ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มกราคม 17, 2021, 07:23:13 pm ».
เรื่องที่ลงนี้ เป็นผลของการกรรมที่ทำให้ต้องมาประสบกับผลพร้อมๆกัน
.
บุคคลที่กระทำกรรมด้วยกันทั้งหมด เมื่อถึงเวลา ก็ต้องรับผลกรรมนั้น
.
หากพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ไม่ได้เดินทางไปด้วย ผลกรรมนี้ก็ยังไม่แสดงผล
.
รวมทั้งคุณหญิงท่านหนึ่งเช่นกัน หากคุณหญิงไม่ได้เดินทางไปพร้อมกับพระภิกษุทั้ง 5 รูป
.
ผลกรรมก็ยังไม่แสดงผลเช่นกัน
.
และ ผลกรรมที่ยังไม่แสดงผล นั่นก็คือ พระภิกษุทั้ง 5 รูป ก็ไม่สามารถนิพพานได้
.
พระภิกษุทั้ง 5 รูป และ คุณหญิง จึงต้องรับผลกรรมนั้น เพื่อนิพพาน
.
ลองไปอ่านกันดู ครับ
.
.
.****************************.
.
.
เรื่องที่ ๒๖๘ อย่ายินดีในความชั่วของผู้อื่น
.
หลวงปู่หลุย จันทสาโร เมตตาเล่าถึงบุพกรรมที่ทำให้พระอริยเจ้าทั้ง 5 องค์ ต้องเครื่องบินตก
.
ในอดีตชาติที่นานเนมาแล้ว ท่านทั้ง 5 (พระอาจารย์วัน อุตฺตโม พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม และพระอาจารย์สุพัฒ สุขกาโร) เกิดในสกุลชาวนาที่ยากจน ต้องขวนขวายหาเลี้ยงชีพไปวัน ๆ ทั้งห้าคนเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยกันมา
.
เมื่อยังเด็กได้จูงควายออกไปเลี้ยงพร้อมกัน ผูกควายกัน แล้วก็พากันเล่นและออกหากบเขียดไปเป็นอาหารประสาจน
.
ทีนี้ 1 ใน 5 เกิดไปเห็นรังนกเข้า ก็ช่วยกันหาไม้เขี่ยรังนกให้ตกลงมา เพื่อหวังเอาไข่นกไปกิน แต่เมื่อรังนกตกลงมากลับกลายเป็นลูกนก 3 ตัว แล้วตายสิ้น ไม่ใช่ไข่นกดังที่เข้าใจ
.
ด้วยวิบากกรรมอันนี้ส่งผลให้ท่านทั้ง 5 ต้องตกจากที่สูงมามรณภาพ
.
ในเครื่องบินลำนั้นมีคุณหญิงท่านหนึ่งกลับจากไปปฏิบัติธรรมกับท่านพระอาจารย์จวนมาด้วย ท่านเลยมาสิ้นชีวิตพร้อมกัน
.
ในอดีต ขณะที่เด็กชายทั้ง 5 กำลังเขี่ยรังนกอยู่นั้น เด็กหญิงลูกชาวนา ผู้เป็นน้องสาวของ 1 ใน 5 คน ก็มายืนเชียร์อยู่ข้าง ๆ
.
“จะหล่นแล้ว...จะหล่นแล้ว”
.
โดยเธอไม่ได้ลงมือทำ
.
เด็กหญิงในภพนั้นคือคุณหญิงในภพนี้
.
ก็เพียงมีจิตคิดยินดีในการประกอบอกุศลกรรมของผู้อื่น วิบากนั้น ยังส่งผลมาให้เกิดในภพชาติเดียวกัน บันดาลให้ไปตกเครื่องบินพร้อมกัน
.
แล้วถ้าทำเองเล่า
.
ถึงตรงนี้ หลวงปู่หลุยก็สั่งว่า อย่าไปยินดีในการทำชั่วของคนอื่น เพราะเราจะมีส่วนในบาปนั้นด้วย
.
แต่ให้ยินดีในการประกอบคุณงามความดีของตนและของคนอื่น เพราะจะได้แต่บุญโดยฝ่ายเดียว
.
