ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
โดยปกติชน นิ้วมือของคนเรา มีกี่นิ้ว (ตอบเป็นภาษาไทยครับ):
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มิถุนายน 16, 2022, 02:02:59 pm »

.
ระวังภัยร้ายจากมิจฉาชีพ สร้างแอปฯ เงินกู้ปลอม
.
โพสโดย Anti-Fake News Center Thailand
16 มิถุนายน 2565
.
ระวังภัยร้ายจากมิจฉาชีพ สร้างแอปฯ เงินกู้ปลอม
.
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่ปล่อยเงินกู้ออนไลน์จำนวนมากมาย ซึ่งบ่อยครั้งมิจฉาชีพก็ใช้แอปฯ เงินกู้เหล่านี้ มาหลอกลวงเรา โดยมักใช้คำโฆษณาที่ชักจูง เช่น อนุมัติไวใน 10 - 15 นาที ติดแบล็กลิสต์ก็สามารถกู้ได้ ผ่อนจ่ายได้ รายเดือนวงเงินสูง เป็นต้น
.
1. สร้างแอปพลิเคชั่นสำหรับเปิดกู้เงินที่ดูน่าเชื่อถือ
.
2. เรียกเก็บเงินเพื่อเป็นค่าค้ำประกัน หรือค่ามัดจำ
.
3. ดอกเบี้ยมีอัตราสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด ระยะเวลาชำระไม่เกิน 1 สัปดาห์
.
4. ใช้คำพูดไม่สุภาพ ด่า ข่มขู่ หากไม่ทำตามเงื่อนไข
.
5. ได้รับเงินกู้ไม่เต็มจำนวน โดยอ้างว่าหักค่าบริการ ค่าธรรมเนียม โดยหักมากกว่า 40%
.
6. ปล่อยวงเงินกู้สูงกว่าที่ขอ เพื่อเรียกเก็บคืนเงินต้นรวมดอกเบี้ยที่สูง
.
7. ส่งข้อความไปข่มขู่กับบุคคลในรายชื่อผู้ติดต่อในโทรศัพท์ หรือโพสต์ประจานผู้กู้ผ่านเฟซบุ๊กเพื่อให้รีบนำเงินมาชำระ
.
หากท่านต้องการกู้เงิน ควรเลือกผู้ให้บริการด้านสินเชื่อที่ถูกกฎหมาย ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่ เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย https://www.bot.or.th/app/BotLicenseCheck
.
ที่มา : กองปราบปราม
#ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #เงินกู้ #หลอกลวง #แอปกู้เงิน
.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: เมษายน 01, 2022, 06:38:51 pm »

.
สำหรับท่านใดที่ทำประกัน ไม่ว่าจะเป็น #ประกันชีวิต และ #ประกันวินาสภัย
ให้ดำเนินการติดตามในเรื่องนี้ให้ดี
หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถโทร.หรือเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ของ #คปภ.ได้ที่ #สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทุกสาขา ครับ
.
.
.
.
.
ปิดอาคเนย์-ไทยประกันภัย มีผลวันนี้ เลขาฯ คปภ.คอนเฟิร์ม
.
วันที่ 1 เมษายน 2565 - 15:01 น.
.
โพสโดย prachachat
.
คปภ.เผย กระทรวงการคลังมีคำสั่งเพิกถอนธุรกิจ “อาคเนย์ประกันภัย-ไทยประกันภัย” มีผลตั้งแต่ 1 เม.ย.65 เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย

วันที่ 1 เมษายน 2565 นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีผลตั้งแต่ 1 เม.ย. 65 นี้
.
ตามคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 670/2565 และคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 671/2565 ตามมาตรา 59 แห่ง พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
.
.
.
.
.
เตรียมรับมือ หาก คปภ.ปิดกิจการ "อาคเนย์ฯ-ไทยประกันภัย"
.
โพสโดย nationtv
01 เม.ย. 2565
.
ลุ้นอีกครั้ง ในวันนี้ หาก คปภ.ลงดาบเพิกถอนใบอนุญาตปิดกิจการ “อาคเนย์ประกันภัย-ไทยประกันภัย” หากไร้เงินเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ เหตุถอดใจหวั่นเคลมเสี่ยงพุ่งหลังสงกรานต์ สุดท้ายโยน “กองทุนประกันวินาศภัย” อุ้ม วางมาตรการคุ้มครองสิทธิทุกกรมธรรม์
.
ในวันนี้ (1 เมษายน 2565) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) นำโดยนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. และผู้บริหารระดับสูง คปภ.ทุกหน่วยงาน ได้นัดแถลงข่าวด่วน เรื่อง การดำเนินการด้านการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัย กรณีบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในเวลา 13.30-15.00 น. ผ่านระบบออนไลน์
.
หลังจากก่อนหน้านี้ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาคปภ. กล่าวถึง แนวทางการเพิกถอนใบอนุญาตนั้น จะเป็นทางเลือกสุดท้าย ที่ไม่มีทางเลือกอื่น หากกลุ่มบริษัทไปทบทวนแล้วยังยืนยันที่จะไม่เพิ่มทุน
.
ขณะที่ ในวงการประกันภัยคาดการณ์ ไปในทิศทางเดียวกันว่า สุดท้ายแล้วต้องเพิกถอนใบอนุญาตปิดกิจการ เหตุยอดเคลมที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง และการขายทรัพย์สินก็ไม่เพียงพอ กับยอดเคลมค้างจ่ายอีกจำนวนมาก กว่า 30,000 กรมธรรม์  หากไม่เพิ่มทุนก็ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนไว้ได้ตามที่กฎหมายกำหนด และคาดว่าหลังสงกรานต์ยอดติดเชื้อสูงได้อีก  จึงเป็นเหตุให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ถอดใจไม่เพิ่มทุน หลังจากเพิ่มทุนไปสองรอบเกือบ10,000 ล้านบาท
.
อย่างไรก็ตาม หากมีการเพิกถอนใบอนุญาตธุรกิจประกันภัย จะมีแนวทางดูแลคุ้มครองสิทธิผู้เอาประกันภัย ดังนี้
.
ทั้งนี้ หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยบริษัทแล้ว บอร์ด คปภ. ได้อาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา 60 และมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัยฯ แต่งตั้งให้กองทุนประกันวินาศภัย เป็นผู้ชำระบัญชี เช่นเดียวกับ 2 บริษัทฯ ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตไปก่อนหน้านี้ คือ  เอเชียประกันภัย และเดอะวันประกันภัย
.
อีกทั้ง หากมีการเพิกถอนใบอนุญาตปิดกิจการบริษัทประกันภัยเพิ่มเติม จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินหรือสภาพคล่องของบริษัทประกันวินาศภัยอื่น หรือธุรกิจประกันภัยในภาพรวม
.
ขณะเดียวกัน ทาง สำนักงาน คปภ. จะเตรียมมาตรการที่จะช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย เพื่อรองรับมิให้ผู้เอาประกันภัยได้รับผลกระทบ น่าจะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน 2 บริษัทฯ ที่ปิดไปก่อนหน้านี้  โดยบูรณาการความร่วมมือกับกองทุนประกันวินาศภัย (ในฐานะผู้ชำระบัญชี) และบริษัทประกันวินาศภัย  ดังนี้
.
.
-ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับความเสียหายและได้ยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนไว้กับบริษัทแล้ว สามารถติดต่อกองทุนประกันวินาศภัย เพื่อขอรับชำระหนี้โดยกองทุนประกันภัยวินาศภัยจะเข้ารับช่วงจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามที่ได้มีการอนุมัติค่าสินไหมทดแทนไว้แล้ว 
.
-ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับความเสียหายแล้ว แต่ยังไม่ได้ยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนไว้กับบริษัทฯ สามารถยื่นเรียกร้อง ค่าสินไหมทดแทนจากกองทุนประกันวินาศภัย โดยกองทุนประกันวินาศภัยจะพิจารณาค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย
.
- ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยทุกประเภทของบริษัทฯ ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตปิดกิจการ สามารถที่จะดำเนินการในส่วนของกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว  ได้แก่ ขอรับคืนเบี้ยประกันภัยที่เหลือจากกองทุนประกันวินาศภัย โดยกองทุนประกันวินาศภัยจะคืนเบี้ยประกันภัย  ให้ตามส่วนระยะเวลาตามความคุ้มครองที่เหลืออยู่  หรือ นำเบี้ยประกันภัยที่จะได้รับคืนไปใช้แทนเงินสดในการเลือกซื้อประกันภัยได้จากบริษัทประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิตที่เข้าร่วมโครงการ ได้ทุกประเภทกรมธรรม์ประกันภัย
.
.
-สำนักงาน คปภ. ได้จัดตั้งศูนย์ให้คำแนะนำ รับเรื่องร้องเรียน และอำนวยความสะดวกในการรับคำขอรับชำระหนี้ รวมทั้งการสนับสนุนบุคลากรในการรับคำขอรับชำระหนี้ ทั้งที่สำนักงาน คปภ. ส่วนกลางและสำนักงาน คปภ. ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้บริการแก่ผู้เอาประกันภัยและประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
.
-จะมีการจัดเตรียมสถานที่ที่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้แก่ กองทุนประกันวินาศภัย และ สำนักงาน คปภ. ซึ่งได้รับมอบหมายจากกองทุนประกันวินาศภัยทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการรับเอกสารหลักฐานการขอรับชำระหนี้แล้วส่งต่อให้กองทุนประกันวินาศภัยต่อไป โดยผู้เอาประกันภัยสามารถยื่นได้ทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด
.
ที่มาของรูป nationtv
.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2022, 04:52:30 pm »

