ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: มีนาคม 18, 2018, 12:05:19 am »1-IMG700140027 by dimsam dimsam, on Flickr
http://youtu.be/AXQuTbivXsI
ถ่ายภาพโดย....時々कभीकभी一རພຊຍ๛
อำนาจของสมาธินั้น สามารถกด รัก โลภ โกรธ หลง ให้ดับสนิทลงชั่วคราว เมื่อไม่มี รัก โลภ โกรธ หลง ที่เป็นเสนามารคอยรายงานเจ้านายอยู่ พญามารก็มองไม่เห็นนักปฏิบัติชั่วคราว ซึ่งถ้าเราสามารถรักษากำลังใจให้ต่อเนื่องยาวนานได้ กำลังสมาธิก็อาจจะกด รัก โลภ โกรธ หลง ให้ดับไปได้ตลอดกาลแต่เพื่อความปลอดภัย ก็ควรที่จะใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นว่า การเกิดมาในโลกนี้ประกอบไปด้วยความไม่เที่ยง มีการเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปในท่ามกลาง และสลายตัวไปในที่สุด ประกอบไปด้วยความทุกข์ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ วัตถุธาตุ สิ่งของก็มีแต่ความทุกข์ ทุกข์ของการเกิด ทุกข์ของการแก่ ทุกข์ของการเจ็บ ทุกข์ของการตาย ทุกข์ของการพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ทุกข์ของการได้สิ่งที่ไม่รักไม่ชอบใจ ปรารถนาที่ไม่สมหวังแม้กระทั่งเรือนชานบ้านช่อง ภูเขาต้นไม้ก็มีแต่ความทุกข์ ก็คือทุกข์ตามสภาพที่เสื่อมสลายไปอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งภูเขาที่ยิ่งใหญ่ระดับหิมาลัย ท้ายสุดก็จะเสื่อมสลายกลายเป็นเม็ดทราย กลายเป็นฝุ่นดินข้อสุดท้ายก็คือ ร่างกายของเราก็ดี ของบุคคลอื่นก็ดี ของสัตว์อื่นก็ดี หรือสิ่งของต่าง ๆ
ก็ตาม ไม่มีอะไรเป็นตัวตนเราเขาอย่างแท้จริง ประกอบขึ้นมาจากธาตุ ๔ คือดิน คือน้ำ คือลม คือไฟ ให้เราได้อาศัยอยู่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นเมื่อเรามาอาศัยอยู่แล้ว ก็มักจะไปยึดถือว่าเป็นตัวกูของกู ทั้ง ๆ ที่เป็นแค่สมบัติของโลกที่เรายืมมาใช้ชั่วคราว เหมือนกับรถยนต์คันหนึ่งที่เราอาศัยขับอยู่ในระหว่างที่อยู่ในโลกนี้ เมื่อถึงเวลารถหมดสภาพพังลง ตัวเราที่ประกอบคุณงามความดีก็ดี สร้างบาปหาบทุกข์ไว้ก็ตาม ก็ต้องเปิดประตู ทิ้งรถยนต์คันนี้ไปหารถคันใหม่ สร้างบุญไว้มากก็ได้รถยี่ห้อดี ๆ สร้างบาปเอาไว้มาก ก็อาจจะได้จักรยานโปเก ขี่ไปซ่อมไปในเมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อเราเห็นชัดเจนว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้ ท้ายสุดก็ไม่มีอะไรหลงเหลือให้เรายึดถือ ทรัพย์สมบัติญาติพี่น้องทั้งหลาย ท้ายสุดก็พลัดพรากจากกันไปถ้าหากว่าเราสามารถถอนใจกับการยึดมั่นถือมั่นทั้งหลายเหล่านี้ได้ เราก็จักเข้าถึงความหลุดพ้น คือพระนิพพาน
เนื้อหาสาระโดย...พระครูวิลาศกาญจนธรรม ดร.วัดท่าขนุน