ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติคือผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น ฉะนั้นสมาชิกใต้ร่มธรรมควรให้เกียรติกันและกัน พิมพ์คำว่า (ฉันจะให้เกียรติสมาชิกทุกๆท่านในใต้ร่มธรรมเสมอด้วยวาจาสุภาพอ่อนน้อม):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: มกราคม 03, 2024, 08:58:33 pm »

สุขาวดีอเวจี: จากความฝันที่จะมีชีวิตนิรันดร์สู่เรื่องราว ‘ยาอายุวัฒนะ’



สุขาวดีอเวจี จากยาอายุวัฒนะบนเกาะของจิ๋นซี ถึงศิลานักปราชญ์ของนิวตัน

ช่วงนี้นอกจากดาบพิฆาตอสูรแล้ว ในวงการอนิเมะยังมีเรื่อง ‘สุขาวดีอเวจี’ ที่กำลังทยอยฉายออกรายสัปดาห์ในวันใกล้ๆ กัน โดยตัวเรื่องสุขาวดีอเวจีหรือ Jigokuraku ว่าด้วยการเดินทางตามหา ‘ยาอายุวัฒนะ’ ตามคำสั่งของโชกุน ดินแดนของยาอายุวัฒนะนั้นอยู่บนเกาะที่วาดตามความเชื่อว่าเป็นดินแดนสุขาวดีหรือสรวงสวรรค์ แต่บนเกาะที่เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์และอาจมียาที่ทำให้ไม่เจ็บไม่ตายนั้นอาจเป็นนรกบนดินก็ว่าได้

สุขาวดีอเวจี มีประเด็นเรื่องที่น่าสนใจหลายแง่ นอกจากการสร้างตัวละครที่น่าสนใจเช่นความสัมพันธ์ระหว่างนักบั่นเศียรกับเหล่าอาชญากรที่เทพเกินมนุษย์แล้ว การกลับไปเล่นกับแนวคิดของมนุษย์ที่ที่อยู่ในเรามาอย่างเนิ่นนานทั้งดินแดนอุดมคติ พื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์และสุขสงบ ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์เราใฝ่ฝันไว้จากอดีตมาจนถึงแนวคิดเรื่องอุตมรัฐ (Utopia) ในปัจจุบัน รวมถึงการพูดถึงวัตถุพิเศษคือยาอายุวัฒนะ สิ่งที่กินเข้าไปแล้วจะทำให้มนุษย์ไม่เป็นมนุษย์อีกต่อไป กลายเป็นอมตะเอาชนะความเจ็บ ความชรา และความตายได้

ยาอายุวัฒนะ จึงเป็นหนึ่งในความหมกมุ่นและความใฝ่ฝันของมนุษย์ในแทบจะทุกวัฒนธรรม ทั้งนี้ประเด็นเรื่องของสุขาวดีอเวจีคือการที่โชกุนสั่งให้นำตัวนักโทษไปค้นหายาอายุวัฒนะ ก็ล้อกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่สัมพันธ์กับตำนานรากเหง้าของประเทศจีน คือจิ๋นซีฮ่องเต้เองก็มีตำนานเล่าว่าเคยให้ออกไปหาเกาะที่มีเซียนและยาอายุวัฒนะอยู่ แนวคิดเรื่องยาอายุวัฒนะนี้แม้แต่ภายหลัง ชื่อสำคัญเช่นศิลานักปราชญ์ ก็มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างยาอายุวัฒนะ นักวิทยาศาสตร์เช่น ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) เองก็มีความสนใจ โดยพบบันทึกส่วนผสมของศิลานักปราชญ์ของนิวตันเองด้วย



ภูเขาสามลูกกลางทะเล เซียน และยาอายุวัฒนะ

แนวคิดเรื่องยาอายุวัฒนะเป็นวัตถุหรือความคิดที่พบได้เกือบทุกที่ ในมหากาพย์กิลกาเมชของอารยธรรมเมโสโปเตเมียก็เล่าถึงการเสาะหายาวิเศษที่ทำให้ กิลกาเมช เป็นอมตะ เนื่องจากกิชกาเมชกลัวว่าความชราและความตายจะพรากตนออกจากคนรักไป ในตำนานกรีกก็พูดถึงอาหารทิพย์ที่เทพแห่งโอลิมปัสกิน อาหารที่เมื่อมนุษย์ได้บริโภคเข้าไปก็จะกลายเป็นทวยเทพ และทิ้งสถานะมนุษย์ (Mortal) กลายไปสู่เทพผู้ไม่มีวันตาย

