ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: สิงหาคม 09, 2010, 07:53:07 pm »

ข้อความโดย: Pure+
« เมื่อ: สิงหาคม 09, 2010, 03:20:01 pm »

.....
ข้อความโดย: กระตุกหางแมว
« เมื่อ: สิงหาคม 08, 2010, 01:30:59 pm »

เดี๋ยวมาตอบนะ ขออาบน้ำกินข้าวก่อน เพราะดูท่าทางจะต้องร่ายฯยาว
เพิ่งจะกลับจากปั่นฯ..  :06:

 :18: พี่เพียวอาบน้ำนานมากครับ 555+ (แซวครับ) สู้ๆครับพี่เพียว
ขอโทษทีครับที่ให้รอนานไปหน่อย ความจริงพี่เพียวอาบน้ำแค่สองขันเอง
แต่ติดสายโทรฯกับเพื่อน คุยเพลิน จนเกือบลืมแน่ะ  :06:


ไม่เป็นไรครับพี่เพียว พี่เพียวตอบข้างบนได้สวดยอดแล้วครับพี่ 
ละเอียดละออมากมาย กวีเอกนั้นใช้จินตนาการและสัมผัสอักษรครับ
 บางครั้งก็ไม่มีคำคำใดในโลกที่จะมาบรรยายความรู้สึกในกวีได้
 เลยต้องพลิกแพง ผมเห็นคนเก่งๆหลายท่านก็เคยเขียนแบบนี้ครับ :13:
เห็นด้วยกับเพื่อนทุกอย่างเลยครับ  :06:
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: สิงหาคม 06, 2010, 11:45:38 pm »




.. จะขอไข แจ้งข้อธรรม เป็นคำกลอน
เมื่อมองย้อน ภาพประกอบ ในรอบนี้
หนึ่งภาพนั้น บอกและกล่าว เรื่องราวมี
ภาพหนึ่งมี ความคิดเห็น ที่เป็นไป

ภาพหนึ่งบอก การกำเนิด เกิดตั้งอยู่
วาดให้ดู ชูให้เห็น กระเซ็นใส
เมื่อเกิดขึ้น อยู่ขณะ  ระยะใด
มินานได้ ก็เสื่อมหาย มลายลง


เกิดภาพใหม่ ให้เพ่งพิศ พินิจทราบ
เห็นความหยาบ แลละเอียด ละเลียดหลง
แม้นจะสวย งามเลิศ เทิดดำรงค์
ก็ไม่คง ทนอยู่ คู่นิรันดร์

วาดให้เห็น คืนวัน ที่ผันเปลี่ยน
คอยผัดเพี้ยน เวียนวน ให้คนหลง
ย้อมความคิด ให้หลงติด ไม่ปลิดปลง
ลื่นไหลส่ง เป็นทาสข้าฯ เสนามารฯ..



.. อีกภาพหนึ่ง หมายถึง ซึ่งสัตว์โลกฯ
ที่ยังโศก  ตรมทุกข์  รุกเข้าหา
เห็นสิ่งเร้า ลวงเล่น เป็นอัตตาฯ
เห็นมายา ที่ลวงหลอก ออกดอกงาม

เห็นลาภยศ จดประดับ รับโชติช่วง
เป็นดั่งพวง ดวงบุหลัน สุดหรรษา
เห็นทรัพย์สิน เงินทอง กองโลกา
เป็นเหมือนว่า บัวโกมุท ผุดให้ชม

เห็นความงาม ของกามฯ ยามได้ชิด
แนบสนิท ติดตรึงตรา พาอุ้มสม
เห็นอาภรณ์ ผ่อนผ้า น่าภิรมย์
เหมือนได้ชม ดมกลิ่นอวล ลำดวนงาม

เห็นตัณหา แปลงมา พาให้อยาก
เหมือนกาฝาก เกาะติด สนิทสม
เห็นโลกล้วน ลออตา พาชื่นชม
ดุจดั่งลม พัดชื่น ระรื่นงาม

แต่ไม่เห็น  ความลำเค็ญ ที่เร้นอยู่
ประกบคู่ แฝงเฟ้น เช่นเรียวหนาม
คอยทิ่มแทง ด้วยแรงรุก ทุกโมงยาม
จะคอยตาม เป็นเงาทุกข์ ไร้สุขใจ

ให้ได้มอง ตรองพินิจ คิดให้ถ้วน
ใดใดล้วน เสื่อมสลาย คล้ายลมไหว
ไม่ยั่งยืน ฝืนตั้ง รั้งเรื่อยไป
ใหญ่เพียงใด ก็ต้องดับ ไปกับกาลฯ...



