ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติคือผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น ฉะนั้นสมาชิกใต้ร่มธรรมควรให้เกียรติกันและกัน พิมพ์คำว่า (ฉันจะให้เกียรติสมาชิกทุกๆท่านในใต้ร่มธรรมเสมอด้วยวาจาสุภาพอ่อนน้อม):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 07:49:11 pm »

 :13: อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับพี่มด
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 04:52:50 pm »

 :25:

เหลือ นิดเดียว อภิธานศัพธ์ คำแปล วันหน้าจะพิมพ์

กะจะลง การพิจารณาความตายแบบธิเบต อีก 2 เล่ม

วิชชาแห่งมรรคาหิมาลัย สายวัชรยาน ย่อลง ก็คือ การฝึกตายก่อนตาย นั่นเอง

ถ้ายังไม่บรรลุ ก็สามารถเลือก ภพภูมิ สถานที่เกิด เพื่อจะบำเพ็ญบารมีต่อได้

อย่าดูถูก แม้กระทั่ง วิธีง่าย ๆ เช่น การท่องมนตรา  ถึงแม้จะยังไม่บรรลุธรรมในชาตินี้

แต่สามารถใช้ได้ดีใน บาร์โด ท่องมนตรา ผูกกับ พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์องค์ใด
ก็ถือเอา องค์นั้นเป็น เทพนิมิต ยิมดัมประจำตัว  ฝึกท่องมนตรา เจริญเมตตา เพ่งนิมิตง่าย ๆ

จนถึงวิชา มหามุทรา และ มหาอติ (กายรุ้ง)

ทุกวิชา ไม่ได้แยกขาดจากกัน ล้วนต่อกันเป็น ขั้น ๆ

เทพนิมิต พระอริยสัตว์ ยิดัม แบบต่าง  ๆ มีเป็นร้อย ๆ
 เอาไว้รองรับ สรรพสัตว์ที่อุปนิสัย วาสนาธรรม ต่างๆ กัน

บางท่าน เหมาะกับ  สาย พระมัญชุศรีโพธิสัตว์
บางท่าน เหมาะกับ  สาย พระวัชรสัตว์
บางท่าน เหมาะกับ  สาย พระอวโลกิเตศวรพันมือ
บางท่าน เหมาะกับ  สาย พระนางตารา
บางท่าน เหมาะกับ  สาย พระอมิตตา
บางท่าน เหมาะกับ  สาย พระวัชรปาณี

บางท่าน เหมาะกับ ........ฯลฯ

เป็นต้น  สาธุ
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 04:50:59 pm »


*อง์เชนเรสิก หรือ พระอวโลกิเตศวร แบบธิเบต


บทสวดในบาร์โดภาวะ
เพื่อป้องกันอาการหวาดกลัว
 
เมื่อการเดินทางแห่งชีวิตข้า ได้มาถึงจุดสิ้นสุด
หามีมวลมิตรได้ติดตามข้า ฯ ไปจากโลกนี้
ข้า ฯ จึงร่อนเร่อยู่ในบาร์โดภาวะอย่างโดดเดี่ยว
ขอให้พระพุทธองค์ทั้งหลายทั้งกายสันติและกายพิโรธจง
แผ่อำนาจแห่งกรุณาอันไพศาลออกมา
และขจัดเสียซึ่งความดำมืดแห่งอวิชชา
 
เมื่อต้องผละลาจากมิตรสหาย และร่อนเร่อย่างโดดเดี่ยว
ภาพสะท้อนแห่งจิตอันได้แก่ " รูปอันว่างเปล่า " ได้ปรากฏขึ้น
ขอให้พระพุทธเจ้าทั้งหลายจงแผ่อำนาจอันเนื่องจากความกรุณา
เพื่อที่ความน่าสะพรึงกลัวในบาร์โด จะไม่อุบัติต่อข้า ฯ ด้วยเทอญ
 
ครั้นเมื่อแสงกระจ่างทั้งห้าดวงแห่งปัญญาได้ฉายฉานขึ้น
ขอให้ข้า ฯ ได้ตระหนักแจ้งในตัวเองอย่างไม่หวั่นไหว
เมื่อรูปกายแห่งตัวตนอันสันติและพิโรธปรากฏขึ้น
ขอให้ข้า ฯ จดจำได้ถึงบาร์โดภาวะอย่างไม่พรั่นพรึงและหวั่นไหว
 
เมื่อข้า ฯ ได้รับการทรมาณจากวิบากกรรม
ขอให้พระพุทธองค์ผู้ทรงสันติและพิโรธธรรมได้ขจัดความ
ทรมาณทั้งหลายแก่ข้า ฯ ด้วย
เมื่อเสียงแห่งธรรมดาได้คำรามก้องประดุจดังอสนีบาตนับพันนับหมื่น
ขอให้มันจงกลับกลายเป็นเสียงสาธยายมนต์แห่งคำสอนมหายานด้วยเทอญ
 
เมื่อข้า ฯ ต้องติดตามผลกรรมไป โดยปราศจากผู้เกื้อกูล
ขอให้พระพุทธองค์ทั้งหลายผู้ทรงสันติและพิโรธธรรมได้เกื้อกูลข้า ฯ
เมื่อข้า ฯ ได้รับทุกข์จากวิบากโดยอำนาจใฝ่ต่ำ
ขอให้อำนาจสมาธิจากความปีติสุขและกระจ่างใสได้บังเกิดขึ้นเทอญ
 
ในชั่วขณะแห่งการเกิดเองในบาร์โดแห่งการแปรเปลี่ยน
ขอให้คำสอนอันต่ำช้าแห่งมารอย่าได้อุบัติขึ้น
เมื่อข้า ฯ ได้ดำเนินถึงสถานที่อันตั้งใจโดยอำนาจเหนือธรรม
ขออย่าให้ความน่าสะพรึงกลัวอันเป็นมายาแห่งอกุศลกรรม
บังเกิดกับข้า ฯ เลย
 
เมื่อฝูงสัตว์ป่าอันดุร้ายออกล่าเหยื่อมันย่อมคำราม
ขอให้สุรเสียงของมันกลับกลายเป็นเสียงธรรมะ และอักขระทั้งหก
เมื่อข้า ฯ ถูกไล่ล่าโดย หิมะ ฝน ลม และความมืด
ขอให้ข้า ฯ ได้มีดวงตาเห็นธรรมอันศักดิ์สิทธิ์และใสกระจ่าง
 
ขอให้สรรพสัตว์ร่วมภูมิเดียวกับข้า ฯ ในบาร์โด
ได้ปลอดจากความริษยา และเกิดในสภาวะขั้นสูง
เมื่อความโหยหิวและกระหายถูกก่อหวอดโดยความปรารถนาต่ำช้า
ขอให้ความปวดร้าวทุกข์ทรมาณอันมีเหตุจากความโหยหิว
ความร้อนระอุ และความหนาวเหน็บปลาสนาการไป
 
เมื่อข้า ฯ ได้แลเห็นบิดรและมารดาในภายภพหน้าเสพสังวาสกัน
ขอนิมิตจงแปรเปลี่ยนเป็นพระพุทธองค์ผู้ทรงสันติและ
พิโรธธรรมกับองค์ชายา
ให้ข้า ฯ ได้รับอำนาจวิเศษอันสามารถเลือกที่เกิด
เพื่ออำนายประโยชน์แด่สรรพสัตว์
 
จากร่างกายอันเปี่ยมล้นสมบูรณ์ที่ข้า ฯ ได้รับมาในกาลนี้
ขอให้บุคคลที่ได้พบเห็นและสดับสำเนียงจากข้า ฯ
ได้รับวิมุตติสุขโดยพลัน
ขอให้ข้า ฯ ปลอดพ้นจากการติดตามซึ่งอกุศลกรรมของตนเอง
ทว่าได้แอบอิงและเพิ่มพูนในคุณงามความดีอันข้า ฯ ได้สั่งสมมา
 
ไม่ว่าข้า ฯ จะถือกำเนิดในที่ใดก็ตาม ณ ที่นั้น
ขอให้ข้า ฯ ได้พบกับองค์ยิดัมประจำชีวิตนี้อย่างไกล้ชิด
ได้เรียนรู้ถึงวิธีก้าวเดิน พูดจา นับแต่เกิด
ขอให้ข้า ฯ ได้รับอำนาจอันไม่หลงลืมและจดจำได้ถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมา
 
ในทุกลำดับขั้นของการเรียนรู้ ทั้งสูงส่ง ปานกลาง และต่ำทราม
ขอให้ข้า ฯ ได้เข้าใจโดยการสดับฟัง ตริตรอง และพินิจดู
ไม่ว่าข้า ฯ จะจุติไปเกิดยังแห่งหนใด ขอให้สถานที่แห่นั้น
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ให้สรรพสัตว์ได้รับประโยชน์สุขจากข้า ฯ เทอญ
 
