ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2023, 08:47:19 pm »

Loki ลิขิตอันทรงเกียรติ The God Of Stories โลกิผู้คงอยู่ เมื่อตัวร้าย กลายเป็นตัวรัก





ด้วยพลังของ The God Of Stories ที่ยอมอยู่อย่างโดดเดี่ยว เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตด้วย ‘เจตจำนงเสรี’ ต่อไป

<a href="https://www.youtube.com/v//UKwAQN9xZSg" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v//UKwAQN9xZSg</a> 


[สปอยล์] เฉลยปมซีรีส์ ‘Loki’ ซีซัน 2 ตอนสุดท้าย ทำไมโลกิต้องรวบเส้นเวลาเป็นต้นไม้อิกดราซิล ?

ตอนสุดท้ายในซีซันที่ 2 ของซีรีส์ ‘Loki’ เรียกได้ว่าเป็นตอนสุดท้ายที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่มีทั้งสมการรอคอย และใจหายอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นตอนที่ทำให้เราได้เห็นเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากทั้ง 12 ตอนได้มาบรรจบกันด้วยบทสรุปที่ยิ่งใหญ่ การเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นเทพแห่งเรื่องราว (God of Story) ผู้ควบคุมเส้นเวลาทั้งมวลเอาไว้ด้วยตัวเอง

บทสุดท้ายของเรื่องราว จึงเป็นเหมือนกึ่ง ๆ บทสรุปของเรื่องราวต่าง ๆ ของโลกิที่เกิดขึ้นใน MCU ที่ผ่านมาในอดีตถึงความต้องการใน ‘ลิขิตอันทรงเกียรติ’ หรือ ‘Glorious Purpose’ ของเขา ในการปลดแอกจากการควบคุมเส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์ของ ชายผู้คงอยู่ (He Who Remains) เสียสละเพื่อปกป้องสรรพชีวิตในทุก ๆ มัลติเวิร์ส มอบเจตจำนงเสรี (Free Will) ให้กับเหล่าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน TVA (Time Variance Authority)

เกิดอะไรขึ้นในตอนสุดท้าย



ในตอนสุดท้ายของซีรีส์ ‘ลิขิตอันทรงเกียรติ’ หลังจากที่โลกิเผชิญกับเหตุการณ์ที่เครื่องทอเวลา (Temporal Loom) ไม่สามารถรับกำลังการถักทอเส้นเวลาที่เพิ่มขึ้นได้อีกต่อไป จนทำให้ทุก ๆ เส้นเวลาระเบิด TVA ล่มสลาย โลกิเผชิญกับอาการเวลาไถล (Time Slipping) ทำให้ตัวเขาย้อนกลับไปยังอดีต และค้นพบตัวแปรของพนักงาน TVA เขาพยายามค้นหาวิธีป้องกันไม่ให้เส้นเวลาสูญสลาย แต่ไม่ได้ผล แต่สิ่งที่เขาได้ค้นพบก็คือ เวลานี้เขาค้นพบวิธีการควบคุมเวลาไถลได้แล้ว

โลกิย้อนกลับมาเหตุการณ์ตอนซ่อมเครื่องทอ ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุระเบิดอีกครั้ง เขาจึงคิดใช้การไถลเวลาเพื่อย้อนกลับไปยังอดีต เพื่อแก้ไขไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำรอย แต่ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหน หรือใช้เวลาย้อนกลับไปเรียนรู้วิชาฟิสิกส์อีกกี่ร้อยปี TVA ก็ยังจะคงล่มสลายเช่นเดิม เพราะเส้นเวลาได้ขยายตัวเพิ่มอีกเป็นทวีคูณ
โลกิได้ย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ที่ซิลวีสังหาร He Who Remains เขาได้พยายามจะยับยั้งเหตุการณ์ไม่ให้ซิลวีลงมือ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร He Who Remains ก็ต้องตายอยู่ดี แต่เขาก็ได้รู้ความจริงว่า หากจะเปลี่ยนเหตุการณ์ไม่ให้เกิดขึ้นแบบวนซ้ำอีก สิ่งที่เขาต้องทำคือการสังหารซิลวีลง นอกจากนี้เขายังได้รู้ว่า การที่เครื่องทอระเบิด ก็เพื่อทำลายเฉพาะเส้นเวลาแตกแขนง (Branched Timeline) เพื่อปกป้องเส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Timeline) เอาไว้ เพื่อให้เหตุการณ์ยังคงวนลูปต่อไป

