คำตอบของครูก็คือ การพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่งาน
การตื่นตัวและพร้อมเสมอที่จะเผชิญกับสถานการณ์
ที่จะเกิดขึ้นอย่างสามารถและมีไหวพริบ
นี่แหละคือความมีสติโดยแท้ไม่มีเหตุผลใดที่การมีสติ
จะต่างไปจากการพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่งานของ ตน
ตื่นตัวอยู่เสมอ และพร้อมจะตัดสินใจอย่างดีที่สุด
ในขณะของการปรึกษาหารือ การแก้ปัญหา
และการจัดการกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น
เราจะต้องมีหัวใจที่สงบและควบคุมตัวเองได้อย่างดี
การงานนั้นๆจึงจะได้รับผลเป็นที่น่าพอใจผู้ปฏิบัติงานทุกคนคงตระหนักในข้อนี้
ถ้าเราอยู่ในภาวะที่ควบคุมตัวเองไม่ได้
ปล่อยให้ความไม่อดกลั้นและโทสะเข้าครอบงำ
งานของเราก็จะหมดความหมายและไร้คุณค่าทันที
การมีสติเป็นสิ่งอัศจรรย์ตรงที่ช่วยให้เราเป็นนายของตนเอง
และรักษาใจตนเองอยู่ได้ในทุกๆสถานการณ์
ลองคิดเปรียบอย่างนี้นักมายากลผู้หนึ่งตัดส่วนต่างๆของร่างกายออกเป็นชิ้นๆ
และวางเอาไว้คนละทิศละทาง
เอามือไปไว้ทิศใต้ เอาแขนไว้ทิศตะวันออก เอาขาไปไว้ทิศเหนือ ฯลฯ
และด้วยอิทธิปาฏิหาริย์
พอร้องเพี้ยงเดียวส่วนต่างๆของร่างกาย
ก็รวมเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียว สู่สภาพปกติ
สติก็อุปมาอย่างนั้น มันมีปาฏิหาริย์ตรงที่
สามารถเรียกจิตใจที่พุ่งไปร้อยแปดทิศกลับมา
และถนอมรวมเข้าเป็นหนึ่ง
เพื่อเราจะได้มีชีวิตอยู่ในทุกขณะจิตของชีวิต [ท่านติช นัท ฮันห์ (Thich Nhat Hanh)
หมู่บ้านพลัม (Plum Village) เมือง Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส]
(ที่มา : ปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ โดย ท่าน ติช นัท ฮันห์)http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=33983