ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
โดยปกติชน นิ้วมือของคนเรา มีกี่นิ้ว (ตอบเป็นภาษาไทยครับ):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: มกราคม 20, 2020, 06:03:19 am »

มนุษย์ เป็น

ผลงานมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

เป็น จักรกล คอมพิวเตอร์ชีวภาพ

.

สิ่งมีชีวิต เกิดจากกฎข้อเดียวคือ

"กิน หลีกเลี่ยง การถูกกิน"

.

พฤติกรรม 3600ล้านปี

จากเซลล์ชีวิตแรก กลายมาเป็น ซับซ้อน

จนมีมนุษย์

เราก็ยังทำตามกฎนั้น โดยไม่รู้ตัว

.

สิ่งมีชีวิต

มีจิต

เป็นส่วนหนึ่งของสังคม
.
และที่สำคัญคือ
"ต้องปรับตัว อยู่กับสิ่งแวดล้อม"
.
"ต้องปรับสิ่งแวดล้อมเข้าหาตัว"
.
การปรับตัว เป็นหนึ่งในกลไก วิวัฒนาการธรรมชาติ
ที่คัดเลือก ชีวิตที่เหมาะสม ให้อยู่รอด และมีโอกาส กระจายพันธุ์
.
การคัดเลือกของธรรมชาติ

มีกฎที่ค้นพบ ไม่กี่ข้อ
.
1.วิวัฒนาการ จะสร้างสิ่งที่เรียบง่าย ให้ซับซ้อนขึ้น
.
2.สิ่งไหนไม่ได้ใช้ จะถูกทำลายทิ้ง
.
3.การเปลี่ยนแปลง รูปร่าง พฤติกรรม

จะมีการคัดเลือกโดย
....อาหาร ชนิดอาหาร
....ศัตรู ตามธรรมชาติ
...จากสายพันธุ์เดียวกัน ล่า ทำลายกันเอง
...สิ่งแวดล้อม ที่แปรปรวน
...ความต้องการของ วัฒนธรรมในสังคม
.
การปรับตัวมีจุดประสงค์ เพื่อให้ชีวิตนั้น
อยู่รอด-อยู่ร่วม
แข่งขัน-แบ่งปัน
มีโอกาส สืบทอด แพร่พันธ์ตนเอง
.
เมื่อ กระทบกับสิ่งแวดล้อม
จะมีการปรับตัวแบบต่างๆ คือ
.
เป็นปฏิกริยาอัตโนมัติ

เช่นซ๊อค เป็นลม

.
หยุดนิ่ง ซ่อนตัว

.
หนี

.
สู้

.
เปลี่ยนแปลง ตนเอง โดยวิธีการต่างๆ
.
1.พัฒนาตนเอง
หาตัวอย่างที่ชอบเชื่อ

และพัฒนา ยกระดับตนเองตามนั้น
.
2.กร้าวร้าว มากขึ้น
โจมตีผู้อื่น ตนเอง หาเหตุผลเข้าข้างตนเอง
หรือ โจมตีเป้าหมายอื่นทดแทน
เช่นมาทะเลาะกับคนใกล้ตัว เมื่ออารมณ์เสียจากการทำงาน
.
3.เรียกร้องความสนใจ มากขึ้น
ทำร้ายตนเอง ให้อ่อนแอ
หยุดพฤติกรรม อยู่ที่วัยใดวัยหนึ่ง

.
ทำตัวน่ารัก หรือ ทำตัวให้อ่อนแอลง
หรือป่วยโดยหาสาเหตุทาง แพทย์ไม่เจอ

.
เช่นประชดชีวิต ด้วยการทำลายสุขภาพตนเอง
เช่นการกิน ดื่ม เสพ ติดพนัน เกมส์ เปนต้น
.
3.หลบออกจาก ความเป็นจริง
เช่นฝันกลางวัน จมกับอดีตที่ชื่นชอม
สะกดจิตตนเอง จน ลืมความเป็นจริงของโลก
.
4.ออกจากสนามแข่งขันนั้น
ตั้งเป้าหมายไล่ล่าใหม่
ในสนามที่ตนสามารถ

ใช้พรสวรรค์ พรแสวงที่ตนได้เปรียบ
.
การเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อปรับตัว
ไม่ควรใช้วิธีใดซ้ำซาก
เพราะจะกลายเป็นบุคลิกภาพ ใหม่
.
นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระดับพันธุกรรม
กระตุ้นยีน กลายพันธุ ทำให้เป็น มนุษย์มะเร็ง
.
หรือกลายเป็น อภิมนุษย์ จน กลายเป็น
"คนลืมตัว วัวลืมตีน"
"กบในกะลา"
เล่าให้ทราบ ไม่ได้บอกให้เชื่อเด้อ

.

ขอบคุณเจ้าของภาพ ข้อมูล

แก้ไข 20/1/20 ...

.

แข็งแรงทุกด้าน ดีด้วยกันทุกคน ทุกวัน 
..
..


//-พาหิยทารุจีริยะ กุลบุตร
คือแรงบันดาลใจให้เกิด นวนิยาย กามนิต วาสิฏฐี
.
พาหิยะ ! พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรพาหิยะ เพราะเหตุนั้นแล ท่านพึงศึกษา
อย่างนี้ว่า เมื่อเห็น จักเป็นสักว่าเห็น
เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง
เมื่อทราบจักเป็น สักว่าทราบ
เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง
ดูกรพาหิยะ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล
.
ดูกร พาหิยะ ในกาลใดแล
เมื่อท่านเห็นจักเป็นสักว่าเห็น
เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง
เมื่อ ทราบจักเป็นสักว่าทราบ
เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง
.
ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มี
(ว่างจากอุปทานในอัตตา)
.
ในกาลใด ท่านไม่มี ในกาลนั้น
ท่านย่อมไม่มีในโลกนี้
ย่อมไม่มีในโลกหน้า
ย่อมไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง
นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ
.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
 ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พาหิยทารุจีริยะเป็นบัณฑิต
ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
ทั้งไม่ทำเราให้ลำบาก
 เพราะเหตุแห่งการแสดงธรรม
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พาหิยทารุจีริยะปรินิพพานแล้ว ฯ
ครั้งนั้นแล
พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว
ได้ทรงเปล่งอุทาน
นี้ในเวลานั้นว่า
                         
ดิน น้ำ ไฟ และลม
ย่อมไม่หยั่งลงในนิพพานธาตุใด
.
ในนิพพานธาตุนั้น
ดาวทั้งหลายย่อมไม่สว่าง
พระอาทิตย์ ย่อมไม่ปรากฏ
พระจันทร์ย่อมไม่สว่าง
ความมืดย่อมไม่มี
.
ก็เมื่อใดพราหมณ์ชื่อว่า
เป็นมุนีเพราะรู้ (สัจจะ ๔)
รู้แล้ว ด้วยตน
เมื่อนั้น พราหมณ์ย่อมหลุดพ้นจาก
รูปและอรูป
จากสุขและทุกข์ ฯ
จบสูตรที่ ๑๐
จบโพธิวรรคที่ ๑
อุ. ขุ. ๒๕ / ๘๓ / ๔๙.
...........................................................................
1.จิตปรุงแต่งมี..แต่ไม่เที่ยง
ทนในสภาพเดิมไม่ได้
เป็นไปตาม กฎ เหตุ ปัจจัยปรุงแต่ง ไม่ตามใจใคร
.
2.จิตแท้จิตเดิม มาจากความว่าง กลับสู่ความว่าง
ใครทำให้ว่าง(จากอุปาทาน)ทุกปัจจุบัน
.
จะพบ มหัศจรรย์ของ
การตื่น
ของสัมมาสติ รู้ตัว
โพธิปัญญา รู้คิด
ปรีชาญาณรู้แจ้ง ฉลาดเลือก รู้แจ้ง
.
ไม่มีคือ
"ไม่มีอุปาทานในอัตตา"
.
อุปาทานที่ยึดว่า
"จิตปรุงแต่ง อุปาทานในตัณหา
และขันธ์ห้าเป็นตนเพราะทำอาสวะสิ้นแล้ว " สาธุ
.
................................................
พุทธศาสนา มีสามมิติ
.
1.เพื่อสืบพระศาสนา
เป็นไปตามกระแสวัฒนธรรม
 อัตโนมติ ของอาจารย์ และตัวเราเอง
จะเชื่อ ชอบ อย่างไร
ตกผลึกความคิดอย่างไร ตามกาล
.
2.เพื่อ เป็น ธรรมะคุ้มครองสังคม
(ธรรมบาล)
ต้องช่วยกันสร้าง บุคคล
ที่มีคุณค่า และรักษ์ คนที่มีคุณค่า คือ
-บุพการี และกตัญญูชน
-หิริ โอตตัปปะ
-ผู้ทำหน้าที่ แล้วโชคดี ตามหลัก มงคลชีวิต
-ผู้ มีความสุข จากจิตอาสา และแบ่งปัน หมุนเวียนสิ่งดีๆ
ให้ สามโลก
โลกที่ประกอบเป็นตน (สังขารโลก)
เป็นโลกของสังคม (สัตว์โลก)
เป็นระบบชีวาลัย สิ่งแวดล้อม (โอกาสโลก)
 ดีด้วยกัน
.
3.ทำนิพานให้แจ้ง
พบความสงบ เย็น เบิกบาน มั่นคง ในอารมณ์
เลิกปรุงแต่งอารมณ์ทุกข์ อย่างสิ้นเชื้อ ไม่เหลือ
อาสวะ สาสวะ ให้ยึดมั่น ถือมั่นอีก
.
3.1-เห็นถูกต้องตามคัลลองธรรมว่า
การกระทำของ
ผู้ให้กำเนิด
กรรมพันธุ์
สิ่งแวดล้อม
การปรุงแต่งเจตนาของเรา
ทำอย่างใดได้อย่างนั้น....
.
สิ่งที่อยู่ใกล้ คือ
 "เจตนาของเรา"
ต้องจัดการก่อน
.
3.2-พุทธศาสนา มี สักายทิฎฐิ
 (เชื่อว่าตายแล้วเกิด)
 เป็นฐานศรัทธาชน
เพื่อให้ ละชั่ว เจริญกุศลให้ยิ่ง
.
3.3-พุทธศาสนา เพื่อความหลุดพ้น อุปทาน
ต้อง ข้ามความเชื่อ ของทิฎฐิทั้งสอง
.
คือ สักกายทิฎฐิ(เชื่อว่าตายแล้วเกิด)
และ อุจเฉทฎฐิ(เชื่อว่าตายแล้วสูญ)
.
ทางสองสายที่ไม่ควรเข้าไปถึงส่วนสุด(สัมมาทิฎฐิ)
.
3.4-พุทธศาสนา ให้ความสำคัญ ของ
การฝึก ปลุก
สติรู้ตัว
ปัญญารู้คิด
ปรีชาญาณฉลาดเลือก รู้ตื่น
 กุมสภาพจิตปรุงแต่ง
.
จน ไม่ชงอารมณ์ทุกข์ มาซ้ำเติมชีวิตตนเอง
.
ฝึกมีความอดทนต่อเวทนาทุกข์ กว่ามนุษย์ธรรมดา พันเท่า
.
ฝึกมีจิต ยอมรับ สภาวะทุกข์ ที่มีไตรลักษ์ กำกับ
.
และฝึก ท่องไปในอดีต
แยก ความคิด ความรู้สึก ออกจากกัน
.
จน จิต ว่าง จาก
อุปาทาน ในตัณหา
อุปาทานในขันธุ์ห้า
.
ความตื่นของ สติ ปัญญา ปรีชาญาณฉลาดเลือก
.
 สงบ สะอาด สว่าง เย็น
พบ สันติ อหิสา ด้วยตนเอง
ทุกลมหายใจเข้าออก
.
ทุกข์.......................คือ นรก
สุข..........................คือสวรรค์
เย็น.........................คือนิพพาน(พุทธทาส)
..............................................................
ชนะ อารมณ์ทุกข์.......ด้วยการเลิกชงอารมณ์ทุกข์ซ้ำเติมตนเอง
ชนะเวทนาทุกข์..........ด้วยการฝึก ให้อดทนกว่ามนุษย์ธรรมดาพันเท่า
ชนะ สภาวะทุกข์.........ด้วยทำใจรับสภาพ เห็นกระแสไตรลักษ์ ที่กำกับสังขารธรรม
...............................................................
แข็งแรงทุกด้าน ดีด้วยกันทุกคน สาธุ
http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=1607&Z=1698

https://www.facebook.com/100001723003298/posts/2799284293472310/?d=n

..
..
//-หนึ่งใน บทสวดที่ถือว่า เป็นมงคล ของชาวพุทธ คือ บทสวดพาหุง
 แปลว่า"ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ของพระพุทธเจ้า"
มีชัยชนะสำคัญ แปดครั้ง ที่ได้รับการสรรเสริญ
จะขอถอด ความหมาย เป็นแนวทาง ครับผม
1.ชนะมาร
มาร หมายถึง ผู้ขัดขวาง การ เข้าถึง ธรรมะที่ทำให้หลุดพ้นจาก
เพลิงทุกข์ เพลิงกิเลส โดยการเรียนรู้แบบล้างเงื่อนไข(ทำอาสวะสิ้น)
มีอยู่ห้า ประการคือ
-ขันธุ์มาร
คือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีชีวิต ประกอบเป็นเรา
เป็นสิ่งที่ปรุงแต่ง ขบวนการธรรมชาติ ธรรมดา หากไปยึดว่า เป็นตัวเรา ของเราจริงๆ
ก็เป็นเหตุแห่ง การสร้างอารมณ์ทุกข์
องค์ประกอบคือ
..รูป(ข้อมูลที่เป็นพลังงานวัตถุ)
..เวทนา(ประสาทการรับรู้)
..สัญญา(ความทรงจำ ทั้งสัญชาติญาณ การเรียนรู้)
..สังขาร(การปรุงแต่ง เป็นคำสั่ง เป็นเจตนา เป็นบุคลิกภาพ)
..วิญญาณ(ความรู้ทีประสาทรับรู้นำเข้า จาก หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ)
-อภิสังขารมาร
การคิด โดยขาดแสงสว่างแห่ง สติปัญญากำกับ(ขาดวิชชา)
ทำให้เกิด ขบวนการสร้าง ความรู้สึก ความอยาก ความยึด อารมณ์ จนเกิดบุคลิกภาพใหม่
ของอารมณ์ทุกข์ เวทนาทุกข์ สภาวะทุกข์
-กิเลสมาร
ความ ต้องการ ความจำเป็น ความอยาก ที่ขาดการควบคุม ฝึกฝนสู่ทางกุศล
-เทวบุตรมาร
คือ ความสมใจ สะใจ ในการได้รางวัลของชีวาในชีวิต
หรือไม่ได้ดั่งใจ ทำให้เกิบุคลิกภาพต่างๆ
ทั้งที่ต่ำกว่ามาตราฐาน มนุษย์(อบายภูมิ มี นรก อสุรกาย เดียรัจฉาน เปรต)
ทั้งที่เป็นมนุษย์(ยอมรับ กฎ กติกา มารยาท กฎหมาย ของวัฒนธรรม สังคม)
ทั้งที่สูงกว่ามนุษย์(เทวดา ผู้มีแสงแห่งความสุขจาก หรรษา ภาคภูมิใจ สมใจ สะใจ)
ทั้งที่ สงบ สันโดษ สมถะ มีเมตตา กรุณา
(รูปพรหม ยินดีในอารมณ์มั่นคง จากการฝึกกสิญ
...อรูปพรหมพรหม..ยินดีในอารมณ์มั่นคง เพราะ ยอมรับ ความรู้ที่ยิ่งใหญ่ของจักรวาล)
-มัจจุราชมาร
คือเวลา ที่กลืนกิน ทุกสรรพสิ่ง รวมทั้งตัวเวลาเอง
....มารที่พระพุทธเจ้า คือ ความสมใจ สะใจ ในความดีที่เคยบำเพ็ญมา(ติดดี)
ชนะโดย อุทิศให้ ไม่หลงยึดว่าเป็นของพระองค์เอง
2.ชนะ ความอยากโอ้อวดตน(ยักษ์)
โดยการ อดทน ฝึกฝน จำแนก แจกแจง ธรรมชาติ ตามความเป็นจริง
3.ชนะสัญชาติญาณ อารมณ์แห่งการการทำลายล้าง(ช้างดุร้าย)
ด้วยมหาเมตตา มหากรุณา
4.ชนะ วัตถุนิยม
(อุเฉท ทิฎฐิ อเหตุกะทิฐิ อกริยาทิฎฐิ)
ความเชื่อว่า ตายแล้วสูญ ด้วย โลกุตระฤทธิ์
ตำนาน กล่าวถึงอุงคุลีมาร ผู้ฆ่าคน เอานิ้วมือร้อยเป็นพวงมาลัย
เพราะเชื่อว่า ตายแล้วสูญ.. บาป บุญไม่มี ...คุณของบุพการีไม่มี
ชาตินี้ไม่มี(ทุกอย่างเป็นปฏิกริยาทางวัตถุ)
ชาติหน้าไม่มี(การเวียนว่ายตายเกิดไม่มี)
ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นอริยะบุคคลไม่มี
การเกิดแบบ ผุดขึ้นเป็นตัวเต็มวัยทันทีไม่มี(โอปาปาติกะ)
ทรงชนะโดย จำแนกแจกแจงให้ เห็น อิทฤทธิ์ บุญฤทธิ์ โลกกุตระฤทธิ์
5.ชนะความอิจฉา ของชนชั้นฉกามาวจรภูมิ
ด้วยความสงบ สงัด จากอุปธิทั้งปวง
ตำนาน นางจิญจา อ้างว่าท้องกับพระองค์
แต่ท้องเป็นปีไม่คลอด เพราะนางแกล้ง เอาหมอนผูกไว้หน้าท้อง
6.ชนะ สัสสตทิฎฐิ
สัจจกนิครณ์ ต้องการโต้วาที ชนะพุทธเจ้า ว่าสัสสตทิฐิ คือ ปรัชญาสูงสุด
ทรงชี้ให้เห็น กฎไตรลักษ์ สูงสุด ของธรรมชาติ
กฎอนัตตา ทุกสิ่งกำลังเป็นไปตาม กฎเหตุปัจจัย ปรุงแต่ง ไม่เป็นดั่งใจบังคับได้
7.ชนะ กฎป่า
สัญชาติญาณ ดิบ ที่ อยากชนะ ยิ่งใหญ่ อมตะ ของมนุษย์
โดยการ ให้ ผู้นำธรรมชาติ ชี้แจงแทน(พระโมคคัลลานะ)
8.ชนะ ความเชื่อ วิสุทธิ์สูงสุด
ปฎิบัติธรรม ไม่เป็นไปเพื่อ ชื่อเสียง ลาภสักการะ ความบริสุทธิ์แห่งอาหาร
อนิสงค์แห่ง ศีล สมาธิ ปัญญา
แต่เพื่อหลุดพ้น เพลิงอารมณ์ทุกข์ เพลิงกิเลสความอยาก อย่างสิ้นเชิง
ตำนาน เทศน์โปรด ผกาพรหม
.............................................
เอา เล่าให้ฟัง เผื่อ ฟังแล้ว จับใจความ คิดตาม
อาจมีประโยชน์คือ
-ไพเราะเบื้องตน
-ไพเราะเบื้องกลาง(รู้ความหมาย)
-ไพเราะในที่สุด (เอาไปปรับใช้ ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ)
สาธุ

http://www.cdthamma.com/forums/index.php?topic=50.0
ข้อความโดย: lek
« เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 10:04:25 pm »

