ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: สิงหาคม 26, 2018, 09:51:17 pm »https://uppic.cc/v/jSc
https://paravee60.wixsite.com/7star/home/tomorrow
ผมมักจะเปรย ๆ อยู่เสมอว่าเรางดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์กันบ้างเถอะจริง ๆ แล้วอาหารมีมากมายให้เราเลือกรับทานแต่ว่าการงดเว้นเบียดเบียนชีวิตสัตว์ก็ถือว่าเราได้ทำทานอย่างหนึ่งถ้าเราตามใจปากติดในรสชาติ ของอาหารมากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพเหมือนกัน อันนี้นา ๆ จิตตังน่ะครับโรคที่เกิดจากการรับประทานแบบไม่บันยะ - บันยัง ก็คือ โรคเบาหวาน โรคไต โรคเก๊า โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและโรอื่น ๆ จะตามติดมาด้วย เพราะฉะนั้นอย่าตามใจปาก อย่าตามใจตนเองบางอย่างเราต้องฝืนมันบ้างเราเกิดมาจะกินเพื่ออยู่หรือจะอยู่เพื่อกินกินน้อยแต่อยู่นาน ถ้าไม่เชื่อลองไปดูตามโรงพยาบาลดูสิปัจจุบันนี้โรคแปลก ๆ มีมากขึ้นทุกที ๆ ก็เป็นโรคอันเนื่องจากพฤติกรรมการกินทั้งนั้นโดยเฉพาะอาหารประเภท Fast Food
พระผู้มีพระภาค ฯ ทรงเสวยเนื้อ เพราะว่า กลิ่นดิบไม่ใช่กลิ่นเนื้อกลิ่นปลาแต่กลิ่นดิบเป็นกลิ่นของกิเลสขณะนี้ทุกคนไม่ได้กลิ่นกิเลสเลย คือไม่รู้ว่า กิเลสเป็นสภาพธรรมที่น่ารังเกียจ ทุกคนเพียงแต่ได้กลิ่นเนื้อดิบกลิ่นปลาดิบ เท่านั้นแต่พระผู้มีพระภาค ฯ ทรงแสดงว่า กลิ่นดิบ คือ กิเลส ฉะนั้น ผู้ที่บริโภคอาหารเนื้อโดยอบรมเจริญปัญญาดับกิเลสเป็นสมุจเฉท เช่น พระผู้มีพระภาค ฯ และพระอรหันต์ทั้งหลายจึงไม่มีกิเลส ไม่มีกลิ่นดิบ
ฉะนั้น ควรรังเกียจกลิ่นกิเลส ไม่ใช่รังเกียจกลิ่นของเนื้อสัตว์ ถ้าถามว่าการรับประทานอาหาร มังสวิรัติ และการกินเจนั้นจำเป็นแค่ไหนก็ย่อมแล้วแต่บุคคล บางท่านบริโภคแล้วสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีก็พอใจที่จะบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพของร่างกายแต่ต้องพิจารณากิเลสในขณะที่กำลังกินเจ หรืออาหารมังสวิรัติว่ารู้สึกติดพอใจในรสอร่อยไหม ? ความติดความพอใจนั่นแหละเป็นกลิ่นดิบแล้ว ฉะนั้นจึงต้อพิจารณาธรรมะโดยละเอียดจริง ๆ ไม่ใช่พิจารณาเพียงอาการที่ปรากฏภายนอกเท่านั้น และถามว่าถ้าไม่กินเจจะทำให้ศีลบริสุทธิ์ได้หรือไม่นั้นตอบว่าได้ เมื่อพิจารณาจิต และสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเพื่อรู้ชัดในสภาพธรรมะทั้งหลายตามความเป็นจริง
POST By.... 時々๛༢༠༡༦ कभी कभी 一27 August 2016
http://drinkmecome.blogspot.com/2018/09/2561.html
https://upload.i4th.in.th/getlinks.php?s=41a14cc989faf7d689c76635c77a2b41
https://uppic.cc/v/oqR