.
อัพเดท! ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2565 ล่าสุดเสีย 100% แล้วจ้า !!
.
https://www.youtube.com/watch?v=kflupLey_A4
.
โพสโดย TAXBugnoms
25 ม.ค. 2022
.
กระทรวงการคลัง เดินหน้าเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 100% ใครได้ยินแบบนี้เป็นต้องหนาวว่า 100% ที่ว่ามันเสียแบบไหนยังไง พรี่หนอมสรุปเรื่อง #ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทั้งหมดนี้อัพเดทให้ฟังในคลิปนี้ครับผม
.
อันดับแรก สิ่งที่ต้องเข้าใจก่อนคือ วิธีคำนวณภาษีที่คำนวณจาก ภาษี = ราคาประเมิน x อัตราภาษี
.
โดยอัตราภาษีจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แบ่งออกเป็น เกษตร / ที่อยู่ / อื่น ๆ / รกร้าง ซึ่งมีการจัดเก็บในอัตราที่ต่างกัน โดยเกษตรถูกสุด ส่วนรกร้างแพงสุด ครับผม
.
แบบไหนเรียกเกษตร แบบไหนเรียกอยู่อาศัย ดูประกาศได้ที่นี่ครับ
เกษตร : https://bit.ly/3fQLbgr
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/126/T_0020.PDF
ที่อยู่อาศัย : https://bit.ly/33QD7Ke
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/126/T_0018.PDF
.
อย่างไรอัตราภาษีของแต่ละประเภทการใช้งาน ที่เราเคยเสียในปี 2563 - 2564 ยังต่ออายุ ให้ลดต่อไปในปี 2565 เป็นต้นไป ซึ่งประกาศเป็นกฤษฏีกาเรียบร้อยแล้ว โดยเสียในอัตราต่อไปนี้
.
- เกษตรกรรม อยู่ที่ 0.01-0.1%
- ที่อยู่อาศัย อยู่ที่ 0.02-0.1%
- อื่นๆ และ รกร้าง อยู่ที่ 0.3-0.7%
.
โดยส่วนที่อยู่อาศัยมียกเว้น บ้านหลังหลักยกเว้น 50 ล้านบาท (กรณีมีทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง)
หรือยกเว้น 10 ล้านบาท (กรณีสิ่งปลูกสร้าง) โดยเจ้าของกรรมสิทธิ์ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
.
แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ การไม่ลด 90% ต่อให้ในปี 2565 เหมือนปี 2563 - 2564 ที่ผ่านมา
ซึ่งแปลว่าเราต้องกลับไปเสียภาษีที่ดินในอัตรา 100% ไม่ได้ลดนั่นเอง
.
ตรงนีัพรี่หนอมแนะนำให้ลองคิดแบบนี้ว่า ในปีที่แล้ว เสียภาษีที่ดินไว้เท่าไร เช่น ถ้าเสียไว้ 20 บาท ก็แปลว่า จริงๆ แล้วเราต้องเสีย 200 บาท แต่ได้สิทธิ์ลดภาษี 90% ทำให้เสียแค่ 20 บาท ดังนั้นปีนี้ต้องกลับมาเสีย 200 บาทนั่นเองครับ
.
นอกจากนั้นอาจจะต้องเช็คเพิ่มเติม สำหรับคนที่ได้รับสิทธิ์ลดตามมาตรการผ่อนปรนในส่วนของภาษีที่ดินที่จ่ายมากกว่าภาษีโรงเรือน (3 ปีแรก) เพราะอาจจะต้องเสียมากขึ้นกว่านั้นก็เป็นไปได้ครับ
.
อ่านบทความเรื่องนี้ได้ที่นีครับ
https://www.taxbugnoms.co/land-and-building-tax/
.
0:00 Intro
0:20 3 ข้อสำคัญที่ต้องรู้
1:51 ใครมีหน้าที่เสียภาษี
2:30 วิธีคำนวณภาษี
4:05 การยกเว้นราคาประเมิน
5:50 เจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ใช่เจ้าบ้าน
6:30 การลดอัตราภาษี
7:29 อัตราภาษีแต่ละประเภท
9:49 การลดภาษีเพิ่มเติม
10:35 ไม่ลดภาษีที่ดินต่อ
11:33 บรรเทาภาระภาษี
12:49 ตัวอย่างการคำนวณภาษี
14:00 สรุป
.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2021, 09:10:51 pm »