ทำไมมนุษย์ชอบ เอาอดีต มาเคี้ยวเอื้อง..และพร่ำเพ้อ
ย้ำคิด ย้ำทำ ย้ำแค้น....แทนที่จะใช้ปัญญาทิ้งขยะชีวิตนั้นไป :46:
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2018, 08:34:16 am »



มุมกาแฟ คิดแบบ"เซ็น" 4/1/18
ความว่าง ในแนวปรัชญาธรรมะ มีสอง คือ
1.ว่างจากการปรุงแต่ง
ความคิด อารมณ์อย่างขาดสติปัญญากำกับ
ทำให้ชีวิตสงบร่มเย็น
ไม่เป็นทาสอารมณ์ทุกข์ไล่ สุขมาล่อให้วิ่ง

2.ว่างแบบอันธพาล
คือยึดติดในลัทธิวัตถุนิยมโบราญ
คือ มีมีบาป มีบุญทำ กรรมแต่ง
ทุกสิ่งเป็นเรื่องบังเอิญ
เป็นแค่ปฏิกริยาของธาตุ
อำนาจคือของจริง
ว่างแบบนี้ถ้าผิดกฎหมาย
ก็มี ห้องกง รออยู่ ....
หรือใช้ชีวิต เป็น กระสือ กระหัง ไปจนตาย
55555+
ขอบคุณเจ้าของภาพ
และธรรมสนาทนา กับ หลวงพ่ออ.พุทธทาสภิกขุ
..
..
มุมกาแฟ วันใหม่ 4/1/18
ชีวิตมนุษย์เป็น"สังขารธรรม"
คือขบวนการปรุงแต่งของธรรมชาติ
แต่มนุษย์พิเศษ คือ บางเรื่อง
สามารถ เลือก กฎ เหตุ ปัจจัย ที่ให้คุณ มาปรุงแต่งชีวิต
เว้นสิ่งให้โทษ
และ ฝึกฝน ยับยั้งชั่งใจ
เคารพกฎ กติกา มารยาท ของสังคมที่เราอยู่ร่วม
เพราะ ไม่มีชีวิตไหน อยู่ได้ด้วย
โดย ไม่ มีปฏิสัมพันธ์ กับ ธรรมชาติอื่นๆ
การเคารพ ความแตกต่างระหว่างบุคคล
จึงเป็นมารยาทสากล ที่วิญญูชนเห็นว่าดี
ยกเว้นพาลชน
ขอบคุณเจ้าของภาพ และผู้จุดประกาย ผู้อ่าน
..
..
มุมกาแฟเช้า 3......4/1/18
กรรม กฎแห่งกรรม
คือ ชีวิตเป็นไปตามเจตนาสี่
1.เจตนาจากการเลี้ยงดูจาก บุพการี
2.เจตนาของกรรมพันธุ์
3.เจตนาของสิ่งแวดล้อม
4.เจตนาจากความคิด
และสร้างตัวตนเทียมในตนเอง.....
เจตนาที่สี่สำคัญ
เพราะ เจตนาทั้งสามอาจไม่ส่งเสรีมให้ดี
แต่เจตนาที่เราคิด ตัดสินใจ
ให้เราเลือกวิถีชีวิตเราได้ ตามอัตภาพ
เพราะเราไม่ใช่ผู้สร้างกฎ และธรรมชาติ
แต่เราเลือกบทที่เราเล่นได้
โดย เคารพการมีอยู่อยู่ของชีวิตอื่น
ที่เราต้องอยู่ร่วม อยู่รอดด้วย
ขอบคุณเจ้าของภาพ ข้อธรรมที่ถอดระหัส ผู้อ่าน
สาธุ
..
..
มุมกาแฟ เช้าต่อ.....4/1/18
ความคิด
เป็นจุดเริ่มต้นของการ สร้างบุคลิกภาพ
เพื่อปรับตัว เข้ากับสิ่งแวดล้อม
แต่เหนือ ความคิด คือ
สติปัญญา ที่
"เห็น"
กฎ เหตุปัจจัยที่มาปรุงแต่ง
ว่า ถ้าปรุงอย่างนี้ เกิด อารมณ์ทุกข์ สุข สงบ เย็น...
"เว้น"
ไม่ทำในสิ่งที่ให้ทุกข์ โทษแก่ ตน ท่าน สาธุ
"เจริญ"
เจริญในสิ่งที่ควรเจริญ คือ กุศลด้วย วาจา ใจ
"วาง"
วางในสิ่งที่ควรวาง
คือ วางอุปาทาน ที่ยึดติด ทำให้เกิดทุกข์โทษ
"ว่าง"
ว่างจากการปรุงแต่ง แบบหดหู่ ฟังซ่าน และอกุศล
"เย็น"
ไม่เป็นทาส ทุกข์ สุข
แต่ สงบ ร่มเย็น เบิกบาน มั่นคงในทางสว่าง
..
..
มุมกาแฟ เช้า 2.....4/1/18
สมองคน เป็นศูนย์บัญชาการ ชีวิต
ที่มีการวิวัฒนาการ มีตั้งแต่
1.ส่วนที่เป็นปฏิกริยา
รักษาสมดุลย์ชีวิต
ที่อยู่ที่ไขสันหลัง
2.สมองแบบปลา ที่มีสติ ตื่น
รับมือกับภัย อาหารภายนอก
3.สมองเป็นชีวิตเลื้อยคลาน
ที่ต้องการจุดยืน พื้นที่ แย่งชิง อำนาจ
4.สมองชีวิตเลี้ยงลูกด้วยนม
จะมีความผูกพัน แบบครอบครัว
5.สมองแบบลิง ทั้งมีหางไม่มีหาง
คือ ความสามารถแยกแยะ
เรียนรู้ปรับตัว และจัดลำดับในสังคม
6.สมองใหม่ในมนุษย์
ที่มีความสามารถ คิดค้น
สร้างสรร สร้างนวัตกรรม
และเรียนรู้ เข้าใจ มีมโนสำนึก

//- เราใช้สมองส่วนไหนมาก
ก็จะทำให้สมองส่วนนั้นแข็งแรง
และมีอำนาจเหนือส่วนอื่น
บุคลิกภาพ ก็แปรไปตามนั้น
จึงมี

1.มนุษย์แบบอบายภูมิ
-เปรต เป็นทาส ความโลภ อิจฉา บ้าอำนาจฉลาดโกง
-เดียรัจฉาน เอาอารมณ์สัญชาติญาณดิบ นำทางชีวิต
-อสุรกาย ขลาด กลัว ชอบทำร้ายผู้อ่อนแอกว่า
-สัตว์นรก เป็นทาง ความหดหู่ ฟุ้งซ่าน ร้อน ทุกข์ โศก
ย้ำคิด ย้ำทำย้ำแค้น

2.มนุษย์ที่ดีจนไหว้ตนเองได้
หรรษา ภาคภูมิใจ สมใจ สะใจ เย็นใจ
ในสิ่งที่ วาจา ใจกาย ตนทำสิ่งดีๆ
ต่อตน ครอบครัว สังคม สิ่งแวดล้อม

3.มนุษย์ที่เป็นอิสระ จาก อุปาทาน
เลิกเอาตนเอง ปรัชญาที่ตนชอบเชื่อ วิถีชีวิตตตนเอง
ของรักของชอบ มาเป็นนายตนเอง
ให้ สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด ปรีชาญาณฉลาดเลือกที่ตื่น
มาปรุงแต่งชีวิต ให้ สงบ เย็น อยู่กับ
ความจริง ดี งาม สุข สงบ แบบวิญญูชนสากล
สาธุ
ขอบคุณเจ้าของภาพ และความรู้ที่เก็บมาฝาก ผู้อ่าน
..
..
https://www.dailymotion.com/video/xvi14x
ในมิติแห่งชีวิต มนุษย์คือ
มนุษย์สนใจอภิปรัชญา
คือปัญญา ที่มาจากเหตุผล และจินตนาการ
ที่ดิ่งความคิดไปที่ อดีต อนาคต และ ชีวิต
แต่มักละเลย....ทาสอารมณ์ทุกข์ในปัจจุบัน
อันเกิดจากจิตปรุงแต่งของเรา

ปรุงแต่ง ความคิด อารมณ์บุคลิกภาพชั่วคราว
และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง สรีระกาย กายสังขาร
แต่เราขาด สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด
ปรีชาญาณรู้แจ้ง.....สังเกตุ
เห็นเหตุปัจจัยปรุงแต่ง
แลก และคัดสิ่งที่ ปลอดทุกข์ เย็น มีจิตเอื้อเฟื้อ
มาปกครองชีวิตตนเอง

ใครฝึกปลุก ปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่นมาล้างขยะปรุงแต่งจิต
ทั้งติดชั่วติดดีชีวิตก็อิสระจาก
อารมณ์ ทุกข์ สุข ความสมใจ สะใจ
จะได้ โบนัสคือ ปัญญารู้แจ้ง...
จะตื่น รู้ เบิกบาน และเย็น ยั่งยืน
พ้นจากความร้อนจากไฟ ในใจ

-ไฟราคะ
-ไฟโทสะ
-ไฟโมหะ
-ไฟทิฐิ
-ไฟมานะ
-ไฟ อภิสังขาร การคิดปรุงแต่ง แบบหดหู่ ฟุ่งซ่าน
เพราะขาด สติ ปัญญา ปรีชาญาณฉลาดเลือกกำกับ
.............................................

มนุษย์ต้องมีความรู้สี่
1.รู้แบบ วิชาการ
อันได้แก่ ความรู้รอบตัว และเจาะลึก

2.รู้แบบวิชชา
รู้ เกิดจาก สติ ปัญญา ปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น
"รู้ทันจิตปรุงแต่งตนเอง"
และวางอุปทาน ลง พบเสรีภาพชีวาในชีวิตด้วยตนเอง

3.สติรู้ตัว
รู้จุดยืน หน้าที่ ที่ดีต่อตน สังคม สิ่งแวดล้อม
และเคารพกฎ กติกา มารยาท ธรรมชาติ ผู้สร้างจักรวาล
4.ปัญญารู้คิด
ทำหน้าที่ ที่ให้โชคดี หรือเป็นมงคลชีวิต
ไม่ประมาท ใน กรรม เวลา มัจจุราช
และภัยจาก มนุษย์ สิ่งแวดล้อม สาธุ
.......................................
..........................................
ขอบคุณผู้เป็นเจ้าของคลิป และผู้ชม
..
..
เทคนิคฝึกสมอง วัยเกษียร
เผยแพร่เมื่อ 6 ม.ค. 2018
เทคนิคเหล่านี้อนาคตจะเป็น Mega Trend ของ ประเทศไทยและทุกๆประเทศ
เพราะในปัจจุบัน คนสูงวัยอายุยืนขึ้น ถ้าเป็นนายญี่ปุ่นอายุขัยของผู้สูงอายุเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 80-85 ปี
ทำให้ประเทศที่มีผู้สูงอายุมากขึ้นเริ่มมาสนับสนุนกิจกรรมของผู้สูงอายุเพื่อทำให้ผู้สูงอายุแข็งแรงขึ้นและมีสมองที่สดชื่นแจ่มใสแล้วก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นเป็นภาระกับสังคมน้อยลง
ผมอยากจะแบ่งปันเทคนิคที่เป็นสากลและน่าจะช่วยให้สามารถฝึกสมองให้กับผู้สูงอายุได้
สำหรับคนที่ทำงานมานานๆสมองเริ่มล้าความจำไม่ดีก็สามารถนำไปใช้ได้นะครับ

1. บวกเลขราคาสินค้าเอง
2. สมุดวาดภาพระบายสี ( Trend ของญี่ปุ่น )
3. อ่านหนังสือที่เราไม่เคยรู้หรืออยากรู้
4. อาหารโปรตีนสูง และออกกำลังกายเป็นประจำ
.........................................

55555+
อีกไม่กี่วัน ก็จะเข้าสู่ยุค70 >>>>>55555+
ตั้งแต่เกิดมา ร่างกาย ยังไม่มีอายุมากขนาดนี้มาก่อน
"ความฉลาด เริ่มต้น จาก เอาอดีต มาถอดบทเรียน"
วันนี้จึงเอาอดีตของตน และเพื่อนๆ ที่รู้จัก และจากไป
และมาหาทฤษฎีที่เหมาะสม มาจะระเบียบพฤติกรรมใหม่
มาถอดบทเรียนว่า วัยยุค70 มักจะเจออะไรบ้าง

1.ความเครียดสะสม
อาการนี้ กำลังเป็นกันเยอะ
ยุคทำมาหากินแบบยังชีพ ไม่ค่อยมีปัญหา
แต่ใคร อยู่เพื่อ แข่งขัน แย่งมูลค่าส่วนเกิน
และกำไรชีวิตแบบ บริโภคนิยม
"ความไม่ได้ดั่งใจ"
จะเป็น ตัวสร้างความเครียดสะสม
มักที่จบด้วยการ สุขภาพ กาย จิตเสื่อมและมะเร็ง

2.ขาดสารอาหาร ถาวร
บางคนกลัวได้บุญน้อย เลยหันไปทาน เจ มังสะวิรัส
โดยขาดความรู้โภชนาการ เลยขาดสารอาหารถาวร
โรคภัยรุมเร้า ร่างกายคน ประกอบด้วยโปรตีน50%
โปรตีนก็มีกรดอมีโนตั้ง22ชนิด
ที่กระจายในอาหารหลายอย่าง
และมี9ชนิดที่จำเป็น ขาดไม่ได้
เอาบุญแต่เบียดเบียนร่างกายตนเอง อาจไม่ได้กุศล
"คืออิ่มใจในการทำดี แต่ ไม่ฉลาดเพิ่ม"

3.ทรัพย์จาง
แม่สอนมาตั้งแต่เด็กๆ
เป็นเห็ดต้องมีขอน เป็นคนต้องมีหลัก
ก่อนจะเข้าสู่วัยสว.ต้องตรวจตรา หลักชีวิต

-หลักแหล่ง
-หลักฐาน
-หลักทรัพย์
-หลักรู้
-หลักคิด
-หลักปฏิบัติ

นึกถึงวลีขำๆ
"เสียดาย ตายแล้ว ยังใช้เงินไม่หมด
ยิ่งน่าสลด เงินหมดแล้วยังไม่ตาย"

4.ลงทุนผิดประเภท
บางคนไปลงทุนทำฟาร์มเลี้ยง หนูท้องขาวปากแดง
ไปเสี่ยงเอาเองเด้อ 55555+

5.อุบัติเหตุ ในบ้าน
สว. เสียชีวิตสูงสุด ในห้องน้ำ
เดินก็ต้องก้าวสั้น ย่อเข่า โก่งขานิด ไม่เท่ห์ แต่ ดีแน่นอน

6.ใช้สมอง
บางคน อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ประทับใจ
มองโลกด้วย อภิชฌา และโทมนัส
"มองโลกด้วยความอิจฉา น้อยเนื้อต่ำใจ"
ไม่คิดว่า ธรรมชาติ มี
กฎ ระบบ หน้าที่ ความดี ความงามความสุข
ซ่อนในทุกสรรพสิ่ง กลับมามองภายในจิตตนบ้าง
ล้างขยะปรุงแต่ง ความรู้ไร้สารลง วาง ว่างบ้าง
และหาความรู้ใหม่ ใส่เข้าไป
................................

ทุกวันนี้ยังเชื่อ สามสิ่ง ดีต่อชีวิต
1.ไม่เบื่อการหายใจ
2.ถนอมน้ำใจมิตร
3.สนุกกับการเรียนรู้ จากความรู้ใหม่
................................
ขอบคุณคลิป ภาพ และผู้อ่านครับ
https://youtu.be/mwz0VTp8G4w
..
..
Astral body
.....................
กาย ในกาย
จิต ในจิต
ธรรม ในธรรม
......................

สังขารโลก
"ตถาคต ขอบัญญัติว่า
ร่างกาย กว้างศอก ยาววา
มีสัญญา ใจครอง
คือโลกโลกหนึ่ง"
...................................