พระพุทธองค์ผู้ทรงสันติและพิโรธธรรม
ขอให้ข้าและปวงสัตว์
เป็นดังตัวท่าน ทรงคุณลักษณ์เยี่ยงท่าน
ครอบครองรูปกายเสมือนท่าน มีตราอันศักดิ์สิทธิ์ประจำตนดังท่าน
มากมายด้วยบริวารเยี่ยงท่าน ทรงชีวิตนิรันดร์กาล
และประจำอยู่ในภูมิดังท่านด้วยเทอญ
 
พระสมันตภัทรโพธิสัตว์เจ้า ผู้ทรงไว้ซึ่งสันติและพิโรธธรรม
มีกรุณาอันแผ่ไพศาลหาที่สุดมิได้
ด้วยอำนาจแห่งสัจจะของธรรมดาอันบริสุทธิ์
สานุศิษย์แห่งตันตระผู้แน่วแน่อยู่ในอำนาจสมาธิ
โปรดอวยพรให้บทสวดเพื่อสร้างกำลังใจนี้สำเร็จผลด้วยเทอญ
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 04:50:27 pm »




บทสวดเพื่อสร้างกำลังใจ
ให้ได้รับการปกปักจากหนทางอันตราย
ในบาร์โดภาวะ


 
ขอนอบน้อมคารวะต่อเหล่าคุรุ ยิดัม และทักคินี
ด้วยความรักและกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ของพวกท่าน
โปรดนำข้าผ่านหนทางนี้ด้วยเถิด
ผ่านความสับสนเหลือคณานับ ข้า ฯ จึงได้ร่อนเร่อยู่ในวัฏสงสาร
โดยอาศัยกำลังจิตอันแน่วแน่ของสิกขา การไตร่ตรองและสมาธิภาวนา
ขอให้เหล่าคุรุแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงปรากฏเบื้องหน้าข้า ฯ
เหล่าศักติและหมู่ทักคินีโปรดคุ้มครองอยู่เบื้องหลัง
ช่วยพาข้า ฯ ข้ามผ่านหนทางอันตรายในบาร์โด
และนำข้า ฯ ไปสู่สภาวะบริสุทธิ์แห่งพุทธะ
 
ผ่านอวิชชาอันก้าวร้าว ข้า ฯ จึงร่อนเร่อยู่ในสังสารวัฏ
โดยอาศัยวิสุทธิมรรคแห่งปัญญาของธรรมธาตุ
ขอให้พระไวโจนพุทธผู้ศักดิ์สิทธิ์เสด็จอยู่เบื้องหน้าข้า ฯ
และองค์ศักติ ราชินีแห่งที่ว่างวัชระเสด็จอยู่เบื้องหลัง
นำข้า ฯ ผ่านหนทางอันตรายในบาร์โด
และนำข้า ฯ ไปสู่สภาวะบริสุทธิ์แห่งพุทธะ
 
ผ่านความก้าวร้าวอันแข็งกล้า ข้า ฯ จึงร่อนเร่อยู่ในสังสารวัฏ
โดยอาศัยมรรควิธีอันใสสว่างของภูมิปัญญาที่กระจ่างใสดุจกระจกเงา
ขอให้พระวัชรสัตวพุทธผู้ศักดิ์สิทธิ์เสด็จอยู่เบื้องหน้าข้า ฯ
และองค์ศักติ โลจนะเสด็จอยู่เบื้องหลัง
นำข้า ฯ ผ่านหนทางอันตรายในบาร์โด
และนำข้า ฯ ไปสู่สภาวะบริสุทธิ์แห่งพุทธะ
 
ผ่านทิฏฐิอันแรงจัด ข้า ฯ จึงร่อนเร่อยู่ในสังสารวัฏ
โดยอาศัยมรรควิธีอันใสสว่างของภูมิปัญญาแห่งความเท่าเทียม
ขอให้พระรัตนสัมภวพุทธผู้ศักดิ์สิทธิ์เสด็จอยู่เบื้องหน้าข้า ฯ
และองค์ศักติ มามากิ เสด็จอยู่เบื้องหลัง
นำข้า ฯ ผ่านหนทางอันตรายในบาร์โด
และนำข้า ฯ ไปสู่สภาวะบริสุทธิ์แห่งพุทธะ
 
ผ่านความริษยาอันยิ่งใหญ่ ข้า ฯ จึงร่อนเร่อยู่ในสังสารวัฏ
โดยอาศัยมรรควิธีอันกระจ่างแจ้งของภูมิปัญญาในการบรรลุถึง
ขอให้พระอโฆสิทธิพุทธ ผู้ศักดิ์สิทธิ์เสด็จอยู่เบื้องหน้าข้า ฯ
และองค์ศักติ สัมมายะ - ธารา เสด็จอยู่เบื้องหลัง
นำข้า ฯ ผ่านหนทางอันตรายในบาร์โด
และนำข้า ฯ ไปสู่สภาวะบริสุทธิ์แห่งพุทธะ
 
ผ่านอำนาจใฝ่ต่ำอันไม่รู้สึกตัว ข้า ฯ จึงร่อนเร่ไปในสังสารวัฏ
โดยอาศัยมรรควิธีอันกระจ่างแจ้งของภูมิปัญญาภายใน
ขอให้เหล่านักรบวิทยาธร ยุรยาตรอยู่เบื้องหน้าข้า ฯ
และองค์ชายาหมู่ทักคินี เสด็จอยู่เบื้องหลัง
นำข้า ฯ ผ่านหนทางอันตรายในบาร์โด
และนำข้า ฯ ไปสู่สภาวะบริสุทธิ์แห่งพุทธะ
 
ผ่านภาพมายาอันสับสนดุร้ายข้า ฯ จึงร่อนเร่อยู่ในสังสารวัฏ
โดยอาศัยมรรควิธีอันกระจ่างแจ้งของการละทิ้งซึ่งความหวาดกลัวทั้งปวง
ขอให้เหล่าพุทธองค์ทั้งในรูปสันติและพิโรธจงเสด็จอยู่เบื้องหน้าข้า ฯ
และองค์ทักคินี ราชินีแห่งอากาศว่างเสด็จอยู่เบื้องหลัง
นำข้า ฯ ผ่านหนทางอันตรายในบาร์โด
และนำข้า ฯ ไปสู่สภาวะบริสุทธิ์แห่งพุทธะ
ขอให้อากาศธาตุไม่ปรากฏตนในรูปปรปักษ์
ขอให้ข้า ฯ ได้แลเห็นภูมิแห่งพุทธองค์ผู้มีกายสีน้ำเงินขาว
ขอให้ธาตุน้ำไม่ปรากฏตนในรูปปรปักษ์
ขอให้ข้า ฯ ได้ประจักษ์เห็นภูมิแห่งพุทธองค์ผู้มีวรกายสีขาวนวล
ขอให้ธาตุดินไม่อุบัติตนในรูปปรปักษ์
ขอให้ข้า ฯ ได้ประจักษ์เห็นภูมิแห่งพุทธองค์ผู้มีวรกายสีเหลืองละมุน
ขอให้ธาตุไฟไม่อุบัติตนในรูปปรปักษ์
ขอให้ข้า ฯ ได้ประจักษ์เห็นภูมิแห่งพุทธองค์ผู้มีวรกายสีแดงเพลิง
ขอให้ธาตุลมไม่อุบัติตนในรูปปรปักษ์
ขอให้ข้า ฯ ได้ประจักษ์เห็นภูมิแห่งพุทธองค์ผู้มีวรกายสีเขียวมรกต
ขอให้ประภารัศมีแห่งธาตุทั้งหลายไม่อุบัติตนในรูปปรปักษ์
ขอให้ข้า ฯ ได้ประสบเห็นซึ่งภูมิแห่งพุทธองค์ทุกองค์
ขอให้ แสง สี และรัศมีไม่อุบัติขึ้นในรูปปรปักษ์
ขอให้ข้า ฯ ได้ประสบเห็นภูมิอันไม่สิ้นสุดแห่งเทพสันติและเทพพิโรธ
ขอให้ข้า ฯ ได้สดับเข้าใจในสำเนียงต่าง ๆ ดุจสุรเสียงจากตัวข้า
ขอให้ข้า ฯ ได้ประจักษ์เห็นแสงต่าง ๆ ดุจดังรัศมีจากตัวข้า ฯ
ขอให้ข้า ฯ ได้รับรู้รังสีต่าง ๆ ดังว่าเป็นรังสีจากตัวข้า ฯ เอง
ขอให้ข้า ฯ ได้รู้แจ้งสภาพในบาร์โดโดยพลันด้วยตนเอง
ขอให้ข้า ฯ บรรลุถึงซึ่งภูมิแห่งตรีกายด้วยเทอญ
 
* ( ขาด ช่วงปัทมสกุล แห่ง พระอมิตาภพุทธะ ไป ต้นฉบับเป็นแบบนี้
หนังสือพิมพ์พลาดไป หรืออย่างไร เดี๋ยวจะลองหามาดู
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 04:49:50 pm »



 
คาถาสำคัญแห่งบาร์โดทั้งหก
 
 
 
