ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2018, 08:55:52 pm »ภาคผนวก นางอัมราปาลีเถรี
๒๖.มนุษย์เกิดโดยการผุดขึ้น
มนุษย์ยุคต้นกัปนั้น มีแรกกำเนิด โดยโอปปาติกะกำเนิด คือ เกิดโดยการผุดขึ้น อุบัติขึ้น
เพราะยุคต้นกัป ยังไม่มีมนุษย์ ที่เป็นพ่อแม่
และผู้ที่มาอุบัติเป็นมนุษย์ยุคแรก ล้วนมาจากเพศพรหมที่บริสุทธิ์
ภายหลังเมื่อมนุษย์มีกิเลสหนาขึ้น ส่วนใหญ่จึงต้องเกิดในครรภ์
ได้รับความอึดอัดทรมานจากการคลอด
แต่มนุษย์ยุคหลัง นอกเหนือจากพระนางปทุมวดี ที่กำเนิดจากดอกบัวแล้ว
ก็ยังมีมนุษย์อีกหลายคน ที่เกิดโดยโอปปาติกะกำเนิด
คนแรกชื่อนางอัมพปาลี เป็นหญิงคณิกามีชื่อของนครเวสาลี
ในอดีตชาติ ๓๑ กัปก่อน ครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าพระนามว่าสิขี
อัมพปาลีเกิดในตระกูลพราหมณ์
นางได้ด่าพระเถรีรูปหนึ่งว่าเป็นหญิงแพศยา ตายไปแล้วจึงต้องไป
รับกรรมในนรกอยู่นานแสนนาน
เมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง ก็ต้องเกิดเป็นหญิงแพศยามานับหมื่นชาติ
จนถึงพุทธกาลพระพุทธเจ้าองค์ก่อน
อัมพปาลีได้บวชเป็นภิกษุณี เกิดความเบื่อหน่ายเพราะการเกิดในครรภ์
จึงตั้งความปรารถนาไว้เสมอว่า ไม่อยากเกิดในครรภ์
ครั้นถึงพุทธกาลปัจจุบัน นางจึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์กำเนิดพิเศษ
คือ อุบัติขึ้นแล้วโตเป็นสาวทันทีตามคำอธิษฐาน ได้ชื่อว่า อัมพปาลี
เพราะอุบัติขึ้น ที่โคนต้นมะม่วง ในราชอุทยานกรุงเวสาลี
อัมพปาลีเป็นหญิงสวยมาก
แต่ด้วยยังมีเศษของอกุศลกรรมที่เคยด่าพระเถรีว่าเป็นหญิงแพศยายังไม่หมดสิ้น
ทำให้ความสวยของนางเป็นโทษ
บรรดาเจ้าชายลิจฉวีเห็นนางแล้ว ทะเลาะกัน เพื่อแย่งนางไปเป็นสนม
คณะผู้พิพากษาต้องยุติศึกโดยตัดสินให้ อัมพปาลีเป็นหญิงแพศยา
เป็นนางคณิกาประจำนคร เป็นสมบัติของทุกคน การแย่งชิงนางจึงสงบลงได้
ด้วยอุปนิสัยที่เคยบวชมาแล้วในพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าองค์ก่อน
นางอัมพปาลีจึงมีจิตศรัทธาในพุทธศาสนามาก ได้ถวายสวนมะม่วงของตนเป็นอาราม
และออกบวชเป็นภิกษุณี ในสำนักของบุตรชาย คือพระวิมลโกณฑัญญะเถระ
จนเมื่อมีอายุมากขึ้น ความสวยลดน้อยถอยลง ความชราเข้ามาแทนที่
นางพิจารณาเห็นความเสื่อมสิ้นไปของสังขาร
รู้เท่าทันไตรลักษณ์ สำเร็จเป็นพระอรหันต์