ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2023, 10:45:08 am »ติโต พระราชนิพนธ์แปลในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่คนไทยควรอ่าน
อย่างที่ทราบกันดีถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้นมีอยู่มากมาย ท่านทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถโดดเด่นในด้านภาษาและวรรณกรรม สามารถใช้ภาษาต่างประเทศได้ถึง 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และละติน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงฝึกภาษาจากการอ่าน พระองค์ท่านทรงมีความรู้ทางรากศัพท์ดีมาก ทรงโปรดใช้ศัพท์สูงที่เรียกว่า rare words เป็นคำแปลกๆ ที่ไม่แพร่หลาย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงแปล เรื่องติโต ซึ่งเป็น 1 ใน 2 เล่มที่ทรงแปล อีกเล่มคือนายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระทรงแปล ติโต จากต้นฉบับเรื่อง “Tito” ของ Phyllis Auty (ฟิลลิส ออตี้) โดยผู้เขียนต้นฉบับ ติโต เป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดที่เชี่ยวชาญการเมืองภาคยุโรปตะวันออก ทั้งนี่เคยเป็นนักข่าวคนแรกที่ได้สัมภาษณ์ “ติโต” อีกด้วย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้เวลาแปลหนังสือ ติโต ประมาณ 6-7 เดือน
ยอซีป บรอซ หรือ ติโต รัฐบุรุษและประธานาธิบดีของประเทศยูโกสลาเวีย สามารถรวมคนที่แตกต่างกันทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ให้กลับมารวมกันเป็นปึกแผ่นในยามวิกฤต และสามารถต่อต้านสตาลินได้อีกด้วยระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ติโตเข้าประจำการเป็นทหารในกองทัพบกออสเตรีย-ฮังการี โดยจับเป็นเชลยโดยกองทัพรัสเซียและได้กลายเป็นคอมมิวนิสต์ในเวลาต่อมา ติโตถูกขังจองจำเนื่องจากการสมรู้ร่วมคิดต่อต้านระบอบการปกครองในยูโกสลาเวีย ต่อมาในปีเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และ ติโตได้จัดตั้งกองกำลังต่อต้านฝ่ายอักษะของนาซีเยอรมันที่ยึดครองประเทศ และสามารถเอาชนะกองกำลังข้าศึกที่มีอยู่ถึง 30 หน่วยได้ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีคอมมิวนิสต์คนแรก และต่อมาได้เสริมสร้างอำนาจของตนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นโดยการเปลี่ยนเป็นประธานาธิบดี
ติโตได้พาประเทศออกจากอำนาจของสหภาพโซเวียตภายใต้การปกครองของสตาลินและโคมินฟอร์ม พัฒนาประเทศตั้งตนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์อิสระ (ลัทธิติโต) และ เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมประเทศผู้ไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใดเมื่อ “ติโต” สิ้นชีวิต ประเทศยูโกสลาเวียก็ค่อยๆ ล่มสลายลงจนกระทั่งมีสภาพแตกแยกอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้ ส่วนคำว่าความหมายของคำว่า ติโต แปลว่า "นั่น-นี่" เป็นสมญานามที่ได้มาจากการชอบสั่งนั่นสั่งนี่เป็นประจำของเขาเมื่อมีอำนาจ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงแปลหนังสือ ติโต โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย รวมทั้งการใช้โวหารเปรียบเทียบที่คมคาย
“ความสามัคคีจะเกิดขึ้นได้ ส่วนหนึ่งมาจากการได้ผู้นำที่ดีและมีความยุติธรรม”
ถือได้ว่า “ติโต เป็นแบบอย่างแห่งผู้นำที่มีความเพียร เป็นผู้ที่ฟันฝ่าอุปสรรคในทุกวิถีทางเพื่อสร้างความเป็นไท เชื่อว่าผู้อ่านเมื่อได้อ่าน ติโต หรือ หนังสือพระราชนิพนธ์เล่มอื่น ๆ จะได้ข้อคิดที่แฝงคติธรรมที่มีคุณค่าสำหรับผู้อ่านสามารถนำไปเป็นหลักคิดและการดำเนินชีวิตที่ดีต่อไป
............