กายมนุษย์ มีสามกาย
(บางท่านบอกว่า ยังมีกายทิพย์)
1.สรีระกาย
เป็นขันธุ์ห้า หรือ ชีวะยนต์
เป็นเครื่องยนต์มีชีวิต เป็น คอมพิวเตอร์ชีวภาพ อัศจรรย์

2.กายสังขาร
คือ สติกับลมหายใจ
ที่จะเปลี่ยนแปลง ตามการทำงานของ
สรีระกาย และ การเปลี่ยน บุคลิกภาพภายใน(กรัชกาย)
บางครั้งก็หายใจสั้น ลึก ยาว ตามอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง

3.กรัชกาย
เป็นบุคลิกภาพภายใน
ที่ปรุงแต่ง จาก ความคิด อารมณ์ ความทรงจำ ความอยาก
เป็นหลัก
บางครั้งก็เป็นบุคลิก ต่ำกว่ามาตราฐานมนุษย์
หรือ อบายภูมิสี่
บางครั้งก็เป็นมนุษย์ คนดี ที่ไหว้ตนเองได้
บางครั้งก็มีสุข หรรษา ภาคภูมิใจ สมใจ สะใจ แบบเทวดา
บางครั้งก็ สุขกับ สงบ สันโดษ สมถะเมตตา แบบพรหม
บางครั้ง ปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น อยู่เหนือจิตปรุงแต่ง
พบทางสว่าง ในตนเอง
.....................................

กายสรีระ กับกรัชกาย มี กายสังขาร เป็นตัวเชื่อม
การจะพบประจักษ์ด้วยตนเองว่า
การเปลี่ยนแปลง ภายใน(กรัชกาย) มีผลกระทบต่อ สรีระกายอย่างไร
ต้องฝึก สังเกตุ การหายใจตนเอง ประจำ
.........................

เล่าให้ทราบ ไม่ได้บอกให้เชื่อ
ใคร คิดแบบ
"เรื่องความชั่วนี้ ผมไม่ทันใครจริงๆ เพราะผมเป็นคนชั่วช้า"
และคิดว่า คิดอยู่คนเดียว ใครไม่รู้
แต่เมนเฟรมใหญ่จักรวาล รู้
และอาจ บิดลำไส้ ทำลายสุขภาพกายด้วยนะ
55555+
"""""""""""""""""""""""""""""""""""
ขอบคุณเจ้าของภาพ ระหัสธรรม ที่ถอดออกมา
และผู้อ่าน สมหวังในสิ่งประเสริฐนะครับ สาธุ
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=oSscJksXeNU
ผู้นำจีน สีจิ้นผิง เสนอวิสัยทัศน์ว่า
โลกจะใช้หลักสี่ทันสมัย ขับเคลื่อนโลก ไปอีก100ปี
1.สังคม ที่แก้ปัญหาด้วยนวัตกรรม
ดังนั้น เราต้องยอมรับชะตากรรม
ว่า"ความรู้ที่ว่าแน่ๆของเรา มันจะกลายเป็นของเก็บในโกดัง ความทรงจำ"

2.สังคมซื่อตรง
ดีต่อตน สังคม สิ่งแวดล้อม และเป็น วิญญูชนสากล

3.สังคมเครดิตออนไลน์
ที่จะมาคานอำนาจ การบริหารจัดการเงินโลก ของมหาอำนาจ
4.สังคมเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพชีวิตประชาชน

ด้วยสินค้า บริการ สถานที่ ที่เป็นมิตร กับมนุษยืและสิ่งแวดล้อม
เริ่มจาก ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ผ่าน การสื่อสารออนไลน์
.........................................

ถ้าไม่อยาก แก่เพราะกินข้าว
เฒ่าเพราะอยู่นาน
เป็นที่รำคาญ ของคนรอบข้าง
ในฐานะแก่แบบกะลาผุๆ
ย้ำคิด ย้ำทำ ย้ำแค้น พ่นไฟออกจากปาก
ตื่นมายกเครื่อง ตนเอง
เป็นแก่ลายครามนะครับ
คนที่ยังไม่แก่ ก็อย่าประมาท
มีวลีขำๆ
"พี่ๆ ทำไมแก่จัง"
"อ๋อ ตอนพี่อายุเท่าน้อง
โชคดี ไม่ล้มทับบาทาใครตายเสียก่อน"
55555+
"""""""""""""""""""""""""""""""""""

มาสร้างสรร นวัตกรรม
ทำตัวเป็นคนซื่อตรง
มีเครดิต ออนไลน์บ้าง
และเพิ่มประสิทธิ์ภาพ คุณภาพชีวิตตนเอง
ด้วยการ ปลุกปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น
ล้างขยะปรุงแต่ง ความรู้เทียมๆทิ้ง
มีวิสัยทัศน์ ที่เห็น กฎ กติกา มารยาท ธรรมชาติ และสาธุ
และชื่นชม ตนเองว่า ทำดีมากกว่าชั่ว สาธุ
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=Y5Xz1vw-zoU
....................................................

พลังงาน กฎ เวลา อวากาศ....และชีวิตเราเอง
ทุกสิ่ง เรามีมุมมองต่างกัน
อยู่ที่เรา ใช้สมองใหญ่ซีกไหนมากกว่ากัน
บางคนใช่สมองเหตุผล(แบบเข้าข้างตนเอง)
เลยไม่มีน้ำใจ แบ่งปันให้ใครๆ
ไม่สนใจ ความรู้สึกเจ็บปวด ของชีวิตอื่น
ไม่เชื่อเรื่อง คุณธรรม จริยธรรม
และเห็นว่า การที่ผู้อื่นมีน้ำใจให้ตนนั้น
เพราะคนนั้น"โง่" เอง
ไม่ได้ว่าใครนะครับ เพียงแต่ ให้มองต่างมุม
.....................................................

เรามองเวลา แบบลูกศร ที่แล่นผ่านอากาศ
มีอดีต ปัจจุบัน อนาคต
แต่ ทฤษฎีสัมพันธภาพ ของไอสไตน์
เวลา เหมือน สายน้ำ
ที่เราอาจ ทวนน้ำ ตามน้ำ หรือ ไปวนในวังวนน้ำ สักแห่ง
เวลา ของวัตถุที่เคลื่อนไหว ยิ่งเร็วจะยิ่งช้า
..................................................
ขอบคุณเจ้าของคลิป ภาพ และผู้อ่าน
..
..

Philosophy and healthy ปรัชญา และสุขภาพดี
G+ communities คนรัก รักษ์ ปัญญา สุขภาพ กีฬา และจักรยาน
สุขภาพดี คือลาภอันประเสริฐ ที่เราทำได้เอง

Suraphol KruasuwanOWNER
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2018, 04:05:13 pm »



https://www.youtube.com/watch
หนึงในเพลง ที่ยอดเยี่ยม ตลอดกาล
""""""""""""""""""""""""""""""""""""
มุมกาแฟวันใหม่ 27/12/17
ทำให้จินตนาการไปไกล
-โลกของ อเมริกันอินเดียน
-ชีวิต แบบ คาวบอย
-วรรรณกรรม ของ โกว้เล้ง
-และชีวิตที่ ผ่านพ้น มีลด มีเพิ่ม ที่เหมือนเดิมคือ กำลังใจ
55555+
ขอบคุณเจ้าของภาพ เพลง ผู้อ่าน
แข็งแรงทุกด้าน ดีด้วยกันทุกคน สมหวังในสิ่งประเสริฐนะครับ
..
..
มุมกาแฟ ยามสาย 27/12/17
ธรรมสวัสดิ์....
//-พุทธธรรม ถ่ายทอดมา
1.เป็นธรรมธิษฐาน
เอาหลักการเหตุผล มาสอน
2.บุคลาธิษฐาน
สอนแบบ วรรณกรรม
สมมุติเป็นเรื่องราว บุคคล
อภิจินตนาการเหนือจริง
แต่ มีหลักธรรมซ่อนอยู่
3.อวจนะภาษา
เช่นภาษาท่าทาง ภาษาศิลปะ
4.ภาษาจิต
ที่ ความรู้สึก ความเข้าใจ
เหนือทุก ตัวอักษร
รูปลักษ์ เพราะ
ทุกชีวิตบนโลกนี้ มี ชื่อ จิตวิญญาณ หน้าที่ ต่างกัน
แต่ต่างแสวงหา ทางพ้น อุปาทานทุกข์ ด้วยกันทั้งสิ้น
...........................................

//-ไซอิ๋ว "เดินทางสู่ตะวันตก"
เป็นนิทานธรรมะ ที่ลิขิตจาก ประวัติศาสตร์จริง
ในยุคราชวงค์ถัง
ที่พระถังซำจั๋ง เดินทางไป ค้นหา
"หลักการที่ถูกต้องของพุทธศาสนา"
ในดินแดนชมพูทวีป
ใช้เวลาเดินทาง ศึกษา และกลับมา 19ปี

//-เมื่อ ท่านเขมานันทะ(ขณะเขียน เดินทางไกลกับไซอิ๋ว)
เป็นผู้เปิดมิติ ธรรมวิภาค ว่า
"ไซอิ๋วซ่อนปริศนาธรรม เดินทางภายในสู่นิพพาน"
ดช.ปู่ลิง ก็แกะ หาความหมาย ในทัศนะของลิงบ้างอิๆ
อาจตรงกับท่านอ.เขมานันทะ หรือต่าง
ก็เป็นเพียง"อัตโนมติ"(ความเห็นส่วนตัว)
พวกเรา ควรลองหัด ตีความหมายจาก
บุคลาธิฐาน(ภาษาอภิจินตนาการ)
มาเป็น ธรรมาธิฐาน(ภาษาหลักการเหตุผล) ด้วยตนเองบ้าง
เพื่อ ปลุก สัมมาทิฐิ โพธิปัญญา
(ปัญญาที่ให้แส่งส่องทางชีวิตและร่มเงาที่เย็นแก่ชีวิต)
//-ปัญญามนุษย์มีสาม
-โลกียะปัญญา
-โลกุตตระปัญญา
-โพธิปัญญา
//-มนุษย์มีสามกาย
-กายสรีระ(คอมพิวเตอร์ชีวภาพ)
-กายสังขาร(สติ กับลมหายใจ)
-กาย กรัชกาย(บุคลิกภาพ ที่แปรเปลี่ยน ตาม การปรุงแต่ง
ของความคิด อารมณ์ อุดมคติ ความรู้ฯลฯ
กรัชกาย ประกอบด้วย
-นิรมานกาย.....เปลี่ยนแปลงได้ หลากหลาย
-ธรรมกาย........ธรรมะที่ปรุงแต่ง มี อกุศล กุศล มรรค
-สัมโภคกาย...กายอุดมคติสูงสุด
เมื่อ ปรีชาญาฉลาดเลือก(Wisdom) ตื่น
สติ รู้ทัน สามกายตื่น
ปัญญารู้คิด เห็นทั้งอดีตมาถอดบทเรียน
คาดการณ์อนาคตได้
และหรรษา สุขจากความเย็นจิต สนุกกับจิตเอื้อเฟื้อ เรียนรู้
ทุกปัจจุบัน
.....สัมโภคกาย จึงกายแห่งพุทธ ปัญญา สาธุ

หา สามปัญญา หา สามกายให้เจอ
แล้ว วิสัยทัศน์ที่มีต่อโลกเรา จะเปลี่ยนไป ตลอดกาล
ใครว่างตามไปอ่าน ขอบคุณผู้รวบรวม และผู้ชม
......................................
http://www.tairomdham.net/index.php?topic=9996.0
..
..


อวจนะภาษา ใน พุทธศิลป์
สิงห์โตหน้าวัด
1.สิงห์ เป็นตัวแทนความคิด
2.ช้าง เป็นตัวแทนอารมณ์
3.หงส์ เป็นตัวแทนอุดมคติ เจตนา
4.นาค เป็นตัวแทนความรู้ ที่สะสมยาวนาน
จะพบในศิลปกรรม วิจิตรกรรม ตามวัด ภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
ทั้งสี่รวมกัน จะกลายเป็น"จิตสำนึก"
หรือ"นกหัสดีลิงค์"
ที่พา จิต วิญญาณเรา ท่องทุกภพภูมิ
ดูแลสิงห์ใตในตัวเราให้ดี ไม่งั้นมันจะกัดเรา และคนรอบข้าง สาธุ
(ภาพจากวัดกาสา แม่จัน เชียงราย)
..
..
https://mgronline.com/goodhealth/detail/9600000130332
You Are How You Eat
“เราจะเป็นตามสิ่งที่เรากิน”
อาหาร ในความหมายทางพุทธธรรม คือ "เครื่องค้ำจุนชีวิต"
1.อาหารที่เป็นวัตถุ
ได้แก่ปัจจัยสี่ เครื่องมือ ที่ช่วยการดำรงค์ชีพ ต่อความสามารถ
2.อาหารคือ ผัสสะ ที่อบอุ่น และชอบ
3.อาหารคือ อุดมคติ
4.อาหารคือความรู้
รู้จำ รู้จริง รู้แจ้ง
รู้วิธี พาชีวิตพ้นอุปาทานที่สร้างอารมณ์ทุกข์ ถาวร
โดยปลุก สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด
ปรีชาญาณ รู้แจ้งตื่น
มาล้างขยะปรุงแต่งจิต
มาดูแล ความคิด และจิตสำนึก
เลิกสร้างอารมณ์ทุกข์ถาวร
คือ สิ่งที่ควรรู้ สาธุ
..
..
พรปีใหม่ที่แท้จริง 31/12/17
1.เอาอดีตมาถอดบทเรียน
รู้ว่าอกุศลต้องละ
กุศลต้องเจริญ
ออกจาก ความติด พยาบาท คิดเบียดเบียน ตนและชีวิตอื่น
2.มีสติรู้ตัว ปัญญารู้คิด ปรีชาญาญรู้แจ้งตืน ในปัจจุบัน...
3.คาดการณ์อนาคตได้..
เว้นในสิ่งควรเว้น
ทำในสิ่งควรทำ
วางในสิ่งควรวาง
เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
4.ไม่ประมาทใน กรรม เวลา มัจจุราช
นั่นแหละ การมีสติ ปัญญา ปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น
ใช้ชีวิตตามคัลลองกุศลธรรม มรรค วิมุติธรรม
ที่ไม่ประมาท คือพรอันประเสริฐ
ที่ตนเองทำให้ตนเองได้จริง
สาธุ
(ขอบคุณเจ้าของภาพ)
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=RCVnZkHAV5U
สวัสดีปีจอ.........1/1/18
.....................................
พรที่ ขอให้เกิดขึ้น ในใจสหายทุกท่าน
ด้วยการ
ปลุก สติรู้ตัว ทั้งสามกายตื่น
ปลุก ปัญญารู้คิด เห็นทั้งอดีต อนาคต อยู่กับปัจจุบันอย่างร่มเย็น
ปลุก ปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น
มากุมสภาพจิตปรุงแต่ง จนเลิกชงอารมณ์ทุกข์ถาวร
......................................

1.มีวิสัยทัศน์เห็น แยก ดี ชั่ว
2.เว้นในอกุศล เจริญกุศลให้ยิ่ง และทิ้งขยะปรุงแต่งจิตลง
3.อดทน เมื่อหลีกไม่ได้
4.ถ้าต้องสู้ ให้อยู่ในฝ่ายสว่าง
5.ฝึกสงบในที่สงัด สงัดจาก อกุศล ท่ามกลางความเคลื่อนไหว
6.เมื่อวางของหนัก(อุปาทาน ในตัณหา) ได้แล้ว
ต้องไม่แบกของหนักอื่น
7.ต้องชื่นชม อิ่มใจในสิ่งดีๆที่ตนเองทำ
และอย่าพึ่งเบื่อการหายใจ สนุกการความรู้ใหม่ๆ
8.แข็งแรงทุกด้าน ดีด้วยกันทุกคน
สมหวัง ในสิ่งประเสริฐทุกคนนะครับ
..
..
55555+
วิธีรับ โชค ในปีจอ 1/1/18
1.เลิก ทำปากปีจอ
ตถาคต จะกล่าวแต่ วาจาสุภาษิต
คือ จะกล่าวแต่ ความจริง
ความจริงนั้น มีประโยชน์
ไพเราะ ประกอบด้วยเมตตา
เหมาะสมกับผู้ฟัง
และตถาคต จะรู้กาละ ที่จะกล่าวและหยุด

2.เลิกทำตัวเป็นหมาขี้เรื่อน
คือ ถอนไฟ ทั้ง7ออกจากหัวใจ
ไฟราคะ
ไฟโทสะ
ไฟโมหะ
ไฟทิฐิ
ไฟมานะ
ไฟโศก
ไฟอภิสังขาร คิดปรุงแต่ง อย่างหดหู่ฟุ้งซ่าน

3.เลิกเป็นหมาหางด้วน
วันหนึ่ง เล่าปี่ พบสุมาเต็กโช ผู้ชำนาญกสินน้ำ
(สำเร็จอาโปกสิณ เพ่งให้อารมณ์สงบเย็นด้วยน้ำ)
- ปราชญ์ที่จะช่วยให้ท่านพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดินได้นั้นมี 2 คน คือ "ฮกหลง" (臥龍; Wòlóng; มังกรนิทรา–จูกัดเหลียง) กับ "ฮองซู" (鳯雛; Fèngchú; หงส์ดรุณ–บังทอง) เท่านั้น
https://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B…
ขงเบ้ง แสดงยุทธศาสตร์ว่า แผ่นดินจีนต้องแบ่งเป็นสาม
จึงจะรวมเป็นหนึ่งได้
และให้ ตะวันตก คบตะวันออกต้านเหนือ
(ก๊กเล่าปี่คบ ก๊กซุนกวน ต้านก๊กโจโฉ)
แต่สุดท้าย
"แผนการณ์เป็นเรื่องของคน
ความสำเร็จเป็นเรื่องของฟ้า
ตัดเขาไม่ขาด วาสนาเราก็สิ้น"
เป็นบทสรุปของขงเบ้ง
ในศึกสุดท้ายรบกับสุมาอี้
หลอกให้สุมาอี้ ทั้งทัพ เข้าไปในหุบเขาน้ำเต้า
และจุดไฟคลอก แต่ฝน ตกมาดับไฟ
.....สกุลสุมาอี้จึงรวมแผ่นดินจีนได้อีกครั้ง
แต่ขุนศึก ทั้งสามก๊ก ล่มสลาย

4. ไ่ม่เป็นหมาจิ้งจอก
คือ เลิกทำตัวเจ้าเลห์ นักฉวยโอกาส
เพราะ สังคมต่อไปคือ
-สังคมที่แก้ปัญหาด้วยนวัตกรรม
-สังคมซื่อสัตย์
-สังคม ที่ใช้เครดิตออนไลน์
-สังคม ที่มีคนที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพชีวิตที่ดี
.........................................