ในเรื่องเล่าของยาอายุวัฒนะ จีนเป็นดินแดนที่จริงจังกับการค้นหายาอายุวัฒนะอย่างจริงจังมากที่สุดวัฒนธรรมหนึ่ง แน่นอนว่าฮ่องเต้จีนในฐานะโอรสสวรรค์และผู้ปกครองดินแดนอันไพศาล สิ่งเดียวที่ฉุดรั้งฮ่องเต้ไว้คือความเป็นมนุษย์ ซึ่งหมายถึงความแก่และความตาย

ตามตำนานจีน ยาอายุวัฒนะเป็นสิ่งที่เรามองเห็นทุกครั้งที่มนุษย์เงยหน้ามองฟ้า มองดวงจันทร์ ความเชื่อจีนเชื่อว่าบนดวงจันทร์เป็นที่อยู่ของกระต่าย กระต่ายที่กำลังตำข้าวนี้เชื่อว่าเป็นผู้รับใช้เซียนและเป็นผู้ช่วยของเทวีฉางเอ๋อ เทวีแห่งดวงจันทร์ พวกมันมีหน้าที่ปรุงยาอายุวัฒนะ ในระดับความหมาย ยาอายุวัฒนะจึงเป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝันเมื่อเงยหน้ามองฟ้า

สำหรับฮ่องเต้จีน การแสวงหารวมถึงการปรุงและเสวยสิ่งที่เชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ เป็นสิ่งที่ค้นหาและปรุงถวายกันอย่างจริงจัง และแน่นอนว่ายุคสมัยที่รุ่งเรืองและมั่นคงที่สุดคือยุคของจิ๋นซีฮ่องเต้ ในสมัยนั้นเองที่มีตำนานและมีบันทึกพูดถึงว่าฮ่องเต้ได้รับสั่งให้ออกเรือเพื่อค้นหาเกาะวิเศษสามเกาะที่เชื่อว่ามีเซียนอาศัยอยู่บนเกาะนั้น เซียนนั้นครอบครองและปรุงยาวิเศษที่เสวยแล้วจะเข้าสู่ลักษณะความเป็นเซียนคือเอาชนะความเจ็บและความตายได้

ตรงนี้เองที่ดูเหมือนว่าสุขาวดีอเวจีจะนำตำนานเรื่องเล่าของจีนมาเล่นซ้ำเพื่อเริ่มภารกิจค้นหายาอายุวัฒนะ เรื่องเล่าเรื่องจิ๋นซีฮ่องเต้รับสั่งให้ออกหายาอายุวัฒนะ เป็นทั้งตำนานและมีหลักฐานที่ค่อนข้างกระจัดกระจาย แต่ภายหลังมีรายงานพบบันทึกว่าทรงเชื่อและค้นหายาอายุวัฒนะจริง

โดยทั่วไป การหายาอายุวัฒนะของจิ๋นซีฮ่องเต้จะว่าด้วยการเข้ามาของนักบวชลัทธิเต๋า ความเชื่อเรื่องเซียนคือทรงเชื่อว่ามีเซียนอยู่และพยายามตามหาเซียนนั้น ในบันทึกประวัติศาสตร์ของ ซือหม่าเชียน (司馬遷) บันทึกเรื่องราวของจิ๋นซีและเรื่องราวสำคัญในรัชสมัยนั้น ก็มีการเล่าถึงเหตุการณ์ตามหายาอายุวัฒนะด้วยโดยบันทึกไว้ในปีที่ 28 หลังการสถาปนา