คำนำ : ติโต (ปกใหม่)
ติโต พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ประวัติของคอมมิวนิสต์ผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้น่าดูอยู่ แต่อย่างไรก็ตามเห็นจะต้องบอกสภาพภูมิศาตร์และการเมืองของพื้นที่เสียก่อนเพราะผมถือว่าเป็นแกนหลักของเรื่องทั้งหมด ดินแดนยุโรปตะวันออกแถบยูโกสวาเวียเป็นพื้นที่เต็มไปด้วยปัญหาทั้งข้อแย้งทางการเมือง ศาสนา และเชื้อชาติมานาน แต่เดิมก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง พวกเขาส่วนหนึ่งอยู่ภายใต้อาณาจักรออสโตร-ฮังการี อีกส่วนหนึ่งเป็นกองกำลังย่อยๆรักษาท้องถิ่นตนเอง บางส่วนศรัทธาในระบอบราชาธิปไตย บางส่วนศรัทธาในระบอบรัฐสภา บางส่วนเลื่อมใสในลัทธิคอมมิวนิสต์ ในดินแดนที่มีทั้งเชื้อชาติ เซิร์บ / โครแอต / มาร์ซิโตรเนียน / แขกขาว ดินแดนอย่าง สโลเวเนีย / บอสเนีย / มอนโตรเนโกร / เซอร์เบีย มีศาสนาที่นับถือหลักๆถึงสามส่วนคือ ออร์โธด๊อคค์ / คาทอลิก และ มุสลิม
ติโตเกิดมาบนความขัดแย้ง พ่อเป็นชาวโครแอต แม่เป็นชาวสโลเวเนีย ในแรกรุ่นเขาไม่ได้สนใจอะไรมากในการเมือง เคยร่วมรบในสงครามที่โรมาเนียในวัย 20 เขาทำงานหลายอย่างก่อนจะเริ่มเรียนรู้ในแนวทางพรรคคอมมิวนิสต์ในขณะที่ทำงานเป็นกรรมกรโรงงาน ความเฉลียวฉลาดทำให้เขาได้ไปศึกษาที่รัสเซีย เขาเริ่มมีบทบาทในทางการเมืองใต้ดินของอาณาจักรยูโกสลาฟตามลำดับในฐานะสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ในช่วงปี 1927 เป็นต้นมา (ชื่อเล่น ติโต ของเขาได้มาในช่วงนี้) ในสภาพที่ประชาชนเบื่อหน่ายในระบอบราชาธิปไตย เขาเริ่มมีชื่อเสียงจนถึงกับหลบๆซ่อนๆ และต้องถูกจับเข้าคุกเป็นเวลาหลายปี ลูกก็เสียชีวิตไปถึง 3 ในทั้งหมด 4 คน ติโตฉายแววอย่างชัดเจนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในช่วงแรกของสงครามเขาตั้งกลุ่มปาร์ติซาน ยังต้องช่วงชิงการนำประชาชนกับ พันเอก ดราจา มิไฮโลวิก ผู้ซึ่งนำกลุ่มเช็คนิก ที่มีสมเด็จราชาธิปดีที่หนีไปอยู่ลอนดอนหนุนหลัง แต่หลังจากใช้ความอดทนเป็นเวลาหลายปี และแสดงถึงความมุ่งมั่นชัดเจนที่จะสร้างประเทศยูโกสลาเวียให้เป็นปึกแผ่น และต่อสู้กับพวกนาซีในขณะที่กลุ่มเช็คนิค แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆซ้ำยังไม่ยอมรับชนชาติเล็กๆเช่นมุสลิม จนฝ่ายสัมพันธมิตรทั้งรัสเซียและอังกฤษให้ความไว้วางใจและสนับสนุนทุกรูปแบบแก่ติโตจนกระทั้งพวกเขาชนะสงคราม
...........