หมาหางด้วน คือ พวกสมองโตข้างเดียว
อาจฉลาด แต่ ไร้คุณธรรม
อ่านหนังสือไม่กี่เล่ม ก็นึกว่าตนเหนือคน
ความรู้มี
รู้จำ
รู้จริง
รู้แจ้ง
รู้ เร็วช้า หนักเบา
และรู้ ที่เลิกทำตัวเป็นมนุษย์เจ้าปัญหา
.......................................................

ไม่ทำตัวเป็น มนุษย์ กลายพันธุ์
ปากปีจอ
หมาขี้เรื้อน
หมาหางด้วน
หมาจิ้งจอก
ย่อมประสบพบโชคดี ตลอดปีจอแน่นอน
55555+
https://www.youtube.com/watch?v=XygHE1wO2dk
..
..
พรปีใหม่ ชุดต่อเนื่อง 55555+
๚๛ หมอแพทย์ทายว่าไข้ ...........ลมคุม
โหรว่าเคราะห์แรงรุม....................โทษให้
แม่มดว่าผีกุม...............................ทำโทษ
ปราชญ์ว่ากรรมเองไซร้.................ก่อสร้างมาเอง ๛๚.
โลกนิติ
....................................

ความสำเร็จ ของชีวิต
ในพุทธศาสนา เป็นเรื่องประจักษ์นิยม
"กรรมลิขิต"
ไม่อ้างเรื่องผู้มีฤทธิบันดาล กรรมข้ามชาติ เหตุบังเอิญ
แต่เจตนาสี่มีผลต่อชีวิต รับรู้ด้วยตนเองคือ

1.เจตนา วาสนาบุพการีหนุนส่ง
พลังขับเคลื่อนชีวิต ดุจรวดสี่ท่อน
ส่งตัว ออกจากแรงโน้มถ่วงโลก
บุพการี เสมือนจรวดท่อนใหญ่แรกสุด
หากบุพการี สะสม ทรัพย์ ความรู้ คู่คุณธรรม
อบรมสั่งสอนมาดี ลูกก็ประสบความสำเร็จได้ง่าย กว่า
แต่บางคนเลี้ยงลูกเป็นเทวดา ไม่อบรบลูกให้เป็นมนุษย์โส
กลายเป็นมนุษย์ยะโส เทวดาบ๊องส์ๆ
ใช้ชีวิตแบบ ห่าม เหิม
หมดบุญ บุพการี ก็กลายเป็นเทวดา ตกสวรรค์ไม่น้อย

2.เจตนา จากพันธุกรรม
พันธุกรรม ที่ มีความขยัน อดทน ใฝ่รู้ กตัญญู
ไปอยู่ที่ไหน ก็มีโอกาสตั้งตัว อยู่ร่วม กับ สังคมอย่างมีความสุข
ใครจะมีคู่ อยากมี อภิชาติบุตร ต้องดู ว่า
สกุลนี้ เป็นกตัญญู หรือ เนรคุณชน ด้วยนะครับ
อย่าให้ความหน้ามืด นำทางชีวิต 55555+

3.เจตนาของ สิ่งแวดล้อม
ดินฟ้าอากาศ ภูมิประเทศ วัฒนธรรม อาหารที่กิน คนที่คบหา
มีผลต่อชีวิตเช่นกัน
4.เจตนา และวิธีคิด ของแต่ละคน
เจตนา ละชั่ว ทำดี ไม่ติด ในความดี
ดีต่อชีวิตแน่นอน
....................................

ความสำเร็จ จากสุภาษิตจีน
"อยู่ถูกที่
คบถูกคน
ตัดสินใจถูกเวลา
ฟ้าเป็นใจ"
.................................

ความสำเร็จทั้งโลก ธรรม แบบพุทธะ
“จักขุมา-วิธูโร-นิสสยสัมปันโน”
1.จักขุมา คือ มีวิสัยทัศน์ เห็นแต่ต้น จนจบ
เห็นเหตุ เจริญ เสื่อม ดับ แยกดี ชั่วเป็น
2.วิธุโร
บริหารจัดการแบบโปร่งใส
ถ้าทำธุระกิจ ก็ต้องซื่อตรง
และแบ่งผลประโยชน์แบบเที่ยงธรรม
3.นิสสยสัมปันโน
มีนิสัยดี จนไม่ขาดผู้อุปถัมภ์
ใครทำตัวเป็น วิญญูชน มีมารยาทสากล
ไม่ทำทำตัวเป็นมนุษย์เจ้าปัญหา
ราชาอารมณ์ขัน ไม่เจ้าเล่ห์ อกตัญญุ
พึ่งพาได้
สังคมไหนก็ ยินดีช่วย ยกเว้นพาลชน
.........................................
ขอบคุณเจ้าของภาพ ผู้อ่าน สาธุ
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=0KQiFacj_I8
............................................
Baraka พรลึกลับจากสวรรค์ เป็นภาษาเปอร์เขีย
สารคดี มองโลก กิจวัตรประจำวัน ของชาวโลก
โดยไม่มีการบรรยาย เป็นคำพูด
ที่ดีไม่เป็นที่สองรองใคร
ที่ควรชมช้าๆ และบ่อยๆ
เราจะได้ฉุกใจคิด
ไม่ติดในตำรา บางเล่ม
และเอามาจูงจมูกตนเอง 55555+
..............................................
1."ความมืดสีขาว".....(เซ็น)
สิ่งที่เราไม่เห็นประโยชน์
ไช่ว่าไม่มีประโยชน์เพียงแต่เรายัง
มีสติรู้ตัว
ปัญญารู้คิด
ปรีชาญาณฉลาดเลือก
ยังไม่ Mature
2.จึงหยั่งไม่ถึง
กฎธรรมชาติ
กฎวิวัฒนาการของธรรมชาติ
กฎปฏิกริยาลูกโซ่
กฎแห่งกรรม
กฎไตรลักษ์ทำงาน ตลอดเวลา
3.แต่อายตนะเราไม่ได้ออกแบบให้รู้
ออกแบบรับคลื่นแต่ละความถี่
มาประเมิน ประมวลผล และตัดสินใจ
สร้างตัวตนใหม่ภายในเป็นบุคลิกภาพใหม่(กรัชกาย)
แผ่ออกครอบคลุม สรีระกาย ให้ทำงาน
เท่าที่จำเป็นต่อการอยู่ร่วม อยู่รอด
และเรียนรู้ เพื่อปรับตัว
4.เราจะรู้จาก ฝึกฝน
การใช้เหตุผล ร่วมกับจินตนาการ
การคำนวนซับซ้อน
หรือมีเครื่องมือที่เหมาะสม.....
จากนวัตกรรม
5.อย่าพึงเบื่อหายใจเด้อ
ถนอมน้ำใจมิตรภาพ
สนุกกับการเรียนรู้ใหม่ๆ
ไม่ประมาทใน กรรม เวลา มัจุราช ที่ไม่เคยคอยใคร
มนุษย์ใหญ่แค่ไหน
ฉลาดแค่ไหน ก็อยู่ใต้กฎธรรมชาติ
เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ
และเล็กกว่าโลงศพเสมอ
55555+
มุมกาแฟ วันใหม่ 3/12/17
..
..
https://www.dailymotion.com/video/xvo1ms
พุทธศาสนา เป็นเรื่องประจักษ์นิยม
เป็น"วิชชา" หรือแสงสว่างแห่งสติปัญญาที่ตื่นแล้ว
"จำเดิมตถาคต ก็กล่าวเรื่องทุกข์ และดับเหตุไม่เหลือแห่งทุกข์"
การฝึกฝน ในพุทธศาสนา ก็เพื่อ
พ้นอุปาทานทุกข์ ด้วยตนเอง เมื่อชีวิตเลิก

1.เอาตนเองเป็นศูนย์กลางทุกเรื่อง
2.เอาทฤษฎีที่ชอบ แก้ปัญหาทุกเรื่อง
3.เอาวิถีชีวิตที่ตนชอบ ไปครอบงำผู้อื่น
4.เอาของรักของชอบ มาจูงจมูกตนเอง
และ สติรู้ตัว
ปัญญารู้คิด
ปรีชาญาณฉลาดเลือก
จะตื่น มากุมสภาพจิตปรุงแต่ง
ไม่ให้สร้างอารมณ์ทุกข์ถาวร
ส่วนชีวิตที่ถึงจุด สงบร่มเย็น เบิกบานมั่นคง
ที่ตนเองจะรู้ด้วยตนเอง
และเปิดโอกาสให้ สมอง ทำงาน โดยไม่มี อารมณ์
มาชักชีวิตให้เป๋ และ เป็นวิญญูชน ที่มีมารยาทสากล
.....................................................

เรื่องที่เราศึกษาต่อไป คือ"วิชา"
คือความรู้ ในแนว ฟิสิกส์ และ เทวะวิทยา
คลิปนี้ คือ อภิปรัชญา
คือปัญญาที่เข้าถึง โดยเหตุผล และ จินตนาการ
ไม่เกี่ยวกับการชนะ อารมณ์ทุกข์ในตนเองครับผม
....................................................
ชีวิต ต้องเรียนรู้ทั้ง "วิชชา" และ"วิชา"..สาธุ อาเมน
..
..

Philosophy and healthy ปรัชญา และสุขภาพดี
G+ communities คนรัก รักษ์ ปัญญา สุขภาพ กีฬา และจักรยาน
สุขภาพดี คือลาภอันประเสริฐ ที่เราทำได้เอง

Suraphol KruasuwanOWNER
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2018, 03:26:36 pm »



https://www.youtube.com/watch?v=FZNqs0YgWkM
Lord of The Rings - The Hobbit (Piano/Cello Cover) - ThePianoGuys
มุมกาแฟเช้า..2.//20/12/17

1.อำนาจ มักหลอกใช้ ผู้ที่คิดว่า ตนมีอำนาจ
.................................................
2.กฎของสิ่งมีชีวิต คือ กิน และหลีกเลี่ยงการถูกกิน
โปรแกรมภายในที่ กิน จิตวิญญาณของเรา
และกระชากให้ตกต่ำ สู่ภูมิ ที่ต่ำกว่ามาตราฐานมนุษย์
คือ อุปาทานสี่ และทางสู่อบายภูมิสี่
................................................

3.บุคลิกภาพ ที่ต่ำกว่า มาตราฐานมนุษย์ สี่
-เปรต...........เป็นทาส ความโลภ อิจฉา บ้าอำนาจ ฉลาดโกง
-เดียรัจฉาน...เอาความโกธร เป็นเจ้านายตนเอง
-อสุรกาย......เอาความกลัว แอบจิตคิดทำร้าย ขางหลัง เป็นสารณะ
-สัตว์นรก.....ตกเป็นทาส ความคิดแบบ ฟุ่งซ่าน ยำคิด ยำทำ ย้ำแค้น และจมใน อารมณ์ทุกข์
..............................................

จิตวิญญาณเราจะตกต่ำเมื่อ
ความคิดปรุงแต่งสร้างอารมณ์
สวมบุคลิกภาพภายใน(กรัชกาย)
เปรต เดียรัจฉาน อสุรกาย สัตว์นรกคือ
อุปาทานสี่
1.เอาตนเอง เป็นศูนย์กลางทุกเรื่อง
2.เอาปรัชญา ที่ตนชอบ เชื่อ ตัดสินทุกเรื่อง
3.เอาวิถีชีวิตที่ตนชอบ ไปครอบงำผู้อื่น
4.เอาของรัก ของชอบจูงจมูก ตนเอง
.................................................

วิธีที่จะยกระดับ ภูมิจิต ภูมิธรรม ภูมิปัญญา ให้ยิ่ง
สมกับเป็นมนุษย์คือ ฝึกตน
1.ฝึกละตัวตนที่ชั่ว และดึงในเราตกต่ำ กว่าความเป็นมนุษย์
2.ฝึก สร้างสรร ตัวตน ที่ฉลาดในทางดี ให้แข็งแรงมีพลัง
3.ฝึกปลุก สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด ปรีชาญาณรู้แจ้งตื่น
มาล้างขยะ ปรุงแต่งจิต ให้สิ้น
ใช้ชีวิตแบบ วิญญูชน มีมารยาทสากล
ใฝ่รู้ ใฝ่ดี และเคารพ มิตรภาพ และ รักษ์ธรรมชาติ
ให้งดงาม เป็นสวนสวรรค์บนดิน ให้คนรุ่นต่อไป
............................................

แข็งแรงทุกด้าน ดีด้วยกันทุกคน
สมหวังในสิ่งประเสริฐนะครับ
ขอบคุณเจ้าของภาพ เพลง ผู้อ่าน สาธุ
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=Y6kvDuL9jcM
เราคือธรรมชาติ ท่านก็เช่นกัน
We are nature You too
ขอบคุณเจ้าของภาพ เพลง
สมหวังในสิ่งประเสริฐทุกท่าน
..
..
https://youtu.be/24d9sbl92Io
วิชาชีววิทยา - กลไกการสร้าง และการทำงานของแอนติบอดี
สามนิสัยที่ดีต่อชีวิตที่มีชีวา
1.ไม่เบื่อการหายใจ
2.ถนอมน้ำใจ แะเคารพในมิตรภาพ
3.สนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
..
..
ธรรมสวัสดิ์ เช้า 22/12/17
"จำเดิม ตถาคตก็ตรัสเรื่องทุกข์ และการดับเหตุทุกข์"
พระพุทธเจ้า แยกความทุกข์เป็น สามกลุ่ม 10ประการ
1.สภาวะทุกข์
คือสภาพธรรมชาติ ที่ เกิดขึ้น แปรปรวรท่ามกลาง
เสื่อมสลายในที่สุด
ให้ฝึกทำใจยอมรับ ในความไม่เที่ยง ไม่ทน ไม่แท้
2.เวทนาทุกข์
ฝึกอดทน มากกว่า คนทั่วไป
3.อารมณ์ทุกข์
เป็นสังขารธรรม คือสิ่งปรุงแต่ง
ให้ฝึก เลิกปรุงแต่ง อารมณ์ทุกข์ด้วยการ
ปลุกปรีชาญาณฉลาดเลือก(Wisdom) ให้ตื่น รู้เบิกบาน
สงบ มั่นคงเย็น เหนือ ของคู่โลก คือ ทุกข์ สุข ดี ชั่ว ชอบ ชัง
ด้วยการฝึก สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด
เคารพ กฎ กติกามารยาท ของธรรมชาติ
และ เอาอดีต มาถอดบทเรียน ล้างขยะปรุงแต่งจิต
ที่เคย หลง ติด พยาบาท เบียดเบียน ให้สิ้นซาก
............................................

ความทุกข์ 10 ประการ
1. สภาวทุกข์
ทุกข์ประจำสังขาร
คือ เกิด แก่ เจ็บ และตาย(เป็นเรื่องธรรมดา)

2. ปกิณณกทุกข์
ทุกข์จร คือ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส
(ปรุงจิตให้ชิวๆ มองโลกแบบขำขัน ก็เบาเยอะ)

3. นิพัทธทุกข์
ทุกข์อันเนืองนิตย์ คือ หนาว ร้อน หิว กระหาย ปวดอุจจาระ ปัสสาวะ
(ก็ต้องอดทน ฝึกฝน ให้ร่างกายแข็งแรงสุขภาพดีสมวัย)

4. พยาธิทุกข์
ทุกข์เพราะโรคต่าง ๆ
(ใช้ชีวิตแบบ อานามัยดี สิ่งแวดล้อมช่วยกันรักษ์
ให้ความรู้ดูแลสุขภาพ ตนเองแก่ คนในสังคม )

5. สัตาปทุกข์
ทุกข์เกิดจากกิเลส คือ โลภ โกรธ และหลง
(ลดละเลิก ด้วยการกำหนดรู้ หายใจทิ้งเสีย)

6. วิปากทุกข์
ทุกข์เกิดจากกรรมเก่าตามมาให้ผล
(ก็อโหสิกรรมให้ความไม่รู้ อวิชชาของตน และผู้อื่น)

7. สหคตทุกข์
( วิปริณามทุกข์ )
ทุกข์เกิดจากโลกธรรม 8
(คนเราเท่าเทียมในความเป็นมนุษย์
ไม่เท่าเทียมความสามารถโอกาส
สุขจากการ อยู่รอด อยู่ร่วม แข่งขัน แบ่งปัน
อิ่มใจทุกขณะจิต"สันโดษ")

8. อาหารปริเยฎฐิทุกข์
ทุกข์เกิดจากการหาอาหาร
(แสวงหา ผลประโยชน์ ในอาชีพสุจริต
ไม่เป็นภัยสังคม ด้วยความเป็นธรรม
มีวิสัยทัศน์ บริหารจัดการ เป็นธรรม
สร้างนิสัยดี จนไม่ขาดผู้อุปถัมภ์)

9. วิวาทมูลกทุกข์
ทุกข์เกิดจากการทะเลาะวิวาท
(ระวัง มนุษย์ย่อมหวงถิ่น
ผลประโยชน์ ชาติพันธุ์
วัฒนธรรม ความรู้
การเจรจาแบ่งปันแบบมิตร
รับฟังอย่างเป็นมิตร คือสำเร็จ)

10. ทุกขขันธ์
ทุกข์รวบยอด
คือความยึดมั่นในขันธ์ 5
ว่าเป็นเราของเราอย่างแท้จริง
(ต้องหัดปรุงแต่ง ความคิด
พลิกอารมณ์
เอาบทเรียนมาถอด บทเรียน
สร้างทางใหม่ ที่ดีกว่า
ทุกข์น้อยกว่า )
..................................

