ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
โดยปกติชน นิ้วมือของคนเรา มีกี่นิ้ว (ตอบเป็นภาษาไทยครับ):
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: กันยายน 10, 2010, 10:38:12 pm »

 :13: ขอบคุณครับพี่หนุ่ม
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กันยายน 10, 2010, 09:50:58 pm »

อย.เตือนล้างคอนแทคผิดตาบอด

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เตือนวัยรุ่นที่ล้างคอนแทคเลนส์ผิดวิธี ใช้การหยอดน้ำยาเข้าตาแทนการถอดล้าง อันตรายเสี่ยงตาบอดได้

 

            นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเตือนวัยรุ่นที่ใช้คอนแทคเลนส์แล้วนิยมใช้วิธีล้างทำความสะอาดด้วยวิธี การหยอดน้ำตาล้างคอนแทคเลนส์ที่ตาโดยตรง แทนการถอดคอนแทคเลนส์ออกมาล้างตามคำแนะนำของจักษุแพทย์ ถือเป็นการกระทำที่อันตรายต่อดวงตาอย่างมาก เพราะแม้น้ำยาจะไม่มีสารเคมีที่ทำอันตรายต่อดวงตาแต่การหยอดน้ำยาเข้าตาโดย ตรง น้ำยาจะไหลเข้าสู่ท่อน้ำตาและลงหลอดลม ไม่ทันได้ซึมเข้าไปทำความสะอาดด้านในของคอนแทคเลนส์ที่มีผิวสัมผัสกับกระจก ตา สิ่งสกปรกทั้งหมดจึงยังคงค้างอยู่ หากปล่อยไว้กระจกตาจะติดเชื้ออย่างหนัก เป็นแผล ขุ่นมัว อาการหนักต้องถึงขั้นผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาใหม่ทั้งหมด

 

            การใช้คอนแทคเลนส์ให้ปลอดภัยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์ และคำแนะนำที่อยู่ข้างกล่องผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด


ที่มา : Press Release

http://www.thaihealth.or.th/node/16927
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กันยายน 10, 2010, 09:49:46 pm »

 คอนแทคเลนส์ต้องมีคำเตือน

         รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยผู้ใช้คอนแทค เลนส์ หรือเลนส์สัมผัส ให้ผู้ผลิตหรือนำเข้าต้องได้รับใบอนุญาต และต้องพิมพ์ฉลากภาษาไทยอ่านได้ชัดเจน มีคำแนะนำ คำเตือน ข้อห้ามใช้ และผู้ที่ไม่ควรใช้ โดยจะมีผลบังคับใช้ หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

 

          นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้คอนเทคเลนซ์ กำลังเป็นที่นิยมของวัยรุ่นไทย และเสี่ยงอันตรายต่อตา หากใช้ไม่ถูกวิธี หรือใช้ในทางที่ผิด ในการป้องกันปัญหาดังกล่าว เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2553 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ควบคุมมาตรฐานคอนแทค เลนส์ ( contact lens ) หรือเลนส์สัมผัส เพื่อให้มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้เลนซ์ชนิดนี้

 

          นพ.สุพรรณ กล่าวว่า ตามประกาศดังกล่าว กำหนดให้คอนแทค เลนส์ เป็นเครื่องมือแพทย์ ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยจะต้องจัดให้มีฉลากบนภาชนะบรรจุ หรือหีบห่อบรรจุคอนแทค เลนส์หรือมีไว้เพื่อขาย โดยต้องแสดงข้อความภาษาไทยที่อ่านได้ชัดเจน ทั้งนี้จะมีภาษาอื่นด้วยก็ได้ แต่ความหมายต้องตรงกับข้อความภาษาไทย และในแต่ละรายการจะต้องแสดงชื่อคอนแทคเลนส์ และวัสดุที่ใช้ทำ บอกคุณสมบัติของเลนส์เช่นกำลังหักเห รัศมีความโค้ง บอกชื่อของสารละลายที่ใช้แช่เลนส์ ระยะเวลาการใช้งาน ให้แสดงด้วยอักษรความสูงไม่น้อยกว่า 2 มิลลิเมตร ยกเว้นคอนแทคเลนส์ ที่ไม่กำหนดระยะเวลาการใช้งาน มีเดือนปีที่หมดอายุ เลขที่ใบอนุญาตเครื่องมือแพทย์ ชื่อและสถานที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ในกรณีที่นำเข้าให้แสดงชื่อผู้ผลิต เมืองและประเทศผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์นั้นด้วย