.. ชี้ให้ดู ความเป็นไป ในโลกนี้
สิ่งใดมี สิ่งใดเกิด เปิดให้เห็น
ล้วนไม่เที่ยง ต้องกลายดับ ลับประเด็น
สิ่งใดเห็น เป็นตั้งอยู่ รู้ให้ทัน...



..จึ่งเฉลย ปริศนา มาดังนี้
พอถูกที่ ถูกกาล ที่ขานไข
ทุกคนแก้ ได้ตรงหมด จดในใจ
เพราะภายใน ถือธรรม ประจำจอง

จึงขอยก รางวัลนี้ ให้มีทั่ว
รักษาตัว ของตน พ้นภัยผอง
เป็นรางวัล ชื่อว่าธรรม ค้ำประคอง

ให้พี่-น้อง เก็บเอาไว้ ในใจงาม...




จบบริบูรณ์...

คิดให้ได้เรื่องฯ
http://www.tairomdham.net/index.php/topic,508.msg2606/topicseen.html#msg2606

เรียนขออนุญาตคุณเพียว นำไปแบ่งปัน..
ที่นี่ค่ะ : http://www.sookjai.com/index.php?topic=5860.new#top
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ...
ข้อความโดย: (〃ˆ ∇ ˆ〃)
« เมื่อ: สิงหาคม 06, 2010, 05:46:40 pm »

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=vOhf3OvRXKg&feature=player_embedded[/youtube]



.. จะขอไข แจ้งข้อธรรม เป็นคำกลอน
เมื่อมองย้อน ภาพประกอบ ในรอบนี้
หนึ่งภาพนั้น บอกและกล่าว เรื่องราวมี
ภาพหนึ่งมี ความคิดเห็น ที่เป็นไป

ภาพหนึ่งบอก การกำเนิด เกิดตั้งอยู่
วาดให้ดู ชูให้เห็น กระเซ็นใส
เมื่อเกิดขึ้น อยู่ขณะ  ระยะใด
มินานได้ ก็เสื่อมหาย มลายลง

เกิดภาพใหม่ ให้เพ่งพิศ พินิจทราบ
เห็นความหยาบ แลละเอียด ละเลียดหลง
แม้นจะสวย งามเลิศ เทิดดำรงค์
ก็ไม่คง ทนอยู่ คู่นิรันดร์

วาดให้เห็น คืนวัน ที่ผันเปลี่ยน
คอยผัดเพี้ยน เวียนวน ให้คนหลง
ย้อมความคิด ให้หลงติด ไม่ปลิดปลง
ลื่นไหลส่ง เป็นทาสข้าฯ เสนามารฯ..



.. อีกภาพหนึ่ง หมายถึง ซึ่งสัตว์โลกฯ
ที่ยังโศก  ตรมทุกข์  รุกเข้าหา
เห็นสิ่งเร้า ลวงเล่น เป็นอัตตาฯ
เห็นมายา ที่ลวงหลอก ออกดอกงาม

เห็นลาภยศ จดประดับ รับโชติช่วง
เป็นดั่งพวง ดวงบุหลัน สุดหรรษา
เห็นทรัพย์สิน เงินทอง กองโลกา
เป็นเหมือนว่า บัวโกมุท ผุดให้ชม

เห็นความงาม ของกามฯ ยามได้ชิด
แนบสนิท ติดตรึงตรา พาอุ้มสม
เห็นอาภรณ์ ผ่อนผ้า น่าภิรมย์
เหมือนได้ชม ดมกลิ่นอวล ลำดวนงาม