บัดนี้เมื่อบาร์โดแห่งการเกิดได้ปรากฏต่อข้า ฯ แล้ว
ข้า ฯ จะสละทิ้งซึ่งความเกียจคร้านทั้งปวงเพราะไม่มีเวลา
ในช่วงชีวิตใดให้เราผลาญเปล่า
ข้า ฯ จะยาตรย่างสู่มรรคแห่งสิกขา การไตร่ตรองและ
สมาธิภาวนาโดยไม่แชเชือนไปเป็นอื่น
ข้า ฯ จะควบคุมตามนิมิตและจิตภาวะให้ดำเนินไปบนวิถี
และประจักษ์แจ้งในตรีกาย
บัดนี้ข้า ฯ ได้มาซึ่งกายแห่งมนุษย์อีกครั้ง
ไม่มีเวลาให้จิตได้ร่อนเร่อีกต่อไปแล้ว
 
บัดนี้เมื่อบาร์โดแห่งความฝันได้ปรากฏต่อข้า ฯ แล้ว
ข้า ฯ จะละทิ้งการหลับไหลในอวิชชาอันเปลือยเปล่า
ดุจซากศพไปเสีย
และปลดปล่อยความคิดให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยปราศจาก
ความหวั่นไหว
ควบคุมและแปรเปลี่ยนความฝันสู่ภาวะสุกใส
ข้า ฯ จะไม่หลับใหลดังสัตว์ต่ำช้า
ทว่าจะประสานความหลับและการปฏิบัติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
 
บัดนี้เมื่อบาร์โดแห่งสมาธิภาวนาได้ปรากฏต่อข้า ฯ
ข้า ฯ จะสละทิ้งซึ่งมิตรสหายแห่งความฟุ้งซ่านและสับสน
และพักพิงอยู่ในสภาวะอันหาที่สุดมิได้ โดนฃยปราศจากความ
ใหลหลงและตื่นกลัว
หมดจดอยู่ในนิมิตและความหนักแน่น
ในห้วงแห่งสมาธิ จิตนั้นเป็นหนึ่ง ไม่ข้องแวะกับกิจใด ๆ
ข้า ฯ จะไม่เลี่ยงพล้ำสู่อานาจแห่งวิจิกิจฉา
 
บัดนี้เมื่อบาร์โดแห่งชั่วขณะก่อนอำลาร่างได้ปรากฏต่อข้า ฯ แล้ว
ข้า ฯ จะละทิ้งการข้องแวะ เกาะเกี่ยว ผูกพันทั้งปวงเสีย
มุ้งหน้าสู่การตระหนักแจ้งแห่งคำสอนอย่างกล้าหาญ
นำทางดวงวิญญาณลุล่วงสู่ที่ว่างแห่งจิตอันไร้การดิ้นรน
ข้า ฯ ได้สละเสียซึ่งกายอันชุ่มไปด้วยเลือดและผิวเนื้อ
และรับรู้ว่ามันเป็นเพียงมายาแปรเปลี่ยนที่ไม่แน่นอน
 
บัดนี้เมื่อบาร์โดแห่งธรรมดาได้ปรากฏต่อข้า ฯ แล้ว
ข้า ฯ จะละทิ้งซึ่งความคิดที่ข้องแวะอยู่ในความหวาดกลัว
และพรั่นพรึงให้สิ้น
ไม่ว่าจะมีสิ่งใดอุบัติขึ้น
ข้า ฯ จะเฝ้าเตือนตนว่าเป็นเพียงมายาจากใจข้า ฯ
และรับรู้ว่ามันเป็นเพียงนิมิตแห่งบาร์โด
ในที่สุดข้า ฯ ก็ได้มาถึงจุดเป็นตายแล้ว
ข้า ฯ จะไม่หวั่นไหวต่อเทพสันติหรือเทพพิโรธใด
อันเป็นภาพสะท้อนแห่งใจข้า ฯ เอง
 
บัดนี้เมื่อบาร์โดแห่งการแปรเปลี่ยนได้ปรากฏต่อข้า ฯ แล้ว
ข้า ฯ จะกำหนดจิตเป็นหนึ่งเดียว
และต่อสู้เพื่อธำรงไว้ซึ่งกุศลกรรม
ปิดทางผ่านเข้าออกแห่งครรภ์อุทร
ในช่วงเวลานี้ข้า ฯ จำต้องพึ่งพาซึ่งจิตอันประภัสสรและ
วิริยะบารมีทั้งปวง
ข้า ฯ จะละทิ้งซึ่งความริษยาอาฆาต และเพ่งสมาธิต่อ
องค์คุรุและศักติ
 
จากจิตอันโง่งมในอดีต ไม่ตระหนักถึงความตายที่
ย่างกรายเข้ามา
กระทำแต่กิจอันไร้แก่นสาร
การกลับคืนสู่สภาวะสูญเปล่าอีกครั้งย่อมก่อความรู้สึก
สับสนอันใหญ่หลวง
สิ่งสำคัญในที่นี้ได้แก่พุทธธรรมอันเลอค่า
เหตุไฉนจึงไม่หันหน้าสู่ธรรมะในครานี้
นี้คือถ้อยคำแห่งสิทธา
หากเธอไม่ประคองคำสอนแห่งคุรุผู้ยิ่งใหญ่ไว้ในดวงใจ
เธอจะมิเป็นมารหลอกตนเองดอกหรือ
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 04:49:08 pm »





บทสวดเพื่อสร้างกำลังใจ


บทสวดเพื่อสร้างกำลังใจเหล่านี้ได้มาจากคลังตำราที่ข้องเกี่ยวกับคัมภีร์มรณศาสตร์ ตำราเหล่านี้เป็นแบบฝึกหัดให้บุคคล ได้ทำการเผชิญหน้ากับบาร์โดสภาวะเสียแต่ต้นมือ คาถาหลายคาถาจากตำราดังกล่าวถูกนำไปใช้เป็นคำชี้แนะแก่ผุ้ตาย คำสามัญ ที่มักแปลกันง่าย ๆ ว่าบทสวดมีความหมายตามอักขระว่า " วิถี-ปรารถนา " อันมิได้หมายถึงการอ้อนวอน พร่ำขอต่อเทพศักดิ์สิทธิ์ ภายนอก หากหมายถึงกระบวนวิธีชำระจิตใจให้ผ่องแผ้วและการควบคุมมโนกรรม บทสวดดังกล่าวสร้างกำลังใจด้วย ปลุกความต้องการ โดยธรรมชาติของมนุษย์ที่จะประกอบกุศลกรรม อันทำให้บุคคลสามารถบรรลุถึงเป้าหมายได้

 
บทสวดดลบันดาล
อัญเชิญพุทธองค์และเหล่าโพธิสัตว์
เพื่อคุ้มครองชีพ
 
เมื่อถึงวาระการจากไปของคนที่เรารัก เราควรจะสวดอัญเชิญบรรดาเหล่าพุทธองค์และพระโพธิสัตว์เพื่อให้มาคุ้มครองและบอกทาง ต่อเขาเหล่านั้น เราจำต้องถวายสักการะต่อพระรัตนตรัยด้วยเครื่องบูชาและจิตใจ ให้ท่านถือของหอมไว้ในมือและกล่าวถ้อยคำต่อไปนี้ ด้วยจิตใจอันแน่วแน่

พระพุทธองค์และเหล่าโพธิสัตว์ในทิศทั้งสิบ ผู้ทรงไว้ซึ่งความกรุณา ล่วงรู้ในทุกสิ่ง ครอบครองซึ่งดวงตาห้าประการ ผู้ประทาน ซึ่งความรัก ปกป้องสรรพสัตว์ทั้งหลาย โปรดเสด็จมายังสถานที่นี้โดยอำนาจแห่งความกรุณา และรับเอาเครื่องสักการะบูชาพร้อมด้วย บริวารเหล่านี้

พระพุทธองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งความกรุณา ตั้งมั่นอยู่ในปัญญารอบรู้เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ประกอบกิจอันเลิศด้วยกุศลกรรม และทรงอำนาจพละ แห่งการปกปักษ์รักษาที่ยากจะหยั่งคำนวนได้ พระผู้ทรงซึ่งความกรุณาทั้งปวงในไตรภพ บุคคลผู้นี้ ( ชื่อ ) กำลังผละจากดินแดนนี้ สู่อีกฟากฝั่งหนึ่ง เขากำลังจะดับชีพลงโดยหลีกเลี่ยงมิได้ เขาปราศจากซึ่งมิตรสหาย เขาได้ทนทุกข์ทรมาณอย่างหาที่เปรียบมิได้ เขาไร้ซึ่งที่พักพิง เขาไร้ซึ่งผู้คุ้มครอง เขาไร้ซึ่งกัลยาณมิตร แสงสว่างแห่งชีวิตนี้ได้มามอดดับลง เขากำลังเดินทางไปสู่อีกโลกหนึ่ง ไปสู่ความมืดมนอนธกาล เขาได้พลัดตกจากเงื้อมผาสู่ห้วงเหว เขาได้หลงทางอยู่ในพนาพฤกษ์ ถูกฉุดรั้งไปด้วยผลแห่งกรรม เขาไปสู่ความทารุณโหดร้ายอันใหญ่หลวง เขาได้ถูกพัดพาโดยมหานที ถูกซัดโถมด้วยพายุร้ายแห่งผลกรรม เขาได้ร่วงหล่นลงไปในที่ปราศจากผืนแผ่นดิน เขาได้เข้าสู่สนามสงครามอันเต็มไปด้วยเภทภัย เขาถูกเกาะกุมด้ยปิศาจร้าย ถูกข่มขู่ด้วยยมทูต เขาได้ผ่านภพแล้วภพเล่าด้ยผลกรรม ช่างสิ้นหวังทรมาณ เวลาแห่งการเดินทางไปอย่างโดดเดี่ยวโดยปราศจาก ญาติมิตรได้มาถึงแล้วสำหรับเขา