ในปีนั้น บันทึกระบุการถวายฎีกาเกี่ยวกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์สามลูกชื่อว่า เผิงไหล ฟางจ้าง และอิ๋งโจว เป็นที่ประทับของเซียน ขอให้ฮ่องเต้ถือศีลและนำเด็กชายเด็กหญิงไปขอพบ ในการนั้นจิ๋นซีฮ่องเต้จึงคัดเลือกเด็กชายเด็กหญิงหลายพันคนเพื่อเดินทางออกทะเลไปเสาะหาเซียน ตรงนี้มีประเด็นทั้งที่ว่าจิ๋นซีฮ่องเต้มีการเสด็จประพาสเมืองชายทะเลบ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งคือการเชื่อคำของนักพรตเต๋าว่ายานั้นอยู่ในทะเล ระหว่างทางก็มีอุปสรรคไม่ว่าจะเป็นปลายักษ์หรือภูติผีก็สุดแท้แต่นักพรตจะสมอ้าง

ในเกาะเผิงไหล รวมถึงการตามหายาอายุวัฒนะมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกับตำนานและการเกิดขึ้นของอาณาจักรญี่ปุ่น ในเรื่องเล่ามีการเล่าถึงการเดินเรือ 2 ครั้งเพื่อตามหาภูเขาในตำนาน ในตำนานเล่าว่าเดินทางไปครั้งแรกไม่เจอ พอไปครั้งที่ 2 พร้อมชายหนุ่มและหญิงพรมจรรย์ 2 พันคน เป็นคำสั่งของจิ๋นซีและกลายเป็นว่าเรือได้ค้นพบเกาะญี่ปุ่น และเชื่อว่าภูเขาไฟฟูจิก็คือเขาแห่งเซียน กลุ่มนักค้นหาแดนสวรรค์แรกจึงตั้งรกรากและสืบเชื้อสายเป็นชาวอาทิตย์อุทัยในเวลาต่อมา

ตรงนี้เองที่มีความเชื่อมโยงต่อกันทั้งตำนานจีนและญี่ปุ่น โดยตำนานของญี่ปุ่นเป็นเรื่องเดียวกันกับที่สุขาวดีอเวจีนำมาใช้ คือเชื่อว่าเกาะและเขาสุขาวดีเป็นดินแดนเฉพาะ ทว่าตำนานของญี่ปุ่นก็ปฏิเสธบางความเชื่อของจีน เช่นยังเชื่อว่าเป็นที่ๆ เจ็บได้ ตายได้ เศร้าหมองได้ แต่ในที่นั้นมีผลไม้วิเศษที่รักษาโรคและมอบชีวิตนิรันตร์ให้ผู้ที่กินเข้าไปได้

ย้อนกลับไปที่จีนภายหลังในปี 2002 มีการค้นพบม้วนบันทึกโบราณที่เมืองหูหนาน ในบันทึกพูดถึงการออกราชโองการค้นหายาอายุวัฒนะ มีบันทึกกราบทูลจากเมืองน้อยใหญ่ที่ล้มเหลวในการค้นหายาหรือพืชวิเศษต่างๆ สำหรับฮ่องเต้จีนมีบันทึกเสวยยาอายุวัฒนะในช่วงที่การแพทย์ยังไม่เจริญ สสารที่เชื่อว่าทำให้อายุยืนขึ้นแท้จริงอาจบั่นทอนสุขภาพ เช่น มีการปรุงยาที่มีส่วนประกอบของตะกั่ว โลหะ หยก ไปจนถึงวัตถุดิบแปลกประหลาดต่างๆ ที่อาจส่งผลตรงกันข้ามต่อสุขภาพ



ยาอายุวัฒนะ และศิลานักปราชญ์ของไอแซก นิวตัน

ความคิดเรื่องยาอายุวัฒนะที่หมายถึงสสารในตำนาน แง่หนึ่งก็ค่อยๆ เสื่อมความสนใจ กลายสถานะเป็นตำนานและเรื่องเล่า นอกจากการตามหายาอายุวัฒนะ สสาร และสรรพสัตว์ในตำนานในพื้นที่ต่างๆ แล้ว ในโลกนี้ยังมีความเชื่อเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุซึ่งก็ค่อนข้างสัมพันธ์กับรากฐานวัฒนธรรมในหลายพื้นที่ แต่ในระยะหลังคือยุคกลาง การเล่นแร่แปรธาตุที่เฟื่องฟูขึ้นในยุคกลางของยุโรป และนับเป็นรากเหง้าหนึ่งของวิทยาศาสตร์และปรัชญาที่สัมพันธ์กับธรรมชาติ และการเป็นรากฐานของวิทยาศาสตร์เช่นการทดลองและแขนงวิชาเคมี