.
กำไรรับหมด ขาดทุนไม่รับ ?????  !!!!!!!!!!
.
ในกรณีที่จะทำประกันฉบับอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกรมธรรม์ประเภทใดๆก็ตาม
ต้องไปดู *****#ความน่าเชื่อถือของบริษัท***** นั้นๆให้ดีๆ
.
ให้ดูถึงผู้บริหารของบริษัทนั้นๆด้วย
เพราะ *****#ผู้บริหารของบริษัท***** เป็นผู้ที่ต้องประเมินความเสี่ยงในการขายกรมธรรม์ประกันชีวิต หรือ ประกันวินาสภัย นั่นหมายถึง ความสามารถในการบริหารเงินที่มีผลต่อผู้เอาประกัน และ ต้องรักษาประโยชน์ทั้งผู้เอาประกันและบริษัท
ความน่าเชื่อถือ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
.
อีกเรื่อง การดำเนินธุรกิจของบริษัทประกันภัย ต้องไม่เอาเปรียบลูกค้า (ผู้เอาประกัน)
หากมีการเอาเปรียบกัน บริษัทจะเหลือความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า(ผู้เอาประกัน)อีกไหม
.
อีกทั้ง สมาคมประกันภัยวินาศภัยไทยเอง มีการดำเนินการที่เข้าข่ายในการเข้าข้างบริษัทประกันอีกด้วย
.
ย้ำครับว่า อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม  และ บางท่านมีบทเรียนไปแล้วด้วย ครับ
.
#ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน
.
.
.
.
.
คปภ. ถกด่วนภาคธุรกิจประกันวินาศภัย กรณีประกันภัย COVID-19 เจอจ่ายจบ
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบประกันภัยและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน
.
ที่มา สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
15 พฤศจิกายน 2564
.
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมประกันภัยวินาศภัยไทย มีหนังสือลงวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ถึงประธานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (ประธานบอร์ด คปภ.) ขอให้พิจารณาทบทวน Macroprudential Supervision สำหรับการรับประกันภัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
.
โดยเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) พิจารณาทบทวนคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท ในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564
.
และต่อมานายกสมาคมประกันวินาศภัยมีหนังสือลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ขอเข้าพบเพื่อรายงานสถานการณ์วิกฤตจากการรับประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ รวมทั้งนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ให้ข่าวต่อสื่อมวลชนเรื่อง ข้อกำหนดห้ามไม่ให้บริษัทรับประกันเพื่อวินาศภัยอันเดียวกันเกินกว่า 10% ของเงินกองทุนตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากหากเกิดความเสียหายขนาดใหญ่ขึ้นแล้วการจ่าย ค่าสินไหมทดแทนจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อฐานะความมั่นคงทางการเงินของบริษัทได้ ซึ่งจะเห็นว่ากรณีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัย COVID-19 ถือเป็นความเสี่ยงอุบัติใหม่ และได้ส่งผลกระทบต่อเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัยเกินกว่า 10% ไปเป็นจํานวนมาก นั้น
.
.
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และป้องกันมิให้ปัญหาลุกลามบานปลาย สำนักงาน คปภ. จึงได้มีหนังสือเชิญนายกสมาคมฯ และกรรมการบริหารสมาคมฯ ทุกคนเข้าประชุมหารือกับเลขาธิการ คปภ. และคณะผู้บริหารของสำนักงาน คปภ. และรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมในวันนี้ (วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564) โดยมี   บริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ เข้าร่วมประชุมด้วย
.
.
ทั้งนี้ ในวันนี้ (15 พฤศจิกายน 2564) นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยและกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้ให้ข้อมูลว่า สถานการณ์ที่ผ่านมาและประมาณการค่าสินไหมทดแทนประกันภัย COVID-19 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตของบริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ จะส่งผลกระทบต่อเงินกองทุนของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญซึ่งอาจจะส่งผลให้บริษัทมีปัญหาเกี่ยวกับฐานะทางการเงิน
.
ส่วนประเด็นการขอยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564  สมาคมฯ ให้ข้อมูลว่าการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าในอนาคตจะสูงขึ้นอีก จึงมีความจำเป็นที่ต้องขอยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบต่อบริษัทประกันวินาศภัยที่รับประกันภัย COVID-19
.
ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันให้ยึดถือประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นสำคัญในการแก้ไขปัญหา โดยสำนักงาน คปภ. ยินดีที่จะรับฟังข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมของรายบริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบเพื่อพิจารณามาตรการเยียวยาผลกระทบให้ตรงกับปัญหาของแต่ละบริษัท และส่งเสริมการทำทางเลือกให้ผู้เอาประกันภัยเลือกเปลี่ยนความคุ้มครองหรือประเภทกรมธรรม์ประกันภัยหรือทางเลือกอื่น ๆ ด้วยความสมัครใจของผู้เอาประกันภัย จึงเห็นว่าบริษัทที่ประสบปัญหาสามารถใช้แนวทางนี้ในการบรรเทาผลกระทบไปก่อนได้
.
ส่วนประเด็นที่ยังเห็นไม่สอดคล้องกันในเรื่อง การขอยกเลิกเงื่อนไข   การใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท ในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เพราะสำนักงาน คปภ. เห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นจำนวนมาก อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประกัยภัยโดยภาพรวมด้วย ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะได้มีการหารือร่วมกัน เพื่อให้ได้มาตรการที่เหมาะสมต่อไป
.
.
เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมกับสมาคมฯ แล้ว เลขาธิการ คปภ. ได้ประชุมร่วมกับรองเลขาธิการ คปภ. ทั้งสามด้าน รวมทั้งผู้ช่วยเลขาธิการ สายงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุมมีมติดังนี้
.
.
1. การดำเนินการในแก้ปัญหา สำนักงาน คปภ. จะยึดถือประโยชน์สูงสุดของประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นสำคัญ   
.
.
2. คำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท ในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ยังมีผลบังคับตามกฎหมายอยู่ บริษัทต้องปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว ส่วนประเด็นที่ยังเห็นไม่สอดคล้องกัน จะได้มีการหารือร่วมกัน เพื่อให้ได้มาตรการ ที่เหมาะสมต่อไป
.
.
3. สำนักงาน คปภ. ได้รับทราบความเดือดร้อนของภาคธุรกิจและยินดีให้ความช่วยเหลือเพื่อให้พ้นวิกฤต โดยที่ผ่านมา คปภ. ได้ผ่อนคลายกฎกติกาให้ไปแล้วหลายเรื่อง แต่มาตรการการช่วยเหลือบริษัทที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด จะต้องขึ้นอยู่กับสถิติ ตัวเลขข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกต้อง แม่นยำและผลกระทบต่าง ๆ ในทุกมิติ ซึ่งต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ และที่สำคัญจะต้องไม่ทำให้ผู้เอาประกันภัยเดือดร้อน และต้องไม่เป็นการรอนสิทธิของประชาชนผู้เอาประกันภัย
.
.
4. จะเร่งเชิญบริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ มาสอบถามและขอข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการจัดทำ Stress Test เพื่อประเมินความทนทานของรายบริษัทและระบบประกันภัยภายใต้สถานการณ์ความเสี่ยงจำลองสำหรับการแพร่ระบาดของ COVID-19
.
.
5. บริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับผลกระทบจากการเสนอขายประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ อาจพิจารณา เข้าร่วมโครงการผ่อนผันเพิ่มเติม เพื่อเสริมมาตรการเยียวยาให้บริษัทมีสภาพคล่องพร้อมที่จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัย COVID-19 ให้กับผู้เอาประกันภัยได้มากขึ้น
.
.
6. หากสมาคมฯ ต้องการเสนอมาตรการผ่อนผันเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือบริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับผลกระทบ ให้เร่งนำเสนอ เพื่อสำนักงาน คปภ. จะได้กลั่นกรองและเร่งนำเสนอต่อบอร์ด คปภ. โดยเร็ว
.
.
7. ในระหว่างที่มีการดำเนินการข้างต้น หากบริษัทประกันวินาศภัยใดที่ประสบปัญหาต้องการดำเนินการเพื่อมิให้ปัญหาการขาดสภาพคล่องลุกลามบานปลาย การเสนอแนวทางปรับปรุงเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 โดยเสนอทางเลือก\ที่น่าสนใจในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยประเภทเดิม หรือปรับเปลี่ยนไปให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่นที่อาจเป็นประโยชน์แก่ผู้เอาประกันภัยมากขึ้น
.
สามารถกระทำได้เฉพาะกรณีที่เป็นเรื่อง ความสมัครใจของผู้เอาประกันภัยเท่านั้น
.
บริษัทไม่สามารถไปบังคับผู้เอาประกันภัยให้ยอมรับการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย หรือยอมรับเงื่อนไขความคุ้มครองใหม่ของบริษัท
.
ดังนั้น การเปลี่ยนสิทธิหน้าที่หรือความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยจะสามารถกระทำได้เฉพาะในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้มีการแสดงเจตนา หรือให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งในการตอบรับข้อเสนอของบริษัทเท่านั้น
.
นอกจากนี้ ในกรณีของบริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ให้ผู้บริหารของบริษัทชี้แจงและได้ตรวจสอบ\ข้อเท็จจริงแล้ว ได้รับการยืนยันว่า การดำเนินการของบริษัทเป็นการเสนอทางเลือกให้กับผู้เอาประกันภัย โดยเป็นไป ด้วยความสมัครใจของผู้เอาประกันภัย จะไม่มีการบังคับผู้เอาประกันภัยแต่อย่างใด โดยเป็นวิธีการที่บริษัทพยายามหาแนวทางบริหารความเสี่ยงเพื่อลดปัญหาการขาดสภาพคล่องเพื่อให้อยู่รอดได้ และยืนยันจะปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียน
.
โดยสำนักงาน คปภ.ได้กำชับให้บริษัทดำเนินการดังกล่าว ด้วยความสมัครใจของผู้เอาประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยไม่ยอมรับทางเลือกที่เป็นข้อเสนอของบริษัท สัญญาประกันภัยของผู้เอาประกันภัยก็ยังมีผลบังคับต่อไปเหมือนเดิมทุกประการ
.
.
“ขอให้ผู้เอาประกันภัยมั่นใจว่า สำนักงาน คปภ. จะดำเนินการอย่างเต็มที่ และจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัย แต่อย่างไรก็ตาม ก็พร้อมที่จะรับฟังและหามาตรการเยียวยาปัญหาให้บริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับผลกระทบจากการเสนอขายประกันภัย COVID-19 ด้วย เพราะการประกอบธุรกิจประกันภัยต้องอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของประชาชน” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
.
.
.
.
.
คปภ.ห้าม บ.ประกันยกเลิก - เปลี่ยนเงื่อนไข “เจอ จ่าย จบ” ฝ่ายเดียว | คนชนข่าว | 15 พ.ย. 64
.
https://www.youtube.com/watch?v=j-aCKy_1Oww
.
TNN Online
15 พ.ย. 2021
.
หลังจากเป็นประเด็นร้อน เดอะวัน ประกันภัย แจ้งยกเลิกกรมธรรม์ ประกันโควิด “เจอ จ่าย จบ” วันนี้ คปภ.ได้มีการแถลงห้ามบริษัทประกันยกเลิกหรือเปลี่ยนเงื่อนไขฝ่ายเดียว ต้องมีการยินยอมทั้งสองฝ่าย ติดตามได้ในรายการ “คนชนข่าว” โดยโมไนย เย็นบุตร ทาง TNN16
.
.
.
.
.
คปภ.แถลง! ห้ามเลิกประกันโควิดเจอจ่ายจบ | 15-11-64 | ข่าวเย็นไทยรัฐ
.
https://www.youtube.com/watch?v=O1ek82BXEXI
.
Thairath Online
15พ.ย. 2021
.
มาดูประเด็นร้อยที่เกิดขึ้นช่วง เสาร์อาทิตย์ กันหน่อย
เพราะมีบริษัท เดอะวันประกันภัยส่งจดหมาย บีบคนทำประกันโควิดเจอจ่ายจบ ยกเลิก กรรมธรรม์
พร้อมกับยื่นข้อเสนอแต่เป็นข้อเสนอที่ไม่สามารถเลือกได้
.
#สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย #คปภ.
#ประกันโควิดเจอจ่ายจบ
#ประกันCovid19เจอจ่ายจบ
#บริษัทประกันภัย
#สมาคมประกันภัยวินาศภัยไทย
#ผู้บริหารของบริษัทประกันภัย
#บริหารความเสี่ยง
#ผู้ทำประกันโควิดเจอจ่ายจบ
#ผู้ทำประกันCovid19เจอจ่ายจบ
#Covid19
#ประกันชีวิต
#ประกันวินาสภัย
.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2021, 02:43:20 pm »

