ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2018, 08:08:21 pm »เนื้อหานี้อาจซ้ำกันบังเอิญได้ดูสารคดีเกี่ยวนาง อัมราปาลี ก็เลยอยากอ่านต่อหรือรวบรวมไว้ เพราะน่าสนใจ
อัมพปาลีหรืออัมราปาลี นามนี้ชาวพุทธส่วนมากรู้จักดี เพราะเป็นนางคณิกาหรือโสเภณีที่สวยงามในเมืองไพศาลี แคว้นวัชชี แค่นั้นยังน้อยไป ที่สำคัญคือนางได้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง ได้ถวายสวนมะม่วงอันเป็นสมบัติของนางให้เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าและ ภิกษุสงฆ์ในปลายพุทธกาล
เมื่อสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จพร้อมพระอานนท์ บ่ายพระพักตร์ไปยังเมืองกุสินาราเพื่อดับขันธปรินิพพาน ผ่านมาทางสวนมะม่วงของนางอัมพปาลี นางทราบเข้าจึงไปกราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์เสด็จไปเสวยภัตตาหารที่บ้านของตน
ขณะที่นางกำลังเดินทางกลับบ้านนั้น ได้สวนทางกับเจ้าชายลิจฉวีจำนวนหนึ่ง เมื่อเจ้าลิจฉวีทราบว่านางอัมพปาลีได้อาราธนาพระพุทธเจ้าไว้ก่อนแล้ว จึงขอ ซื้อ กิจนิมนต์นั้นจากนาง หมายความว่า ขอให้นางสละสิทธิ์การถวายภัตตาหาร ในวันรุ่งขึ้นมอบให้พวกเขาเสีย พวกเขาจะตอบแทนให้ด้วยรถม้าสวยงาม ประดับประดาอย่างวิจิตรตระการตา(ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงจะเป็นรถเบนซ์ราคาแพง)นางก็ปฏิเสธ
พวกเจ้าลิจฉวี แม้จะเสนอเงินทองให้มากมายเพียงใด นางก็ยังยืนกรานปฏิเสธ นางบอกว่าการได้ถวายภัตตาหารแด่พระพุทธเจ้านั้นมีค่ามากกว่าสิ่งใดในที่สุด พวกลิจฉวีก็ต้องยอมแพ้
อัมพปาลีคนนี้มีประวัติอันพิสดาร อรรถกถากล่าวว่า นางเป็น โอปปาติกะ (ผุดเกิดที่โคนต้นมะม่วง)พวกราชกุมารแห่งเมืองไพศาลีมาพบนางเข้า ต่างจะเอาเป็นสมบัติของตน จึงถึงกับวิวาทกันใหญ่โตเมื่อเรื่องเข้าสู่ศาล ศาลให้พิพากษาว่า ให้นางเป็นสมบัติของทุกคน จึงได้แต่งตั้งนางให้เป็นนางนครโสเภณี (หญิงงามเมือง)
เข้าใจว่าประวัตินางจะ เว่อร์ ไปหน่อย คงเพราะนางงดงามมาก จึงแต่งประวัติให้เป็นนางไม้ เป็นโอปปาติกะ ความจริงนางคงเป็นสตรีของใครคนใดคนหนึ่งในเมืองไพศาลีนั้นแหละตำแหน่งนครโสเภณีสมัยก่อนโน้นเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ พระราชาแต่งตั้งดูเหมือนจะมีเงินเดือนกินด้วย มิใช่ธรรมดามีสาวๆ ในความควบคุมดูแลอีกมากสมัยนี้เรียก มาม่าซัง อะไรทำนองนั้น