พระผู้ทรงไว้ซึ่งความกรุณา โปรดได้สงเคราะห์เขาด้วยเทอญ ให้ที่พักพิงแก่เขา ( ชื่อ ) ผู้ยากไร้ ปกป้องเขา คุ้มครองเขา นำเขาออกจาก ความมืดมนแห่งบาร์โด นำเขาหลบหลีกลมพายุแห่งผลกรรม ช่วยเหลือเขาจากความพรั่นพรึงที่มีต่อพญายมราช นำเขาผ่านหนทาง อันยาวไกลและมากด้วยอันตราย พระผู้ทรงไว้ซึ่งความกรุณาทั้งหลาย อย่าปล่อยให้กรุณาทานของท่านนั้นสูญเปล่าไร้ความหมาย โปรดเกื้อกูลเขา อย่าปล่อยให้เขาพลัดตกลงไปในภูมิอันต่ำช้าทั้งสาม ( นรกภูมิ เปรตภูมิ เดรัจฉานภูมิ ) โปรดอย่าหลงลืมมรรคกิจ ในกาลก่อนของท่าน ได้โปรดถ่ายทอดรัศมีแห่งความกรุณาให้แก่เขาด้วยเทอญ

พระพุทธองค์และเหล่าโพธิสัตว์ อย่าปล่อยให้กรุณาคุณและอุบายโกศลที่ท่านเอื้ออำนวยต่อผู้ตาย ( ชื่อ ) นั้นอ่อนแอ จงช่วยเหลือเขาด้วย อำนาจแห่งกรุณา อย่าปล่อยให้สัตว์ผุ้ทุกข์ทนได้ตกหล่นไปในอกุศลกรรมอันต่ำช้า

ขอพระรัตนตรัยเป็นสรณะ พาผ่านความทุกข์ทรมาณนานับบาร์โด
 
ควรกล่าวถ้อยคำนี้สามครั้งคราด้วยศรัทธาแรงกล้า ครั้นแล้วจึงควรอ่านคัมภีร์ " วิมุตติโดยการสดับฟัง " " บทสวดเพื่อสร้างกำลังใจ ให้ได้รับการปกป้องจากหนทางอันตรายในบาร์โดภาวะ " และ " บทสวดในบาร์โดภาวะเพื่อป้องกันอาการหวาดกลัว " ตามลำดับ
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 04:48:32 pm »

คำสวดควรท่องขานถึงเจ็ดวาระ ครั้นแล้วผู้อ่านควรอ้อนวอนต่อองค์พุทธะและหมู่โพธิสัตว์และอ่าน " บทสวดแห่งบาร์โดที่ปกป้องจาก ความหวาดกลัว " " วลีสำคัญในบาร์โด " และ " การปลดปล่อยให้รอดจากหนทางอันตรายในบาร์โด " ถึงเจ็ดวาระ ครั้นแล้วจึงอ่าน " คัมภีร์วิมุตติโดยการสวมใส่ ซึ่งปล่อยขันธ์ทั้งห้า " และ " คัมภีร์ฝึกฝนประจำวันซึ่งปลดปล่อยให้พ้นจากการหลั่งไหลมัวเมา " อย่างชัดถ้อยชัดคำและถูกต้อง
 
ด้วยเหตุนั้นโดยการประกอบกิจอย่างถูกต้อง หมู่วิปัสสนาจารย์ที่สำเร็จซึ่งอำนาจวิปัสสนาญาณชั้นสูง จะสามารถปลดปล่อยดวงวิญญาณ ได้ในบาร์โดชั่วขณะก่อนตายและไม่จำเป็นต้องเร่ร่อนในบาร์โดสภาวะ แต่จะล่วงผ่านมันและได้รับซึ่งวิมุตติสุขได้ เขาเหล่านั้นบุคคลผู้มี ประสบการณ์เพียงไม่กี่คนจะระลึกได้ถึง แสงสุกใสแห่งธรรมดา ภายหลังภาวะบาร์โดแห่งชั่วขณะก่อนตาย และล่วงผ่านเสียได้ กลับกลายเป็นองค์พุทธ ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าเขาจักถูกปลดปล่อยตามผลแห่งกรรมในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เมื่อภาพสะท้อนอันสันติและโกรธเกรี้ยว ปรากฏในบาร์โดแห่งธรรมดาในระหว่างช่วงสัปดาห์ถัดมา เนื่องจากบาร์โดสภาวะมีหลายขั้นด้วยกัน พวกเขาจะรู้ว่าขั้นใดที่เหมาะสม และบรรลุวิมุตติในขั้นนั้น
 
ทว่าในบุคคลที่มีกุศลกรรมอันเบาบางและครอบครองซึ่งม่านพิกลพิการทางจิตและอกุศลกรรมอันอัปประมาณ จะมุ่งหน้าต่ำลงสู่บาร์โดแห่งการแปรเปลี่ยน แต่เนื่องด้วยความหลากหลายของคำสอนที่เปรียบประดุจดังขั้นบันไดอันแตกต่างกัน หากเขาผู้มีกุศลกรรม อันเบาบางมิอาจทำการระลึกได้จากคำอ่านข้างต้นและยังถูกครอบงำด้วยความหวาดหวั่น ก็ยังคงมีกลุ่มของคำชี้แนะเพื่อทำการปิดกั้น ทางเข้าสู่ครรภ์อุทร หรือเลือกเฟ้นทางเข้าสู่ครรภ์อุทรขั้นใดขั้นหนึ่ง และเชื่อถือในอารมณ์ ( วัตถุ ) แห่งสมาธิภาวนาประเภทใด ประเภทหนึ่งและเข้าสู่สภาวะชั้นสูงสุดแห่งคุณธรรมอันประมาณค่ามิได้
 
แม้กระทั่งในสัตว์ที่ต่ำช้าเหลือประมาณ เช่น สัตว์ป่า ย่อมจักเลื่อนภูมิตนเองขึ้นมาได้โดยอาศัยคุณธรรมแห่งการถือไตรสรณคมน์ พวกมันย่อมครองร่างมนุษย์อันล้ำค่าที่เคลื่อนไหวได้สะดวก มีโอกาสประกอบกิจต่าง ๆ ได้ และในชีวิตใหม่ย่อมจะได้พบกับ วิปัสสนาจารย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ กัลยาณมิตร พวกเขาย่อมจะได้รับการสอนสั่งและได้พบกับวิมุตติสุข
 
ถ้าคำสอนเหล่านี้ได้รับการถ่ายทอดในช่วงบาร์โดแห่งการแปรเปลี่ยน คำสอนจะทำให้กุศลกรรมมีอำนาจแรงกล้า เปรียบดังการสอดท่อยาว ลงในช่องน้ำที่แยกออก แม้กระทั่งในบุคคลที่ประกอบอกุศลกรรมหนักก็ยังได้รับการปลดปล่อยสู่วิมุตติสุข เหตุไฉนจึงเป็นดังนั้น ? เพราะว่าในช่วงที่เขาเร่ร่อนอยู่ในบาร์โดภาวะ การเชิญเชื้อจากเหล่าพระพุทธองค์และทวยเทพทั้สันติและดุร้าย อีกทั้งการยวนยั่วแห่งอำนาจ ใฝ่ต่ำจะปรากฏตนขึ้นพร้อมกัน ดังนั้น เพียงแต่ได้สดับคำสอนในเวลานี้ ท่าทีแห่งจิตของเขาย่อมจะได้รับอานิสงส์จากคำสอน และเข้าสู่วิมุตติภาวะ สาเหตุที่เขาได้รับอานิสงส์โดยง่ายนั้นเป็นเพราะกายทิพย์ของเขานั้นปราศจากชีวิตเนื้อหนังและโลหิต ไม่ว่าพวกเขา จะเร่ร่อนไปไกลสักเพียงใด พวกเขาย่อมแลเห็นและได้ยินโดยอาศัยประสาทสัมผัสอันเหนือธรรมชาติศซึ่งมีส่วนช่วยพวกเขาได้มาก เมื่อใดที่เขาทำความเข้าใจคำสอนได้ จิตของพวกเขาจะได้รับอานิสงส์ในทันที เปรียบประดุจอุปกรณ์เยี่ยงหนังยาง หรือลำต้นไม้ใหญ่ ๆ ที่ไม่อาจเคลื่อนย้ายได้แม้จะอาศัยชายฉกรรจ์นับร้อย ๆ ทว่าเมื่อมันถูกนำไปลอยบนผืนน้ำ บุคคลเพียงคนเดียวก็สามารถโยกย้ายมันไปได้ ทุกที่ตามใจปรารถนา ประดุจดังการควบคุมม้าป่าด้วยบังเหียร
 
