ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2018, 08:55:52 pm »





ภาคผนวก นางอัมราปาลีเถรี

๒๖.มนุษย์เกิดโดยการผุดขึ้น

มนุษย์ยุคต้นกัปนั้น มีแรกกำเนิด โดยโอปปาติกะกำเนิด คือ เกิดโดยการผุดขึ้น อุบัติขึ้น

เพราะยุคต้นกัป ยังไม่มีมนุษย์ ที่เป็นพ่อแม่

และผู้ที่มาอุบัติเป็นมนุษย์ยุคแรก ล้วนมาจากเพศพรหมที่บริสุทธิ์

ภายหลังเมื่อมนุษย์มีกิเลสหนาขึ้น ส่วนใหญ่จึงต้องเกิดในครรภ์

ได้รับความอึดอัดทรมานจากการคลอด

แต่มนุษย์ยุคหลัง นอกเหนือจากพระนางปทุมวดี ที่กำเนิดจากดอกบัวแล้ว

ก็ยังมีมนุษย์อีกหลายคน ที่เกิดโดยโอปปาติกะกำเนิด

คนแรกชื่อนางอัมพปาลี เป็นหญิงคณิกามีชื่อของนครเวสาลี

ในอดีตชาติ ๓๑ กัปก่อน ครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าพระนามว่าสิขี

อัมพปาลีเกิดในตระกูลพราหมณ์

นางได้ด่าพระเถรีรูปหนึ่งว่าเป็นหญิงแพศยา ตายไปแล้วจึงต้องไป

รับกรรมในนรกอยู่นานแสนนาน

เมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง ก็ต้องเกิดเป็นหญิงแพศยามานับหมื่นชาติ

จนถึงพุทธกาลพระพุทธเจ้าองค์ก่อน

อัมพปาลีได้บวชเป็นภิกษุณี  เกิดความเบื่อหน่ายเพราะการเกิดในครรภ์

จึงตั้งความปรารถนาไว้เสมอว่า ไม่อยากเกิดในครรภ์

ครั้นถึงพุทธกาลปัจจุบัน นางจึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์กำเนิดพิเศษ

คือ อุบัติขึ้นแล้วโตเป็นสาวทันทีตามคำอธิษฐาน ได้ชื่อว่า อัมพปาลี

เพราะอุบัติขึ้น ที่โคนต้นมะม่วง ในราชอุทยานกรุงเวสาลี

อัมพปาลีเป็นหญิงสวยมาก

แต่ด้วยยังมีเศษของอกุศลกรรมที่เคยด่าพระเถรีว่าเป็นหญิงแพศยายังไม่หมดสิ้น

ทำให้ความสวยของนางเป็นโทษ

บรรดาเจ้าชายลิจฉวีเห็นนางแล้ว ทะเลาะกัน เพื่อแย่งนางไปเป็นสนม

คณะผู้พิพากษาต้องยุติศึกโดยตัดสินให้ อัมพปาลีเป็นหญิงแพศยา

เป็นนางคณิกาประจำนคร เป็นสมบัติของทุกคน การแย่งชิงนางจึงสงบลงได้

ด้วยอุปนิสัยที่เคยบวชมาแล้วในพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าองค์ก่อน

นางอัมพปาลีจึงมีจิตศรัทธาในพุทธศาสนามาก ได้ถวายสวนมะม่วงของตนเป็นอาราม

และออกบวชเป็นภิกษุณี ในสำนักของบุตรชาย คือพระวิมลโกณฑัญญะเถระ

จนเมื่อมีอายุมากขึ้น ความสวยลดน้อยถอยลง ความชราเข้ามาแทนที่

นางพิจารณาเห็นความเสื่อมสิ้นไปของสังขาร

รู้เท่าทันไตรลักษณ์ สำเร็จเป็นพระอรหันต์