.
คิดให้ดี….ก่อนเป็นหนี้แทนคนอื่น
.
โพสโดย ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย
.
.
เคยหรือไม่...ที่คนรอบข้าง เช่น ญาติพี่น้อง ลูกหลาน เพื่อนสมัยเรียน เพื่อนที่ทำงาน หรือคนใกล้ชิดอีกมากมายขอให้เราช่วยเหลือเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ไม่ว่าจะขอยืมเงิน หรือให้ช่วยค้ำประกันเงินกู้
.
          แม้ว่าการช่วยเหลือจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจช่วยใครทันทีที่ฟังคำขอร้องหรือเรื่องราวที่น่าเห็นใจ อยากชวนให้หยุดคิดสักนิดถึงผลที่จะตามมาจนอาจส่งผลกระทบกับตัวเราและครอบครัว ก่อนจะมานั่งเสียใจภายหลังเพียงเพราะความหวังดีที่กลับมาทำร้ายตัวเราเองที่ต้องเป็นหนี้แทนคนอื่น มาดูกันว่าเคยเจอเหตุการณ์ต่อไปนี้ด้วยตัวเองหรือเคยได้ยินเรื่องราวทำนองนี้จากคนอื่นหรือไม่ และจะมีวิธีการป้องกันอย่างไร
.
เหตุการณ์ไหนบ้างที่อาจทำให้เราเป็นหนี้แทนคนอื่น
.
กู้เงินมาเพื่อให้ยืมต่อ
.
โก้ได้รับโทรศัพท์จากพี่โอซึ่งเป็นญาติสนิทโทรมาขอยืมเงินจำนวน 100,000 บาทเพื่อใช้ลงทุนทำธุรกิจขายของเล่นเด็ก แต่ตอนนี้โก้ก็ไม่มีเงินเก็บมากขนาดนั้น จึงบอกพี่โอว่าจะกดเงินจากบัตรเครดิตของตัวเองให้พี่โอยืม แล้วให้พี่โอเป็นคนผ่อนโดยโอนเงินมาให้โก้ทุกเดือนตามยอดขั้นต่ำในใบแจ้งหนี้ ซึ่งพี่โอก็ตอบตกลง โก้จึงกดเงินจากบัตรเครดิตและให้พี่โอยืมตามที่คุยกัน ต่อมาโก้ได้รับใบแจ้งหนี้จากบัตรเครดิตให้ชำระหนี้ โก้จึงติดต่อพี่โอให้โอนเงินมาให้โก้ แต่พี่โอตอบโก้ว่าของที่สั่งมาขายไม่ค่อยดี จึงไม่มีเงินที่จะให้โก้ไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตที่กดมา สุดท้ายโก้เลยเดือดร้อนเพราะเป็นหนี้จากบัตรเครดิตที่กู้แทนพี่โอในที่สุด
.
กู้แทนคนอื่น
.
ก้องมีน้องสาวชื่อกิ๊บ กิ๊บเป็นเด็กจบใหม่เพิ่งเข้าทำงานรายได้จึงยังไม่สูง แต่กิ๊บใฝ่ฝันอยากจะมีรถยนต์เป็นของตัวเองเพื่อขับไปทำงาน และคอยรับส่งพ่อกับแม่ จึงไปยื่นขอสินเชื่อรถกับสถาบันการเงินแต่ไม่ผ่าน กิ๊บจึงไปขอร้องก้องให้กู้ซื้อรถยนต์เป็นชื่อก้องแทน โดยสัญญาว่าจะผ่อนชำระค่างวดในแต่ละเดือนให้ ก้องตกลงตามที่กิ๊บขอ แต่พอผ่านไป 6 เดือน เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อที่ทำงานของกิ๊บประสบปัญหารายได้ตกต่ำ กิ๊บถูกให้ออกจากงานและไม่สามารถจ่ายค่างวดรถตามที่ตกลงกับก้องได้ ก้องจึงต้องเป็นหนี้แทนกิ๊บในที่สุด

ช่วยค้ำประกันเงินกู้
.
แอนกับฟลุคเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้ง 2 คนสนิทกันมากและมักจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี เมื่อทั้งคู่เริ่มทำงานและสร้างครอบครัวก็ยังไปมาหาสู่กันเสมอ ต่อมาวันหนึ่งฟลุคขอให้แอนช่วยค้ำประกันสินเชื่อจำนวน 400,000 บาท เพื่อเอาเงินไปร่วมหุ้นเปิดร้านกาแฟกับญาติ แอนก็ไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือเพื่อนโดยที่ไม่ได้ปรึกษากับครอบครัวเลยเพราะคิดว่ารู้จักกับฟลุคมาตั้งแต่เด็กไม่มีวันเบี้ยวหรือหนีหนี้แน่นอน 3 เดือนต่อมาแอนก็ต้องเจอข่าวร้ายว่าฟลุคถูกให้ออกจากงานด้วยเหตุผลที่คาดไม่ถึงแถมร้านกาแฟก็ปิดตัวลงเพราะขายไม่ดี และทิ้งภาระหนี้อันหนักอึ้งไว้จนทำให้แอนกับครอบครัวต้องเดือดร้อนจากการตัดสินใจช่วยค้ำประกัน
.
(หมายเหตุ : การค้ำประกัน คือ สัญญาประเภทหนึ่งที่ผู้ค้ำประกันสัญญากับเจ้าหนี้ว่า “ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ผู้ค้ำประกันจะชำระหนี้นั้นแทน” เมื่อมีการทำสัญญาลักษณะนี้เจ้าหนี้จะมีสิทธิเรียกร้อง หรือฟ้องให้คนค้ำประกันรับผิดแทนได้ โดยเป็นการประกันการชำระหนี้ให้บุคคลอื่นนั่นเอง ชึ่งมักจะเกิดขึ้นต่อเมื่อผู้ที่ขอกู้เงินเพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ซื้อรถใหม่ กู้อเนกประสงค์ แต่สถาบันการเงินหรือสหกรณ์ไม่อนุมัติเงินกู้ให้เนื่องจากไม่มีหลักประกันเพียงพอ จึงต้องใช้บุคคลค้ำประกันสินเชื่อ หรือว่าที่เจ้าหนี้อาจต้องการให้ผู้กู้มีทั้งหลักประกันและผู้ค้ำประกันจึงจะมีความมั่นใจมากพอที่จะปล่อยกู้ให้)
.
ลืมประเมินสถานการณ์ตนเองให้คนอื่นยืมจนไม่พอใช้
.
เพื่อนของพลอยโทร. หาพลอยว่ารถกำลังจะถูกยึดเพราะขาดส่งมา 3 งวดแล้ว เดือนหน้าเก็บเงินจากลูกค้าได้จะรีบโอนคืนให้ พลอยสงสารเพื่อนมากจึงให้เพื่อนยืมเงิน 20,000 บาท ที่เก็บไว้จ่ายค่าเทอมลูกในอีก 2 เดือนข้างหน้า และลืมคิดไปว่าตอนนี้พลอยเองก็มีภาระหนี้ค่อนข้างมาก รายจ่ายของครอบครัวก็สูงจนเกือบจะเท่ากับรายได้ และลืมคิดไปว่าหากเพื่อนไม่คืนหนี้ที่ยืมไปพลอยจะหาเงินจากไหนมาจ่ายค่าเทอมลูก เมื่อถึงเวลาที่พลอยต้องจ่ายค่าเทอมลูกเพื่อนก็ยังไม่คืนเงินให้ สุดท้ายพลอยต้องไปกู้เงินมาจ่ายค่าเทอมลูก และกลายเป็นหนี้เพราะช่วยเพื่อนโดยลืมประเมินสถานการณ์ของตนเอง
.
.
ข้อควรคำนึงก่อนตัดสินใจให้ยืมเงิน หรือค้ำประกันเงินกู้
.
1. ถามวัตถุประสงค์ของการยืมเงินหรือการค้ำประกันเงินกู้
.
          เราควรถามรายละเอียดต่าง ๆ จากคนที่จะขอยืมเงินหรือให้ค้ำประกันเงินกู้ ว่าจะเอาเงินไปทำอะไร วงเงินเท่าไร เหตุใดจึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากเรา เช่น เงินไม่พอใช้จ่าย ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ จ่ายค่าบัตรเครดิต หรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน นอกจากนี้ เราต้องประเมินเรื่องอื่น ๆ อีก เช่น คนที่จะขอยืมเงินหรือให้ค้ำประกันเงินกู้มีความสามารถในการชำระหนี้หรือไม่ หากเรารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่สามารถจ่ายหนี้ได้คงเป็นการช่วยเหลือที่ไม่ดีแน่นอน เราในฐานะว่าที่เจ้าหนี้หรือผู้ค้ำประกันมีสิทธิ์ที่จะซักถามจนสิ้นสงสัยและไม่ต้องเกรงใจ เพราะคำถามเหล่านี้จะช่วยทำให้เราทราบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะช่วยหรือไม่ ได้ดียิ่งขึ้น
.
2. ประเมินสถานะทางการเงินของตัวเอง
.
          สิ่งแรกที่ควรคิดถึงก่อนก็คือ ถ้าเราช่วยเขาเราจะมีโอกาสกลายเป็นคนที่เดือดร้อนไปด้วยอีกคนหรือไม่ หากเขาไม่คืนเงินหรือเราต้องจ่ายหนี้ที่เราค้ำประกันแทนเขา เราจะไหวไหม ดังนั้น จึงต้องประเมิน “สถานะทางการเงินของตัวเราเอง” ว่า
.
เรามีความเดือดร้อน หรือปัญหาด้านการเงินหรือไม่
.
มีหนี้สินเท่าไร มีรายรับ-รายจ่ายเป็นอย่างไร มีสภาพคล่องเพียงพอหรือไม่ โดยให้คิดถึงทั้งสถานะปัจจุบันและคาดการณ์ไปถึงภาระที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหากโดนเบี้ยวหนี้
.
มีเงินออมรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เพียงพอหรือไม่ และมีเงินออมสำหรับรายจ่ายก้อนใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้าหรือยัง เช่น ค่าเทอมลูก ค่าผ่าตัดของสมาชิกในบ้าน เงินที่เตรียมไว้ดาวน์บ้าน ดาวน์รถ ซึ่งเงินออมทั้ง 2 ก้อนนี้เป็นเงินที่เรากันไว้เพื่อความจำเป็นในชีวิตของเรา จึงไม่ควรเอาไปให้ใครยืม
.
3. ไตร่ตรองเรื่องอื่น ๆ นอกจากเรื่องเงิน
.
          นอกจากความเสี่ยงเรื่องเงินแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาอื่น ๆ เช่น ปัญหาความสัมพันธ์ เมื่อคนที่ยืมเงินหรือขอให้ช่วยค้ำประกันเงินกู้ไม่สามารถจ่ายคืนหนี้ได้ ก็บ่ายเบี่ยงหลบหน้า ไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากคุย หรือเป็นปัญหาอีกด้านหนึ่งคือคนที่ให้ยืมไม่กล้าทวงเงินเพราะกลัวกระทบต่อความสัมพันธ์ อีกปัญหาที่พบบ่อยก็คือ เกิดความวิตกกังวลและความเครียดสะสมทั้งตัวผู้ให้ยืม ผู้ขอยืม และผู้ค้ำประกัน ส่งผลต่อสุขภาพและอารมณ์ บั่นทอนให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง จึงต้องคิดถึงปัญหาเหล่านี้ไว้ด้วย
.
4. ปรึกษาครอบครัว
.
          ถ้าเราแต่งงานแล้ว อย่าด่วนตัดสินใจให้ยืมเงินหรือค้ำประกันเงินกู้ให้ใครโดยไม่ปรึกษาคู่ชีวิตหรือครอบครัว เพราะนอกจากใช้ชีวิตร่วมกันแล้วส่วนใหญ่ก็ใช้และรับผิดชอบเงินร่วมกันด้วย ดังนั้น ครอบครัวควรรับรู้และร่วมตัดสินใจ เช่น ช่วยเราคิดว่าจะให้ยืมเงินหรือค้ำประกันเงินกู้หรือไม่ เป็นจำนวนเงินเท่าไร ซึ่งคู่สมรสที่จดทะเบียนต้องเซ็นหนังสือยินยอมหรือรับทราบว่าสามีหรือภรรยาของตนเองค้ำประกันเงินกู้ให้คนอื่นด้วย นอกจากนี้ เรื่องราวอาจบานปลายไปสู่ปัญหาครอบครัว เช่น ทะเลาะเบาะแว้งจนต้องหย่าร้าง หรือหากถูกยึดบ้านไปขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้ ครอบครัวก็จะเดือดร้อนไม่มีที่อยู่อาศัยโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน ความคิดเห็นของครอบครัวอาจทำให้เราได้มุมมองที่ไม่เคยนึกถึง และหากครอบครัวไม่เห็นด้วย ก็ควรเคารพการตัดสินใจ และปฏิเสธการให้ยืมเงิน หรือค้ำประกันเงินกู้ไป
.หากในที่สุดแล้ว เราตัดสินใจจะให้ยืมเงินหรือค้ำประกันเงินกู้ ก็ควรหาวิธีป้องกันความเสียหายหรือลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่รับได้ โดยสามารถใช้วิธีดังต่อไปนี้
.
วิธีป้องกันความเสียหาย หรือลดความเสี่ยง
.
กำหนดจำนวนเงินสูงสุดที่จะช่วยเหลือ เช่น ให้ยืม หรือค้ำประเงินกู้ไม่เกิน 20,000 บาท (เรารับภาระได้เท่านี้ โดยไม่เดือดร้อน) การกำหนดจำนวนเงินสูงสุดแบบนี้ จะช่วยป้องกันความเสียหายเท่าที่เรายอมรับได้ หากไม่ได้เงินที่ให้ยืมไปคืนหรือต้องจ่ายหนี้แทน
.
การให้ยืมเงิน
.
มีสิ่งของเป็นหลักประกัน เช่น ทองคำ วิธีนี้จะช่วยเราลดความเสี่ยงหากไม่ได้รับเงินที่ให้ยืมไปคืน เพราะยังมีหลักประกันที่สามารถขายเป็นเงินกลับมาได้
.
ไม่กู้ยืมเงินจากที่อื่นมาให้ยืม เช่น ไม่กดเงินบัตรเครดิต หรือกู้ยืมเงินจากที่
ต่าง ๆ มาให้คนอื่นยืมต่อ  เราจะได้ไม่เป็นหนี้แทนคนอื่น และยังมีวงเงินกู้สำหรับตัวเองไว้ใช้ยามจำเป็นอีกด้วย
.
การค้ำประกันเงินกู้
.
อ่านเงื่อนไขการค้ำประกันให้ครบถ้วน ก่อนที่จะลงชื่อในสัญญาค้ำประกันใด ๆ ก็ตาม ควรอ่านรายละเอียดในสัญญาให้ครบถ้วนก่อนลงชื่อทุกครั้ง ว่าเป็นการค้ำประกันหนี้อะไร จำนวนเท่าไร (เป็นไปตามที่ตกลงหรือไม่) รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของการค้ำประกันเงินกู้เพราะหากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ เจ้าหนี้มีสิทธิ์เรียกร้องให้เราชำระหนี้แทนลูกหนี้ตามสัญญาค้ำประกัน
.
เก็บสัญญาการค้ำประกันเงินกู้ ควรเก็บสำเนาสัญญาหนังสือค้ำประกันเงินกู้ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ทราบถึงสิทธิ์และขอบเขตความรับผิดชอบจากการค้ำประกันเงินกู้ตามสัญญา
.
สุดท้ายที่อยากจะฝากไว้ คือ การช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนเป็นสิ่งที่ดีถ้าเราสามารถช่วยได้ แต่ก็อย่าลืมหันมองดูตัวเราเองด้วยว่าสามารถช่วยเหลือได้เต็มที่แค่ไหน ช่วยแล้วทำให้ตัวเราเองและครอบครัวเดือดร้อนหรือไม่ ถ้าตอนนี้ยังช่วยไม่ไหวอาจจะช่วยรับฟังปัญหา หรือให้คำแนะนำไปก่อน และเมื่อถึงโอกาสหน้าที่เรามีความพร้อมมากกว่านี้ค่อยช่วยตามสมควร
.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2021, 08:54:32 pm »