 

          โดย ต้องระบุชนิดของเลนส์ให้ชัดเจนว่า เป็นเลนส์ชนิดใช้งานพียงครั้งเดียว หรือชนิดใส่และถอดทุกวัน พิมพ์ด้วยอักษรสีแดง เพื่อให้ผู้ใช้เห็นชัดเจน รวมถึงข้อความว่า โปรดอ่านเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้ และพิมพ์ข้อความว่า การใช้คอนแทคเลนส์ ควรได้รับการสั่งใช้และตรวจติดตามทุกปีโดยจักษุแพทย์หรือผู้ประกอบโรคศิลปะ

 

          นพ.สุพรรณ กล่าวต่อไปว่า ประการสำคัญ ตามประกาศนี้ได้กำหนดการพิมพ์คำแนะนำ คำเตือน ข้อห้ามใช้และข้อควรระวังในการใช้เลนส์ดังกล่าวดังนี้ โดยคำเตือนกำหนดให้มีคำว่า การใช้คอนแทคเลนส์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ที่ผิดวิธี มีความเสี่ยงต่อการอักเสบ หรือการติดเชื้อของดวงตา อาจรุนแรงถึงขั้นสูญเสียสายตาอย่างถาวรได้ โดยให้แสดงข้อความการห้ามใช้ดังนี้คือ 1. ห้ามใส่คอนแทคเลนส์นานเกินระยะเวลาที่กำหนด 2. ห้ามใช้ร่วมกับบุคคลอื่น 3. ห้าม ใส่คอนแทคเลนส์ทุกชนิดเวลานอน ถึงแม้ว่าจะเป็นชนิดใส่นอนได้ก็ตาม ควรถอดล้างทำความสะอาดทุกวัน และกำหนดให้พิมพ์ข้อความควรระวัง ผู้ที่ไม่ควรใช้คอนแทคเลนส์ดังนี้คือ ผู้ที่มีสภาวะของดวงตาผิดปกติเช่นเป็นต้อเนื้อ ต้อลม ตาแดง กระจกตาไวต่อความรู้สึกลดลง ตาแห้ง หรือกระพริบตาไม่เต็มที่ และให้ใช้น้ำยาล้างเลนส์ที่ใหม่ และเปลี่ยนน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งที่แช่เลนส์ ควรเปลี่ยนตลับใส่คอนแทคเลนส์ทุก 3 เดือน ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ขณะว่ายน้ำ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตาได้ โดยผู้ใช้ต้องล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสเลนส์ และหากมีอาการผิดปกติเช่น เจ็บหรือปวดตาอย่างมากร่วมกับอาการแพ้แสง ตามัว น้ำตาไหลมาก หรือตาแดง ให้หยุดใช้คอนแทคเลนส์ทันทีและรีบพบจักษุแพทย์โดยเร็ว

 

          ทั้ง นี้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว จะมีผลใช้บังคับนับตั้งแต่ถัดจากวันประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยผู้จดทะเบียนสถานประกอบการที่ได้ยื่นขออนุญาตผลิตหรือนำเข้าคอนแทคเลนส์ อยู่ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับและยังไม่ได้รับอนุญาต ให้ถือว่าเป็นผู้ยื่นคำขอผลิตหรือนำเข้าคอนแทคเลนส์ โดยต้องมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในคำขอให้มีรายละเอียดถูกต้องตามประกาศฉบับ นี้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ส่วนผู้ที่ได้รับอนุญาตผลิตหรือนำเข้าคอนแทคเลนส์อยู่ก่อนวันที่ประกาศฉบับ นี้ใช้บังคับ จะต้องยื่นขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการตามประกาศภายใน 30 วัน และผ่อนผันให้ใช้ฉลากเดิมได้เป็นเวลา 180 วัน นับแต่วันที่ได้รับอนุญาตแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการ นพ.สุพรรณกล่าว



ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กันยายน 10, 2010, 09:48:02 pm »

วัยรุ่นไทยเสี่ยงตาบอด

ฮิต!ตาสวยด้วยคอนแทคเลนส์

 

            เอา กันใหญ่แล้ว!!! สำหรับวัยรุ่นไทย กับการนิยมชมชอบแฟชั่นต่างๆ นานา ที่มาจากต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี โดยเฉพาะที่กำลังแพร่หลายอยู่ในขณะนี้ อย่างเทรนด์ “ตาเล็ก” “ตาชั้นเดียว” หรือแม้กระทั้ง “ดวงตาสีสรรต่างๆ” ที่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องเสียเวลาไปผ่าตัดให้สิ้นเปลือง เพราะเค้าใช้!!! “คอนแทคเลนส์”