โลกิไถลเวลาย้อนกลับไปในเหตุการณ์ที่เขาคุยกับมอร์เบียสครั้งแรก ทำให้เขาเริ่มตระหนักถึงลิขิตอันทรงเกียรติ และการเลือกเส้นทางที่ยากเพื่อหลีกหนีจากลูปที่ He Who Remains สร้างเอาไว้ โลกิย้อนกลับไปช่วงก่อนเหตุการณ์ระเบิด ก่อนจะตัดสินใจระเบิดกระสวยเครื่องทอเวลา จนทำให้เส้นเวลาทั้งหมดเฉาตาย โลกิใช้เวทมนตร์ของตัวเองในการฟื้นชีวิตของเส้นเวลา เก็บรวมเอาไว้ และขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ ณ จุดสิ้นสุดของเวลา โลกินั่งควบคุมเส้นเวลาทั้งหมดที่ตอนนี้แปรสภาพกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ ที่มีรูปทรงคล้ายกับต้นอิกดราซิล (Yggdrasil)

แม้เขาเองในเวลานี้จำต้องโดดเดี่ยวจากเพื่อนร่วมชะตากรรมของเขาไปตลอดกาล แต่การเสียสละของโลกิในการยืดทุกไทม์ไลน์จาก He Who Remains มาไว้ที่ตัวเองแบบเบ็ดเสร็จ ช่วยปกป้องรักษาทุกชีวิตในทุก ๆ เส้นเวลาเอาไว้นับไม่ถ้วน รวมทั้งยังปกป้อง TVA ที่ตอนนี้เปลี่ยนเป้าประสงค์จากการกำจัดผู้ที่ทำให้เกิดการแตกแขนงของเส้นเวลา (Nexus Event) เป็นการเฝ้าระวังตัวแปรของ แคงผู้พิชิต (Kang the Conqueror) ในเส้นเวลาต่าง ๆ แทน

ตำนานต้นอิกดราซิล



ต้นอิกดราซิล (Yggdrasil) เป็นต้นไม้ในตำนานตามเรื่องราวของเทพปกรณัมนอร์ส (Norse) เป็นตำนานเก่าแก่ที่ถูกเล่าไว้ในบทกวีที่เรียบเรียงขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 13 กล่าวถึงต้นไม้แห่งชีวิต ที่มีมีลักษณะเป็นต้นแอช (Ash) สีเทาซีด แต่เขียวชอุ่มอยู่ตลอด คอยโอบอุ้มโลกทั้ง 9 เอาไว้อยู่ที่จุดแกนกลางของสวรรค์ได้แก่ โลกมนุษย์ หรือ มิดการ์ด (Midgard) โลกของยักษ์, โลกของคนแคระ, โลกของเอลฟ์

นอกจากนี้ยังมีรากที่แตกกิ่งก้านออกเป็น 3 รากและหยั่งลึกลงไปยังเบื้องล่าง เป็นตัวเชื่อมโยงเรื่องราวของเทพ ยักษ์ และมนุษย์เข้าด้วยกัน เช่น โยทันไฮล์ม (Jotanheim) ดินแดนแห่งยักษ์, นิฟล์ไฮล์ม (Niflheim) ดินแดนแห่งหมอกและน้ำแข็ง และแอสการ์ด (Asgard) ดินแดนแห่งเทพเจ้าที่มี โอดิน (Odin) ปกครองอยู่ และยังมี เฮลไฮม์ (Helheim) ดินแดนใต้พิภพที่เป็นอาณาจักรแห่งความตาย