ขอให้เจริญในธรรม
.
รายละเอียดของข่าว:
.
เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ เดือนเมษายน พระคณาจารย์พระป่ากัมมัฏฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ได้รับอาราธนาจากทางสำนักพระราชวัง กรุงเทพฯ ทั้งหมดจำนวน ๕ รูปด้วยกัน คือ หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม, หลวงพ่อวัน อุตฺตโม, พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ, พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร และพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม
.
พระคณาจารย์พระป่ากัมมัฏฐานทั้งหมดท่านจึงได้ไปรวมกันที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อขึ้นเครื่องบินเที่ยวบิน TG ๒๓๑ อุดรธานี-กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเครื่องบิน ๒ ใบพัด รุ่น HS-๗๔๘ รหัส HS-THB บินออกจากท่าอากาศยานอุดรธานี จะไปลงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เพราะลูกศิษย์ลูกหาต้องการถวายความสะดวกและความรวดเร็วในการเดินทาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๓
.
ครั้นเมื่อเครื่องบินมาถึงท้องนาทุ่งรังสิต เขตหมู่ที่ ๔ ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เหลือระยะทางประมาณ ๒๐ กิโลเมตรเศษ เครื่องบินได้ตั้งลำและลดเพดานบินเพื่อเตรียมลงสู่สนาม
.
แต่เนื่องจากเครื่องบินได้ประสบพายุหมุนประกอบกับมีพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก มีลมกระโชกแรง เกินที่นักบินจะควบคุมเครื่องให้ลงจอดได้ อย่างปลอดภัย
.
สุดท้ายจึงเสียการควบคุมตกลงมากระแทกกับพื้นดินบนท้องนาทุ่งรังสิต ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องจำนวน ๕๓ คน เสียชีวิต ๔๐ คน
.
อุบัติเหตุเครื่องบินตกในครั้งนั้นเป็นเหตุทำให้ พระคณาจารย์ทั้ง ๕ รูป ได้ถึงแก่มรณภาพลงพร้อมกัน เมื่อเวลาประมาณ ๑๔.๐๐ นาฬิกา
.
โมทนาที่มา dhammajak
ที่มา กฎแห่งกรรม Laws of Karma
.
.**************************.
.
พระคณาจารย์ 5 รูป เครื่องบินตก
.
โพสโดย ศิษย์วัดป่าหินฮาวสังฆมณีศรีธันดร
15 มกราคม 2563
.
เหตุการณ์วันเครื่องบินตก 27 เมษายน 2523
.
เรื่องนี้เมื่อหลวงปู่เล่ามาตอนไหนหลวงปู่ท่านจะน้ำตาไหลออกมาทุกที
.
หลวงปู่กล่าวว่า เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นมาต่างก็สลดใจอยู่ไม่น้อยที่พระสายกรรมฐานได้สูญเสียพระคณาจารย์ในครั้งนั้น นี้หนอกรรม วันที่ 22 หลวงตามหาบัวท่านได้มีกิจนิมนต์ไปที่พระราชวัง โดยได้อาราธนานิมนต์พระหลายรูป อาทิ
1.หลวงตามหาบัว
2.พระอาจารย์บุญมา
3.พระอาจารย์จวน
4.พระอาจารย์วัน
5.พระอาจารย์สิงห์ทอง
6.พระอาจารย์บุญศรี
7.พระอาจารย์สุพัฒน์
.
ก่อนวันเกิดเหตุ วันที่ 26 พ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งหมดมารวมตัวกันที่วัดป่าบ้านตาด และจะแยกย้ายเดินทางกันเดินทางจาก จ.อุดรธานี โดย หลวงตามหาบัว จะนั่งรถตู้ไป พระอาจารย์วัน พระอาจารย์จวน พระอาจารย์บุญมา พระอาจารย์สิงห์ทอง และ พระอาจารย์สุพัฒน์ จะไปนั่งเครื่องบิน ก่อนขึ้นรถแยกย้ายกัน
.
