่มีใครออกไปซื้ออาหารกินกันเลย
เพื่อนอธิบายว่านี้เป็นวัฒนธรรมของคนที่นั่น
ซึ่งคงไม่ได้หมายถึงที่บริษัท GM เท่านั้น
นอกจากความประหยัดมัธยัสถ์หรือความพอเพียงในการบริโภคแล้ว
ความพอเพียงในการแสวงหาเงินก็สำคัญเช่นกัน
ความพอเพียงดังกล่าวตรงข้ามกับความโลภในการหาเงิน
ความโลภอย่างหลังดูเผิน ๆ ก็น่าจะดี
เพราะถ้าโลภและขยันกอบโกยก็น่าจะรวยเร็ว ไม่ใช่หรือ
แต่อย่าลืมว่าความโลภนั้นบ่อยครั้งก็บดบังปัญญา
ทำให้ถูกหลอกง่ายหรือพลั้งพลาดจนสายเกินแก้
เราคงได้ยินเรื่องของคนที่หมดเนื้อหมดตัวเพราะ
เล่นแชร์ลูกโซ่ เช่น แชร์แม่ชม้อย หรือคนที่สูญเงินนับล้าน ๆ
เพราะถูกหลอกว่าจะได้ผลตอบแทนหลายเท่าตัว คนเหล่านี้ไม่ใช่คนโง่
แต่สาเหตุที่ถูกหลอกได้ก็เพราะความโลภอยากรวยเร็ว ๆ นั่นเอง
วิกฤตเศรษฐกิจปี ๔๐ จนทำให้สถาบันการเงินกว่า ๕๐ แห่งต้องปิดตัว
และธุรกิจมากมายต้องล้มละลาย ส่วนหนึ่งก็เพราะหวังกำไรงาม
จากการกู้เงินดอลลาร์ดอกเบี้ยต่ำแล้วมาปล่อยกู้ในเมืองไทยด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูง
แต่พอค่าเงินบาทตก ดอลลาร์ที่เคยราคา ๒๐ บาทก็เพิ่มเป็น ๕๐ บาท
ผลก็คือหนี้เพิ่มเท่าตัวชั่วข้ามคืน จนบริษัทเหล่านี้ไม่อาจใช้หนี้ได้
ส่วนคนที่กู้เงินมาซื้อหุ้นหรือบ้านเพื่อเก็งกำไร
ก็เดือดร้อนด้วยเช่นกัน เพราะไม่มีเงินจ่ายหนี้
วิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาขณะนี้ก็มีสาเหตุ คล้าย ๆ กัน
คือสถาบันการเงินพากันปล่อยกู้ให้คนซื้อบ้าน
โดยไม่สนใจว่าคนกู้จะมีปัญญาจ่ายหรือไม่
ทั้งนี้ก็เพื่อสถาบันเหล่านี้จะมีรายได้งาม ๆ จากการปล่อยกู้
ขณะเดียวกันก็แปลงหนี้คุณภาพต่ำเป็นตราสารห
รือพันธบัตรออกขายราคาถูก ๆ คนที่อยากรวยเร็ว ๆ ก็รีบซื้อ
แต่พอหนี้เหล่านั้นกลายเป็นหนี้เน่า จึงเดือดร้อนกันไปหมด
เศรษฐีที่หวังรวยฉับพลันพากันสิ้นเนื้อประดาตัว
ขณะที่สถาบันการเงินหลายแห่งถึงกับล้มละลาย
ส่งผลกระเทือนไปทั่วโลก ทำให้เศรษฐกิจถดถอยไปทุกหนแห่ง
คนที่รู้จักพอในการแสวงหาเงินหรือกำไร ย่อมมีสติ จึงยากที่จะถูกหลอก
ไม่กลายเป็นแมงเม่าที่บินเข้ากองไฟ จึงเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
พอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ได้ คือกุญแจสู่ความสุขและความก้าวหน้าของชีวิต
พอใจในสิ่งที่มีแปลว่าได้เท่าไรก็พอใจ แม้คนอื่นจะได้มากกว่าก็ไม่เป็นทุกข์
อย่างไรก็ตามเมื่อพอใจสิ่งที่ได้มาแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่านั่งเฉย ๆ
งอมืองอเท้า ตรงกันข้ามเราควรขยันหมั่นเพียรต่อไป
เพราะความสุขที่แท้จริงมิได้อยู่ที่การมีมาก ๆ หรือบริโภคเยอะ ๆ
แต่อยู่ที่การทำงานและการสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้แก่โลก
มนุษย์เราไม่สามารถสร้างความก้าวหน้าให้แก่ตนเอง และแก่โลกได้
หากไม่รู้จักพอกับการเที่ยวเล่นหรือปรนเปรอตนเอง
ขณะเดียวกันหากมัวแต่หาเงินหาทองไม่รู้จักพอ
ก็จะไม่มีเวลาและพลังงานเหลือสำหรับการทำสิ่งดีงามให้แก่ตนเองและแก่โลก
ท่านอาจารย์พุทธทาสสอนว่า จงทำงานให้มาก แต่บริโภคให้น้อย
เพื่อเอาส่วนเกินมาเจือจานผู้อื่น เศรษฐีที่เป็นพุทธสาวกในสมัยพุทธกาล
ล้วนใช้สอยพอประมาณ ทั้งนี้เพื่อนำเงินที่เหลือไปเอื้อเฟื้อคนยากจน
ขณะเดียวกันก็ขยันขันแข็งในการทำงาน
ไม่ใช่เพื่อหาเงินมามาก ๆ แต่เพื่อทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
นอกจากการช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว เรายังควรมีเวลาสำหรับการฝึกฝนพัฒนาตน
เพิ่มพูนความรู้ และทำจิตให้สงบด้วย หากเรามัวแต่เที่ยวเล่น
หรือหาเงินหาทองไม่หยุดหย่อน เราจะมีเวลาเหลือสักเท่าไร
ในการทำสิ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิต
พอเพียงในการบริโภค ไม่โลภในการแสวงหาทรัพย์
แต่ขยันทำงานและสร้างสรรค์ความดีแก่ส่วนรวม
คือเคล็ดลับสู่ความก้าวหน้าของตนเองและของโลก
โดย พระไพศาล วิสาโล
IMG0006 by
dimsam dimsam, on Flickr
IMG_00000010013042019 by sirivat sirivat, on Flickr
http://picture.in.th/id/7f3ea54bdb6871ba07d8576fa5abd9ad