.
เชื่อว่า มีหลายๆท่าน  ได้ยินคำว่า รีไฟแนนซ์ (Refinance) กันมาบ่อยๆ   บางท่านอาจจะมีการดำเนินการ รีไฟแนนซ์กันมาแน่ๆ
 .
แต่ทราบความหมายกันหรือไม่
.
ความหมายของคำว่า รีไฟแนนซ์ (Refinance) ไม่ใช่การย้ายวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่งไปยังสถาบันการเงินอีกแห่งหนึ่งเท่านั้น
.
สินเชื่อที่สามารถ รีไฟแนนซ์ (Refinance) สามารถดำเนินการได้กับทุกประเภทของวงเงินสินเชื่อ
.
วันนี้ ผมนำความหมายของคำว่า รีไฟแนนซ์ (Refinance) มาฝากกัน
.
.
.
.
.
รีไฟแนนซ์ (Refinance) คือ การก่อหนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่า โดยที่ได้รับประโยชน์ที่ดีกว่าจากการก่อหนี้ก้อนใหม่ นั่นคือการได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ทำให้ลดจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละงวด หรือต้องการรวมหนี้จากเจ้าหนี้หลายรายเป็นเจ้าหนี้รายเดียว หรือต้องการชำระเงินต้นให้รวดเร็วขึ้น
.
ปัจจุบันลูกหนี้นิยมการทำ Refinance สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งในการ Refinance ลูกหนี้ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะการ Refinance สินเชื่อบ้านเพราะหนี้ระยะยาวที่มีเงินต้นค่อนข้างสูง
.
            ในการ Refinance สินเชื่อบ้านเพื่อลดภาระอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงนี้ ลูกหนี้ควรพิจารณาเปรียบเทียบภาระดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินเดิมกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการย้ายสถาบันการเงิน (Switching Cost) ประกอบการพิจารณาด้วย ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้
.
     สถาบันการเงินเดิม : ค่าเบี้ยปรับสำหรับกรณีที่ไถ่ถอนก่อนกำหนดซึ่งสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะคิดค่าปรับประมาณ 2 – 5% ของวงเงินกู้หรือยอดเงินต้นคงเหลือถ้าไถ่ถอนบ้านในช่วง 2 – 3 ปีแรก ตามที่ระบุในสัญญา
.
     สถาบันการเงินใหม่  : ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ประมาณ 0.25 – 2% ของราคาประเมินของกรมที่ดินหรือประมาณ 15,000 – 10,000 บาท ค่าธรรมเนียมการจัดการเงินกู้ประมาณ 0.25 – 2% และค่าประกันอัคคีภัย
.
     กรมที่ดิน : ค่าธรรมเนียมการจดจำนองประมาณ 1% และค่าอากรประมาณ 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่
.
ที่มา: หนังสือ 365+1 คำศัพท์การเงินและการลงทุน
.
ที่มา เว็บไซด์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
.
.
.
.
.
#Refinance
#รีไฟแนนซ์
#การก่อหนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่า
#โดยที่ได้รับประโยชน์ที่ดีกว่าจากการก่อหนี้ก้อนใหม่
#สถาบันการเงิน
#สินเชื่อบ้าน
#สินเชื่อบัตรเครดิต
#สินเชื่อส่วนบุคคล
#สินเชื่อธุรกิจ
#สินเชื่อSME
.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2021, 10:26:10 pm »