เบื้องต้นที่สุด การเล่นแร่แปรธาตุว่าด้วยความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งและการทำให้ธาตุหนึ่งๆ บริสุทธิ์ มีเป้าหมายสำคัญเป็นวัตถุในตำนานที่เรียกว่า ‘ศิลานักปราชญ์’ ศิลานี้อาจจะเป็นอะไรก็ได้ เป็นแร่ธาตุหรือเป็นกระบวนการในตำนานที่มีอำนาจในการแปรธาตุ หลักๆ แล้วคือเปลี่ยนโลหะกลายเป็นทองคำ ชื่อของศิลานักปราชญ์ค่อนข้างสะท้อนการอธิบายตำนานต่างๆ ด้วยสารบบเดียวกัน เช่น ศิลาแห่งปัญญา ผลไม้ต้องห้าม (The Forbidden Fruit) หรือยาครอบจักรวาล (Universal Medicine) ในสิ่งที่นักเล่นแร่ธาตุค้นหา นอกจากจะเป็นการเปลี่ยนโลหะใดใดเป็นทองคำแล้ว อำนาจของศิลานักปราชญ์คือการให้ชีวิตนิรันดร์ โดยสามารถสร้างยาอายุวัฒนะได้เช่นกัน

ต้องเข้าใจก่อนว่าในช่วงปลายยุคกลางเชื่อมต่อกับยุคสมัยใหม่ การเล่นแร่แปรธาตุนับเป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์และความรู้สมัยใหม่ในยุครอยต่อ หลายครั้งสัมพันธ์คาบเกี่ยวกับศาสตร์และปรัชญาโบราณ นักคิดเช่น นิวตันเองก็มีความสนใจคาบเกี่ยวระหว่างวิทยาศาสตร์สมัยใหม่กับการเล่นแร่แปรธาตุ

ศิลานักปราชญ์ของนิวตัน เป็นหนึ่งในหลักฐานความสนใจของยุคสมัยในแร่ธาตุและความคิดแบบวิทยาศาสตร์ ต่อการสกัดและหาความเชื่อมโยงของสสาร ไปจนถึงการสร้างสสารในตำนาน ตัวหลักฐานคือการค้นพบบันทึกวัตถุดิบและการสร้างศิลานักปราชญ์ที่เขียนด้วยลายมือของนิวตันเอง ตัวบันทึกมีประเด็นหรือชื่อที่ยาวเหยียด โดยพูดถึงการเตรียม ‘Sophick Mercury’ ในที่นี้หมายถึงแร่นักปราชญ์ แร่สำคัญที่จะเป็นหัวใจในการทำศิลานักปราชญ์ต่อไป ตัวเอกสารที่ค้นพบนิวตันเขียนชื่อเรื่องว่า Preparation of the [Sophick] Mercury for the [Philosophers’] Stone

เจ้าแร่ปราชญ์นั้นเป็นแร่พิเศษที่เชื่อว่าเป็นแร่สำคัญที่จะทำหน้าที่แยกองค์ประกอบของโลหะหรือสสาร และเชื่อว่าเมื่อแยกองค์ประกอบย่อยออกจากกันได้แล้ว นักเล่นแร่แปรธาตุก็จะประกอบองค์ประกอบเหล่านั้นขึ้นใหม่เป็นแร่ประเภทอื่นได้ (ซึ่งก็น่าจะหมายถึงทองคำ แร่มีค่าที่อาจจะแตกจากตะกั่วและเปลี่ยนเป็นทองได้) บันทึกหรือสูตรการสร้างแร่นักปราชญ์เป็นสูตรที่นิวตันไปคัดลอกจาก Eirenaeus Philalethes นักเล่นแร่แปรธาตุที่ตอนหลังพบว่าเป็นนามแฝงของ จอร์จ สตาร์กีย์ (George Starkey) นักวิทยาศาสตร์ที่มีผลงานเผยแพร่อย่างเป็นทางการกลุ่มแรกของอเมริกาในศตวรรษที่ 17