ด้วยเหตุนี้ ผู้อ่านควรอยู่ใกล้ผู้ตาย และหากซากศพยังคงมิได้ปลงให้ล่วงไป กัลยาณมิตรของเขาควรอ่านทวนข้อความในคัมภีร์จนกระทั่ง เลือดและน้ำเลือดได้ไหลออกจากช่องจมูก ช่วงเวลานั้นควรห้ามมิให้มีการรบกวนซากศพ ข้อพึงปฏิบัติคือไม่ควรฆ่าสัตว์เพื่ออุทิศแก่ผู้ตาย ขณะที่ตั้งศพประกอบพิธี มิตรสหายและญาติไม่ควรคร่ำครวญและเศร้าโศก ซึ่งอาจจะไปกระทำที่อื่นได้ และควรประพฤติกุศลกรรมให้ มากเท่าที่จะมากได้
พร้อม ๆ กับคำสอนแห่งคัมภีร์ " มหาวิมุตติโดยการสดับฟัง " นี้ จะเป็นการดียิ่งถ้าคัมภีร์หรือคำสอนอันมีคุณค่าจะได้รับการอ่าน ต่อท้ายคัมภีร์นี้ ซึ่งผู้อ่านจำจะต้องอ่านอย่างต่อเนื่อง และพยายามทำความเข้าใจความหมายและถ้อยคำให้แจ่มแจ้ง จวบจนเมื่อความตาย ได้มาถึงจุดวิกฤตและสัญญาณแห่งความตายได้ประจักษ์ชัด หากบุคคลยังมีสภาพรู้สึกตัว เขาควรอ่านคัมภีร์ด้วยตนเอง ออกเสียงดัง และเพ่งจิตพินิจถ้อยคำด้วย แต่หากเป็นไปไม่ได้ กัลยาณมิตรของเขาควรทำหน้าที่ดังกล่าวแทน เพราะคำสอนสั่งในคัมภีร์เล่มนี้ จะช่วยเหลือผู้ตายได้แน่นอน คำสอนนี้ไม่จำเป็นต้องมีการฝึกฝนใด ๆ มันเป็นคำสอนอันลึกซึ้งที่จะปลดปล่อยผู้ตายได้แม้เพียงแลเห็น ได้ยิน และได้ฟัง คำสอนนี้นำคนบาปผ่านหนทางอันลึกลับ หากเขาไม่หลงลืมถ้อยคำและความหมายขอบมันแม้จะถูกตามล่าโดยสุนัขร้าย ถึงเจ็ดตัว คำสอนนี้ก็จะช่วยปลดปล่อยเขาสู่วิมุตติสุขในบาร์โดชั่วขณะก่อนตาย ไม่ว่าพุทธในอดีต ปัจจุบัน และที่แสวงหาภายภาคหน้า จะไม่พบคำสอนใดทรงค่าไปกว่านี้
 
คำสอนในบาร์โดที่ปลดปล่อยเหล่าสรรพสัตว์
เป็นแก่นสารคำสอนอันลึกซึ้ง ซึ่งปลดปล่อยโดยอาศัยการสดับฟัง
คำสอนนี้ถูกค้นพบโดยท่านสิทธา กรรมมะ ลิงปะ
ในหุบเขา กัมโป - ดาร์ ขอประโยชน์สุข
จงมีต่อสรรพสัตว์ผุ้ทุกข์ยากทั้งหลาย
 
 
สรรพมงคล
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 04:47:41 pm »

" ดูกร ทายาทแห่งอริยสกุล ทวยเทพแห่งสมาธิจิตและเหล่าคุรุทั้งหลายล้วนก่อกำเนิดจากพลังอำนาจแห่งสมาธิ บรรดาวิญญาณภูติผีกลุ่มต่าง ๆ เช่น เหล่าฝูงเปรต ฯลฯ ล้วนเปลี่ยนแปลงท่าทีแห่งจิตได้ในบาร์โด ดังนั้นมันจึงสามารถจะปรากฏตนในรูปมายาต่าง ๆ ของมันได้ และยัง แปรเปลี่ยนเป็นกายทิพย์แบบต่าง ๆ ได้อีก พวกฝูงเปรตที่อาศัยอยู่ในส่วนลึกของท้องทะเล ฝูงเปรตที่โบยบินผ่านท้องอากาศเวิ้งว้าง และฝูงเปรตหมื่นจำพวกที่มีอำนาจอันชั่วร้าย ล้วนสามารถสร้างกายทิพย์ได้โดยการเปลี่ยนท่าทีแห่งจิต ในยามนี้ สิ่งที่ดีที่สุดได้แก่การภาวนา ถึงมหาสัญลักษณ์แห่งสุญตาธรรม แต่หากท่านไม่สามารถกระทำเช่นนั้นได้ ก็จงเข้าร่วมในการละเล่นแห่งนิมิตมายาทั้งหลายนี้ แต่หากท่าน ไม่อาจประพฤติได้ในทั้ง ๒ กรณีนี้ ก็ควรที่จะไม่ผูกพันข้องแวะกับสิ่งใดเลย ทว่าจงเพ่งสมาธิไปที่องค์ยิดัมของท่าน และองค์พระอวโลกิเตศวรพุทธ และท่านจะกลายร่างเข้าสู่สัมโภคกายพุทธในบาร์โดภาวะ
 
 
" ดูกร ทายาทแห่งอริยสกุล ถ้าท่านจำต้องเข้าสู่ครรภ์อุทรโดยวิธีนี้ผ่านแรงผลักไสจากผลวิบากกรรม คำแนะนำสั่งสอนเพื่อเลือกทางเข้า สู่ครรภ์อุทรจำต้องได้รับการถ่ายทอด จงฟังคำข้า ฯ อย่าผ่านเข้าไปสู่ครรภ์อุทรที่ปรากฏขึ้น ถ้าเจ้ากรรมนายเวรมาถึงและท่านไม่สามารถ หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปสู่ครรภ์อุทรได้ จงเพ่งสมาธิไปที่เทพหยครีวะ ด้วยเหตุที่ท่านสามารถรับรู้สิ่งเหนือธรรมชาติที่ละเอียดอ่อน ท่ายย่อมรู้จักทุกสถานที่ในพิภพ ดังนั้น จงทำการเลือกสรร มีข้อแนะนำสองประการ สำหรับการผ่านเข้าสู่พุทธภูมิ และการผ่านเข้าสู่ สังสารวัฏอันไม่บริสุทธิ์ ดังนั้นพึงกระทำดังนี้
 
 
" การเคลื่อนย้ายภูมิบริสุทธิ์แห่งอากาศธาตุ ( แดนสุขาวดี ) อันเป็นแดนบริสุทธิ์สะอาดใสนั้น ควรปฏิบัติดังนี้ จงระลึกว่า ' มีความเศร้าสักปานใดหนอที่ข้า ฯ ได้วนเวียนอยู่ในเปือกตมแห่งห้วงวัฏสงสาร ภายใต้วันเวลาอันยาวนานที่ไม่อาจจะนับได้ ปราศจาก ซึ่งจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด ขณะที่สรรพสัตว์จำนวนมากได้กลายเป็นพุทธองค์ผุ้สักดิ์สิทธิ์ ข้า ฯ ก็ยังมิได้พานพบกับอิสรภาพ นับแต่บัดนี้ ข้า ฯ รู้สึกเจ็บป่วยท้อแท้ในห้วงสังสารวัฏยิ่งนัก ข้า ฯ หวาดกลัวมันเป็นที่ยิ่ง ข้า ฯ รู้สึกอิดโรยกับมันอย่างแสนสาหัส ถึงเวลาที่ข้า ฯ จำต้องหลบหนีไป ด้วยเหตุนี้ข้า ฯ จำต้องเกิดเองที่ดอกอุบลชาติใต้เบื้องบาทของพระอมิตตาพุทธในดินแดนสุขาวดีทิศตะวันตก ' โดยอาศัยการเพ่งสมาธิอย่างแรงกล้าไปยังดินแดนสุขาวดีทิศตะวันตก ย่อมเสริมกำลังใจให้มีความพยายาม หรือมิฉะนั้นหากท่านสามารถ ควบคุมอำนาจความแน่วแน่อันแรงกล้านี้ เป็นจุดเดียวและไม่แชเชือนตรงต่อภูมิที่ท่านปรารถนา อาทิเช่น ภูมิแห่งความบริสุทธิ์ หรือภูมิแห่งมหาสุขา หรือภูมิแห่งความเอิบอิ่ม ภูมิแห่งม่านไทร หรีอภูมิแห่งภูผาต้นปาล์ม หรือพระราชวังแห่งอุบลรัศมี ท่านจะเกิด อย่างฉับพลันในภูมิเหล่านี้ หรือหากท่านปรารถนาจะเข้าสู่ใต้เบื้องอำนาจแห่งพระศรีอารย์ ก็จงตั้งจิตแน่วแน่ในความคิดเยี่ยงนี้ ' ในบาร์โดภาวะขณะนี้ ช่วงเวลาของข้า ฯ ที่จะเข้าสู่ดินแดนแห่งพระศรีอารยเมตไตรย์ในภูมิสันติสุขได้มาถึงแล้ว ดังนั้นข้า ฯ จึงต้องออก เดินทางแล้ว ' และท่านจะเกิดเองในใจกลางดอกอุบลแห่งภูมิอันปีติสุขของพระศรีอารยเมตไตรย์
 