.
#การหักลดหย่อนภาษี  #กรณีใบอนุโมทนาบัตร
#กรมสรรพากร
.
คำพิพากษาฎีกาที่ 7700/2548 
.
นาย วุฒิวาร วาระศิริ โจทก์
กรมสรรพากรจำเลย
.
เรื่อง การหักลดหย่อน กรณีใบอนุโมทนาบัตร
.
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 29
.
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5)
ประมวลรัษฎากร มาตรา 27 ตรี , 47(7)
.
คดีนี้มีประเด็นที่ต้องพิจารณาเพียงว่า ใบอนุโมทนาบัตรที่ระบุชื่อโจทก์และครอบครัวเป็นผู้บริจาค โจทก์สามารถนำไปหักลดหย่อนเงินบริจาคได้หรือไม่ การที่ศาลภาษีอากรกลางวินิจฉัยว่า แม้โจทก์ไม่มีใบอนุโมทนาบัตรของวัดมาแสดง แต่โจทก์พิสูจน์พยานบุคคลว่ามีการบริจาคจริง โจทก์ก็ย่อมนำไปหักเป็นค่าลดหย่อนได้จึงเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้อง นอกประเด็น ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 142 แม้คู่ความจะหยิบยกขึ้นเป็นประเด็นในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรไม่จำต้องวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว
.
มาตรา 47 (7) แห่ง ป. รัษฎากร ให้สิทธิผู้มีเงินได้พึงประเมินนำเงินที่ตนบริจาคมาหักเป็นค่าลดหย่อนได้ โดยหักได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินที่หักรายจ่ายแล้ว เมื่อใบอนุโมทนาบัตรที่โจทก์นำมาหักเป็นค่าลดหย่อนระบุชื่อโจทก์และครอบครัวเป็นผู้บริจาค โจทก์จึงมีสิทธินำมาหักเป็นค่าลดหย่อนได้
.
การที่ใบอนุโมทนาบัตรระบุชื่อโจทก์และครอบครัวเป็นผู้บริจาคก็เพื่อเหตุผลทางด้านจิตใจและความเชื่อทางศาสนาว่า บุคคลในครอบครัวของโจทก์ทุกคนได้ร่วมกันทำบุญกุศล เมื่อโจทก์เป็นผู้มีชื่อระบุในใบอนุโมทนาบัตรเพียงคนเดียวโดยไม่มีชื่อบุคคลอื่นร่วมด้วย โจทก์จึงมีสิทธินำเงินบริจาคทั้งจำนวนตามที่ปรากฏในใบอนุโมทนาบัตรพิพาท มาหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของโจทก์ได้
.
การขอคืนภาษีอากรที่นำส่งแล้วเป็นจำนวนเงินเกินกว่าที่ควรต้องเสีย หรือไม่มีหน้าที่ต้องเสีย ผู้เสียภาษีจะต้องยื่นคำร้องขอคืนภาษีต่อเจ้าพนักงานของจำเลย ตาม ป. รัษฎากร มาตรา 27 ตรี การที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยคืนเงินจำนวน 21,806 บาท ที่โจทก์นำไปชำระแก่จำเลยตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ พร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอคืนภาษีแล้วจึงไม่ชอบ ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 29 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5)
.
ที่มา เว็บไซด์กรมสรรพากร ( rd.go.th )
https://www.rd.go.th/36246.html
.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มกราคม 02, 2021, 07:31:43 pm »

.
7 เทคนิคใช้ 'บัตรเครดิต' ไม่ติดกับดัก 'หนี้บัตรเครดิต'
.
2 มกราคม 2564
.
โพสโดย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
.
เปิด 7 วิธีใช้ "บัตรเครดิต" ให้ไม่ติดกับดักวังวน "หนี้" และ "ดอกเบี้ย" แถมยังทำให้คุณ "รวย" ขึ้น!
.