สำหรับสูตรศิลานักปราชญ์ที่นิวตันคัดลอกไว้ค่อนข้างเหมือนกับสูตรของต้นฉบับ ตัวสูตรจะว่าด้วยการกลั่นและหลอมธาตุปรอท หรือ Mecury หนึ่งในกระบวนการที่น่าสนใจของการสร้างศิลานักปราชญ์หรือการแปรธาตุ คือกระบวนการเกิดพฤกษาแห่งชีวิต (Tree of Life) ซึ่งการที่แร่นั้นๆ แตกกิ่งก้านเหมือนกับต้นไม้ ตรงนี้เป็นความน่าตื่นตาตื่นใจคือโลหะในกระบวนการในห้องทดลองได้สร้างลักษณะที่คล้ายชีวิตขึ้นคือการแตกกิ่งก้านออก อย่างไรก็ตามกระบวนการแปรธาตุนั้นมีศาสตร์เฉพาะ ชื่อของสิ่งต่างๆ สัมพันธ์กับตำนานและความเปรียบ เช่น การทำแร่ให้มีลักษณะเป็นพิราบของไดอาน่า หรือการสกัดกลั่นสารที่ผสมมังกรเพลิงเข้ากับธาตุอื่นๆ




สำหรับนิวตัน ความสนใจเรื่องการสร้างศิลานักปราชญ์และการเล่นแร่แปรธาตุ ไม่มีหลักฐานว่านิวตันได้ลงมือสร้างศิลานักปราชญ์จริงไหม แต่บันทึกของนิวตันทำให้เห็นความสนใจและอิทธิพลของความคิด การสังเกตธรรมชาติ ตรงนี้เองนำไปสู่บางมุมมอง เช่นการแยกแสงสีขาวออกเป็นเฉดสีของนิวตันก็ คล้ายกับการแยกองค์ประกอบที่มองไม่เห็นของแสงนั้นๆ อิทธิพลของการเล่นแร่แปรธาตุอาจสัมพันธ์กับการสังเกตธรรมชาติ การสร้างอุปกรณ์เพื่อสังเกตสิ่งรอบๆ ตัวอย่างถี่ถ้วน

ในแง่ความฝันของมนุษย์ที่มีต่อความเป็นอุดมคติและการก้าวพ้นความเป็นมนุษย์ การไม่แก่ไม่ตายและความเป็นอมตะเป็นสิ่งที่มนุษย์เรานึกถึงอยู่เสมอ ระยะหลัง การเอาชนะความแก่และความตายรวมถึงโรคภัยอาจมาในรูปแบบของนวัตกรรมทางการแพทย์ ในข้อเขียนของแพทย์ในปี 1889 เองก็ยังใช้อุปมาของยาอายุวัฒนะในการค้นหาปลายทางชีวิตที่ดีของมนุษย์ต่อไป

 


ทว่าในแง่ของจินตนาการ ความฝันที่ดูจะเป็นความฝันต้องห้ามที่เป็นไปไม่ได้ อย่างชีวิตอมตะหรือดินแดนสุขาวดี สุดท้าย มักไม่ค่อยนำพาไปสู่ปลายทางที่ดีงามหรือจุดจบที่งดงามเท่าไร การได้ชีวิตอมตะของมนุษย์ในนิยายไซไฟ ดินแดนอุดมสมบูรณ์ที่กลายเป็นพื้นที่แห่งความบ้าคลั่งและการควบคุม โลกยูโทเปียกลายเป็นดิสโทเปีย สุขาวดีกลายเป็นพื้นที่ปีศาจ ความฝันที่จะมีชีวิตนิรันดร์ ความตายอาจกลายเป็นยอดปรารถนาของความปกติสุข

จาก https://thematter.co/entertainment/hells-paradise-elixir/202622#google_vignette



<a href="https://www.youtube.com/v//5CZf73IymgU" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v//5CZf73IymgU</a> 
https://youtu.be/5CZf73IymgU?si=kOiGiYejXfE6CmPl

<a href="https://www.youtube.com/v//zPZjqy0gopI" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v//zPZjqy0gopI</a> 
https://youtu.be/zPZjqy0gopI?si=cc_w7MxdHolQfXGA

<a href="https://www.youtube.com/v//KN8hGm9JiMU" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v//KN8hGm9JiMU</a> 
https://youtu.be/KN8hGm9JiMU?si=CxmIHeNq0uVFEAED