หลวงปู่บุญศรีท่านอยากจะไปนั่งเครื่องบินกับพ่อแม่ครูอาจารย์ท่าน 5 รูป ก็เลยให้พระที่วัดเอาบาตรขึ้นรถที่จะไปสนามบิน
.
ทันใดนั้นหลวงตามหาบัวก็เลยเรียกหลวงปู่บุญศรีว่า เฒ่าศรี มาขึ้นรถนำผม(อาตมา)นิ เฮาไปรถตู้ เฮาสิฮอดก่อนเขาอยู่ดอก ถ้าเฮาบ่ไปงานสิแล้วติ มาๆปล่อยเขาไปนำกัน
.
หลวงปู่ยอมรับเลยนะว่า เสียความรู้สึกนิดๆนะตอนนั้น แล้วก็คิดอยู่ในใจว่า เขานั่งเครื่องบินนะแต่รถตู้จะไปถึงก่อนได้ไง
หลังจากนั้นหลวงปู่ก็ไปเอาบาตรลงจากรถ แล้วมาขึ้นรถตู้กลับหลวงตามหาบัว พอพูดถึงตรงนี้หลวงปู่ก็น้ำตาไหล แล้วกล่าวว่า
.
“ทั้งสงสารเพื่อน ทั้งทราบซึ้งในความเมตตาของหลวงตามหาบัว ถ้าหากไม่ได้หลวงตาบัวบอกให้เปลี่ยนรถในวันนั้นหลวงปู่คงตายไปแล้ว แต่ก็ยังสงสารเพื่อนอยู่ดี”
.
หลวงปู่ท่านเล่าเป็นกลอนว่า
สิงห์ทอง เอ่ย(เอ๋ย) เฮาได้ไปพากันดั่น เดินดงพงวิเวก ส่างมาบาปโพดฮ้าย ตายแล้วบ่มีสูญแท้น้อ นึกเถิงคราวเดินดงเข้าทางถ้ำสหาย 4 องค์ เดินไปทุกข์ปานใด๋บ่เคยยั้น ปาดมักหุ่งป้อมซ้ายขวาเป็น 4 ส่วน พอกินแล้วมุ่งหน้าเดินดง
(เดินไปทุกข์ขนาดไหนไม่เคยกลัว ผ่ามะละกอแบ่งเป็น 4 ส่วน)
.
ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างหลวงปู่บุญศรีและพระอาจารย์สิงห์ทอง นั้นถือว่ารักกันมาเพราะท่านทั้งสอง ต่างก็ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันในสมัยที่ออกวิเวกด้วยกัน
.
พอรถหลวงตามหาบัว ไปถึงรังสิต ก็ได้ทราบข่าวว่าเครื่องบินตก ซึ่งมีพระคณาจารย์ ทั้ง 5 รูปรวมอยู่ด้วย คำแรกที่หลวงตามหาบัวได้พูดกับหลวงปู่ว่า นี้แหละกรรมของเขา เฒ่าศรียังสิไปยุ่งกับกรรมเขาอยู่
.
หลวงปู่นึกในใจ ก็คนไม่(บ่)เคยขึ้นเครื่องบินเนาะ มางานในวังทั้งที(ทั้งเถื่อ)ก็อยากนั่งเครื่องบินให้มันโก้ๆหน่อย(แหน่จักหน่อย)
.
หลังจากนั้นหลวงตามหาบัวก็สั่งคนขับรถไปที่บริเวณที่เกิดเหตุ
.
“ที่พูดมาก็เพราะนึกถึงเพื่อนรักอีกคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน เห็นไหมละว่ากรรม กรรมนี้ยิ่งใหญ่กว่าอะไรทั้งปวง แม้แต่พระพุทธเจ้ายังต้องรับกรรมจวบจนสุดท้ายปลายแดนของชีวิต หากเรายังคงมีชีวิตอยู่ก็ควรสร้างคุณงามความดีเข้าไปเราไม่รู้หรอกนะว่าเราจะตายเมื่อไหร่ ถึงรู้ก็หนีมันไปไม่ได้เพราะความตายไม่มีใครหนีพ้น ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ควรที่จะสะสมคุณงามความดีไว้ให้มากๆนะ”
.
หลวงปู่บุญศรี ปรารภธรรม 15 มกราคม 2564
.