" แต่หากว่า ท่านไม่อาจประพฤติปฏิบัติได้ และท่านเกิดความปรารถนาที่จะเข้าสู่ครรภ์อุทร หรือพบว่า ท่านจำต้องเลือกทาง เข้าสู่ครรภ์อุทรใด ๆ บัดนี้มีคำแนะนำสำหรับเลือกทางเข้าสู่ครรภ์อุทรอันไม่บริสุทธิ์ในสังสารวัฏ จงตั้งใจฟังให้ดี เบื้องแรก จงพิศดูดินแดน ที่ท่านกำลังจะไปสู่ด้วยอำนาจประสาทสัมผัสอันเหนือธรรมชาติและเลือกดินแดนที่พระธรรมได้เผยแพร่ไปถึง
 
" หากท่านจะต้องเกิดโดยพลันในมูลสัตว์อันโสมม ท่านจะเกิดความรู้สึกว่ามูลสัตว์เหล่านี้มีกลิ่นหอม ท่านปรารถนาจะชื่นชมมัน และจึงไปเกิดยังสถานที่แห่งนั้น ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม จงอย่าหลงใหลข้องแวะกับมันเป็นอันขาด ทว่าจงระงับความปรารถนา และความก้าวร้าวเกลียดชังลง และเลือกทางเข้าสู่ครรภ์อุทรดังนี้
 
" บัดนี้ เป็นวาระสำคัญยิ่งที่ต้องแน่แก่ใจดังนี้ ' ข้า ฯ จะต้องไปเกิดเป็นจักรพรรดิแห่งสากลจักรวาลเพื่ออำนวยประโยชน์แก่สรรพสัตว์ หรือเกิดเป็นพระพรหมที่อำนวยประโยชน์แก่บริพารดุจต้นสาละใหญ่อำนวยประโยชน์แก่สรรพสัตว์ หรือถือกำเนิดเป็นทายาทพวกสิทธา หรือเกิดในครบครัวแห่งเชื้อสกุลแห่งธรรมะอันศักดิ์สิทธิ์ หรือในครอบครัวที่บิดาและมารดามีความศรัทธาแรงกล้าและได้ครอบครอง ร่างกายอันเปี่ยมไปด้วยคุณงามความดีเพื่ออำนวยประโยชน์แก่สรรพสัตว์ ข้า ฯ จะประกอบแต่กุศลกรรม ' โดยการแน่วแน่อยู่ในความคิด ดังกล่าวนี้ การเคลื่อนย้ายสู่ครรภ์อุทรจะบังเกิดขึ้น ในช่วงเวลานี้ท่านควรชื่นชมครรภ์มารดาเปรียบประดุจดังวิมานของทวยเทพ และวิงวอนต่อบรรดาเหล่าพุทธองค์ และองค์โพธิสัตว์ในทิศทั้งสิบ และหมู่ยิดัม โดยเฉพาะในองค์พระอวโลกิเตศวรพุทธะ และเข้าสู่ ครรภ์อุทรด้วยความปรารถนาเพื่อจะอำนวยสุขต่อสรรพสัตว์
 
" เป็นไปได้ที่อาจเกิดความผิดพลาดในการเลือกทางเข้าสู่ครรภ์อุทรโดยวิธีนี้ โดยการสำคัญว่าเส้นทางอันดีเลศเป็นเส้นทางอันต่ำช้า และแลเห็นเส้นทางอันต้ำทรามเป็นของดีวิเศษ โดยอิทธิพลจากวิบากกรรม ด้วยเหตุนี้การจดจำประเด็นสำคัญในคำสอนจึงเป็น เรื่องสำคัญยิ่ง ด้วยเหตุนี้พึงกระทำเช่นนี้ แม้ว่าทางเข้าสู่ครรภ์อุทรจะดูงดงามก็จงอย่าไว้ใจ และหากมันดูเลวทรามก็อย่าหยามเหยียด ความลับอันสำคัญ ลึกซึ้ง และเป็นสัจธรรมนั้นได้แก่ การเข้าสู่สภาวะสูงสุดแห่งดุลยภาพที่ปราศจากดีชั่ว ยอมรับหรือผลักไส มุ่งหวังหรือเกรี้ยวกราด
ทว่าในบุคคลที่กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ เป็นการยากที่จะขจัดโรคร้ายแห่งอาการใฝ่ต่ำได้ ดังนั้นเพื่อช่วยเหลือมิให้ไปอยู่ ท่ามกลางฝูงคนชั่ว คนต่ำทรามดังสัตว์ป่า หากว่าเขาไม่อาจหย่าขาดจากอารมณ์ปรารถนาและความก้าวร้าวด้วยวิธีนี้ ผู้อ่านควรเรียก ชื่อผู้ตายอีกครั้งและกล่าวถ้อยคำต่อไปนี้
 
" ดูกร ทายาทแห่งอริยสกุล หากท่านไม่ล่วงรู้ว่าจะเลือกหนทางเข้าสู่ครรภ์อุทรได้ด้วยวิธีใด และไม่อาจกำจัดอารมณ์ปรารถนา และความ ก้าวร้าวได้ ไม่ว่าประสบการณ์ดังกล่าวข้างต้นจะบังเกิดในรูปแบบใด จงขานพระรัตนตรัยและขอถือเอาเป็นสรณะ จงรออ้อนวอนต่อองค์พระอวโลกิเตศวรเจ้า เดินหน้าต่อไป เชิดศีรษะให้ตรง ละทิ้งความผูกพันข้องแวะและเพรียกหาญาติมิตรเพื่อนฝูง บุตรและธิดาที่ท่านได้ทิ้งไว้เบื้องหลัง พวกเขาไม่อาจช่วยเหลือท่านได้ จงมุ่งสู่แสงสีครามของมนุษย์และแสงสีขาวแห่งเทวดาภูมิ เข้าสู่พระราชวังอัญมณีและวนาอันรื่นรมย์
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 04:47:04 pm »

ทว่า ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ไม่เคยชินกับการประกอบกุศลกรรม ทว่ากลับมากไปด้วยอกุศลกรรมมาแต่เริ่ม อาจอยู่ภายใต้ม่านคลุมแห่ง ความพิกลพิการทางจิตอันทรงพลัง ซึ่งทำให้เขาไม่ได้พานพบกับวิมุตติสุข ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับการบอกเล่าและชี้แนะอารมณ์ ( วัตถุ ) เพื่อใช้ในการทำสมาธิหลายครั้งหลายครากันก็ตามที ดังนั้นบัดนี้ หากหนทางเข้าสู่ครรภ์อุทรยังไม่ได้รับการสกัดกั้นลง คำสอนอันลึกซึ้ง เพื่อคัดเลือกเส้นทางสู่การเกิดจำต้องได้รับการถ่ายทอด เบื้องแรก ท่านควรอ้อนวอนเพรียกหาต่อเหล่าองค์พุทธะและองค์โพธิสัตว์ เพื่อขอความช่วยเหลือท่าน กล่าวไตรสรณคมน์ แล้วจึงเรียกชื่อผู้ตายสามครั้ง และกล่าวข้อความต่อไปนี้
 
" ดูกร ทายาทแห่งอริยสกุล ( ชื่อ ) ที่ได้ละโลกนี้ไป จงฟังคำข้า ฯ ถึงแม้ว่าท่านจะได้รับการถ่ายทอดคำสอนดังข้างต้นหลายครั้งหลายครา ด้วยกัน ท่านก็ยังไม่อาจทำความเข้าใจได้แจ่มแจ้ง ณ บัดนี้ หากทางเข้าสู่ครรภ์อุทรยังไม่ได้ปิดลง เวลาที่ท่านต้องละร่างและสถานที่ไปเกิด ได้มาถึงแล้ว มีคำสอนอันลีกซึ้งและเป็นสัตย์จริงมากมายที่ท่านจะใช้เลือกทางเข้าสู่ครรภ์อุทร ดังนั้นจงทำความเข้าใจให้ดีอย่าหลงลืมละเลย จงตั้งใจฟังด้วยความแน่วแน่มั่นคง และทำความเข้าใจให้ได้
 
" ดูกร ทายาทแห่งอริยสกุล บัดนี้สัญญาณและลักษณาการแห่งดินแดนที่ท่านจะไปเกิดจะบังเกิดขึ้น ดังนั้นพึงทำความจดจำให้ได้ จงตรวจสอบและเลือกดินแดนที่ท่านจะไปถือกำเนิด
 