เห็นตัณหา แปลงมา พาให้อยาก
เหมือนกาฝาก เกาะติด สนิทสม
เห็นโลกล้วน ลออตา พาชื่นชม
ดุจดั่งลม พัดชื่น ระรื่นงาม

แต่ไม่เห็น  ความลำเค็ญ ที่เร้นอยู่
ประกบคู่ แฝงเฟ้น เช่นเรียวหนาม
คอยทิ่มแทง ด้วยแรงรุก ทุกโมงยาม
จะคอยตาม เป็นเงาทุกข์ ไร้สุขใจ

ให้ได้มอง ตรองพินิจ คิดให้ถ้วน
ใดใดล้วน เสื่อมสลาย คล้ายลมไหว
ไม่ยั่งยืน ฝืนตั้ง รั้งเรื่อยไป
ใหญ่เพียงใด ก็ต้องดับ ไปกับกาลฯ...



.. ชี้ให้ดู ความเป็นไป ในโลกนี้
สิ่งใดมี สิ่งใดเกิด เปิดให้เห็น
ล้วนไม่เที่ยง ต้องกลายดับ ลับประเด็น
สิ่งใดเห็น เป็นตั้งอยู่ รู้ให้ทัน...



..จึ่งเฉลย ปริศนา มาดังนี้
พอถูกที่ ถูกกาล ที่ขานไข
ทุกคนแก้ ได้ตรงหมด จดในใจ
เพราะภายใน ถือธรรม ประจำจอง
จึงขอยก รางวัลนี้ ให้มีทั่ว
รักษาตัว ของตน พ้นภัยผอง
เป็นรางวัล ชื่อว่าธรรม ค้ำประคอง
ให้พี่-น้อง เก็บเอาไว้ ในใจงาม...



จบบริบูรณ์...
:13: อนุโมทนาสาธุค่ะพี่เพียว  :19:
 
ข้อความโดย: (〃ˆ ∇ ˆ〃)
« เมื่อ: สิงหาคม 06, 2010, 05:37:11 pm »

เดี๋ยวมาตอบนะ ขออาบน้ำกินข้าวก่อน เพราะดูท่าทางจะต้องร่ายฯยาว
เพิ่งจะกลับจากปั่นฯ..  :06:

 :18: พี่เพียวอาบน้ำนานมากครับ 555+ (แซวครับ) สู้ๆครับพี่เพียว
ขอโทษทีครับที่ให้รอนานไปหน่อย ความจริงพี่เพียวอาบน้ำแค่สองขันเอง
แต่ติดสายโทรฯกับเพื่อน คุยเพลิน จนเกือบลืมแน่ะ  :06:
สองขันนี่จะนอนคันไปทั้งคืนรึเปล่าอะพี่ คราบสบู่ติดคออะ ปะจ๊ากก... เค้าล้อเล่นนน
 
 
ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: สิงหาคม 05, 2010, 11:14:41 pm »

เดี๋ยวมาตอบนะ ขออาบน้ำกินข้าวก่อน เพราะดูท่าทางจะต้องร่ายฯยาว
เพิ่งจะกลับจากปั่นฯ..  :06:

 :18: พี่เพียวอาบน้ำนานมากครับ 555+ (แซวครับ) สู้ๆครับพี่เพียว
ขอโทษทีครับที่ให้รอนานไปหน่อย ความจริงพี่เพียวอาบน้ำแค่สองขันเอง
แต่ติดสายโทรฯกับเพื่อน คุยเพลิน จนเกือบลืมแน่ะ  :06:


ไม่เป็นไรครับพี่เพียว พี่เพียวตอบข้างบนได้สวดยอดแล้วครับพี่ 
ละเอียดละออมากมาย กวีเอกนั้นใช้จินตนาการและสัมผัสอักษรครับ
 บางครั้งก็ไม่มีคำคำใดในโลกที่จะมาบรรยายความรู้สึกในกวีได้
 เลยต้องพลิกแพง ผมเห็นคนเก่งๆหลายท่านก็เคยเขียนแบบนี้ครับ :13:
ข้อความโดย: Pure+
« เมื่อ: สิงหาคม 05, 2010, 10:51:52 pm »