1.ต้องมีวิสัยทัศน์เห็น
ว่าอะไรคืออกุศลที่ควรละ
อะไรเป็นกุศลที่ควรเจริญ
อะไร เป็น คนร้าย สัตว์ร้าย
ลัทธิชั่วร้าย สถานที่อโคจร และ เว้น
2.เว้นในสิ่งที่ควรเว้น
3.อดทน ในสิ่งที่ต้องอดทน
หากหลีกไม่พ้น
4.ดำรงตนในทางสว่าง
5.ใช้ชีวิต แบบ มีสติ สงบ สันโดษ สมถะ
6.ฝึกปลุก สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด ปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่นๆ
มาล้างขยะปรุงแต่งจิต เลิกเป็ทาส สุขมาล่อ ทุกข์มาไล่
7.แบกก็หนัก วางก็เบา ไม่เอา ก็หลุด
หลุดพ้นแล้ว ก็ไม่ไปแบกของหนักใหม่ อีกต่อไป
สาธุ
....................................

//-ชนะเพราะ................พวก
สะดวกเพราะ................เงิน
เพลินเพราะมี................วิชชา(สติปัญญาส่องดูใจตน) วิชา รอบรู้ทันกาล
ฟ้า..............................เป็นใจ(ถูกที่ถูกเวลา ถูกคน สร้างกุศลมานานพอ)
...............................

"ถ้าเราคิดว่าเราลำบาก ให้แผ่เมตตา
แก่คนที่ด้อยโอกาส กว่าเรา"
ขอบคุณเจ้าของภาพ ข้อธรรมที่ถอดระหัสมา และผู้อ่าน
แข็งแรง ทุกด้าน ดีด้วยกันทุกคน สมหวังในสิ่งประเสริฐครับผม
..
..


https://www.youtube.com/watch?v=Nd5-KYsoRTo
1.อยากให้ ความรักแก่คนทั้งโลก
มุมกาแฟ ยังไม่สว่าง 22/12/17 ...4.30
.....................................
2."เมื่อเราเกิด ยังไม่มีระบบสุริยจักรวาล
เมื่อเราดับ สุริยะจักรวาล สูญสิ้นไปนานแล้ว
ในท่ามกลางไฟ ที่มนุษย์ช่วยกันจุดเผาโลก
ไฟราคะ
ไฟโทสะ
ไฟโมหะ
ไฟทิฐิ
ไฟมานะ
ไฟโศกะ
ไฟ อภิสังขาร (คิดปรุงแต่ง แบบ หดหู่ ฟุ้งซ่าน)
..........................................

3.โลก...คือยานอวกาศแสนมหัศจรรย์
ที่มีระบบชีวาลัย เปราะบาง
เราก็ยังมีความหวังเล็กๆว่า
พวกเขาจะปลุก ปรีชาญาณฉลาดเลือก ในตนให้ตื่น
มาดูแลโลก ให้เป็นสวนสวรรค์ ตราบนานเท่านาน"
......................................

4.แค่ฝันไป ในคืนที่หนาว
และคิดถึงคนที่หนาวกว่าเรา
ขอบคุณเจ้าของภาพ
และผู้อ่าน
สมหวังในสิ่งประเสริฐนะครับ
..
..

Philosophy and healthy ปรัชญา และสุขภาพดี
G+ communities คนรัก รักษ์ ปัญญา สุขภาพ กีฬา และจักรยาน
สุขภาพดี คือลาภอันประเสริฐ ที่เราทำได้เอง

Suraphol KruasuwanOWNER
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2018, 03:18:30 pm »



ธรรมสวัสดิ์ 17/12/17
เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน
55555+
สิ่งที่เราคิด อาจไม่ใช่ความจริง
เห็น สิ่งนี้โบยบิน ไปเกาะตาข่าย
"ผีเสื้อแน่ๆ"
รีบซูมกล้อง กดซัดเตอร์
อ้าว....ใบไม้แห้ง ปลิวมากับลมหมุนๆ มาติดตาข่าย
............................................

ความคิดฆ่าเราได้
พอๆกับการติดเชื้อโรค
และเป็นทาสกระแสโลก
โดยเฉพาะ กระแส ชวนกัน ไปแย่งมูลค่าส่วนเกิน
แทนที่จะมีสุขกับวิถีชีวิตแบบยังชีพ
............................................

วิทยาศาสตร์พันธุ์กรรม
ศึกษา เรื่อง"คู่แฝด" ที่เกิดจากไข่ใบเดียวกัน
ทั้งที่ยีนส์เหมือนกัน แต่ การเปลี่ยนแปลง
ทางร่างกายต่างกัน โรคต่างกัน อายุขัยก็ต่างกัน
พุทธธรรม บอกไว้ เจตนาสี่ ควบคุมชีวิตเรา
1.เจตนา บุพการี
2.เจตนาของกรรมพันธุ์
3.เจตนา ของสิ่งแวดล้อม
4.เจตนา ที่เกิดจาก ความคิดของเราเอง
.................................................

นักพันธุ์ศาสาตร์
ได้ค้นพบว่า ในระดับแผนที่พันธุ์กรรม
มีโปรตีน ที่ทำหน้าที่ เหมือนวาทยากร
ควบคุมวง ออเคสตร้า เล่นเพลง
ที่จะ สั่งไม่ให้ยีนส์นั้นทำงาน หรือส่งเสริม หรือปิดถาวร
และโปรตีนนี้ นอกจาก อ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อม
ยัง เป็นไปตาม"ความคิด"
ดังนั้น
คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปในที่ดีๆ
และระลึกแต่สิ่งดีๆที่เราทำ
ที่หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ พยายามบอก เทศน์
ช่วงปลายชีวิตของท่าน เป็นเรื่องจริง
มีหลักการวิทยาศสาตร์รับรองแล้ว
.................................................................

นึกถึง สหายอีกคน ที่พึ่งจากไป ในวัย46
เกิดจาก อาการคันเร่งค้าง
เป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียน และขยัน
ส่วนเสียก็คือ ชอบด่า
เกิดมาคงไม่รู้ว่า ความถูกใจ ใน
ความจริง ดี งาม จากใจเรา แผ่สู่โลก
เป็นความสุขที่แท้จริง
ด่าได้ ตั้งแต่ รัฐบาล คนในบ้าน หมา แมว นก
จน ฟ้าอากาศ
ปู่ฯเคยเตือน ว่า
"โลกเป็นเช่นโลกเป็น โลกไม่ตามใจใคร"
ก็เบาสักพัก ก็ออกอาการเดิม อีก
เส้นเลือดในสมองแตก...กลับสู่ธุลีดิน
..........................................................

วิธี คิดให้เป็นระบบ ในพุทธธรรม ต้องฝึก
1.คิดจากเหตุ...........ไปหาผล
2.คิดจากผล.............กลับไปหาเหตุ
3.คิดถึง....................กฎปฏิกริยาลูกโซ่
4.คิดเห็นว่า...............อะไรจุดประกายให้เกิด
5.คิดเห็นว่า...............อะไรส่งเสริมให้เจริญ
6.คิดเห็นว่า...............อะไรตัดรอนให้เสื่อม
7.คิดเห็นว่า...............อะไรตัดขาด ให้ดับ
8.คิดแบบ..................มองภาพแบบองค์รวม
9.คิดแบบ..................แยกแยะองค์ประกอบ แยกส่วน
10คิดรู้ว่า...................อะไรเป็นไปได้ อะไรเป็นแค่ จินตนาการฯ
..........................................................

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน ใครไม่ฉุกใจคิด
เอาไปฝึกตน เปลี่ยนตนเอง
ให้เป็นวิญญูชน ที่มีมารยาทสากล และเย็น มีจิตเอื้อเฟื้อ
ไม่ได้แช่งนะ
ยังไม่สิ้นวิบากรรม สหายเอ๋ย 55555+
http://www.thaibiotech.info/what-is-regulator-gene.php
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=dgxNPkJMHF4
"ตถาคต ขอบัญญัติ ว่า
ร่างกาย กว้างศอก ยาววา มีสัญญา และใจครอง
เป็นโลกหนึ่ง คือ สังขารโลก"
โลก ที่ควรรู้จักในพุทธธรรม มีสามโลก

1.โอกาสโลก
โลกอันว่าลอยอยู่ในอวากาศ
หมายถึง จักรวาล และ ระบบชีวาลัย
ที่มีสิ่งแวดล้อมจำเพาะ เหมาะแก่ชีวิต ที่จะอาศัย
 คือโลกของเรา

2.สัตว์โลก
คือสังคม สิ่งมีชีวิต และสังคมมนุษย์
ที่ ทุกชีวิต ที่มีภูมิจิต ภูมิธรรม ภูมิปัญญา ต่างกัน
ต้องมาอาศัยด้วยกัน จิตเอื้อเฟื้อ อภัยในความไม่รู้ เป็นสิ่งดี

3.สังขารโลก
คือระบบคอมพิวเตอร์ชีวะภาพ
(ขันธุ์ห้า)
ที่ประกอบเป็นตัวเรา
ที่เราควรรู้จัก ทั้งสามมิติ
1.-สรีระกาย กายหยาบ
2.-กายสังขาร กายละเอียดปานกลาง
คือ ลมหายใจ
3.-กรัชกาย กายบุคลิกภาพ
ที่ความคิด ปรุงจิตสำนึก
ให้เป็นตัวตน มาปกครองกายหยาบ

ทั้งสามกาย ต้องฝึก
-ปลุกสติรู้ตัว มาดู
-ปลุกปัญญาฉลาดคิด มารักษาไม่ให้ทุกข์เกิด
เมื่อทุกข์เกิด ก็กำหนดรู้ แล้วละเหตุให้สิ้น
-ปลุกปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น
มากุมสภาพ จิตปรุงแต่ง
ล้างขยะปรุงแต่ง ความคิด อารมณ์
จนไม่เป็นทาส ทุกข์ สุข แต่สงบ ร่มเย็น เบิกบาน ถาวร
.................................................

จักรวาลแห่งการปรุงแต่งชีวิต
ตับเป็นนิคมอุตสาหกรรมเคมี ของร่างกาย
และเป็นธนาคาร เก็บ สารจำเป็น ให้แก่ชีวิต
และ กำจัดสารพิษ ให้แก่ร่างกาย
และไม่ควรเติมสารพิษ ให้แก่ชีวิต
ด้วย อาหาร ความคิดอารมณ์ ที่เป็นพิษ
และพักผ่อนให้เพียงพอ ให้ตับฟื้นตัว
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=z8mmXAyOysQ
"แผนการณ์.......เป็นเรื่องของคน
ความสำเร็จ......เป็นเรื่องของฟ้า
ตัดเขาไม่ขาด...วาสนา เราก็สิ้นฯ"(ขงเบ้ง)
.....................................
ขงเบ้งวางแผน
1.ปล้นสะเบียง สุมาอี้
2.แกล้งเอาสะเบียงไปซ่อน ในหุบเขาน้ำเต้า อันแห้งแล้ง
3.ฝังระเบิดเพลิงไว้
4.ล่อให้สุมาอี้ และบุตร ตามมาเจอ
5.และจุดไฟเผา กันทางออก ยิงธนูเพลิงให้ ระเบิดทำงาน
6.ทุกอย่าง เป็นไปตามคาด
7.สวรรค์ตัดสิน ให้ สกุลสุมาอี้ รวมแผ่นดินจีนได้
ฝนตกลงมาดับไฟ
8.ขงเบ้งถอยทัพ และสิ้นใจ ในระหว่างเดินทางกลับ
..................................
เตือนสติ พวกเจ้าคิด เจ้าแค้น เจ้าแผนการ เจ้ากลศึก
คิดล้างเขา วาสนา ก็สิ้น
ต้องกลาย เป็น กระสือ กระหัง จบชีวิต ในฮ่องกง เด้อ
....................................
"อัน ทรัพย์ อำนาจ ..........วาสนา
ดุจเมฆา..........................คราหน้าฝน
เชือกผูก..........................ไม่ได้
รั้งไว้................................ไม่อยู่
หมดฤดู............................ก็จากไปฯ"
(สุภาษิตจีน
..
..
มนุษย์รู้จักธรรมชาติ ผ่าน
ความรู้ ที่เป็นเหตุผล และจินตนาการ
และส่งทอดความรู้ ด้วยการสื่อสาร ของวัฒนธรรมสังคม
.......................................
ต่อเติมด้วย ความสามารถของ คอมพิวเตอร์
ที่พัฒนาการ ตามกฎนวัตกรรม
ทุกนวัตกรรม จะ พัฒนาการดีกว่าเดิม สองเท่า ในหนึ่งปี
....................................
มองท้องฟ้า ในเดือนมกราคม 2018
กับกลุ่มดาวต่างๆ
และเทพนิยายกรีก....
ขอบคุณครับ Thanks
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=6Dakd7EIgBE
Let It Go (Disney's "Frozen") Vivaldi's Winter - The Piano Guys
มุมกาแฟ วันใหม่ 20/12/17
"สิงใดที่เราไม่เห็นคุณค่า
เพราะ กุญแจความรู้
และสติปัญญาเราเอง
ยังหยั่งไม่ถึง"
(จำมาเล่าสู่กันครับ)
..............................................

ความรู้ ไขความรู้
ถ้าเราไม่รู้จัก ตัวอักษรไทย และการผสมอักษรไทย
วันนี้ เราคง ไม่ได้มาคุยกัน ใน
โปรแกรม โลกออนไลน์ ชื่อ เฟซบุ๊ค แน่นอน 55555+
...........................................

1.มหัศจรรย์แห่งการหายใจ
ลมหายใจ เป็นกายละเอียดปานกลาง
ที่ทำงานร่วมกับ กายหยาบ หรือ สรีระกาย
คนโบราณรู้ว่า สติติดตามลมหายใจ
ทำให้เรา เห็นกรัชกาย กายที่ละเอียด
ปรากฎการณ์ สร้างจิตสำนึก
ที่ ความคิด อารมณ์ อุดมการณ์ ความรู้ ความอยาก
สัญชาติญาณชีวิต ปรุงแต่ง

2.เมื่อเห็น รู้วัตถุที่มาปรุงแต่ง
ก็ชำระวัตถุดิบนั้น ด้วย
ความจริง ดี งาม สุข สนุก กับความรู้ใหม่ แบบวิญญูชน
ชีวิตที่เหลือ ก็จะเป็นกำไรชีวิต
เพราะ ในโลก มีไม่กี่คน
ที่ชนะจิตปรุงแต่งตนเอง(อธิจิต)
ที่ความคิด
อารมณ์ของตนเอง กุมสภาพชีวิตตนเองได้

3.กระแสมูลค่าเพิ่ม
จากความผันแปร เศรษฐกิจเหมือนมังกร
มังกรนั้นดั้นเมฆ เราไม่อาจเห็นทั้งตัว
แต่ถ้าเรารู้ว่า มังกรจะไปโผล่ที่ไหน
และหาวิธีขี่ มังกรก็จะเสริม
ความรู้ ความสามารถของเรา
ให้เป็นประโยชน์ และประหยัดเวลา
(เติ้งเสี่ยวผิง)

4.การใช้ชีวิตในโลก มีห้าแบบ
-แบบยังชีพ
-แบบแข่งขัน แย่งชิง โชว์กระแสมูลค่าเพิ่ม
-แบบ แสวงหากำไรชีวิต แบบวิญญูชน ที่มีมารยาทสากล
-แบบ"ผู้ดู" เหมือนนกฮูก ที่เห็นร่องรอยหนู ในทุ่งคืนไร้แสง
......เลือกอย่างไร ให้เหมาะสมกับ ตนเอง..คือ บรมสุข
55555+
ขอบคุณเจ้าของภาพ คลิปเพลง
..
..

Philosophy and healthy ปรัชญา และสุขภาพดี
G+ communities คนรัก รักษ์ ปัญญา สุขภาพ กีฬา และจักรยาน
สุขภาพดี คือลาภอันประเสริฐ ที่เราทำได้เอง

Suraphol KruasuwanOWNER
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2018, 02:38:55 pm »



มุมกาแฟ เช้า 14/12/17
กฎปฏิกิริยาลูกโซ่ (ปฏิจจสมุปบาท)
1.เพราะสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
2.วิสัยทัศน์ เกิดขึ้นกับเรา
3.ความรู้ใหม่เกิดขึ้นแก่เรา
4.ปัญญาเกิดขึ้นแก่เรา
5.สติตัวรู้ทันการปรุงแต่งความคิด เกิดขึ้นกับเรา
5.แสงสว่าง เกิดขึ้นแก่เราว่า
6.ทุกข์.............................................ต้องกำหนดรู้
7.เหตุปรุงแต่งทุกข์............................ต้องละ
8.ผลของการดับไม่เหลือเหตุทุกข์.......ต้องเป็นประสบการณ์ตรง
9.การฝึกฝน สู่การดับไม่เหลือเหตุทุกข์.ต้องเจริญให้ยิ่ง
(ถอดระหัส พุทธอุทาน วันตรัสรู้ธรรม)
...................................