" ถ้าท่านจะไปเกิดในดินแดนตะวันออก อริยบุคคล ท่านจะแลเห็นทะเลสาปห้องล้อมด้วยฝูงห่านตัวผู้และตัวเมีย จงพยายามขัดขืน และอย่าไปเกิดยังที่แห่งนั้น ถึงแม้ว่ามันจะดูเปี่ยมไปด้วยความสุข มันเป็นสถานที่ที่พระธรรมจะไม่มีวันแพร่ไปถึง ดังนั้น จงอย่าเข้าไปเป็นอันขาด
 
" ถ้าท่านจะไปเกิดในดินแดนตะวันตก ดินแดนแห่งฝูงวัวป่าอันคึกคะนอง ท่านจะแลเห็นทะเลสาปห้อมล้อมด้วยม้าตัวผู้และม้าตัวเมีย อย่าเข้าไป จงถอยกลับ ถึงแม้ว่ามันจะดูมีความปีติสุข มันก็ยังเป็นสถานที่ที่พระธรรมจะไม่มีวันแพร่ไปถึง ดังนั้นจงอย่าได้เข้าไปเป็น อันขาด
 
" ถ้าท่านจะไปเกิดในดินแดนทางตอนเหนือ ดินแดนแห่งสำเนียงอันไม่พึงใจ ท่านจะแลเห็นทะเลสาปห้องล้อมด้วยฝูงวัวหรือต้นไม้ จงจำไว้ว่ามันเป็นสัญลักษณ์แห่งการเกิด อย่าได้เข้าไปเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าท่านจะมีอายุยืนและมีทรัพย์สินมหาศาล แต่พระธรรม จะไม่เผยแพร่ไปถึง ดังนั้นจงอย่าเข้าไปเป็นอันขาด
 
" ถ้าท่านจะต้องไปเกิดในเทวโลก ท่านจะแลเห็นวัดวาอารามหลายสถาน ประดับประดาด้วยจินดามณีอันล้ำค่า ถ้าท่านเหมาะสมกับสถานที่ แห่งนั้น ท่านก็ควรจะเดินทางเข้าไป
 
" ถ้าท่านจะต้องไปเกิดในอสุรภูมิ ท่านจะได้แลเห็นพุ่มไม้อันงดงาม หรือกงล้อแห่งไฟบรรลัยกัลป์ อย่าเข้าไปเป็นอันขาดแต่จงขัดขืน
 
" ถ้าท่านจะต้องไปเกิดในเดรัจฉานภูมิ ท่านจะได้แลเห็นถ้ำหินอันมืดมัว และร่องรูใหญ่บนพื้นดิน รวมทั้งกระท่อมฟาง จงอย่าฝ่าเข้าไปเป็น อันขาด
 
 
" ถ้าท่านจะต้องไปเกิดในเปรตภูมิ ท่านจะได้แลเห็นตอไม้และซากไม้สีดำทะมึนเกาะติดอยู่ด้วย คูกาสึกและพื้นดินดำ ถ้าท่านจะไปเกิดที่ แห่งนี้ ท่านจะถือกำเนิดเป็นเปรต และประสบความทรมาณนานา รับโทษจากความโหยหิวและกระหาย ดังนั้นอย่าเข้าไปเป็นอันขาด จงขัดขืนอย่างเต็มที่
 
" ถ้าท่านจะไปเกิดในนรกภูมิ ท่านจะได้ยินบทเพลงที่ขับร้อง โดยบุคคลที่เปี่ยมด้วยอกุศลกรรม หากท่านถูกดึงดูดเข้าไปอย่างหมดทาง แก้ไข ท่านจะพบปะตนเองกำลังเดินทางผ่านเส้นทางอันมืดมิด จะปรากฏเคหาสนืสีดำและสีแดง คันถนนและถนนสีดำ ถ้าผ่านไปยังที่ แห่งนั้น ท่านจะต้องผ่านเข้าไปสู่ประตูนรก และประสบกับความทรมาณอันหาที่สุดมิได้ ผ่านความเร่าร้อนและหนาวเหน็บจากสถานที่ อันหลบหนีไม่ได้ จงอย่าพลัดหลงเข้าไปเป็นอันขาด อย่าก้าวฝ่าไปในสายหมอก จงตั้งใจระวังอย่างแน่วแน่ มีคำกล่าวว่า ' จงปิดทางเข้า สู้ครรภ์อุทรและจงคิดขัดขืน ' นี่คือสิ่งสำคัญในตอนนี้
 
" ดูกร ทายาทแห่งอริยสกุล ถึงแม้ว่าท่านไม่ปรารถนาจะไปที่ใดเลย ท่านก็ปราศจากพลังอำนาจในตนเอง ท่านถูกบังคับผลักดันไปอย่างไร้ทางช่วย ด้านหลังของท่านจะมีเจ้ากรรมนายเวรผลักไสท่าน เบื้องหน้าเจ้ากรรมนายเวรและฆาตกรจะลากท่านไปตามทาง ความืดมืด พายุสลาตัน พายุร้าย เสียงขู่หิมะ และพายุฝน พายุลูกเห็บอันน่าหวาดกลัวและพายุหิมะจะควงหมุนอยู่รอบ ๆ ตัวท่าน จนท่านปรารถนา จะหลบหนี ในการหลบหนีท่านจำต้องหาที่พักพิง และท่านจะรู้สึกปลอดภัยในคฤหาสน์ล้ำค่าดังกล่าวข้างต้น หรือในที่พักซอกหินผา หรือในหลุมรูบนพื้นดิน ที่ว่างระหว่างต้นไม้ หรือในหุบถ้ำแห่งกอบัว เป็นต้น เมื่อหลบซ่อนอยู่ในที่เหล่านี้ ท่านจะเกิดความหลงใหล ผูกพันในที่ดังกล่าว ท่านเกิดความหวาดกลัวที่จะต้องเผชิญกับสิ่งพรั่นพรึงในบาร์โดอีกหากจำต้องออกไปสููุุุุุ่่๋๋ภายนอก ท่านหวาดกลัวมายา เหล่านั้นเป็นอันยิ่ง ท่านจึงหลบซ่อนอยู่ข้างใน และยังยอมรับเอารูปกายอันใดอันหนึ่งเป็นที่ยึดครอง ไม่ว่ามันจะเลวร้ายสักเพียงใด และประสบกับความทุกข์ทรมาณทุกรูปแบบ นี่เป็นสัญญาณว่าอำนาจแห่งความชั่วร้ายและเหล่าปิศาจกำลังขัดขวางท่านอยู่ในขณะนี้ มีคำสอนอันลึกซึ้งประการหนึ่งที่จะช่วยเหลือท่านได้ ดังนั้น จงฟังและทำความเข้าใจให้ดี
 
" ในช่วงเวลาอันน่าหวาดกลัวนี้ เมื่อท่านถูกลากจูงไปโดยไม่มีทางขัดขืนจากเจ้ากรรมนายเวร ท่านควรจะสร้างนิมิตโดยนึกถึงเทพเฮรุกา หรือเทพหยะครีวะ หรือเทพวัชรปาณี หรือองค์ยิดัมประจำตน ที่มีร่างกายและแขนขาอันใหญ่โตมโหฬาร สร้างภาพว่าเขายืนตระหง่าน เต็มไปด้วยความพิโรธอันน่าสะพรึงกลัว ซึ่งขจัดล้างอำนาจชั่วร้ายให้เป็นผุยผงไป เมื่อถูกแยกออกจากเจ้ากรรมนายเวรโดยอำนาจ จากความกรุณาและความศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าทวยเทพ ท่านจะมีอำนาจจนสามารถเลือกทางเข้าสู่อุทรได้ นี่เป็นความลับอันลึกซึ้งแห่งคำสอน จงทำความเข้าใจมันอย่างถ่องแท้
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 04:46:08 pm »

เหตุการณ์ดังข้างต้นจะบังเกิดขึ้นอีก ท่านจะมีความรู้สึกริษยาแรงกล้าแรงกล้า ถ้าท่านจะต้องถือกำเนิดเป็นเพศชาย ท่านจะเกิดความรักใคร่ ในมารดาและเกลียดชังบิดายิ่งนัก แต่หากท่านจะต้องกำเนิดเป็นสตรี ท่านจะหลงใฝ่ในบิดาและชิงชังต่อมารดา คำสอนสั่งอันมีความ หมายลึกซึ้งจึงมีความสำคัญยิ่ง
 