เรื่องที่ลงนี้ เป็นผลของการกรรมที่ทำให้ต้องมาประสบกับผลพร้อมๆกัน
.
บุคคลที่กระทำกรรมด้วยกันทั้งหมด เมื่อถึงเวลา ก็ต้องรับผลกรรมนั้น
.
หากพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ไม่ได้เดินทางไปด้วย ผลกรรมนี้ก็ยังไม่แสดงผล
.
รวมทั้งคุณหญิงท่านหนึ่งเช่นกัน หากคุณหญิงไม่ได้เดินทางไปพร้อมกับพระภิกษุทั้ง 5 รูป
.
ผลกรรมก็ยังไม่แสดงผลเช่นกัน
.
และ ผลกรรมที่ยังไม่แสดงผล นั่นก็คือ พระภิกษุทั้ง 5 รูป ก็ไม่สามารถนิพพานได้
.
พระภิกษุทั้ง 5 รูป และ คุณหญิง จึงต้องรับผลกรรมนั้น เพื่อนิพพาน
.
ลองไปอ่านกันดู ครับ
.
.
.****************************.
.
.
เรื่องที่ ๒๖๘ อย่ายินดีในความชั่วของผู้อื่น
.
หลวงปู่หลุย จันทสาโร เมตตาเล่าถึงบุพกรรมที่ทำให้พระอริยเจ้าทั้ง 5 องค์ ต้องเครื่องบินตก
.
ในอดีตชาติที่นานเนมาแล้ว ท่านทั้ง 5 (พระอาจารย์วัน อุตฺตโม พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม และพระอาจารย์สุพัฒ สุขกาโร) เกิดในสกุลชาวนาที่ยากจน ต้องขวนขวายหาเลี้ยงชีพไปวัน ๆ ทั้งห้าคนเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยกันมา
.
เมื่อยังเด็กได้จูงควายออกไปเลี้ยงพร้อมกัน ผูกควายกัน แล้วก็พากันเล่นและออกหากบเขียดไปเป็นอาหารประสาจน
.
ทีนี้ 1 ใน 5 เกิดไปเห็นรังนกเข้า ก็ช่วยกันหาไม้เขี่ยรังนกให้ตกลงมา เพื่อหวังเอาไข่นกไปกิน แต่เมื่อรังนกตกลงมากลับกลายเป็นลูกนก 3 ตัว แล้วตายสิ้น ไม่ใช่ไข่นกดังที่เข้าใจ
.
ด้วยวิบากกรรมอันนี้ส่งผลให้ท่านทั้ง 5 ต้องตกจากที่สูงมามรณภาพ
.
ในเครื่องบินลำนั้นมีคุณหญิงท่านหนึ่งกลับจากไปปฏิบัติธรรมกับท่านพระอาจารย์จวนมาด้วย ท่านเลยมาสิ้นชีวิตพร้อมกัน
.
ในอดีต ขณะที่เด็กชายทั้ง 5 กำลังเขี่ยรังนกอยู่นั้น เด็กหญิงลูกชาวนา ผู้เป็นน้องสาวของ 1 ใน 5 คน ก็มายืนเชียร์อยู่ข้าง ๆ
.
“จะหล่นแล้ว...จะหล่นแล้ว”
.
โดยเธอไม่ได้ลงมือทำ
.
เด็กหญิงในภพนั้นคือคุณหญิงในภพนี้
.
ก็เพียงมีจิตคิดยินดีในการประกอบอกุศลกรรมของผู้อื่น วิบากนั้น ยังส่งผลมาให้เกิดในภพชาติเดียวกัน บันดาลให้ไปตกเครื่องบินพร้อมกัน
.
แล้วถ้าทำเองเล่า
.
ถึงตรงนี้ หลวงปู่หลุยก็สั่งว่า อย่าไปยินดีในการทำชั่วของคนอื่น เพราะเราจะมีส่วนในบาปนั้นด้วย
.
แต่ให้ยินดีในการประกอบคุณงามความดีของตนและของคนอื่น เพราะจะได้แต่บุญโดยฝ่ายเดียว
.