สติรู้ตัว ปัญญารู้แจ้ง ต้องรีบปลุกให้ตื่น
จะเห็น ปฏิกิริยาลูกโซ่ ภายในตนเอง
ความคิด........สร้างบุคลิกภาพภายใน เปลี่ยน จิต กายได้
ความคิด........ที่เป็นกุศล สงบเย็น และสุข จากจิตเอื้อเฟื้อ
จึงเป็นต้นทาง สู่ทางสว่าง ชีวิต
คือชนะ สามทุกข์ในตัวเรา

1.ชนะสภาวะทุกข์
ด้วยการฝึกทำใจรับสภาพ
ความไม่เที่ยง ไม่ทน ไม่แท้ ที่ควบคุมสภาวะธรรม

2.ชนะเวทนาทุกข์
ด้วยการฝึกอดทนพันเท่า

3.ชนะอารมณ์ทุกข์
ด้วยปลุก สัมมาสติ โพธิปัญญาตื่น
มากุม ความคิด รู้ทันจิตปรุงแต่ง
ถอน ขยะปรุงแต่งจิตทิ้งออกไปจากความทรงจำ
จนไม่เหลือเชื้อ เหตุทุกข์
มาปรุงแต่ง อารมณ์ทุกข์มาไล่ สุขมาล่อได้ถาวร
นอกจากคุณยังไม่หมดวิบากกรรม 55555+
ขอบคุณเจ้าของภาพ ครับผม
..
..
มุมกาแฟยามเช้า 15/12/17
โลกคือ สถานีขนส่ง
ทุกภูมิจิต
ภูมิธรรม
ภูมิปัญญา
มาเจอกันบนโลกนี้
มาสว่าง
ก็ให้อยู่อย่างสว่าง
และกลับไปสู่แสงสว่าง
สาธุ อาเมน

สว่างคือ มีวิสัยทัศน์ ที่ให้คุณ
เป็นวิญญูชน ที่มีมารยาทสากล
เจริญกุศล และไม่แบกกุศล
นั้น ว่า เป็น ตน ของตน
สาธุ
..
..
ธรรมสวัสดิ์ 15/12/17
ในยุคพุทธกาล มีสองลัทธิปรัชญาที่ครองใจคนยุคนั้น
1.อัตตา
คือ จิตเป็นชีวิตแท้ ร่างกายตาย จิตยังอยู่
2.นิรัตตา
ร่างกายคือชีวิตแท้ ร่างกายตาย จิตก็ดับสูญ
.................................

พระพุทธเจ้า ใช้ชีวิตทดลองทั้งสองวิธี
เริ่มจาก
นิรัตตา คือ สุขแบบวัตถุนิยม
และเมื่อไปเห็น ความแก่ เจ็บตาย และเกิด
ก็มีคำถามว่า
"จะออกจากความทุกข์ ได้อย่างไร?"
และ ไปใช้ชีวิตแบบสมณะ
(ผู้เห็นคุณค่าความสงบ สันโดษ สมถะ)
และ ได้รับการสั่งสอน
ตามความเชื่อ อัตตา
ร่างกาย คือกรงขังจิตวิญญาณ
ต้องฝึกฝน ไม่ให้ยึดติด ในร่างกายนั้น
จะได้ปลดปล่อยวิญญาณ สู่แดนที่ไม่มีความทุกข์

วันหนึ่ง รอดชีวิต จาก สลบ
เพราะร่างกายขาดอาหาร สะสม มาุ6.ปี
มีคนเลี้ยงแพะมาพบ เอานมแพะ ค่อยๆป้อน
และได้ยิน ครูสอนดนตรี บอกศิษย์ว่า
ขึงสายพิณ ตึงก็ขาด หย่อน
ก็จะเล่นเพลงไม่ไพเราะ
จึง มีวิสัยทัศน์ว่า
"กาย กับ จิต ต่างมีความสำคัญ"
ปัญญาจะเกิด เห็นทางสว่าง ต้องดูแล
"กาย และจิตที่ฝึกดีแล้ว นำสุขมาให้"
จึงเริ่มมาดูแลกาย จิต
และใช้ สติ ปัญญา แอบมองดูธรรมชาติ

จึงได้คำตอบว่า
ธรรมธาตุ (ธรรมชาติ)
ธรรมฐิติ (กฎของธรรมชาติ)
ธรรมนิยาม(กฎวิวัฒนาการของธรรมชาติ)
ปฏิจจสมุทปบาท(กฎปฏิกริยาลูกโซ่)
ทำงานไป ตามหน้าที่
ไม่ได้ สนใจ ทุกข์ สุขมนุษย์
มนุษย์ตากหาก ไป ยึดมั่น ถือมั่น ว่า
กาย จิต เป็น ตน ของตน
 แล้ว ปรุงแต่งความคิด
เกิดเป็นอุปาทานทุกข์
และทุกข์ซ้ำซาก

เพราะขาดสติปัญญา ที่ถูกปลุก ถูกฝึก
มากุมสภาพ จิตปรุงแต่ง
ธรรมชาติใหญ่กว่า กายและจิต
...................................

และทรงยกแยะ ความทุกข์เป็นสาม
 และคิดวิธี อยู่ร่วม
1.สภาวะทุกข์
คือปรากฎการณ์ ของทุกธรรมชาติ
จะอยู่ใต้กฎ ความไม่เที่ยง ไม่แท้ ไม่ทน เป็นปฏิกริยาลูกโซ่
ต้องฝึกทำใจรับสภาพ
เกิด แก่ เจ็บตาย เป็นธรรมดา
ดินฟ้าอากาศแปรปรวน ก็เป็นธรรมดา
สังคม สวมหัวโขนแล้วแย่งชิงกัน ก็เป็นธรรมดา

2.เวทนาทุกข์
โชคดี 6ปี ประสบทุกข์เวทนา แสนสาหัส
ดังนั้นการฝึกฝนให้อดทนมากกวาคนธรรมดา ก็ชนะทุกข์นี้

3.อารมณ์ทุกข์
นี่เรื่องใหญ่ของจริง
เพราะขาดสติรู้ตัว ปัญญารู้คิด
ปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น เห็นแจ้ง
เมื่อผัสสะกระแสโลก ธรรม
ความคิดปรุงแต่งแบบฟุ่งซ่านทำงาน
ก็ปรุงบุคลิกภาพ ทั้งสุข ทุกข์ สงบ
จึงเกิด วิสัยทัศน์เรื่อง "อนัตตา"
คือทุกสิ่ง กำลังเป็นไปตามกฎเหตุปัจจัยปรุงแต่ง
ไม่ได้ตามใจใคร
.............................................

มาถึงยุคปัจจุบัน
อัตโนมติ อาจารย์ ที่ต้องการสร้างอนุสาวรีย์ให้ตนเอง
และชวนกันฝึกเป็น นักสิทธิ์(มีสิทธิอำนาจเหนือธรรมชาติ)
แทนที่จะฝึก ชนะ อุปสรรค์ภายใน
คือชนะจิตปรุงแต่งแบบฟุ่งซ่านในตน
จึงผสม ยาชุดใหญ่
1.อัตตา.....ก็ทำให้คนหลง บ้าบุญ
แทนการฝึก สติ ปัญญาให้ตื่น
2.นิรัตตา....ก็ทำให้คน ทำชั่ว แต่ไม่รู้สำนึก
บาป บุญไม่มี บุญคุณไม่มี เอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง
มาปะปน ในศาสนา ต้องใช้ สติปัญญาแยก ให้ชัด
...............................................

มีเกร็ดนิทาน ศิษย์สำนักนิรัตตา
วัตถุนิยม ในยุคนั้น
ไป เทศน์ ให้เจ้าเมือง เชื้อสายกรีก
ที่ตาม อเล็กซานเดอร์มหาราช
มาที่ลุ่มแม่น้ำสินธุ แล้วไม่กลับ ว่า
ตัวตนไม่มี ทุกสิ่ง เป็นช่องว่างระหว่างอณู
(เหมือนกับองคุลีมาล ถูกสอนมา)

ไปเจอเจ้าเมืองสายโหด
จึงให้ ทหารจับตรึง และเอาตาปูตอกเล็บ
"เจ็บโว้ย"
"ใครเจ็บ"
"ตูเจ็บ"
"อ้าว ไม่มีตัวมีตน และเจ็บได้ไง"
55555+
ขอบคูณผู้จุดประกาย และเจ้าของภาพ ผู้อ่าน
สมองเรามีค่า อย่าไปใช้แบบปลาทู หมูในอวย เด้อ
สาธุ

ดังนั้น
1.พุทธศาสนา ในสัมมาทิฐิเบื้องตน
ให้คน ละชั่ว ทำดี มีคำสอนแบบ อัตตา
2.และมีอาจารย์ เฉโก
หลอกลูกศิษย์ว่านิรัตตาคือ อนัตตา

3.อัตตา นิรัตตา อนัตตา
ต้องแยกให้ชัด เดี๋ยวหลงไปไกล
"อนัตตาคือ เคารพ
กฎเหตุปัจจัยปรุงแต่ง ของธรรมชาติ
ที่ไม่ได้ตามใจเรา"
สาธุ
..
..
มุมกาแฟ วันใหม่ 16/12/17

You are what you eat
กินอย่างไร ได้อย่างนั้น
"อาหารเป็นใหญ่ในโลก"

พุทธพจน์ อาหาร ในความหมายพุทธธรรมคือ
"เครื่องค้ำจุนชีวิต"
1.ปัจจัยสี่ เครื่องอำนวยความสะดวก ที่มาจากวัตถุ
2.ผัสสะ อารมณ์ที่ชอบ
3.อุดมคติ ปรัชญาที่เชื่อ
4.ความรู้
ต้องเลือกเสพ ความรู้ ที่จริง ดี งาม สาร้างเสริมความสุข สงบ
ชีวิตจึง แข็งแรงทุกด้าน สาธุ
..
..
ที่ไหนมีศรัทธา ที่นั้นต้องมีปัญญา ประกอบด้วย
มี อุปาทานสี่ประการ ที่สร้าง ทุกข์ให้เราได้
1.เอาตนเอง เป็นศูนย์กลางทุกเรื่อง
2.เอาปรัชญา ที่เราชอบ ตัดสินปัญหาทุกเรื่อง
3.เอาวิถีชีวิต ที่ตนชอบ ไปครอบงำผู้อื่น
4.เอาของรักของชอบ..มาจูงจมูกตนเอง

ใครไม่มีวิสัยทัศน์เห็น
ไม่เชื่อ แสดงว่า ยังไม่หมดวิบากกรรม 55555+
บ่ายๆเจอกัน ออกส่องโลก อันงาม ก่อน
ขอบคุณเจ้าของภาพ
..
..

Philosophy and healthy ปรัชญา และสุขภาพดี
G+ communities คนรัก รักษ์ ปัญญา สุขภาพ กีฬา และจักรยาน
สุขภาพดี คือลาภอันประเสริฐ ที่เราทำได้เอง

Suraphol KruasuwanOWNER
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2018, 02:36:18 pm »


http://www.tairomdham.net/index.php?topic=6552.0

"ปัจฉิมวาจา"
"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า
สังขารทั้งหลาย ย่อมมีความเสื่อม เป็นธรรมดา
เธอทั้งหลาย จงยังประโยชน์ตน และประโยชน์
ให้ถึงพร้อม ด้วย ความไม่ประมาทเทอญฯ"

1.ประโยชน์ตน คือ....
ฝึกฝนตนเองให้พ้นเพลิงทุกข์ เพลิงกิเลส ด้วยการทำอาสวะให้สิ้น
2.ประโยชน์ท่าน........
คือมีจิตเอื้อเฟื้อ เมตตากรุณา ทักษิณาทาน ต่อตนและโลกเสมอกัน
หรือ มี โลกุตระจิต กับโพธิจิต เจริญไปด้วยกัน
.............................................

"เก่งแค่ไหน...............ก็เดินได้ ที่ละก้าว
กินข้าว......................ที่ละคำ
และ ไม่ได้ใหญ่กว่า....กรรม เวลา มัจจุราช และโลงศพ"

จุติ จุตัง สุคโตโหตุ....มาสว่าง อยู่อย่างสว่าง
และกลับสู่แสงสว่าง ทุกคนนะครับ สาธุ อาเมนฯ

ขอบคุณเจ้าของภาพ และสหายในธรรม
ที่รวบรวม ธรรมะ ที่ปู่ลิง ฝากไว้หลายเวบ
และผู้ชม ผู้ที่ตั้งใจเป็นวิญญูชน
มีสติรู้ตัว ปัญญารู้คิด อยู่เย็น เป็นสุขจากจิตเอื้อเฟื้อ
สาธุ อาเมนฯ
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=TRktavB7KRQ
อภิปรัชญา
ความรู้ยิ่งที่เข้าถึง โดยจินตนาการ
ใครเคยถาม ตนเองว่า เราเป็นใคร มาจากไหน จะไปไหน?
นั่นคือ เรากำลังเข้าสู่โลก อภิปรัชญา
อภิปรัชญา เป็นต้นทางของศาสนา

1.เราคือธาตุรู้
ธาตุรู้ สร้าง ทุกสรรพสิ่ง
วันหนึ่งด้วยความใคร่รู้ว่า
สิ่งที่ถูกสร้าง งดงามเพียงใด
เราก็แบ่ง เป็นวิญาณ เป็นอนันต์
เป็นตัวรู้
มาสิ่งสู่ในสิ่งที่เราสร้าง
และเมื่อ สิ่งนั้น เสื่อมสภาพ เราก็ออกไปสิงสู่ สิ่งอื่นต่อไป
จนวันหนึ่งเราเบื่อ เราก็ต้องหาทางกลับไปรวมกับธาตุรู้
โดยที่เราต้องพัฒนา จาก ตัวรู้ เป็น ผู้รู้
แบบนี้ก็เท่ห์ เราเป็นทั้ง
ผู้สร้าง ผู้แสดง ผู้กำกับ ผู้ตัดสิน และผู้ดู

2.เราเป็น สิ่งที่ถูกสร้าง
แต่เป็นเบอร์สองรองจากผู้สร้าง
และมีหน้าที่ดูแล รักษา สิ่งที่ถูกสร้างให้งดงาม
แต่เรามักหลงบท เป็นผู้ทำลายมากกว่า จะดูแลให้งดงาม

3.เราเป็นผล ของ ขบวนการปรุงแต่ง ของธรรมชาติ
ที่ไม่เที่ยง ไม่ทน ไม่แท้
แต่เรามีตัวจริง ที่หลับอยู่
คือ ปรีชาญาณฉลาดเลือก
หรือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ผู้เป็นวิญญูชนสากล
และสุขจากจิตเอื้อเฟื้อ
ที่เราต้องใช้ สติรู้ตัว ปัญญารู้แจ้ง
ปลุกให้ตื่น

พบชีวิตที่อยู่เหนือ มายาของคู่โลก
คือเหนือทุกข์ เหนือสุข
เหนือ ดี เหนือ ชั่ว
เหนือชอบ เหนือชัง
แต่ สงบเย็นมั่นคงเบิกบาน
..............................................

ใครชอบแแบบไหน ชีวิตเราก็จะเป็นเช่นนั้น
...........................................
ส่วนปู่ลิง แค่หลงมาเที่ยว 55555+
ขอบคุณ สหายทุกท่าน ที่เข้ามาอ่าน เจ้าของภาพ
ปรัชญาที่ย่อมา
..
..

https://www.youtube.com/watch?v=UBfsS1EGyWc
มุมกาแฟ เช้า 12/12/17
มนุษย์ มีกิจกรรมตามวัย
1.วัยเรียน เพียร รอบรู้ ฝึกฝนใน สรรพวิชา
2.วัยแสวงหา ในอามีสสุข ได้มาจึงสุข เสียไป ทุกข์
3.วัยละ เมื่อเริ่มเห็นว่า ได้มา คือภาระๆๆๆๆๆ
4.วัยหลุด หลุดพ้น จาก มายา ลีลา อนัตตา ที่ยึดติด
แล้ว มีปีก บินเสรี ของชีวาในชีวิต
.............................................

นึกถึงเพื่อน ที่พึ่งจากไป
วันหนึ่ง นั่งรถไปสามคน
เรากำลังคุยปรัชญาชีวิต กับคนขับรถ
เขาบอกว่า เดี๋ยว หยุดคุยกันก่อน
เรื่องไร้สาระเอาไว้ที่หลัง
วันนี้ มีหุ้นใหม่เข้าตลาด เทรดไปแล้ว กำลังขึ้น
จะซื้อเพิ่มดีไหม?
การนับหนึ่ง ให้ถึงสิบ คือรู้ว่า
อะไรสำคัญและควรทำ
"ข้ามสะพาน ให้ข้ามก่อนแก่
เดี๋ยวยักแย่ยักยัน ข้ามไม่ไหว"
(หลวงพ่อพุทธทาส)
...........................................

ช่วงทำงาน มีหลักของตนเอง
1.ทำให้ได้
ตอนที่ชอบกุหลาบ ซื้อมาสิบกระถาง
มาเปลี่ยนกระถางให้ใหญ่ ใส่ดินปลูกใหม่
รดน้ำ กลางคืนกลับจากเที่ยว ยังเอาไฟฉายไปส่องดู
อ่านตำรา ปรึกษาผู้รู้ แล้ว ก็ ไปหาเพื่อนที่ปลูกกุหลาบขาย
ไปขอซื้อพันธุ์ ฝึกติดตาต่อกิ่ง และขยายพื้นที่ ปลูกหลังบ้าน
....เมื่อวาน มีเด็กมาถาม ปู่ฯ ผมอยากจะทำนา
ปู่บอกว่า เอาลองปลูกข้าวในกระถางก่อนนะ

2.ทำให้ดี
ทำอะไรมุ่งมั่น และ ตัดส่วนเกิน เติมส่วนขาด
เปิดใจรับประสบการณ์ที่แชร์จากผู้อื่น

3.ทำให้ดี ที่สุด
คือ จุดสูงสุด ของเรื่องนี้คือ?

4.หาทางใหม่ ที่เป็นของตนเอง
เช่น เล่นกอล์ฟ ทุกตำราบอกว่า
หมุนตัว ปู่บอกว่า
หมุนขาซ้ายก็พอ ทุกอย่างจะเป็น
ปฏิกริยาลูกโซ่ เอง 55555+

5.เลิก
เมื่อรู้ว่า เกินกว่านี้ จะเข้าสู่
"ทางที่ไม่มีการหวนคืน"
คือ เกินขีดจำกัดธรรมชาติให้มนุษย์รู้
เคยเล่นกีฬาแบบ โหด มัน ฮา บ้าพลัง
ใน ทุ่งกว้าง ดงทึบ ทะเล
กับเพื่อนในชมรม ฟ้า ดิน น้ำ
วันหนึ่ง ถามตนเองว่า
"สวรรค์บนดินมีอีกเยอะ ที่ยังไม่รู้จัก"
ก็เปลี่ยนเริ่มเดินทางผัสสะโลกกว้าง
และกลับมามองดู มายาจิตตน
เองคือใคร?
........................................................