 

 

            ถึง แม้ที่ผ่านมา จะมีข่าวคราวกรณีที่มีทั้งเด็กตาอักเสบ ตาบวม บางรายจนถึงขั้นตาบอดไปเลย เหตุเพราะใส่คอนแทคเลนส์ผิดวิธี แต่นั่น!! ก็ไม่ได้ทำให้ความนิยมของแฟชั่นเสริมสวยดวงตาลดลงแต่อย่างไร กลับยิ่งทวีความนิยมสูงขึ้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นอาจเป็นเพราะราคาของคอนแทคเลนส์ที่ถูกแสนถูก มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ส่วนระยะเวลาการใช้งานก็มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 1 เดือนไปจนถึง 1 ปี แล้วแต่ความสะดวกของผู้ใช้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นยังสามารถหาซื้อได้ง่าย จากเดิมที่มีขายแต่ร้านแว่นตา หรือจำเป็นต้องแพทย์สั่งเท่านั้น แต่ปัจจุบันกลับมีวางขายตามแผงค้าตามแหล่งแฟชั่น ตลาดนัด รวมไปถึงการวางจำหน่ายในเว็บไซต์ ทำให้ผู้บริโภคหาซื้อมาสวมใส่ได้ง่ายยิ่งขึ้น และด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้วัยรุ่นไทยกำลังเสี่ยงกับการอันตรายถึงขั้น ตาบอดได้...

 

            เกี่ยว กับเรื่องนี้ นพ.วิชัย ประสาทฤทธา ภาควิชาจักษุวิทยา รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า โดยปกติแล้วการสวมใส่คอนแทคเลนส์หรือเลนส์สัมผัส มีโอกาสเกิดการติดเชื้อได้น้อยมาก หากมีการดูแลรักษาความสะอาดของคอนแทคเลนส์ตามคำแนะนำอย่างถูกต้อง ส่วนในรายที่เกิดอาการ อาจเป็นเพราะผู้สวมใส่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องการรักษาความสะอาด และอาจสวมใส่คอนแทคเลนส์ในเวลานอนหลับ เพราะนั่นถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเวลานอนดวงตาได้รับออกซิเจนน้อยลง ออกซิเจนจะไปเลี้ยงกระจกตาได้น้อยกว่าปกติ จึงเกิดการติดเชื้อขึ้น และเนื่องจากเป็นเลนส์สัมผัสทำให้อาการติดเชื้อมีความรุนแรงและลุกลามอย่าง รวดเร็วจนถึงขั้นทำให้ตาบอด...

 

            หากยังคงให้ตัวอันตราย อย่าง “คอนแทคเลนส์” หา ซื้อได้ง่ายเช่นนี้ เหล่าวัยรุ่นไทยกว่าครึ่งต้องเสี่ยงตาบอดกันเป็นแน่ ด้วยเหตุนี้กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ออกประกาศควบคุมมาตรฐานคอนแทคเลนส์ (contact lens ) หรือ เลนส์สัมผัส โดยจะต้องจัดให้มีฉลากบนภาชนะบรรจุ หรือหีบห่อและต้องแสดงข้อความภาษาไทยที่อ่านได้ชัดเจน ทั้งนี้จะมีภาษาอื่นด้วยก็ได้ แต่ความหมายต้องตรงกับข้อความภาษาไทย

 

            ส่วน ในแต่ละรายการจะต้องแสดงชื่อคอนแทคเลนส์ และวัสดุที่ใช้ทำ บอกคุณสมบัติของเลนส์ บอกชื่อของสารละลายที่ใช้แช่เลนส์ ระยะเวลาการใช้งาน ให้ละเอียด ยกเว้นคอนแทคเลนส์ ที่ไม่กำหนดระยะเวลาการใช้งาน มีเดือนปีที่หมดอายุ เลขที่ใบอนุญาตเครื่องมือแพทย์ ชื่อและสถานที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ในกรณีที่นำเข้าให้แสดงชื่อผู้ผลิต เมืองและประเทศผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์นั้นด้วย โดยต้องระบุชนิดของเลนส์ให้ชัดเจนว่า เป็นเลนส์ชนิดใช้งานพียงครั้งเดียว หรือชนิดใส่และถอดทุกวัน รวมถึงข้อความว่า โปรดอ่านเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้ และพิมพ์ข้อความว่า การใช้คอนแทคเลนส์ ควรได้รับการสั่งใช้และตรวจติดตามทุกปีโดยจักษุแพทย์หรือผู้ประกอบโรคศิลปะ