ขอให้เจริญในธรรม
.
รายละเอียดของข่าว:
.
เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ เดือนเมษายน พระคณาจารย์พระป่ากัมมัฏฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ได้รับอาราธนาจากทางสำนักพระราชวัง กรุงเทพฯ ทั้งหมดจำนวน ๕ รูปด้วยกัน คือ หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม, หลวงพ่อวัน อุตฺตโม, พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ, พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร และพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม
.
พระคณาจารย์พระป่ากัมมัฏฐานทั้งหมดท่านจึงได้ไปรวมกันที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อขึ้นเครื่องบินเที่ยวบิน TG ๒๓๑ อุดรธานี-กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเครื่องบิน ๒ ใบพัด รุ่น HS-๗๔๘ รหัส HS-THB บินออกจากท่าอากาศยานอุดรธานี จะไปลงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เพราะลูกศิษย์ลูกหาต้องการถวายความสะดวกและความรวดเร็วในการเดินทาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๓
.
ครั้นเมื่อเครื่องบินมาถึงท้องนาทุ่งรังสิต เขตหมู่ที่ ๔ ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เหลือระยะทางประมาณ ๒๐ กิโลเมตรเศษ เครื่องบินได้ตั้งลำและลดเพดานบินเพื่อเตรียมลงสู่สนาม
.
แต่เนื่องจากเครื่องบินได้ประสบพายุหมุนประกอบกับมีพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก มีลมกระโชกแรง เกินที่นักบินจะควบคุมเครื่องให้ลงจอดได้ อย่างปลอดภัย
.
สุดท้ายจึงเสียการควบคุมตกลงมากระแทกกับพื้นดินบนท้องนาทุ่งรังสิต ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องจำนวน ๕๓ คน เสียชีวิต ๔๐ คน
.
อุบัติเหตุเครื่องบินตกในครั้งนั้นเป็นเหตุทำให้ พระคณาจารย์ทั้ง ๕ รูป ได้ถึงแก่มรณภาพลงพร้อมกัน เมื่อเวลาประมาณ ๑๔.๐๐ นาฬิกา
.
โมทนาที่มา dhammajak
ที่มา กฎแห่งกรรม Laws of Karma
.
.**************************.
.
พระคณาจารย์ 5 รูป เครื่องบินตก
.
โพสโดย ศิษย์วัดป่าหินฮาวสังฆมณีศรีธันดร
15 มกราคม 2563
.
เหตุการณ์วันเครื่องบินตก 27 เมษายน 2523
.
เรื่องนี้เมื่อหลวงปู่เล่ามาตอนไหนหลวงปู่ท่านจะน้ำตาไหลออกมาทุกที
.
หลวงปู่กล่าวว่า เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นมาต่างก็สลดใจอยู่ไม่น้อยที่พระสายกรรมฐานได้สูญเสียพระคณาจารย์ในครั้งนั้น นี้หนอกรรม วันที่ 22 หลวงตามหาบัวท่านได้มีกิจนิมนต์ไปที่พระราชวัง โดยได้อาราธนานิมนต์พระหลายรูป อาทิ
1.หลวงตามหาบัว
2.พระอาจารย์บุญมา
3.พระอาจารย์จวน
4.พระอาจารย์วัน
5.พระอาจารย์สิงห์ทอง
6.พระอาจารย์บุญศรี
7.พระอาจารย์สุพัฒน์
.
ก่อนวันเกิดเหตุ วันที่ 26 พ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งหมดมารวมตัวกันที่วัดป่าบ้านตาด และจะแยกย้ายเดินทางกันเดินทางจาก จ.อุดรธานี โดย หลวงตามหาบัว จะนั่งรถตู้ไป พระอาจารย์วัน พระอาจารย์จวน พระอาจารย์บุญมา พระอาจารย์สิงห์ทอง และ พระอาจารย์สุพัฒน์ จะไปนั่งเครื่องบิน ก่อนขึ้นรถแยกย้ายกัน
.
หลวงปู่บุญศรีท่านอยากจะไปนั่งเครื่องบินกับพ่อแม่ครูอาจารย์ท่าน 5 รูป ก็เลยให้พระที่วัดเอาบาตรขึ้นรถที่จะไปสนามบิน
.