รู้ว่า ชั่ว ก็ละ.........................คือศีล
รู้ว่าเป็นกุศล ก็เจริญ..............คือธรรม
ทุกข์ คือนรก สุขคือสวรรค์.....เย็นคือ วิมุติ
(ถอดความคำสอน หลวงพ่อพุทธทาส)
ชีวิตเริ่มต้น ทุกเมื่อ เพราะเรายังหายใจอยู่
มาสว่าง อยู่อย่างสว่าง และกลับสู่แสงสว่าง นะครับ
สาธุ
..
..
การใช้ชีวิต เป็นทั้ง ศาสตร์ และศิลป์
มนุษย์มีสามกายซ้อนกันอยู่
1.การสรีระ
ดูแลรักษา ด้วยความรู้ วิทยาศาสตร์ สุขลักษฯะ กีฬา
2.กายสังขาร
เป็นกายละเอียดปานกลาง
เชื่อมต่อ กายสรีระ กับกรัชกาย
ฝึกสติรู้ตัวเห็นการเกิด ดับ
3.กรัชกาย
เป็นกายบุคลิกภาพ ละเอียด
เปลี่ยนแปลงตาม การปรุงแต่งจิตสำนึก
ความคิด อารมณ์ อุดมการณ์ ความอยาก ความรู้
สัญชาติญาณเอาตัวรอด
กรัชกาย ทำให้เราเป็น
สัตว์นรก อสุรกาย เปรต เดียรัจฉาน มนุษย์ เทวดา พรหม
ในปัจจุบันขณะ เป็นการเกิด แบบโอปาปาติกะ
คือเป็นตัวเต็มวัยทันที่
แผ่ซ่าน ครองกายหยาบ
เปลี่ยนแปลง กายสังขาร กายสรีระ ทันที
..................................................

การเกิดของกรัชกาย และทางออก
หากจิตตกต่ำไปสู่อบายภูมิ
1.ถ้าเป็นเปรต
ให้ นึกถึงความอิ่มใจที่ได้ให้ ทาน จาคะ......
จิตก็จะไปจุติใหม่ ในภูมิเทวดาชั้นยามะ

2.ถ้าเป็นเดียรัจฉาน
ให้เจริญสติปัญญาให้ยิ่ง..................
จิตก็จะไปจุติใหม่ ในพุทธภูมิ

3.ถ้าเป็นอสุรกาย
ให้เจริญความกล้าหาญที่จะทำความดี.....
จิตก็จะไปจุติใหม่ ในเทวดาชั้นดาวดึงส์

4.ถ้าเป็นสัตว์นรก
ให้เจริญเมตตา ต่อชีวิตอื่นที่ด้อยโอกาส กว่าเรา....
จิตก็จะไปจุติใหม่ ในเทวดาชั้นดุสิต เป็นพระโพธิสัตว์

5.ถ้าเป็นมนุษย์
ให้อยู่ในศีลและธรรม เสมอ เจริญมงคลธรรม

6.ถ้าเป็นเทวดา
ให้เจริญ ไตรลักษณ์ อสุภะ ความไม่ประมาทใน เวลา กรรม มัจจุราช

7.ถ้าเป็นพรหม
ให้เจริญ หลักอนัตตาธรรม
พ้นสักกายทิฏฐิ(หลงว่า ชีวิตตนวิเศษกว่าธรรมชาติอื่นๆ)
ปลุกสติรู้ ปัญญาคิด มองหา สามกายในตนให้เจอ
เวลาตาย ไม่ต้องมีใคร มาบอก
อรหังๆๆ 55555+
.........................................


ธรรมะสวัสดิ์ ยามสายๆ 13/12/17
มนุษย์มีสามกาย
จากหยาบ สู่ละเอียด
ใครฝึก สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด
จิตเมตตา อดทน นานพอ
จะเห็น ด้วยจินตนาการตนเอง
1.กายสรีระ(กายวัตถุ)
2.กายสังขาร(ลมหายใจ)
3.กรัชกาย(กายบุคลิกภาพ ภายใน)

กรัชกาย มีสามสภาวะ
1.นิรมานกาย
คือแปลงร่าง เป็นอะไรก็ได้
ตั้งแต่ อบายภูมิ มนุษย์ เทวดา พรหม อริยะ พุทธะ

2.ธรรมกาย
คือ คำสั่งจิต ที่เกิดจากความคิด
ที่เอา กุศล อกุศล อัพยกตา มาปรุงแต่ง
ทำให้นิรมานกาย เปลี่ยน ตามนั้น

3.สัมโภคกาย
คือ กายแห่ง ความ สุข สงบ เย็น รู้แจ้ง
เป็นกายในอุดมคติ
ที่มนุษย์ควร พัฒนาไปให้ถึง
..................................................

สำหรับปู่ลิงมีกาย ส่วนตัว
ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ใฝ่ดี
สุขกับ การหายใจ
มีเพื่อน และ กระหาย ความรู้ใหม่
มองโลกแบบ ขำๆ คันๆ
แลซน ท่องไปในสามโลก
แต่ไม่ประมาท เพราะถิอคติ
"ปอดแหก คือปลอดภัย"
55555+
..
..

Philosophy and healthy ปรัชญา และสุขภาพดี
G+ communities คนรัก รักษ์ ปัญญา สุขภาพ กีฬา และจักรยาน
สุขภาพดี คือลาภอันประเสริฐ ที่เราทำได้เอง

Suraphol KruasuwanOWNER
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2018, 01:45:15 pm »



มุมกาแฟเช้า 9/12/17
เหลี่ยวหลัง แลหน้า ทันปัจจุบันแบบจีน
สี่สุดยอดวรรณกรรมจีน
(จีน: 四大名著; พินอิน: sì dà míng zhù)
คือนวนิยายของจีน 4 เรื่องซึ่งเหล่าบัณฑิตยอมรับว่า
เป็นวรรณกรรมอันยิ่งใหญ่
และมีอิทธิพลต่อวรรณกรรมเรื่องอื่นๆ ของประเทศ
ประกอบด้วย

1.สามก๊ก
(อังกฤษ: Romance of the Three Kingdoms;
จีน: 三國演義; พินอิน: sān guó yǎn yì) -
พ.ศ. 1873 (ค.ศ. 1330)

2.ซ้องกั๋ง
(อังกฤษ: Water Margin;
จีน: 水滸傳; พินอิน: shuǐ hǔ zhuàn) -
พ.ศ. 2116 (ค.ศ. 1573)

3.ไซอิ๋ว
(อังกฤษ: Journey to the West;
จีน: 西遊記; พินอิน: xī yóu jì) -
พ.ศ. 2133 (ค.ศ. 1590)

4.ความฝันในหอแดง
(อังกฤษ: Dream of the Red Chamber;
(จีน: 紅樓夢; พินอิน: hóng lóu mèng) -
พ.ศ. 2335 (ค.ศ. 1792)
แต่บางคนก็นับ บุปผาในกุณฑีทอง
(อังกฤษ: The Plum in the Golden Vase;
จีน: 金瓶梅, จินผิงเหมย (จีนกลาง), กิมปังบ๊วย (จีนแต้จิ๋ว) เป็นวรรณกรรมคลาสสิกเรื่องที่ห้า
ด้วย ในช่วงปลายราชวงศ์หมิงถึงต้นราชวงศ์ชิง
บุปผาในกุณฑีทอง นับว่าเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีน
ร่วมกับนวนิยายอีกสามเรื่องแรก
เรียกรวมกันว่า "สี่วรรณกรรมอันยิ่งใหญ่"
(四大奇書,四大奇书)

แต่ต่อมาเรื่อง บุปผาในกุณฑีทอง
ถูกต่อต้าน รัฐบาลจีนจึงแบนนวนิยายเรื่องนี้
เนื่องจากมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเซ็กซ์มากเกินไป
และจัดให้ ความรักในหอแดง
ขึ้นมาเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีนแทนที่
(วิกิพีเดีย)
..............................................

วรรณกรรมทั้งสี่ เกิดจากนักปราชญ์ ในยุคปลายราชวงค์หมิง
ที่กำลังถึงยุค ขาลง
เมื่อ ประชาชนเดือดร้อน เพราะภัยธรรมชาติ
และ ความไม่ยุติธรรมที่ฝ่ายปกครอง ถูกครอบงำด้วย
ฝ่ายใน ขันที ข้าราชการกังฉิน
จึงมีคำตอบวิธีแก้ปัญหา ซ่อนมาในวรรณกรรม

1.สามก๊ก
เอาประวัติศาสตร์มาถอดบทเรียน การคานอำนาจ
ใช้แผนการณ์ กลยุทธ
และเรื่องราว ก็ดำเนินไปตามนั้น
แต่ก็มาสรุป จาก วิสัยทัศน์ขงเบ้ง
ตั้งแต่เริ่ม จนจบ
"แผ่นดินต้องแยกเป็นสาม
ให้ตะวันตก คบตะวันออก ต้านเหนือ
จึงจะรวมเป็นหนึ่ง
(ให้ก๊กเล่าปี่ รวมมือกับก๊กของซุนกวน ต้านก๊กของโจโฉ)
"แผนการณ์เป็นเรื่องของคน
ความสำเร็จเป็นเรื่องของฟ้า
ตัดเขาไม่ขาด วาสนาเราก็สิ้น"
(ศึกสุดท้าย ของขงเบ้งกับสุมาอี้)

2.ช้องกัง
ลัทธิบูชาวีระบรุษ

3.ไซอิ๋ว
เดินทางภายใน
ไปปลุกปรีชาญาณฉลาดเลือกให้ตื่น
ด้วยการฝึกตน ตามหลักพุทธรรม
เปลี่ยนแปลง เกิดใหม่ในตน
คือเดินทางสู่นิพพาน(ไซที แดนตะวันตก)
วรรณกรรมนี้ รับอธิพล จาก รามายณะ และ
วิธีเขียนวรรณกรรมจากอินเดีย
เป็นศิลป ที่ซ่อนศิลป
ศิลป ซ่อน ศาสตร์
-ไพเราะในเบื้องต้น...เป็นวรรณกรรมอภิจินตนาการเหนือจริง
-ไพเราะในเบื้องกลาง...มีหลักธรรม วิธีฝึกตนซ่อนอยู่
-ไพเราะในเบื้องปลาย..เอาไปใช้ในชีวิตได้จริง
และรับรู้ผลสำเร็จด้วยตนเอง
คือ ให้คนที่มีกึ๋นจริงจริงๆ จึงจะอ๋อ
บ้านเราโกวิท อเนกชัย(เขมานันทะ) ถอดระหัส ไว้ใน
เดินทางไกลกับไซอิ๋ว (๒๕๑๗,๒๕๓๑)

4.ความฝันในหอแดง
ลัทธิสุขนิยม เสพสุข เสพเสียว ในปัจจุบันดีกว่า
..........................................................
ใครเคยอ่าน ดูหนัง ครบสี่เรื่อง มาเล่าสู่กันนะครับ
..
..
ปฏิบัติการ"แยงไข่มดแดง"
โลกกำลังเข้าสู่ยุค
"การจัดการมูลค่าส่วนเกินยุคใหม่"
จากวิสัยทัศน์ของแจ็คหม่า ตัวพ่อ
เจ้าของ เวบค้าขายสินค้าออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
วัฒนธรรมมนุษย์มาจาก
1.ใช้พลังกล้ามเนื้อ
2.กำไรจาก น้ำมัน
3.วิสัยทัศน์ การใช้ข้อมูล และนวัตกรรมสื่อสารออนไลน์
4.ยุคต่อไป เราต้องสู้กับหุ่นยนต์ที่ไร้วิสัยทัศน์
................................................
1.น้ำมันหนึ่งลิตร แทนค่า แรงงานมนุษย์ 50คน 24ชั่วโมง
และ ชาติ อุตสาหกรรม G7 ใช้ ความลับนี้
สร้าง สังคมอุตสาหกรรม สังคมบิริโภคนิยม
โดยมี Federal Reserve Bank
ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา
เป็นวาทยากร ขับเคลื่อน อยู่เบื้องหลัง
2.การเกิด ของผู้ต้องการสลัดแอก ของเฟดฯ
BRICS เป็นอักษรย่อใช้เรียกกลุ่มประเทศ
ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
อันประกอบด้วย
บราซิล (Brazil)
รัสเซีย (Russia)
อินเดีย (India)
จีน (China)
และแอฟริกาใต้ (South Africa)
ที่จะคานอำนาจ การใช้ น้ำมัน ดอลล่าห์สหรัส
โดยยึดหลัก
"การแบ่งปันคือทุกสิ่ง" Sharing is everything
แทนหลัก ของกลุ่มอุตสาหกรรมG7
"กำไรคือทุกสิ่ง" Profit is everything
และกลุ่นนี้ เริ่มโตขึ้นๆๆ มีหลายประเทศเข้าร่วมด้วย
3.หลักกลยุทธ การต่อสู้ ของซุนหวู่
หลักวิสัยทัศน์ จัดยุทธวิธีเหมาะสมกับจุดยืน
-ถ้าคุณเป็นที่หนึ่ง คุณต้องทำลายจังหวะ
-ถ้าคุณเป็นที่สอง คุณต้อง หาจุดอ่อน และโจมตีจุดเดียวต่อเนื่อง
-ถ้าคุณเป็นที่สาม คุณต้อง มีระบบป้องกันตัวดีที่สุด
(อยู่ในป้อมที่ตีไม่แตก)
-ถ้าคุณเป็นที่สี่ คุณต้องมีพันธมิตร
-ถ้าคุณเป็นที่ห้า ไปหาอย่างอื่นเล่น
ไม่มีที่ว่าง ในสนามนี้สำหรับคุณ
.....................................................
4.จากสามข้อ
นี้เป็นสงคราม แย่งชิง มูลค่าส่วนเกิน
ที่ สะสมตั้งแต่ วัฒนธรรมโลก
เข้าสู่ ยุคเหล็ก 3000ปีมาแล้ว
และ70ปี หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
-กลุ่ม G7
-กลุ่ม Brics
-กลุ่ม ขุมพลังน้ำมัน ตะวันออกกลาง
ซึ่ง ก็มีการ พยายามจุดไฟ สงคราม
จาก คาบสมุทร เกาหลี มาตะวันออกกลาง
เพื่อ ควบคุม และดูดมูลค่าส่วนเกิน จากสองฝ่าย
และทำลายจังหวะ ที่สังคมโลก ชักคล้อยตาม จีน
"จีนจะเป็นศูนย์กลาง
เปลี่ยนแปลงสังคมโลก สู่ยุคสวรรค์บนดิน
-สังคม สรรสร้างนวัตกรรม
-สังคม โปร่งใส
-สังคม เครดิตออนไลน์
-สังคม เพิ่ม ประสิทธิภาพ คุณภาพชีวิตมนุษย์ ด้วย
สินค้า บริการ สถานที่ ที่เป็นมิตร กับมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
..............................................
ปฏิบัติการแยงไข่มดแดง จึงเกิดขึ้น
เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
คนบ้าอาจเพราะแกล้งโง่ 55555+
..
..
https://www.youtube.com/watch?v=tFEj2EGQ3hE
การเกิดเทือกเขาหิมาลัย
ที่ค่อยๆยกตัวสูง
ในช่วง 7000ปี ที่ผ่านมา
ทำให้ความสูงมากเกิน7กม.
.มีความสูง 8,848 เมตร
เบียงเบน ทิศทางลมมรสุม ทำให้ ฟ้าอากาศ
เปลี่ยนแปลงภูมิประเทศของโลก คือ การเกิดทะเลทราย
ที่สำคัญคือ ทะเลทราบซาฮาร่า อัฟริกา และ ทะเลทรายโกบี
ความแห้งแล้ง ทำให้มนุษย์ต้อง
มารวมกันอยู่ตาม ลุ่มแม่น้ำสำคัญ

และเกิดเป็นสังคมเมือง อารยธรรมโลก จึงเริ่มต้น จากยุค
1.จอมเทพ พระเจ้าบงการทุกอย่าง
2.จอมศาสดา เกิดศาสดาศาสนาต่างๆ เมื่อ 2500ปี
3.จอมทัพ สงคราม การแย่งชิง ทำให้
ศาสนา วัฒนธรรม เทคโนโลยี ไหล ไปทั่วโลก
เมื่อ2000ปี

4.จอมขมังเวทย์ เกิดเมื่อ400ปี
เมื่อ เข้าสู่ยุค ฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ เรเนซ้องส์
เพราะ การยึด กรุงอิสตันบูล ของกษัติย์มุสลิม
โดยเอาความรู้ทำดินปืนของจีน สร้างปืนใหญ่
และ ควบคุม การค้า เส้นทางสายไหม และเครื่องเทศ
และห้ามศึกษาศิลปะวัฒนอื่น นอกจาก อิสลาม
ทำให้เหล่านักปราชญ์ อิสลาม ไหลไปสู่ยุโรป
เอาเรื่องราว ความรู้ที่รวบรวม
ทั้งกรีก อินเดีย ไปมอบให้ยุโรป
จึงเกิด ระบบตรรกนิยม
สร้างนักวิทยาศาตร์ และนักผจญภัย
ที่พยายามหาทางไปเอาเครื่องเทศ จากตะวันออก
ที่ชาวอาหรับผูกขาด
จึงเกิดการเดินเรือ ยุคล่าอาณานิคม
และค้นพบทวีปอเมริกา

5.ยุค นวัตกรรม ปัญญาประดิษฐ์ สังคมสื่อสารออนไลน์
คือยุคที่พวกเรา อยู่กัน บัดนี้
ซึ่งเกิดจาก ผลสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อ70ปี มานี่เอง
6. และต่อไปคือ ยุค ลูกผสม คนกับหุ่นยนต์อัฉริยะ

7.ยุคสุดท้าย คือ เป็นยุค มนุษย์สังเคราะห์
ที่ร่างกาย จะไม่ใช่ สารอินทรีย์คาร์บอนเป็นแกน
แต่ จิตวิญญาณ คือ ความรู้!ที่ท่องไปทั่วจักรวาล
เล่าให้ทราบ ไม่ได้บอกให้เชื่อ
..
..
มุมกาแฟ ยามเช้า 10/12/17
"ไม่เลยธง"
คือการกำหนดกรอบในการสนทนา ธรรมะ
พระพุทธเจ้าไม่ตอบคำถาม ที่เป็นอภิปรัชญา
(ความรู้ยิ่ง ที่เข้าถึงด้วยจินตนาการ)
แต่ตอบปัญญา เรื่อง
"ทุกข์ และวิธีดับไม่เหลืออารมณ์ทุกข์"
เท่านั้น

ดังนั้นหากไปเจอในพระไตรปิฎก ว่า พระพุทธเจ้า
ตอบคำถาม ที่พระองค์ไม่ตอบ
อาจเป็น อัตโนมติ ของอาจารย์
ยุคมีมหาวิทยาลัยนาลันทา และลังกา ที่แทรกเข้ามา ครับผม

ปัญหาที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์และไม่ทรงพยากรณ์
[๑๕๒] ดูกรมาลุงกยบุตร
เพราะเหตุนั้นแล เธอทั้งหลายจงทรงจำปัญหาที่เราไม่พยากรณ์
โดยความเป็นปัญหาที่เราไม่พยากรณ์
และจงทรงจำปัญหาที่เราพยากรณ์
โดยความเป็นปัญหาที่เราพยากรณ์เถิด.
ดูกรมาลุงกยบุตร อะไรเล่าที่เราไม่พยากรณ์
ดูกรมาลุงกยบุตรทิฏฐิว่า
โลกเที่ยง
โลกไม่เที่ยง
โลกมีที่สุด
โลกไม่มีที่สุด
ชีพอันนั้น
สรีระก็อันนั้น
ชีพอย่างหนึ่ง
สรีระอย่างหนึ่ง
สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปมีอยู่
สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปไม่มีอยู่สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปมีอยู่
ก็มี ไม่มีอยู่ก็มี สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไป
มีอยู่ก็หามิได้ ไม่มีอยู่ก็หามิได้
ดังนี้ เราไม่พยากรณ์.