เดี๋ยวมาตอบนะ ขออาบน้ำกินข้าวก่อน เพราะดูท่าทางจะต้องร่ายฯยาว
เพิ่งจะกลับจากปั่นฯ..  :06:

 :18: พี่เพียวอาบน้ำนานมากครับ 555+ (แซวครับ) สู้ๆครับพี่เพียว
ขอโทษทีครับที่ให้รอนานไปหน่อย ความจริงพี่เพียวอาบน้ำแค่สองขันเอง
แต่ติดสายโทรฯกับเพื่อน คุยเพลิน จนเกือบลืมแน่ะ  :06:
ข้อความโดย: Pure+
« เมื่อ: สิงหาคม 05, 2010, 10:48:44 pm »


วาดให้เห็น คืนวัน ที่ผันเปลี่ยน
คอยผัดพี้ยน เวียนวน ให้คนหลง ◄◄ ตั้งใจจะใช้ว่า ผลัดเพี้ยน รึป่าวคะ ไม่แน่ใจค่ะ ^^"

เห็นตัณหา แปลงมา พาให้อยาก
เหมือนกาฝาก เกาะติด สนิทสม
เห็นโลกล้วน ลออตา พาชื่นชม ◄◄ น่าจะต้อง เป็นละออตา ป่ะคะ ^^"
ดุจดั่งลม พัดชื่น ระรื่นงาม

แต่ไม่เห็น  ความลำเค็ญ ที่เร้นอยู่
ประกบคู่ แฝงเฟ้น เช่นเรียวหนาม ◄◄ อันนี้อาจไม่ผิด เพราะเล่นภาษา แต่ไม่แน่ใจว่า พี่เพียวจะ ใช้ คำว่า แฝงเร้น ป่ะคะ แหะแหะ ..^^


 ***  :45: ขอสมา เต๊อะ เจ้า .. น้อง บ่ได้มีเจตนามาจับผิด/ทำอรรถรสแห่งอักษรกลอนธรรมนี้ ด้อยค่าลงเลยแม้แต่น้อยนะคะ .. ตรงกันข้ามค่ะ เพราะเห็นว่า ครูพี่เพียวประพันธ์บทแห่งอักษรกลอนธรรมนี้ได้เยี่ยม โดนนน!!มากๆ เลยอยากช่วยตรวจปรู๊ฟ พิสูจน์อักษร ให้ ..ธรรมกลอน นี้ สมบูรณ์สวยงามแห่งภาษาและไวยากรณ์ ยิ่งขึ้นค่ะ..  :07:  :13:  .....ขออภัยฯ มา ณ.บรรทัดนี้ อีกครั้งค่ะ ..   :07:

- คำว่า "ผัดเพี้ยน" คำนี้จะหมายความว่า ขอผัดขอเลื่อนเวลาอยู่เรื่อยไป
มีความหมายคล้ายกับคำว่า "ผัดวันประกันพรุ่ง" ที่แปลว่า เลื่อนเวลาออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า
ความจริงในกลอนบทนี้ พี่เพียวควรจะใช้คำว่า "ผลัดเปลี่ยน" ที่มีความหมายว่า ผลัดกันทำหน้าที่
เปลี่ยนเวรยาม อะไรประมาณนี้ ซึ่งจะให้ความหมายเข้ากันกับบทกลอนได้ดีกว่า
แต่เนื่องจากคำว่า "ผลัดเปลี่ยน" ให้เสี่ยงต่ำ จะทำให้เสียงไปกลืนกันกับคำว่า "ผันเปลี่ยน" ในบาทแรก
และจะมีคำว่า "เปลี่ยน" ซ้ำติดกันเกินไป ในระหว่างบาทแรกและบาทที่สอง
ครั้นว่าจะเล่นคำ เอาคำว่า "ผลัด" กับคำว่า "เพี้ยน" มารวมกัน ความหมายก็ยังไม่แตกต่างเท่าใดนัก
และก็อยู่ในวิสัยที่เราก็สามารถ นำมารวมกันเป็นคำในบทกลอนได้
แต่พี่เพียวเลือกที่จะใช้คำว่า "ผัดเพี้ยน" เพราะเป็นคำที่ไม่ค่อยจะได้ยินกันบ่อยนัก
ทำนองว่า จะทำเท่ห์นิดหน่อยอ่ะ.. :06:


- ส่วนคำว่า "ลออ" ที่แปลว่า งาม คำนี้ควรจะเขียนแบบนี้นะครับ แต่เราจะไปชินตากับ "ละออ"
เสียส่วนใหญ่ ซึ่งพี่เพียวคิดว่าไม่น่าจะใช่ แต่ถ้าเป็น "ละออง" คำนี้เขียนถูก
คำว่า "ลออ" ถ้าอยู่เดี่ยวๆ ก็ดูจะไม่ขัดๆสักเท่าไหร่ แต่พอมารวมกับคำว่า "ตา" เป็น "ลออตา"
มันก็เลยดูกลืนๆ เหมือนกับว่าจะสะกดผิด แต่จริงๆแล้ว น่าจะสะกดว่า "ลออ" นะครับ


- ตรงนี้ก็เช่นเดียวกันกับ ผันเปลี่ยน และ ผลัดเปลี่ยน ในบทข้างบนนั่นล่ะครับ
ทีแรกพี่เพียวก็ใช้คำว่า "แฝงเร้น" แล้วเหมือนกัน แต่พอมาอ่านทวนอีกครั้ง
คำว่า "เร้น" ในบาทสอง มันจะไปซ้ำ ใกล้กันเกินไป กับคำว่า "ที่เร้นอยู่" ในบาทแรก
จะทำให้กลอนขาดความเพราะไปนิดนึง ก็เลยเปลี่ยนมาเป็น "เฟ้น" แทน
ด้วยประการฉะนี้... :47:


บ่ต้องขอสมาอ้ายเน้อ อี่น้องน้ำฝน ปี้จายนี่ดีใจ๋จ๊าดนัก ตี้อี่น้องอดส่าห์ใส่ใจ๋ ตรวจทานฮื้อ
ต่งไน๋พิด ปี้จะได้แก้ไข จะได้บ่ต้องอายผู้ใดเพิ่น ปี้จายจะต้องขอบใจ๋น่องน้ำฝนต่างหาก
บ่ใจ้จะมาโทษกั๋น มีน่องน่าฮักขะหนาดนี้ ปี้จายก่อมีกำลังใจ๋ ตี้จะขีดๆเขียนๆ ฮื้อได้อ่านกันไป๋ได้อีกเมิน
ขอบใจ๋จ๊าดนักเน้อน่องน้ำฝน... :13:


 
“ ธรรมะนี้หนา เป็นภาษาสากล ไม่ว่าเหล่าชน ผู้คนชาติใด

  ล้วนแล้วแต่อึ้ง ทึ่ง..ซึ้งเข้าใจ เมื่อยามคราใด ได้สัมผัสธรรม

  ไทย จีน ฝรั่ง   แม้ฟังไม่เข้าใจ แต่สื่อสารได้ อย่างไร้พรหมแดน

  จะผ่านงานศิลป์  แกะหิน-รูปวาด ช่างน่าประหลาด ต่างล้วนเข้าใจ

 จะขีดเขียนกลอน อักษรใด..ใด ล้วนสัมผัสได้ ถ้าใจมี.. ๏ ธรรม ๏ ”

