ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2010, 10:20:36 pm »พระเถระโปรดพระสัมมัชชนเถระ
พระสัมมัชชนเถระ เมื่อครั้งยังเป็นพระปุถุชน ยังไม่บรรลุมรรคผลอันใด โดยปกติก็เป็นผู้ขยันในการเที่ยวกวาดขยะในที่ต่าง ๆ โดยไม่คำนึงถึงกาลเวลา วันหนึ่ง พระสัมมัชชนเถระนั้น ถือไม้กวาด ไปสู่สำนักของพระเรวตเถระ ผู้นั่งอยู่ในที่พัก แล้วกล่าวว่า “พระเถระนี้เป็นผู้เกียจคร้านมาก บริโภคของที่ชนถวายด้วยศรัทธา แล้วมานั่งอยู่ ควรที่จะถือเอาไม้กวาดแล้วกวาดที่แห่งหนึ่ง จะไม่ดีกว่าหรือ ?”
พระเรวตเถระคิดว่า “เราจักให้โอวาทแก่เธอ” ดังนี้แล้ว จึงกล่าวว่า “มานี่แน่ะ คุณ.”
พระสัมมัชชนเถระ : อะไร ? ขอรับ.
พระเรวตเถระ : ท่านจงไปอาบน้ำแล้วจงมา พระสัมมัชชนเถระก็ได้ทำอย่างนั้นแล้วจึงมานั่งอยู่ข้างหนึ่งของพระเถระ .
ลำดับนั้น พระเรวตเถระจึงกล่าวว่า “คุณ ธรรมดาภิกษุเที่ยวกวาดอยู่ตลอดทุกเวลานั้นไม่ควร แต่การที่ภิกษุกวาดแต่เช้าตรู่แล้ว เที่ยวบิณฑบาต กลับจากบิณฑบาตแล้ว มานั่งในที่พัก สาธยายอาการ ๓๒ เริ่มตั้ง ความสิ้น ความเสื่อมในอัตภาพแล้ว ลุกขึ้นกวาดในเวลาเย็น จึงควร ภิกษุไม่กวาดตลอดกาลเป็นนิตย์ ” พระสัมมัชชนเถระนั้นตั้งอยู่ในโอวาทของพระเถระแล้ว ไม่นานเท่าไรก็บรรลุพระอรหัต แต่การที่พระเถระหันมาบำเพ็ญเพียรแทนที่จะเที่ยวกวาดอยู่ทั้งวัน ก็ได้ทำให้ที่นั้นๆ ได้เกิดรกรุงรัง
ลำดับนั้น ภิกษุทั้งหลายจึงได้กล่าวกะพระสัมมัชชนเถระนั้นว่า “สัมมัชชนเถระผู้มีอายุ ที่นั้นๆ รกรุงรัง เพราะเหตุไรท่านจึงไม่กวาดเล่า ?”
พระสัมมัชชนเถระกล่าวตอบกับภิกษุเหล่านั้นว่า ท่านผู้เจริญ กระผมทำอย่างนั้น ในเวลาประมาท บัดนี้ กระผมเป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว.
ภิกษุทั้งหลายจึงได้มากราบทูลแด่พระศาสดาว่า “พระเถระนี้ พยากรณ์ อรหัตตผล.” พระศาสดาจึงตรัสว่า “จริงอย่างนั้น ภิกษุทั้งหลาย บุตรของเรา เที่ยวกวาดอยู่ในเวลาประมาทในกาลก่อน แต่บัดนี้ บุตรของเรายับยั้งอยู่ ด้วยความสุขซึ่งเกิดแต่มรรคผล จึงไม่กวาด” ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถา นี้ว่า:
“ก็ผู้ใดประมาทในก่อน ภายหลังไม่ประมาท,
ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่างได้
เหมือนดวงจันทร์พ้นแล้วจากหมอกฉะนั้น.”
เรื่องพระเรวตเถระฝากจีวร
ครั้งหนึ่ง ท่านพระเรวตะฝากจีวรแก่ภิกษุรูปหนึ่งไปถวายท่านพระ สารีบุตร ด้วยสั่งว่า จงถวายจีวรผืนนี้แก่พระเถระ ในระหว่างทาง ภิกษุรูปนั้นได้ถือวิสาสะเอาจีวร นั้นไปใช้เสียเอง
กาลต่อมา ท่านพระเรวตะมาพบท่านพระสารีบุตร จึงเรียนถามว่า ผมฝากจีวรมาถวายพระเถระ พระเถระได้รับจีวรนั้นแล้วหรือ ขอรับ?
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า ผมยังไม่เห็นจีวรนั้นเลย คุณ
ท่านพระเรวตะจึงได้ถามภิกษุรูปนั้นว่า อาวุโส ผมฝากจีวรมาแก่ท่านให้ถวายพระเถระ ไหนจีวรนั้น?