ดูกรมาลุงกยบุตร ก็เพราะเหตุไร
ข้อนั้นเราจึงไม่พยากรณ์
เพราะข้อนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ไม่เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
ไม่เป็นไปเพื่อความหน่ายเพื่อความคลายกำหนัด
เพื่อความดับ เพื่อความสงบ
เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้
เพื่อนิพพาน
เหตุนั้นเราจึงไม่พยากรณ์ข้อนั้น.
******
ดูกรมาลุงกยบุตร อะไรเล่า ที่เราพยากรณ์
ดูกรมาลุงกยบุตร ความเห็นว่า
นี้ทุกข์
นี้เหตุให้เกิดทุกข์
นี้ความดับทุกข์
นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
ดังนี้ เราพยากรณ์.
ก็เพราะเหตุไร เราจึงพยากรณ์ข้อนั้น
เพราะข้อนั้น ประกอบด้วยประโยชน์
เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
เป็นไปเพื่อความหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด
เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง
เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน
เหตุนั้นเราจึงพยากรณ์ข้อนั้น.
เพราะเหตุนั้นแหละ
เธอทั้งหลายจงทรงจำปัญหาที่เราไม่พยากรณ์
โดยความเป็นปัญหาที่เราไม่พยากรณ์
และจงทรงจำปัญหาที่เราพยากรณ์
โดยความเป็นปัญหาที่เราพยากรณ์เถิด.
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว
ท่านพระมาลุงกยบุตร ยินดีชื่นชม
พระภาษิตของพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล.
จบ จูฬมาลุงโกฺยวาทสูตร ที่ ๓
..
..
วงเวียนความคิด มนุษย์

มีสามทางล่าง(ปุถุชน)
สามทางบน(นักปราชญ์)
สามทางล่างคือ

1.ชีวะ(เอาชีวิตรอด)
2.อรรถะ(ผลประโยชน์)
3.กามะ(กามรมณ์) ความเพลิดเพลินแห่งชีวาในชีวิต

สามทางบนคือ
4.ทิฐิ(ปรัชญาชีวิต)
5.มายะ(ธรรมชาติ).....
6.โมกษะ(พบทางสว่าง รู้แล้วโว้ย)

มนุษย์ชอบเอามาเคี้ยวเอื้องเล่น กันสมองฝ่อ 55555+
................................

กามะ มีสี่ระดับ
1.ศุภะ........เห็นว่าสวย
2.อรดี........พึงใจ
3.ตัณหา....อยาก ไม่ดูดเข้า ก็ อยากถีบออกไป หรือ สรรสร้างใหม่
4.ราคะ.....อยากเข้าไปเกลือกกลัว ดัง ภมรซอนเกษรดอกไม้
สองประการแรก ช่วยให้ ชีวิตมีชีวา
สองประการหลัง รับผิดชอบเอง 55555+
ขอบคุณเจ้าของภาพ ครับผม


Philosophy and healthy ปรัชญา และสุขภาพดี
G+ communities คนรัก รักษ์ ปัญญา สุขภาพ กีฬา และจักรยาน
สุขภาพดี คือลาภอันประเสริฐ ที่เราทำได้เอง

Suraphol KruasuwanOWNER
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2018, 01:39:20 pm »



https://www.youtube.com/watch?v=NCwOy4uo8E0
ฉันเสียศูนย์ทุกครั้งที่เจอคุณ
55555+ อะไรจะหวานปานนั้น
1."ความคิด......คือวจีสังขารภายใน
คำพูดภายใน.....ปรุงแต่งจิต
จิต...................ควบคุมกาย
คำพูดดีๆ..........ทำให้ ลมหายใจ กายหยาบเราเป็นสุขฯ"
.........................................

2."เห็นธรรม ในธรรม"
สติปัญญา รู้ เห็น เห็นคำพูดภายในจิตตนนี่แหละ
เป็นดังนี้แล 55555+
ใครเห็นธรรม เป็นดวงๆ บ้าไปแล้วเด้อ สหาย 55555+

3.ไปฏิบัติธรรม เริ่มต้น
"ปรับปรุงคำพูดในจิตใหม่"(ความคิด)
เพราะความคิด เปลี่ยนชีวิตเราได้
ทั้ง กายหยาบ กายสังขาร กรัชกาย

4.ตถาคต กล่าว ในสิ่งที่
-เป็นความจริง
-ความจริงนั้น ประกอบด้วยประโยชน์
-ไพเราะ ประกอบด้วยเมตตา
-เหมาะสม กับผู้ฟัง
-รู้กาละ ที่จะกล่าว และหยุด
จึงเป็นวาจาสุภาษิตตา ที่แท้จริง
เป็นมงคล ของผู้ให้ และผู้รับ สาธุ
..................................

5.ขอบคุณเจ้าของคลิปเพลง ธรรมะที่ยกมา และผู้อ่าน
ด้วยสัจจะวาจานี้ ขอให้สมหวังในสิ่งประเสริฐทุกทjาน
ดารา น้องผีเสื้อ นะ ดอยช้างมูบ 4/12/17
สาธุ
..
..
https://youtu.be/4HHJ9ftZl7c
การตัดสินใจของคุณส่งผลต่อยีนของคุณอย่างไร - Carlos Guerrero-Bosagna

มีเจตนาสี่ประการ ที่ควบคุมชีวิต
1.การเลี้ยงดูของ พ่อแม่ บุพการี
2.กรรมพันธุ์
3.สิ่งแวดล้อม
4.เจตนา มาจากความคิดของเราเอง
เป็นผู้ควบคุม ดุจวาทยากร ที่ควบคุมวงดนตรี ทั้งวง
เจตนา อยู่ใกล้ ที่สุด
เจตนา ที่ ดี มีประโยชน์ จึง สำคัญ และต้องฝึกฝน
ขอบคุณครับ
..
..
https://youtu.be/YQADtDWjCA0
อาหารที่คุณกินส่งผลต่อสมองคุณอย่างไร - Mia Nacamulli
You are what you eat
You are what you do
You are what you think
การกิน การกระทำ การคิด มีผลต่อชีวิตเรา
............................................
อาหารเป็นใหญ่ในโลก
อาหารในพุทธรรม หมายถึง"เครื่องค้ำจุนชีวิตให้คงอยู่"
1.อาหาร ที่เป็นวัตถุธาตุ
ได้แก่ปัจจัยสี่ และเครื่องมือ ต่อความสามารถ ความสะดวก
2.อาหารคือ อารมณ์
อันเกิดจากการสัมผัส
3.อาหารคือ อุดมคติ
มีสามทางล่าง สามทางบน
สามทางล่างคือ
-ชีวะ เอาตัวรอด
-อรรถะ ผลประโยชน์
-กามะ ความเพลินในของชอบ
สามทางบนคือ
-ทิฐิ ปรัชญาชีวิต
-มายะ ความเข้าใจธรรมชาติ
-โมกษะ ทางสว่าง ที่ให้ประโยชน์สูงสุด แก่ชีวิตที่มีชีวา
4.อาหารคือความรู้
ความรู้ ที่สามารถเปลี่ยน ชีวิต ตั้งแต่
-วิสัยทัศน์
-นิสัย พฤติกรรม
-ปลุกปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น
-พัฒนา ยกระดับ ภูมิจิต ภูมิธรรม ภูมิปัญญา
-อ๋อ เข้าใจแล้ว บรรลุธรรม ตรัสรู้
-ดี ต่อ ตน ครอบครัว ชุมชน สังคม ระบบชีวาลัย
-เกิดตัวตนใหม่ ในร่างเดิม
.........................................................
และ วิธีเลือกบริโภค คือ
1.มีวิสัยทัศน์ เห็น
2.เว้นในสิ่งควรเว้น
3.อดทน หากหลีกไม่ได้
4.มีจุดยืน ในทางที่เป็นประโยชน์ วันนี้ วันหน้า และสูงสุด
5.ไม่เป็นทาส ลัทธิ บริโภคนิยม สงบ สันโดษ สมถะ
6.ปลุกปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น (Wisdom)
ล้างขยะปรุงแต่งจิต ประจำ
7.ไม่ยึดถือ เอา สิ่งไร้สาระ ความรู้เทียมๆ มายึดมั่นถือมั่นอีก
...................................................
การกินอาหารแบบ หลากหลาย และ แบบชิม
ดีกว่ากินให้อิ่ม เล่าให้ทราบ ไม่ได้บอกให้เชื่อ
การกิน การทำ การคิด มีผลต่อชีวิตเรา?
55555+
ขอบคุณเจ้าของคลิป และ ผู้อ่าน สาธุ
..
..
https://youtu.be/OI0iYBCuryc
ห้าศาสนาสำคัญของโลก เข้าใจได้ใน 10 นาที - John Bellaimey

ยกมาอีกรอบครับผม
1.พุทธศาสนา คือตอบคำถามว่า
"ทุกข์ และดับไม่เหลือเหตุทุกข์"
ทุกข์ในโลกมีสาม
-สภาวะทุกข์ ยอมรับตามกฎไตรลักษ์ เห็นความไม่เที่ยง ไม่ทน ไม่แท้
ทุกปรากฎการณ์
-เวทนาทุกข์ ฝึกอดทนเหนือคนทั่วไป
-อารมณ์ทุกข์ ต้องเลิกปรุงอารมณ์ทุกข์ ซ้ำเติมชีวิต
ด้วยการฝึก ถอนอุปาทาน ทั้งสี่

2.และมองว่า ชีวิตคือ ขบวนการปรุงแต่งของธรรมชาติ
ปรุงด้วย อกุศล กุศล หรือ สภาวะที่อยู่เหนือ ทั้งสอง
.ให้ผลต่างกันตามกฎแห่งกรรม

3.คือต้องฝึกปลุกปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น
มากุมสภาพจิตปรุงแต่ง

4.ให้สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด มาควบคุม
การปรุงแต่ง ของความคิด อารมณ์ ตัวตนชั่วคราว
จนอารมณ์ทุกข์เกิดไม่ได้ถาวร

5.แต่ทุกศาสนาจะมี อภิปรัชญาที่จะอธิบาย
การเกิด เจริญ เสื่อมดับ ของจักรวาล และตัวตน
และอภิปรัชญานี้ ก็เข้ามาแซก ในพุทธศาสนา หลังพุทธกาล
_พุทธศาสนาจึงมี สัมมาทิฎฐิ สองชั้น
หรือทฤษฎีที่เหมาะสมแก่การปฏิบัติ สองชั้น

6.เพื่อละชั่วทำดี
หรือ ละอกุศล เจริญกุศล
จึง มีเรื่องเวียนว่าย ตายเกิด
และ ถึงที่สุดคือ สู่แดนนิพพาน

7.เพื่อทำนิพพานให้แจ้ง
คือนิพพานเป็นประสบการณ์ตรง
ต้องฝึกถอน อุปาทาน สี่ ที่เป็นต้นเหตุแห่งอารมณ์ทุกข์
-ถอน การยึดมั่นถือมั่น เอาตนเองเป็นศูนย์กลางทุกเรื่อง
-ถอนการยึดมั้นถือมั้น ในสองทฤษฎี
จิตนิยม(สัสสตทิฎฐิ) วัตถุนิยม(อุจเฉททิฎฐิ)
ดำรงตนในทางสายกลาง
คือใช้ สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด ควบคุมทั้ง จิต และกาย
-ถอน การยึดมั่นถือมั่น ในวิถีชีวิตที่ตนชอบ
และพยายามเอาไปครอบงำผู้อื่น
ไปโต้เถียง แบบเสียเวลาชีวาในชีวิต
-ถอน การยึดมั่นถือมั่น ในสิ่งที่ตนรัก และชอบ
เช่นหวงถิ่น หวงผลประโยชน์ หวงชาติพันธุ์ หวงความรู้ วัฒนธรรม

8.เมื่อฝึกฝน สติปัญญาก็จะแข็งแรง
ปลุก ปรีชาญาณฉลาดเลือกตื่น มาดูแลชีวิตตน
และสุขจากการเอื้อเฟื้อ ไม่ประมาท

9.ศาสนาพุทธ จึง มุ่งหวังให้
มนุษย์ เปลี่ยนแปลงตนเองเกิดใหม่ในร่างเดิม
ปรีชาญาณฉลาดเลือ(Wisdom)ตื่น
เป็น ผู้ รู้ ผู้เบิกบาน มั่นคง เคารพกฎธรรมชาติ
และปรับตัวอยู่กับสังคมแบบวิญญูชน

10.ผู้ที่ฝึกฝนเปลี่ยนแปลงตนเอง
ตามหลักพุทธศาสนา จึงได้ชื่อว่า
อริยะบุคคล คือ ผู้ชนะอุปสรรค์ในการพัฒนาตนเอง
คือชนะจิตปรุงแต่งตนเอง ที่ทำงาน
แบบปฏิกริยาลูกโซ่ ที่สร้างตัวตนชั่วคราว
จากการคิด สร้างอารมณ์ และบุคลิภาพภายใน
หมุนเวียน วันละหลายแสนรอบ

11.ศาสนาพุทธปัจจุบัน
เป็นอัตโนมติ คือความคิดเห็นของแต่ละอาจารย์
และมี ขนบธรรมเนียม ประเพณี พิธีกรรม
แต่ละถิ่น แต่ละวัฒนธรรม หุ้มไว้หลายชั้น
และมักจะมุ่งหวังเป็น
นักสิทธิ์(มีสิทธิอำนาจเหนือธรรมชาติ)
แทนที่จะเป็นอริยะบุคคล(ผู้ชนะมายาจิตตนเอง)
อริ.......ศัตรู
ยะ........ชัยะ ชนะ
ชนะ มายาจิตปรุงแต่งตน(อธิจิต)
ปลุกจิตแท้จิตเดิมติ่น(โพธิจิต)
และ เคารพ กฎของธรรมชาติ
ใช้ชีวิตแบบ วิญญูชนสากล

12.กลับมาหาจุดเริ่มต้น
"จำเดิมตถาคตก็จะตรัสเรื่อง
ทุกข์ และการดับไม่เหลือเหตุทุกข์"
นอกนั้นเป็น"วิชาการ"
ไม่ใช่"วิชชา" คือ สติรู้ ปัญญาคิด เมื่อผัสสะ โลก
สาธุ
..
..
มุมกาแฟเช้า 9/12/17
สิ่งที่เร่งด่วน สำหรับชีวิต
ถอนศร รักษาแผล และป้องกันไม่ให้ถูกศร อีก
ศรทั้ง7ที่มนุษย์ทุกคน ต้องรีบถอน รักษา ป้องกัน คือ
1.ราคะ
2.โทสะ
3.โมหะ
4.ทิฐิ
5.มานะ
6.โศก
7.อภิสังขาร
(คิดปรุงแต่งด้วยอารมณ์ อย่างฟุ่งซ่าน
ขาด ปรีชาญาณฉลาดเลือก
ให้ สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด มาควบคุม
จนความคิด ชง อารมณ์บุคลิกภาพภายใน(กรัชกาย)
มาทำลายชีวาในชีวิตตนเอง
...........................................................

มนุษย์ทุกคน มีเวลา สามวันบนโลก เท่ากัน
เมื่อวาน ใช้ไปแล้ว
พรุ่งนี้ อาจไม่ได้ใช้
วันนี้ รีบถอนศร รักษาแผล และป้องกัน
ไม่ให้ชีวาในชีวิต หายไปนะครับ สาธุ
ขอบคุณเจ้าของภาพ คติธรรม ที่เอามาฝาก และผู้อ่าน สาธุ
..
..

Philosophy and healthy ปรัชญา และสุขภาพดี
G+ communities คนรัก รักษ์ ปัญญา สุขภาพ กีฬา และจักรยาน
สุขภาพดี คือลาภอันประเสริฐ ที่เราทำได้เอง

Suraphol KruasuwanOWNER