ต้นอิกดราซิลในตำนานนอร์สโบราณ ทำหน้าที่เป็นแก่นกลางที่เชื่อมโยงอาณาจักรและชีวิตทั้งมวลอาศัยอยู่ในดินแดนต่าง ๆ เป็นตัวเชื่อมเรื่องราวของเทพ ยักษ์ และมนุษย์เข้าด้วยกัน เป็นจุดกำเนิดแห่งธาตุ และพลังที่ทำหน้าที่รักษาสมดุลของโลกเอาไว้ เป็นสถานที่บ่อเกิดแห่งปัญญา และยังเป็นสัญลักษณ์ของวัฏจักรแห่งชีวิต การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ของสรรพสิ่งทั้งมวล

อิกดราซิล คืออุปมาอุปไมยที่สื่อไปถึงรากเหง้าของโลกิ



การที่โลกิตัดสินใจเข้าควบคุมเส้นเวลาของตัวเอง ณ จุดสิ้นสุดของเวลา ด้วยการรวมเส้นเวลาทั้งหมดและห่อหุ้มตัวเองเอาไว้จนมีรูปร่างดั่งต้นอิกดราซิล นอกจากจะเป็นการย้อนไปสู่รากเหง้าของแอสการ์ดที่เขาเติบโตมา ยังเป็นการสะท้อนตัวตนและเจตนาข้างในลึก ๆ ของโลกิ ที่ครั้งหนึ่งเขาถูกลิขิตให้เป็นเทพจอมเจ้าเล่ห์ที่ต้องพบกับความพ่ายแพ้ ขาดมิตรภาพที่แท้จริงมาตลอด หรือแม้แต่ตัวแปรของเขาที่มาอยู่ใน TVA ก็ยังค้นพบว่า แม้จะย้อนกลับไปแก้ไขเหตุการณ์อีกกี่ร้อยกี่พันครั้ง เหตุการณ์ก็จะยังคงเป็นแบบเดิมตลอดไป

นั้นจึงทำให้โลกิ ที่บัดนี้ได้พบกับมิตรภาพและเจตจำนงเสรีของเขาเอง ที่ต้องการจะรักษา TVA และรักษามิตรภาพที่เขา (ในไทม์ไลน์นี้) ได้มีโอกาสมีไม่ให้สูญเสียไปจากการระเบิดของเส้นเวลา ทำให้เขาตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ยากลำบาก เช่นเดียวกับมอร์เบียสที่เลือกไม่สังหารเด็กน้อยคนนั้น เพื่อหวังจะไต่เต้าขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งสูง ๆ แบบเดียวกับผู้พิพากษา ราวอนนา เรนสเลเยอร์

โลกิ เทพแห่งการหลอกลวง ได้เลือกเส้นทางที่ยากลำบาก เพื่อปกป้องทุกคน ด้วยการยอมเสียสละตนเองในการฝืนชะตากรรม ทำหน้าที่เป็น God of Story เขียนเรื่องราวของตนเองใหม่ ด้วยการยืดทุกไทม์ไลน์มาไว้ที่ตัวเองเพื่อทำลายลูปเวลาของ He Who Remains

การเสียสละของเขาไม่ต่างอะไรที่เขาตัดสินใจเลือกลิขิตอันทรงเกียรติ ด้วยการเสียสละปกป้องธอร์ จนตัวเองถูกสังหารไปใน ‘Avengers: Infinity War’ (2018) เพื่อรักษาชีวิตและเจตจำนงเสรีของทุก ๆ ชีวิตในทุก ๆ เส้นเวลา และเปลี่ยนชะตากรรมของเรื่องราวให้ต่างไปจากเดิม แม้จากนี้ เขาจะต้องอยู่ภายในต้นอิกดราซิลแห่งมัลติเวิร์สอย่างโดดเดี่ยวไปตลอดกาลก็ตาม


จาก https://www.beartai.com/lifestyle/1328636


<a href="https://www.youtube.com/v//Bn3j_Hs_iSY" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v//Bn3j_Hs_iSY</a> 

เด๋วมา อัพเดทต่อ รอหน่อย