ทันใดนั้นหลวงตามหาบัวก็เลยเรียกหลวงปู่บุญศรีว่า เฒ่าศรี มาขึ้นรถนำผม(อาตมา)นิ เฮาไปรถตู้ เฮาสิฮอดก่อนเขาอยู่ดอก ถ้าเฮาบ่ไปงานสิแล้วติ มาๆปล่อยเขาไปนำกัน
.
หลวงปู่ยอมรับเลยนะว่า เสียความรู้สึกนิดๆนะตอนนั้น แล้วก็คิดอยู่ในใจว่า เขานั่งเครื่องบินนะแต่รถตู้จะไปถึงก่อนได้ไง
หลังจากนั้นหลวงปู่ก็ไปเอาบาตรลงจากรถ แล้วมาขึ้นรถตู้กลับหลวงตามหาบัว พอพูดถึงตรงนี้หลวงปู่ก็น้ำตาไหล แล้วกล่าวว่า
.
“ทั้งสงสารเพื่อน ทั้งทราบซึ้งในความเมตตาของหลวงตามหาบัว ถ้าหากไม่ได้หลวงตาบัวบอกให้เปลี่ยนรถในวันนั้นหลวงปู่คงตายไปแล้ว แต่ก็ยังสงสารเพื่อนอยู่ดี”
.
หลวงปู่ท่านเล่าเป็นกลอนว่า
สิงห์ทอง เอ่ย(เอ๋ย) เฮาได้ไปพากันดั่น เดินดงพงวิเวก ส่างมาบาปโพดฮ้าย ตายแล้วบ่มีสูญแท้น้อ นึกเถิงคราวเดินดงเข้าทางถ้ำสหาย 4 องค์ เดินไปทุกข์ปานใด๋บ่เคยยั้น ปาดมักหุ่งป้อมซ้ายขวาเป็น 4 ส่วน พอกินแล้วมุ่งหน้าเดินดง
(เดินไปทุกข์ขนาดไหนไม่เคยกลัว ผ่ามะละกอแบ่งเป็น 4 ส่วน)
.
ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างหลวงปู่บุญศรีและพระอาจารย์สิงห์ทอง นั้นถือว่ารักกันมาเพราะท่านทั้งสอง ต่างก็ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันในสมัยที่ออกวิเวกด้วยกัน
.
พอรถหลวงตามหาบัว ไปถึงรังสิต ก็ได้ทราบข่าวว่าเครื่องบินตก ซึ่งมีพระคณาจารย์ ทั้ง 5 รูปรวมอยู่ด้วย คำแรกที่หลวงตามหาบัวได้พูดกับหลวงปู่ว่า นี้แหละกรรมของเขา เฒ่าศรียังสิไปยุ่งกับกรรมเขาอยู่
.
หลวงปู่นึกในใจ ก็คนไม่(บ่)เคยขึ้นเครื่องบินเนาะ มางานในวังทั้งที(ทั้งเถื่อ)ก็อยากนั่งเครื่องบินให้มันโก้ๆหน่อย(แหน่จักหน่อย)
.
หลังจากนั้นหลวงตามหาบัวก็สั่งคนขับรถไปที่บริเวณที่เกิดเหตุ
.
“ที่พูดมาก็เพราะนึกถึงเพื่อนรักอีกคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน เห็นไหมละว่ากรรม กรรมนี้ยิ่งใหญ่กว่าอะไรทั้งปวง แม้แต่พระพุทธเจ้ายังต้องรับกรรมจวบจนสุดท้ายปลายแดนของชีวิต หากเรายังคงมีชีวิตอยู่ก็ควรสร้างคุณงามความดีเข้าไปเราไม่รู้หรอกนะว่าเราจะตายเมื่อไหร่ ถึงรู้ก็หนีมันไปไม่ได้เพราะความตายไม่มีใครหนีพ้น ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ควรที่จะสะสมคุณงามความดีไว้ให้มากๆนะ”
.
หลวงปู่บุญศรี ปรารภธรรม 15 มกราคม 2564
.