   
Ps • •  :23: เอ่อ..ขออนุญาตครูพี่เพียวนำกลอน+ศิลปฺธรรม ในกระทู้นี้ ไปเผยแพร่ FW-mail หรือส่งต่อแบ่งปันให้ผู้อื่นต่อๆไปเพื่อเป็นธรรมทาน ยังประโยชน์ให้แก่ผู้ได้ชม+ศึกษาได้เกิดดวงตาเห็นธรรม มองธรรมะเป็นเรื่องใกล้ตัว ..ด้วยได้มั้ยคะ?  ^^  ..  :19:  ... อ๊ะ เกือบไปลืมไปเลยค่ะ รบกวนครูพี่เพียวช่วยตรวจการบ้านที่ไม่ได้สั่ง .. แต่อยากทำมาส่งข้างบนให้ด้วยนะคะ ^^" .... ไม่รู้เหมือนกันสิคะ แค่อยู่ๆ มานก็เก็ท ขึ้นมาเอง ..แบบ ไม่รู้จะเรียกกลอนได้หรือเปล่าค่ะ แค่อยากลงในกระทู้นี้ รู้แค่นั้นจริงๆค่ะ...แหะแหะ ^^"  ...แม้ ว่ามันคงยังไม่เข้าท่า/ ห่างไกล ... บทกลอนธรรมครูพี่เพียว แบบไม่ติดฝุ่นเล๊ยยย .. แต่ก็ แค่ อยากลงตามความรู้สึกจาก..ข้างใน ก็แค่นั้นค่ะ..^^" ..ขอบพระคุณล่วงหน้าอีกครั้งค่ะ ...

เทสๆๆ... ขอเปลี่ยนโหมดเป็นภาคกลางเหมือนเดิมนะครับ ขึ้นเหนือหน่อยนึง ออกจะหนาวๆสั่นๆ.. :12:

ด้วยความยินดีครับหากน้องน้ำฝน จะนำบทกลอนข้อเขียนนี้ไปใช้ประโยชน์ให้เป็นธรรมทาน กับผู้อื่นต่อ
(แอบดีใจนะเนี่ย)
ส่วนเรื่องกลอนที่แต่งมาให้พี่เพียวช่วยดู ใช้ได้ดีทีเดียวเลยล่ะครับ
(น่าจะมาช่วยขีดๆเขียนๆเล่นๆกันเสียตั้งนานแล้ว) ตรงที่จู่ๆก็เก็ทขึ้นมาเอง
หรือนึก จินตนาการอะไรขึ้นมาได้เดี่ยวนั้น นี่แหละครับ ให้รีบขีดๆเขียนๆเสียทันที
แล้วค่อยมาทานเอาภายหลัง เพราะถ้าปล่อยผ่านไป แล้วค่อยมาเขียนเอาทีหลัง
แม้เราจะจำเรื่องหรือหัวข้อที่จะเขียนได้ ก็อาจจะไม่ได้ดีเท่า ตอนที่เราเกิดปิ๊งขึ้นมาในตอนแรก

จริงๆแล้ว พี่เพียวก็ไม่ได้เขียนเก่งอะไรนักหรอกครับ น้องๆก็ชมกันไปเกิ๊นนน..
ยังห่างไกลใครๆหลายๆคน อีกมากนัก ทั้งความรู้และประสบการณ์
และยังต้องพัฒนาเรียนรู้อีกเยอะ
แต่ก็อาศัยความชอบและใจรักเป็นพื้นฐาน นั่นแหละครับ
ทำให้เราเขียนหรือสร้างมันด้วยใจ ไม่ใช่ทำแค่พอผ่านๆ
ถึงจะยังออกมาไม่ดีนัก แต่มันก็คือผลผลิต ที่มาจากความรักของเรา

ไม่ว่าอะไรก็ตาม ถ้าเราสร้างมันออกมาด้วยใจ ด้วยความรัก
เชื่อเถอะครับ ว่ามันคือสิ่งที่มหัศจรรย์เสมอ สำหรับเรา
และสำหรับทุกคน ที่พบเห็นได้สัมผัส และรับรู้ได้ด้วยใจเช่นเดียวกัน..


อนุโมทนาฯ.. และเป็นกำลังใจให้นะครับ.. :13:
ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: สิงหาคม 05, 2010, 10:00:18 pm »

เดี๋ยวมาตอบนะ ขออาบน้ำกินข้าวก่อน เพราะดูท่าทางจะต้องร่ายฯยาว
เพิ่งจะกลับจากปั่นฯ..  :06:

 :18: พี่เพียวอาบน้ำนานมากครับ 555+ (แซวครับ) สู้ๆครับพี่เพียว