" ดูกร ทายาทแห่งอริยสกุล เมื่ออารมณ์ปรารถนาและความก้าวร้าวบังเกิดขึ้น ให้ท่าน ตั้งจิตเป็นสมาธิและนึกถึงแต่เพียงว่า ข้า ฯ เป็นสัตว์ผู้มากล้นด้วยอกุศลกรรมจึงได้เร่ร่อนอยู่ในสังสารวัฏตราบจนบัดนี้ โดยเหตุที่ข้า ฯ ยังผูกพันอยู่แต่อารมณ์ปรารถนาและความก้าวร้าว หากข้า ฯ ยังคงกระทำเช่นนี้ต่อไปอีก ข้า ฯ ย่อมต้องวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏไม่สิ้นสุด และจมดิ่งไปในความลึกลับสุดหยั่งถึงแห่งมหาสมุทรของความทุกข์ทนเป็นเวลาเนิ่นนาน ดังนั้น บัดนี้ ข้า ฯ จะละทิ้งอารมณ์ปรารถนาและความก้าวร้าวทั้งมวล โดยเพ่งจิตของข้า ฯ อย่างแรงกล้าและไม่เบี่ยงเบนไปยังความคิดดังกล่าวนี้ ย่อมส่งผลให้ปิดทางเข้าสู่ครรภ์อุทรได้ ในคัมภีร์แห่งตันตระมีคำกล่าวว่า ดูกร ทายาทแห่งอริยสกุล อย่าหวั่นไหว จงเพ่งจิตไปที่จุดเดียวไม่เบี่ยงเบน
 
" แต่หากว่า ภายหลังการกระทำเช่นนั้น ทางเข้าสู่ครรภ์อุทรก็ไม่อาจปิดลงได้ และท่านก็เกือบจะผ่านเข้าไปแล้ว ดังนั้นมันจึงจำต้องถูกปิด โดยคำแนะนำที่ข้องเกี่ยวกับธรรมชาติอันไม่เป็นแก่นสารและลวงล่อของสรรพสิ่ง จงเพ่งจิตความคิดไปดังกล่าวนี้ว่า " โอม บิดร และมารดร มหาวายุอันเกรี้ยวกราด ลมกรด สายฟ้าแลบ ภาพสะท้อนอันน่าสะพรึงกลัวและปรากฏการณ์ที่ข้า ฯ ได้ประจักษ์เห็นล้วนเป็นมายา ไม่ว่ามันจะปรากฏตนในรูปใด มันหามีแก่นสารไม่ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนเป็นของเทียมและไม่จริง คล้ายดังภาพลวงตา มันไม่เที่ยงแท้แน่นอน มันไม่อาจทรงตัวอยู่ได้ ความลุ่มหลงมีประโยชน์อะไร ความหวาดกลัวมีประโยชน์อะไร มันทำให้เราหลงคิดว่า สิ่งไม่มีแก่นสารนั้นมีแก่นสาร สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นภาพสะท้อนจากจิตของข้าฯ เอง และเนื่องจากจิตนั้นเป็นมายาและมิได้ดำรงอยู่ ตั้งแต่แรกเริ่ม มันจะเกิดขึ้นจากภายนอกได้ที่ไหน ข้าฯ ไม่เคยประจักษ์แจ้งเช่นนี้มาก่อนเลย และจึงหลงคิดว่าสิ่งไม่เที่ยงแท้นั้นเที่ยงแท้ สิ่งเท็จเป็นสิ่งจริง มายาคือแก่นสาร ดังนั้นข้า ฯ จึงได้เฝ้าวนเวียนออยู่ในสังสารวัฏนับกัลป์ และหากข้า ฯ ยังไม่ยอมตระหนักว่า มันเป็นภาพลวงตา ข้า ฯ ก็ย่อมจะร่อนเร่อยู่ในสังสารวัฏเป็นเวลาเนิ่นนานและจมดิ่งอยู่ใต้เปือกตมอันอับชื้นของความทรมาณ ณ บัดนี้ สิ่งทั้งปวงเปรียบเสมือนประดุจความฝัน เปรียบประดุจมายา เปรียบประดุจเสียงสะท้อน เปรียบประดุจตัวนครแห่งแคว้นคันฐารวาส เปรียบประดุจภาพหลอน เปรียบประดุจภาพลวงตา เปรียบประดุจดังความพิการแห่งจักษุสัมผัส เปรียบประดุจดังเงาจันทร์บนผืนน้ำ มันย่อมไม่อาจเป็นจริงไปได้ แม้เพียงชั่วขณะก็ตามที จริงแล้วมันหามีแก่นสารใดไม่ แต่กลับอุดมไปด้วยความเท็จ
 
" ด้วยความแน่วแน่แรงกล้าในความคิดเช่นนี้ จงเชื่อมั่นในความจริงแม้ว่ามันจะสั่นคลอน เมื่อใดก็ตามที่บุคคลใดได้ยึดมั่นในความคิดเช่นนี้ อย่างแรงกล้า ความลุ่มหลงในอัตตาจะถูกขจัดสิ้นไป ถ้าท่านเข้าใจความไร้แก่นสารจากก้นบึ้งแห่งหัวใจ ทางผ่านสู่ครรภ์อุทรย่อมถูกปิดลง แน่นอน
 
" แต่แม้จะกระทำดังกล่าวนี้แล้ว ความยึดมั่นที่ว่าสรรพสิ่งนั้นเที่ยงแท้ก็ไม่อาจจะถูกทำลายลงได้ ประตูสู่ครรภ์อุทรก็ยังไม่ถูกปิดลง และท่านเองก็เกือบจะหลุดเข้าไปสู่ครรภ์อุทรแล้ว จงฟังคำตักเตือนอันลึกซึ้งต่อไปนี้
 
" ดูกร ทายาทแห่งอริยสกุล หลังจากลงมือประกอบกิจดังกล่าวแล้ว ทางเข้าสู่ครรภ์อุทรก็ยังไม่ปิดลงไปได้ ดังนั้นโดยอาศัยวิธีที่ห้า ซึ่งเป็นการเพ่งจิตไปที่ความใสสว่างจักช่วยท่านได้ พึงปฏิบัติดังนี้
 
' สิ่งทั้งหลายทั้งปวงอุบัติจากจิตของฉันเอง และจิตของฉันเองนั้นล้วนว่างแต่เดิม มันไม่อาจอุบัติขึ้นและไม่อาจถูกทำลายได้ ' จงเพ่งความคิดที่เรื่องนี้ รักษาจิตให้อยู่ในภาวะธรรมชาติและไม่หวั่นไหว ดำรงอยู่ในธรรมชาติเดิมของมัน ดุจดังน้ำที่เติมลงในน้ำ ผ่อนคลาย เปิดโล่งและอ่อนโยน โดยการปล่อยให้มันเป็นไปอย่างธรรมชาติและเปิดเผย ท่านสามารถแน่ใจได้ว่า ทางเข้าสู่ครรภ์อุทร ที่ก่อให้เกิดสี่ประเภทจะต้องถูกปิดลงอย่างแน่นอน "
คำสอนอันเป็นสัตย์จริงและลึกซึ้ง ที่ใช้ในการปิดทางเข้าสู่ครรภ์อุทร ได้รับการถ่ายทอดมาแล้วนับแต่เบื้องต้น ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะมีคุณธรรม สูงส่งหรือต่ำทรามเพียงใดก็ตาม ย่อมได้รับการปลดปล่อยสู่วิมุตติสุขในที่สุด ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นเล่า ? สาเหตุแรกนั้นเป็นเพราะวิญญาณ ในบาร์โดสภาวะได้ครอบครองญาณสัมผัสอันเหนือธรรมคติ ดังนั้นพวกเขาย่อมสดับได้ในถ้อยคำที่กล่าวทวน สาเหตุประการที่สองนั้นคือ แม้ว่าเขาหูหนวก ตาบอดก็ตามที บัดนี้เขากลับมีประสาทสัมผัสอันเพียบพร้อม ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ยินในถ้อยคำที่ถูกกล่าวออกมา ประการสาม เนื่องจากความกลัวเข้าครอบงำอย่างต่อเนื่อง เขาจึงครุ่นคิด ไม่เขวเป็นอื่นว่าจะทำอะไรดี ดังนั้นเขาจึงฟังสิ่งที่ข้าฯ พูด ประการที่สี่ ในขณะที่ดวงวิญญาณปราศจากสิ่งค้ำจุน มันย่อมสามารถเดินทางไปได้ในทุกแห่งหนดังใจนึกคิด จึงย่อมสะดวกที่จะชักนำจิต ไปในทางที่ควร และเนื่องจากจิตปัจจุบันสะอาดใสกว่าเดิมถึงเก้าเท่า ดังนั้นแม้เขาจะทึ่มโง่สักเพียงใด อาศัยอำนาจจากวิบากกรรม ในยามนี้จิตย่อมแจ่มใสจนอาจจดจ่อแน่วแน่ในสิ่งที่ถ่ายทอด ด้วยเหตุผลเหล่านี้ การประกอบพิธีกรรมเพื่อผู้ตายจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
 
ดังนั้นการเฝ้าอ่านคัมภีร์ " มหาวิมุตติโดยการสดับฟัง " นี้เป็นเวลาถึงเก้าวัน จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก แม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้รับการปลดปล่อย ในวันแรก ๆ ก็ตาม เขาก็อาจได้รับการปลดปล่อยในภายหลังก็ได้ ดังนั้นคำสอนสั่งจึงมีแยกออกเป็นจำนวนมาก