รีวิวโดยบุ๊คเมท : ติโต (ปกใหม่)
ติโต พระราชนิพนธ์แปลในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่คนไทยควรอ่าน
อย่างที่ทราบกันดีถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้นมีอยู่มากมาย ท่านทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถโดดเด่นในด้านภาษาและวรรณกรรม สามารถใช้ภาษาต่างประเทศได้ถึง 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และละติน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงฝึกภาษาจากการอ่าน พระองค์ท่านทรงมีความรู้ทางรากศัพท์ดีมาก ทรงโปรดใช้ศัพท์สูงที่เรียกว่า rare words เป็นคำแปลกๆ ที่ไม่แพร่หลาย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงแปล เรื่องติโต ซึ่งเป็น 1 ใน 2 เล่มที่ทรงแปล อีกเล่มคือนายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระทรงแปล ติโต จากต้นฉบับเรื่อง “Tito” ของ Phyllis Auty (ฟิลลิส ออตี้) โดยผู้เขียนต้นฉบับ ติโต เป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดที่เชี่ยวชาญการเมืองภาคยุโรปตะวันออก ทั้งนี่เคยเป็นนักข่าวคนแรกที่ได้สัมภาษณ์ “ติโต” อีกด้วย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้เวลาแปลหนังสือ ติโต ประมาณ 6-7 เดือน
ยอซีป บรอซ หรือ ติโต รัฐบุรุษและประธานาธิบดีของประเทศยูโกสลาเวีย สามารถรวมคนที่แตกต่างกันทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ให้กลับมารวมกันเป็นปึกแผ่นในยามวิกฤต และสามารถต่อต้านสตาลินได้อีกด้วยระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ติโตเข้าประจำการเป็นทหารในกองทัพบกออสเตรีย-ฮังการี โดยจับเป็นเชลยโดยกองทัพรัสเซียและได้กลายเป็นคอมมิวนิสต์ในเวลาต่อมา ติโตถูกขังจองจำเนื่องจากการสมรู้ร่วมคิดต่อต้านระบอบการปกครองในยูโกสลาเวีย ต่อมาในปีเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และ ติโตได้จัดตั้งกองกำลังต่อต้านฝ่ายอักษะของนาซีเยอรมันที่ยึดครองประเทศ และสามารถเอาชนะกองกำลังข้าศึกที่มีอยู่ถึง 30 หน่วยได้ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีคอมมิวนิสต์คนแรก และต่อมาได้เสริมสร้างอำนาจของตนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นโดยการเปลี่ยนเป็นประธานาธิบดี
ติโตได้พาประเทศออกจากอำนาจของสหภาพโซเวียตภายใต้การปกครองของสตาลินและโคมินฟอร์ม พัฒนาประเทศตั้งตนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์อิสระ (ลัทธิติโต) และ เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมประเทศผู้ไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใดเมื่อ “ติโต” สิ้นชีวิต ประเทศยูโกสลาเวียก็ค่อยๆ ล่มสลายลงจนกระทั่งมีสภาพแตกแยกอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้ ส่วนคำว่าความหมายของคำว่า ติโต แปลว่า "นั่น-นี่" เป็นสมญานามที่ได้มาจากการชอบสั่งนั่นสั่งนี่เป็นประจำของเขาเมื่อมีอำนาจ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงแปลหนังสือ ติโต โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย รวมทั้งการใช้โวหารเปรียบเทียบที่คมคาย “ความสามัคคีจะเกิดขึ้นได้ ส่วนหนึ่งมาจากการได้ผู้นำที่ดีและมีความยุติธรรม”
ถือได้ว่า “ติโต เป็นแบบอย่างแห่งผู้นำที่มีความเพียร เป็นผู้ที่ฟันฝ่
าอุปสรรคในทุกวิถีทางเพื่อสร้างความเป็นไท เชื่อว่าผู้อ่านเมื่อได้อ่าน ติโต หรือ หนังสือพระราชนิพนธ์เล่มอื่น ๆ จะได้ข้อคิดที่แฝงคติธรรมที่มีคุณค่าสำหรับผู้อ่านสามารถนำไปเป็นหลักคิดและการดำเนินชีวิตที่ดีต่อไป
หนังสือเกี่ยวกับชีวประวัติของ Josip Broz Tito ประธานาธิบดีแห่ง สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย ผู้ได้รับฉายาว่า “เผด็จการผู้มีความเมตตา” พระราชนิพนธ์แปลใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
คำอธิบาย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงแปลเรื่อง "ติโต" จากต้นฉบับเรื่อง "Tito" ของ Phyllis Auty เมื่อพ.ศ. 2519 เพื่อให้ข้าราชบริพารได้ทราบถึงบุคคลที่น่าสนใจคนหนึ่งของโลก "ติโต" เป็นผู้นำประเทศยูโกสลาเวีย ซึ่งประกอบด้วยชนชาติที่แตกต่างกัน ทั้งด้าานเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ให้กลับมารวมกันเป็นปึกแผ่นในยามวิกฤต สามารถรักษาความสมบูรณ์ และเพิ่มพูนความเจริญของประเทศตลอดชีวิตของเขา
ฟัง แบบมาราธอน มัดรวมคลิปเดียวจบ
ฟังทีละตอน
ลิ้ง ฟังทีละตอน https://youtube.com/playlist?list=PLOXec4xqLw1GkdcMsys6Dn_w14cPGxhtM
ความรู้ เนื้อหาเสริม