ภิกษุนั้นตอบว่า ผมได้ถือเอาจีวรนั้นเสีย เพราะถือวิสาสะต่อท่าน ขอรับ
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค
พระผู้มีพระภาคตรัสแนะนำ ดังต่อไปนี้:
เรื่องถือวิสาสะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในข้อนี้ ภิกษุฝากจีวรแก่ภิกษุไปด้วยสั่งว่า จงให้จีวรผืนนี้แก่ ภิกษุมีชื่อนี้ ภิกษุผู้รับฝากถือเอาเสียในระหว่างทาง เพราะวิสาสะต่อผู้ฝาก ชื่อว่าถือเอาถูกต้อง ถือเอาเสียเพราะวิสาสะต่อผู้รับ ชื่อว่าถือเอาไม่ถูกต้อง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในข้อนี้ ภิกษุฝากจีวรแก่ภิกษุไปด้วยสั่งว่า จงให้จีวรผืนนี้ แก่ภิกษุมีชื่อนี้ ภิกษุผู้รับฝากทราบข่าวในระหว่างทางว่า ผู้ฝากถึงมรณภาพเสียแล้ว จึงอธิษฐาน เป็นจีวรมรดกของภิกษุผู้ฝาก ชื่อว่าอธิษฐานถูกต้องแล้ว ถือเอาเสียเพราะวิสาสะต่อผู้รับ ชื่อว่า ถือเอาไม่ถูกต้อง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในข้อนี้ ภิกษุฝากจีวรแก่ภิกษุไปด้วยสั่งว่า จงให้จีวรผืนนี้ แก่ภิกษุมีชื่อนี้ ภิกษุผู้รับฝากทราบข่าวในระหว่างทางว่า ผู้รับถึงมรณภาพเสียแล้ว จึงอธิษฐาน เป็นจีวรมรดกของผู้รับ ชื่อว่าอธิษฐานไม่ถูกต้อง ถือเอาเสียเพราะวิสาสะต่อผู้ฝาก ชื่อว่าถือเอา ถูกต้อง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในข้อนี้ ภิกษุฝากจีวรแก่ภิกษุไปด้วยสั่งว่า จงให้จีวรผืนนี้ แก่ภิกษุมีชื่อนี้ ภิกษุผู้รับฝากทราบข่าวในระหว่างทางว่า ทั้งสองรูปถึงมรณภาพเสียแล้ว จึง อธิษฐานเป็นมรดกของผู้ฝาก ชื่อว่าอธิษฐานถูกต้อง อธิษฐานเป็นจีวรมรดกของผู้รับ ชื่อว่าอธิษฐาน ไม่ถูกต้อง
๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในข้อนี้ ภิกษุฝากจีวรแก่ภิกษุไปด้วยสั่งว่า ฉันให้จีวรผืนนี้ แก่ภิกษุมีชื่อนี้ ภิกษุผู้รับฝากถือเอาเสียในระหว่างทางเพราะวิสาสะต่อผู้ฝาก ชื่อว่าถือเอาไม่ถูกต้อง ถือเอาเสียเพราะวิสาสะต่อผู้รับ ชื่อว่าถือเอาถูกต้อง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในข้อนี้ ภิกษุฝากจีวรแก่ภิกษุไปด้วยสั่งว่า ฉันให้จีวรผืนนี้ แก่ภิกษุมีชื่อนี้ ภิกษุผู้ฝากทราบข่าวในระหว่างทางว่า ผู้ฝากถึงมรณภาพเสียแล้ว จึงอธิษฐานเป็น จีวรมรดกของผู้ฝาก ชื่อว่าอธิษฐานไม่ถูกต้อง ถือเอาเสียเพราะวิสาสะต่อผู้รับ ชื่อว่าถือเอาถูกต้อง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในข้อนี้ ภิกษุฝากจีวรแก่ภิกษุไปด้วยสั่งว่า ฉันให้จีวรผืนนี้ แก่ภิกษุมีชื่อนี้ ภิกษุผู้รับฝากทราบข่าวในระหว่างทางว่า ผู้รับถึงมรณภาพเสียแล้ว จึงอธิษฐาน เป็นจีวรมรดกของผู้รับ ชื่อว่าอธิษฐานถูกต้อง ถือเอาเสียเพราะวิสาสะต่อผู้ฝาก ชื่อว่าถือเอา ไม่ถูกต้อง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในข้อนี้ ภิกษุฝากจีวรแก่ภิกษุไปด้วยสั่งว่า ฉันให้จีวรผืนนี้ แก่ภิกษุมีชื่อนี้ ภิกษุผู้รับฝากทราบข่าวในระหว่างทางว่า ทั้งสองรูปถึงมรณภาพเสียแล้ว จึงอธิษฐาน เป็นจีวรมรดกของผู้ฝาก ชื่อว่าอธิษฐานไม่ถูกต้อง อธิษฐานเป็นจีวรมรดกของผู้รับ ชื่อว่าอธิษฐาน ถูกต้อง
ที่มา
http://www.dharma-gateway.com/monk-great-index-page.htm
อนุโมทนาครับ