"บัตรเครดิต" จะเป็นเพื่อนรักหรือศัตรูตัวฉกาจ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเรา บางครั้งบัตรเครดิตทำหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง และมีสิทธิประโยชน์ แต่บางครั้งถ้าใช้ไม่เป็น ขาดความรู้ความเข้าใจจะติดกับดักที่หอมหวาน และอาจกลายเป็นผู้ที่มีหนี้สินที่ไม่ควรจะมีได้ง่ายๆ
.
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ชวนไปดูวิธีใช้บัตรเครดิตที่ควรทำ 7 ข้อ ที่จะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ติดกับดักหนี้ และทำให้คุณสนุกกับการบริหารเงินในฐานะ "ลูกหนี้ชั้นดี"
.
.
 1. ไม่จ่ายแค่ "ขั้นต่ำ" เด็ดขาด!
.
การใช้บัตรเครดิตแบบผิดๆ คือ การให้บัตรเครดิตเป็น "เจ้าหนี้เงินกู้" คือใช้รูดสินค้าจำนวนมากในคราวเดียว หรือรูดรวมภายในยอดบิลเดียวกัน ยอดหนี้จะกองเพนินเป็นกองใหญ่ แล้วมาทยอยจ่ายขั้นต่ำทีหลัง
.
เช่น ยอดเต็ม 20,000 บาท จ่ายขั้นต่ำที่ 10% ของยอดที่ใช้ คือ 2,000 บาท บัตรเครดิตจะคิดดอกเบี้ยขั้นต่ำ 18-20% ต่อปีทันที ซึ่งหากจ่ายขั้นต่ำไปจนเรื่อยๆ ทุกๆ เดือนดอกเบี้ยจะพอกพูนเป็นเงินต้นและคิดดอกเบี้ยทับอีกตลบจนกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ได้
.
สาเหตุที่ควรจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำโดยเด็ดขาดคือ เพราะหลังจากที่มีการจ่ายขั้นต่ำ ผู้ให้บริการจะคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตแบบ 2 เด้ง ดังตัวอย่างต่อไปนี้
.
ดอกเบี้ยเด้งที่ 1 .วิธีการคิดดอกเบี้ยเด้งที่ 1 : ยอดที่ใช้จ่ายทั้งหมด x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันจากวันที่ทำรายการถึงวันที่สรุปยอดบัญชี / จำนวนวันใน 1 ปี
.
ดังนั้นดอกเบี้ยเด้งที่ 1 คือ 20,000 x 18% x 22 / 365 = 216.99 บาท
.
ดอกเบี้ยเด้งที่ 2
.
วิธีการคิดดอกเบี้ยเด้งที่ 2 : ยอดคงค้าง x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันจากวันที่ชำระคืนบางส่วน ถึงวันสรุปยอดบัญชีครั้งถัดไป / จำนวนวันใน 1 ปี
.
ดังนั้นดอกเบี้ยเด้งที่ 2 คือ 18,000 x 18% x 12 /365 = 168.66 บาท
.
เพราะฉะนั้น วันสรุปบัญชีรอบใหม่ จะต้องจ่าย 216.99 (ดอกเบี้ยเด้งที่ 1) + 168.66 (ดอกเบี้ยเด้งที่ 2) และ 18,000 (ยอดคงค้าง) รวมเป็น 18,385.65 บาท .
โดยจะถูกคิดดอกเบี้ยในลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจ่ายครบทั้งต้นทั้งดอก ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ายังจ่ายยอดเก่าไม่หมดแล้วรูดยอดใหญ่เพิ่มขึ้นไปอีก หนี้บัตรเครดิตเหล่านี้จะกระชากคุณลงสู่วังวนหนี้ในทันที และแน่นอนว่าถ้าไม่สามารถชำระได้หมดตามระยะเวลา คุณจะถูกตราหน้าเป็นลูกหนี้ชั้นแย่ และส่งผลกระทบต่อการขอสินเชื่อที่จำเป็นในอนาคตได้
.
2. จำกัดวงเงิน ต่อรอบบิล
.
ปกติวงเงินในบัตรเครดิตมักจะอนุมัติประมาณ 1.5 ของเงินเดือนขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าการมีบัตรเครดิต ทำให้เราเหมือนมีเงินสำรองก้อนหนึ่งอยู่ในมือ แต่ถ้ารูดเต็มวงเปรี๊ยะตั้งแต่รอบแรก โดยไม่มีเงินสำรองจ่าย แล้วรอเงินเดือนที่จำนวนพอๆ กับเงินที่ใช้ไปล่วงหน้าไปจ่ายบัตรเครดิต ชีวิตคุณจะเปลี่ยนเป็นคนทำงานเพื่อถวายตัวให้หนี้บัตรเครดิตไม่รู้จบ
.
ฉะนั้น ก่อนใช้บัตรเครดิตในแต่ละเดือนจึงควร "จำกัดวงเงินที่จะใช้แต่ละเดือนให้ชัดเจน" โดยประเมินตามกำลังการจ่ายของตัวเอง เช่น วงเงินทั้งหมด 30,000 บาท จำกัดการใช้ต่อเดือน 10,000 บาท เพื่อเป็นกรอบเตือนสติไม่ให้ใช้เงินเกินกำลังในการชำระคืนในแต่ละเดือน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยป้องกันการรูดเพลินเกินห้ามใจ และกลายเป็นภาระหนักอึ้งที่ตามมา
.
3. รูดเท่าไร จ่ายเท่านั้น
.
“จ่ายเต็มจำนวนทุกครั้ง” เป็นวิถีของลูกหนี้ชั้นดี ที่ทำให้บัตรเครดิตเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์ เพราะการชำระเต็มจำนวนตามเวลาที่กำหนด หรือจ่ายภายในระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย (แต่ละบัตรมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน) จะไม่ถูกคิดดอกเบี้ยใดๆ เลย ในทางตรงกันข้าม หากจ่ายแค่ยอดขั้นต่ำจะถูกคิดดอกเบี้ยแบบ 2 เด้งตามวิธีการคิดเบื้องต้นในข้อที่ 1 ด้วย
.
นอกจากการจ่ายเต็มวงเงินที่ใช้จะช่วยให้เป็นกันชนไม่ให้เราหลุดเข้าไปในกับดักของหนี้บัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยโตเร็วมากๆ แล้ว ยังทำให้คุณกลายเป็นลูกหนี้ชั้นดีที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิตตามมาไม่หวาดไม่ไหวได้ในอนาคตอีกด้วย
.
4. ไม่มีเงินไม่รูด หรือเก็บเงินก่อนรูด
.
หลายคนเข้าใจว่า บัตรเครดิตทำหน้าที่เป็น "เงินอนาคต" ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วในอนาคตเราอาจจะไม่เงินก้อนนั้น และการรูดซื้อของไปล่วงหน้า เท่ากับเรากำลังมีเงินติดลบเสียด้วยซ้ำ
.
การเก็บเงินก่อนรูดเป็นการสร้างเงินสำรองขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าเรามีกำลังที่จะชำระเงินคืนได้อย่างแน่นอน อย่างน้อยที่สุดควรมีเงินสดสำรอง 50% ของสินค้าที่จะซื้อผ่านบัตรเครดิต เพื่อเตรียมสะสมสำหรับจ่ายเต็มจำนวนในเดือนถัดไป
.
หรืออีกหนึ่งวิธีคือการ "ซ้อมเป็นหนี้" ก่อนผ่อนชำระจริง เช่น ต้องการซื้อสินค้าราคา 30,000 บาท โดยใช้สิทธิประโยชน์ผ่อน 0% เป็นเงิน 3,000 เป็นเวลา 10 เดือน จะต้องมีการหักเงินเข้าบัญชีเพื่อซ้อมผ่อน ก่อนจ่ายจริงอย่างน้อย 3-5 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินทางการเงินเกิดขึ้นระหว่างที่อยู่ในโปรแกรมผ่อนชำระ เราจะยังสามารถผ่อนชำระได้ตรงตามเวลา แบบปลอดดอกเบี้ยได้สบายๆ
.
แม้จะดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่เป็นเรื่องที่ควรทำ เพราะเกินครึ่งของคนที่ติดกับดักหนี้บัตรเครดิต คือคนที่เชื่อมั่นในตัวเองว่าจะสามารถหาเงินมาจ่ายได้ในอนาคต ทั้งๆ ที่ไม่มีเงินในมือ และปราศจากการวางแผนในจุดนี้กันทั้งนั้น
.
 5. จ่ายตรงตามเวลาทุกเดือน
.
จ่ายตรงตามเวลาทุกเดือน การจ่ายเงินคืนบัตรเครดิตตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดทันทีที่สรุปยอดบิล หรือจ่ายก่อนวันครบกำหนดชำระ นอกจากเราจะไม่ต้องเสียดอกเบี้ยที่ไม่ควรเสียแล้ว การจ่ายเงินตามเวลาที่กำหนดยังช่วยรักษาสถานะลูกหนี้ชั้นดี ที่อาจส่งผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคตด้วย
.
6. ทำความเข้าใจ "ใบแจ้งหนี้"
.
เอกสารแจ้งหนี้ หรือใบแจ้งหนี้แบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม และไม่ยอมศึกษาอย่างละเอียด ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วการตรวจสอบใบแจ้งหนี้อย่างละเอียดทั้งวันที่สรุปยอด วันครบกำหนดชำระ โดยเฉพาะช่วงที่มีการผ่อนจ่าย ที่อาจมีการคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น หากไม่ตรวจสอบและทำความเข้าใจการคิดอัตราดอกเบี้ย หรือรอบการจ่ายในแต่ละเดือนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด จนนำไปสู่การวางแผนชำระหนี้ผิด อาจส่งผลกระทบด้านการเงินอื่นๆ ที่ตามมาได้
.
สำหรับผู้ให้บริการบัตรเครดิตในปัจจุบันสามารถตรวจสอบยอดเงินที่ใช้ ยอดเงินที่ชำระ ที่อัพเดทแบบเรียลไทม์ ผ่านแอพพลิเคชั่นของแต่ละธนาคาร ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวของการใช้จ่ายของตัวเองได้อย่างละเอียด และสามารถระงับการใช้งานได้ทันท่วงทีเมื่อมีแจ้งเตือนการใช้บัตรที่ผิดปกติ
.
 7. ใช้สิทธิพิเศษของบัตรให้เป็นประโยชน์
.
ข้อดีของการใช้เครดิตที่แตกต่างจากการใช้เงินสด คือ สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ "เงินสดให้ไม่ได้" ซึ่งการใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ เหล่านี้จะตามมาอัตโนมัติ ถ้าใช้เราสามารถบริหารจัดการบัตรเครดิตได้ 6 ข้อด้านบน หรือรักษาสถานะลูกค้าชั้นดีมาอย่างต่อเนื่อง โดยบัตรเครดิตแต่ละธนาคาร หรือบัตรแต่ละประเภทย่อมให้สิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป
.
ฉะนั้นก่อนเลือกสมัครบัตรเครดิต ลองเลือกบัตรที่มีคุณสมบัติที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ตัวเองมากที่สุด เช่น สายช้อปปิ้ง เลือกบัตรที่ให้สิทธิประโยชน์ร่วมกับร้านรีเทล ศูนย์การค้า หรือร้านที่ใช้บริการเป็นประจำ เป็นต้น
.
สำหรับสิทธิพิเศษของบัตรมีหลายรูปแบบ ขอยก 3 ตัวอย่างที่มีให้ในบัตรเครดิตส่วนใหญ่ อย่าง การใช้แต้มบัตรเครดิต การผ่อน 0% และการรับเครดิตเงินคืน
.
ใช้แต้ม : ทุกครั้งที่มีการใช้และจ่ายคืนผ่านบริการผ่านบัตรเครดิตจะได้รับแต้มสะสมตามข้อกำหนดของแต่ละบัตร ซึ่งบรรดาแต้มเหล่านี้จะผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อใช้จ่ายอย่างมีวินัย แต้มเหล่านี้สามารถสะสม เพื่อแลกรับของกำนัลรูปแบบต่างๆ ได้ ตั้งแต่ของเล็กๆ น้อยๆ อย่างชานมไข่มุก ไต่ขึ้นไปเป็นของใช้ เช่น กระเป๋า เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้แต่ส่วนลดค่าบริการร้านอาหาร โรงแรมชั้นนำ ฯลฯ ซึ่งแต้มเหล่านี้คือกำไรที่สามารถลดต้นทุนการใช้เงินของเราในครั้งต่อๆ ไปได้
.
ผ่อน 0% : โปรโมชั่นยอดฮิตที่มีประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่ต้องการซื้อสินค้าบางอย่างที่มีมูลค่าสูงได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในคราวเดียว สามารถทยอยจ่ายเป็นก้อนเล็กๆ โดยไม่มีเสียดอกเบี้ยใดๆ เลย
.
อย่างไรก็ตาม การผ่อน 0% มีข้อควรระวัง คือการเลือกการผ่อนเป็นระยะเวลานาน พร้อมกันหลายๆ สินค้า ซึ่งทำให้ต้องแบกภาระต่อไปเป็นเวลานาน และอาจมีเงินไม่เพียงพอต่อการผ่อนจ่าย ซึ่งเป็นกับดักให้หลายต่อหลายคนเดินทางไปสู่วังวนของการชำระหนี้ไม่ตรงเวลาเพราะชักหน้าไม่ถึงหลัง และโดนหนี้ล้มทับได้เช่นกัน
.
เครดิตเงินคืน : หรือที่เรียกกันติดปากว่า Cashback เป็นสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้ได้เงินคืนเข้าสู่บัญชีบัตรเครดิตทุกครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เสมือนได้ส่วนลดในการใช้จ่ายแต่ละรอบ ทั้งนี้ เงื่อนไขของการให้เครดิตเงินคืนแต่ละครั้ง มักจะมีเงื่อนไขกำหนดอยู่ เพราะฉะนั้นอย่ารูดเพื่อหวังเงินคืนจนลืมมองดอกจันตัวเล็กๆ ที่ระบุเงื่อนไขอยู่ด้วย
.
ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนเผลอใช้บัตรเครดิตหละหลวมไปจาก 7 ข้อที่กล่าวถึงบ้าง บางข้ออาจไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตมาก แต่หากเกิดขึ้นต่อเนื่อง หรือบ่อยครั้งขึ้น ผลของการใช้บัตรเครดิตแบบไม่ระมัดระวังเหล่านี้จะกลับมาเล่นงานในระยาวได้เช่นกัน
.
เพราะเจ้าหนี้ในอนาคตของคุณจะสามารถตรวจสอบพฤติกรรมการชำระหนี้ย้อนหลังที่ปรากฏในเครดิตบูโร หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (National Credit Bureau) เป็นเวลา 36 เดือนหรือ 3 ปี ซึ่งหากประวัติการชำระหนี้ไม่น่ารักอย่างที่ควรจะเป็น ก็มีส่วนทำให้โอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อที่มีความจำเป็นหลุดลอย (ในระยะเวลาหนึ่ง) ได้เช่นกัน
.
ฉะนั้น ก่อนที่จะสมัครบัตรเครดิต หรือก่อนหยิบบัตรเครดิตมาใช้ทุกครั้ง อย่าลืมทบทวนถึงวิธีการใช้บัตรเครดิตทั้ง 7 ข้อนี้ เพื่อสุขภาพการเงินที่ดีของตัวเอง
.
.
.


ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2020, 05:36:07 pm »

รู้ยัง! เพิ่มคุ้มครองประกันรถใหม่ ตายรับขั้นต่ำ 1 ล้านต่อราย ดีเดย์ 1 เม.ย.นี้
.
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 - 14:19 น.
.
ประกันภัยรถยนต์ปรับเพิ่มความคุ้มครอง พ.ร.บ.กรณีเสียชีวิตบุคคลภายนอกจ่าย 500,000 บาท และภาคสมัครใจ จ่ายขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 500,000 บาท รวมจ่ายขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาทต่อราย เริ่มดีเดย์ 1 เม.ย.2563
.
สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมกับ สำนักงาน คปภ. กำหนดหลักเกณฑ์การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยปรับเพิ่มความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ ประกันภัย พ.ร.บ. จากเดิม 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท โดยไม่ขึ้นค่าเบี้ยประกันภัย และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ปรับความคุ้มครองขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 500,000 บาท ผู้ประสบภัยจากรถได้รับค่าสินไหมทดแทนทั้งสองกรมธรรม์รวมกัน ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาทต่อราย เป็นการยกระดับมาตรฐานการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
.
นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน คปภ. และสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ร่วมพิจารณาปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ทั้งการประกันภัยภาคบังคับและภาคสมัครใจ เพื่อยกระดับมาตรฐานในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ชัดเจน ครบถ้วนและเป็นธรรม โดยมีสาระสำคัญ คือ การปรับเพิ่มจำนวนเงินความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ ประกันภัย พ.ร.บ. กรณีผู้ประสบภัยจากรถเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือสูญเสียอวัยวะถึงขนาดที่กำหนด จาก 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท โดยไม่มีการปรับเพิ่มค่าเบี้ยประกันภัยแต่อย่างใด และปรับความคุ้มครองการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ โดยกำหนดเกณฑ์ในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 500,000 บาท หากประชาชนที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุทางรถ จะได้รับความคุ้มครองทั้งจากประกันภัย พ.ร.บ. และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ รวมกันขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาทต่อราย โดยมีผลคุ้มครองเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
.

    เปิดรายละเอียด-เงื่อนไข “แจกเงินฟรี” 2 พันบาท ต้านพิษโควิด-19

.
สำหรับการปรับเพิ่มความคุ้มครองกรมธรรม์การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และการกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับประชาชนที่เสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรด้วยความรวดเร็ว และเป็นธรรม สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ สามารถลดข้อโต้แย้งระหว่างบริษัทประกันภัยและผู้เสียหายลงได้ ซึ่งจากบทเรียนที่ผ่านมาในหลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า การจ่ายค่าสินไหมทดแทนในปัจจุบันนั้นไม่เพียงพอต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งการปรับเพิ่มความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) นี้ ได้เคยมีการปรับเพิ่มมาเป็นลำดับ โดยปรับเพิ่มจาก 200,000 บาท เป็น 300,000 บาท เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 และครั้งนี้ปรับเพิ่ม จาก 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท ซึ่งผลจากการเพิ่มความคุ้มครองโดยไม่เพิ่มค่าเบี้ยประกันภัยนี้ คาดว่าจะทำให้บริษัทประกันภัยต้องแบกรับภาระต้นทุนความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงินกว่า 2,700 ล้านบาท แต่การปรับเพิ่มความคุ้มครองในครั้งนี้ สมาคมฯ เชื่อว่าจะสามารถลดข้อโต้แย้งระหว่างบริษัทประกันภัยและผู้เสียหายลงได้ ที่สำคัญประชาชนได้รับประโยชน์และเกิดความเชื่อมั่นในการได้รับความคุ้มครองและชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรมมากขึ้น
.
นายอานนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้ทำการปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ดังกล่าวแล้ว สมาคมฯ จะได้เร่งดำเนินการจัดประชุมชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจและอธิบายแนวทางในการปฏิบัติตามกรมธรรม์ที่ได้มีการปรับปรุงแก้ไขได้อย่างถูกต้อง และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน พร้อมทั้งแลกเปลี่ยน และระดมความคิดเห็นระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงาน คปภ. บริษัทประกันภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำหนดจัดการประชุมชี้แจงขึ้นทั้งหมดรวม 5 ครั้ง ระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ถึง 16 มีนาคม 2563 รวม 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ สงขลา ชลบุรี และขอนแก่น ตามลำดับ ซึ่งการจัดครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา ได้รับเกียรติจาก ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานในพิธี
.
นอกจากนี้ สมาคมฯ จะได้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารความรู้ ความเข้าใจไปยังประชาชนทุกภาคส่วนให้ได้รับทราบถึงสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองที่ได้รับจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ดังกล่าวอีกด้วย
.
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า การประชุมชี้แจงการปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับและภาคสมัครใจครั้งนี้จัดเป็นครั้งแรก และเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีความสำคัญต่อประชาชน จากอุบัติเหตุของไทยติดอันดับโลก โดยประกันภัยในประเทศไทยมีพอร์ตประกันรถค่อนข้างเป็นพอร์ตใหญ่ เบี้ยประกันรถยนต์ทั้งระบบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายมีแต่จะเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่พี่น้องประชาชนอยากได้รับก็คือการเยียวยาเรื่องประกันภัย
.
ปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจไทย ทำให้เกิดการแข่งขันด้านประกันรถยนต์รุนแรง มีการแข่งขั้นด้านตลาดในการบริการด้านสินไหมทดแทน แต่รู้สึกดีใจที่มีนวัตกรรมเข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ก็ยังมีหลายปัจจัยที่จำเป็นต้องทำคือ หนุนให้ประชาชนทำประกันภัยมากขึ้น ซึ่งต้องสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นและความสำคัญของการประกันภัย แม้ปัจจุบันยังเป็นสัดส่วนที่น้อย อย่างกรณีภาคบังคับควรจะต้องเป็น 100% หรืออย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 90%
.
“เราผนึกกำลังกับภาคอุตสากรรมประกันภัย ด้านกำกับและส่งเสริมเป็นพันธมิตรในหลายๆเรื่องโดยไม่กระทบกับความเป็นกลาง โดยมีความจำเป็นปรับปรุงประกันภัยรถยนต์ และคู่มือตีความเพื่อสะท้อนปัจจัยที่มีการเปลี่ยนแปลง และลดการฉ้อฉลประกันภัย ซึ่งเป็นฟันเฟืองที่สำคัญ ที่ทำให้ตัวกรมธรรม์ต้องมีความชัดเจนสะท้อนภาวะปัจจุบัน จึงได้ปรับปรุงพิกัดอัตราเบี้ยใหม่ จากการประชุมหารืออย่างเข้มข้นอาจจะมีความไม่เข้าใจกันบ้าง แต่สุดท้ายการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียก็จบลงได้อย่างลงตัว ซึ่งการดำเนินงานครั้งนี้ได้รับความเห็นชอบแล้วจากทุกฝ่าย” นายสุทธิพลกล่าว
.
เบื้องต้นได้ลงนามไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 21 ก.พ.63 โดยให้เวลาบริษัทประกันปรับปรุง และเป็นของขวัญประชาชน โดยคำสั่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.63
.
ขณะนี้คู่มือตีความกำลังจะเข้าตามมาในไม่ช้า ซึ่งเดินหน้าไปพอสมควร ภายในเดือนนี้น่าจะมีความคืบหหน้าและภายในช่วงสงกรานต์นี้จะแล้วเสร็จทั้งหมด รวมถึงการกำหนดเบี้ยรหัสรถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้าด้วย
.
ที่มา https://www.prachachat.net/finance/news-423815
.

ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2020, 12:07:08 pm »

อยากให้ฟังกัน  แล้วนำไปคิด
เมื่อคิดแล้วจะได้ความรู้
นำความรู้ไปปฎิบัติเพื่อตนเอง
.
.
.****************************
.
.
อ.วีระ แนะวิธีรวย..เงินงอก รู้เท่าทันการลงทุน (05ธ.ค.62) ฟังหูไว้หู | 9 MCOT HD
.
https://www.youtube.com/watch?v=yYY5oy9jYik
.
โพสโดย
9 MCOT Official
6 ธ.ค. 2562
.
ฟังหูไว้หู |05ธ.ค.62 OnAir
.
.
.-----------------------------
.
.
#รายได้
#การลงทุน
#เงินต่อเงิน
.