 

           ที่ สำคัญคือ ข้างบรรจุภัณฑ์จำเป็นต้องพิมพ์คำแนะนำ คำเตือน ข้อห้ามใช้และข้อควรระวังในการใช้เลนส์ไว้ว่า การใช้คอนแทคเลนส์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ที่ผิดวิธี มีความเสี่ยงต่อการอักเสบ หรือการติดเชื้อของดวงตา อาจรุนแรงถึงขั้นสูญเสียสายตาอย่างถาวรได้ โดยให้แสดงข้อความการห้ามใช้ดังนี้คือ 1. ห้ามใส่คอนแทคเลนส์นานเกินระยะเวลาที่กำหนด 2. ห้ามใช้ร่วมกับบุคคลอื่น 3. ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ทุกชนิดเวลานอน ถึงแม้ว่าจะเป็นชนิดใส่นอนได้ก็ตาม ควรถอดล้างทำความสะอาดทุกวัน และกำหนดให้พิมพ์ข้อความควรระวัง ผู้ที่ไม่ควรใช้คอนแทคเลนส์ ดังนี้ คือ ผู้ที่มีสภาวะของดวงตาผิดปกติ เช่น เป็นต้อเนื้อ ต้อลม ตาแดง กระจกตาไวต่อความรู้สึกลดลง ตาแห้ง หรือกระพริบตาไม่เต็มที่ และให้ใช้น้ำยาล้างเลนส์ที่ใหม่ และเปลี่ยนน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งที่แช่เลนส์ ควรเปลี่ยนตลับใส่คอนแทคเลนส์ทุก 3 เดือน

 

            แต่ ถึงแม้จะมีฉลากอยู่ข้างบรรจุภัณฑ์แล้วก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่า เมื่อเอามาใส่แล้วจะไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา หากผู้ที่สวมใส่ไม่ใส่ใจในการรักษาความสะอาด และยังคงใส่ผิดวิธี อันตรายก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งการสวมใส่คอนแทคเลนส์ที่เหมาะสมนั้น ควรสวมใส่ได้ในระยะเวลา 8-12 ชั่วโมงติดต่อกัน โดยหลังจากนั้นต้องดูแลทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ น้ำยาสลายคราบโปรตีน และน้ำยาแช่ฆ่าเชื้อ โดยคอนแทคเลนส์รายเดือนนั้นมีอายุการสวมใส่ 1- 1 เดือนครึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลทำความสะอาด หากไม่รักษาความสะอาดให้ดีเพียงแค่ 2 สัปดาห์ก็อาจจะมีสิ่งสกปรกตกค้างจนต้องเปลี่ยนคู่ใหม่ แต่หากรักษาความสะอาดเป็นอย่างดีก็จะทำให้อายุการใช้งานนานขึ้นไปด้วย

 

         ที่ สำคัญที่ต้องล้างมือให้สะอาดและทำให้แห้งก่อนสัมผัสเลนส์ การสวมและการเปลี่ยนเลนส์ก็ให้เป็นไปตามระยะที่กำหนด การล้างและการเก็บรักษาเลนส์ก็ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนภาชนะที่เก็บเลนส์ก็ต้องรักษาให้สะอาดอยู่เสมอ

 

          ห้ามใช้คอนแทคเลนส์ร่วมกับบุคคลอื่น ห้ามใส่ขณะว่ายน้ำเพราะอาจทำให้ติดเชื้อที่ตา และต้องถอดทำความสะอาดทุกวัน

 

          หาก มีอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหรือปวดตาเป็นอย่างมาก ร่วมกับอาการแพ้แสง ตามัวลง น้ำตาไหลมาก ตาแดง ให้หยุดใช้คอนแทคเลนส์ทันที และให้รีบไปพบแพทย์หรือจักษุแพทย์โดยเร็ว...

 

         เพียง เท่านี้คุณก็จะปลอดภัยจากการอันตรายที่อาจเกิดจากคอนแทคเลนส์ได้แล้ว หากแต่หลีกเลี่ยงไม่ใส่เลยน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด เพราะการสวยแบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึงอะไร น่าจะปลอดภัยกว่า 100 % นะคะ


http://www.thaihealth.or.th/node/16932