ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2011, 10:52:16 pm »

 :25: มาอ่าน อิ อิ อิ
ข้อความโดย: โทนาล
« เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2011, 07:27:21 pm »

แปลคำนำเสร์จแล้ว บทที่ 1 ใกล้จะแปลเสร็จ แล้วจะเอามาลงให้ภายหลังนะครับ  :39:
เพื่อคนที่ชองงานเขียนของ คาลิตอส.  :32:

เล่ม 5

The Second Ring of Power

BY

CARLOS CASTANEDA



SIMON AND SCHUSTER
New York

วงแหวนที่สองแห่งพลัง

คำนำ

        ที่ราบดอนเนินเขาแห้งแล้งตลอดทิศตะวันตก   ไล่ลงไปตามแนวเขามาดราในเม๊กซิโกกลาง  ซึ่งครั้นนั้นเป็นการพบปะครั้งสุดท้ายของผมกับดอนฮวนและดอนเกนาโร  รวมทั้งผู้ฝึกฝนอีกสองคนคือปาลิโตและเนสเตอร์ ความจริงจังของการกระทำนำเราไปสู่สถานที่ที่ซึ่งปลดปล่อยความสงสัยในตัวของเราตลอดระยะเวลาที่ร่วมฝึกฝนไปสู่ข้อสรุปของพวกเขาขณะหนึ่ง และผมอดไม่ได้จริง ๆ เนื่องจากดอนฮวนและดอนเกนาโรมาถึงช่วงสุดท้ายของเวลา ตอนนั้นเองเราทุกฅนกล่าวอำลาซึ่งกันและกัน  และปาลิโตกับผมต่างกระโดนไปด้วยกันจากดอนหน้าผาสูงสู่หุบเหว

       ก่อนหน้ากระโดด ดอนฮวนชี้แจงแสดงหลักพื้นฐานอย่างหนึ่งที่จะเกิดขึ้นกับผม  ตามที่เขาได้กล่าวไว้ บนการกระโดไปในหุบเหว ผมควรอยู่ในสภาระที่บริสุทธิ์เพื่อเฝ้าสังเกต และเคลื่อนไหวกลับไปมาระหว่างความเรียบง่ายของดินแดนที่ถูกสร้างขึ้นโดย " โทนาล" และ นาฮ์วาล"

       ในการกระโดดของผมตามที่ผมสังเกต โดยผ่านความยืดหยุ่นกระเดงกระโดงขึ้น ๆ ลง ๆ ระหว่าง "โทนาล" และ "นาฮ์วาล"  ถึง ๑๗ หน  ในการเคลื่อนไหวของผมสู่ "นาฮ์วาล" ผมตระหนักว่าร่างกายของผมแยกออกจากกัน ผมไม่สามารถคิดหรือรู้สึกเชื่อมโยง  ความเป็นหนึ่งเดียวที่ผมรับรู้นั้น ผมผ่อนคลายไม่ว่าผมจะหาวิธีใดวิธีหนึ่งครุ่นคิดและรู้สึก  ในการเคลื่อนไหวกายเข้าสู่ "โทนาล" ผมกร่ำกรายเข้ามาสู่เอกภาพหนึ่งเดียว ผมรวมทั้งสิ้น ผมประจักษ์เห็นการเชื่อมผนึก ผมได้คุมสายตาไว้ พวกเขากำลังบังคับอำนาจพลังที่แรงกล้าและพวกเขาแฝงไปด้วยปริศนาที่ลี้ลับ ดังนั้นผมไม่กระทำใด ๆ ได้โดยการอธิบายของเขาตามความพอใจของผมได้ ถึงพูดว่าพวกเขานั้นได้ประจักษ์ด้วยสายตา ความรุ่งโรจน์ในความฝันหรือสม่ำเสมอดั่งภาพจิตนาการที่เลยเถิด จนไม่อาจพูดว่าสิ่งใดชัดเจนในความเป็นตัวตนของพวกเขา

       ในภายหลังการตรวจสอบและวิเคราะห์ตามหลักวิชาการอย่างละเอียด  และความสนใจตามแบบของตัวผมเอง  ผมตระหนักเห็นและตีความของการกระโดดสู่หุบเหว และอีกอย่างหนึ่งมีบางส่วนยึดในความแน่วแน่ตามที่รู้สึกว่านั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง ผมมิได้กระโดด.

       ดอนฮวน กับดอนเกนาโรไม่ปรารถนาและพวกเขาหลีกเลี่ยงผมอย่างมากด้วยความเร่งด่วนที่จะทำการพัฒนาก้าวหน้าท่ามกลางประจักษ์พยาน โดยไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ดั่งเดิมเพื่อล้มล้างเหตุผล

       ผมตั้งใจกลับไปเม๊กซิโกเพื่อพบปาลิโตและเนสเตอร์ จึงแสวงหาพวกเขาให้ช่วยในความตั้งใจอันแสนสับสนของผม  ดังนั้นผมเริ่มเผชิญหน้าในการเดินทางครั้งนี้ ที่ไม่อาจบรรยายให้คนอื่นได้ เพียงแต่เป็นหนสุเท้ายที่รุกทะยานยังเหตุผลของผม ความเข้มข้นรุกคืบกะแผนการโดยดอนฮวนเอง ผู้ฝึกงานของเขาโดยลึก ๆ แล้วเขาไม่ร่วมแนะนำวิธี  อย่างมากที่สุดก็ตามระเบียบวิธีและย่อความอย่างน้อย ๆ หลายวันที่ตั้งปราการเพื่อเหตุผลของผม อย่างน้อย ๆ ก็หลายวันที่พวกเขาได้แสดงให้เห็นกับผมไม่หนึ่งก็ในสองทางปฏิบัติหลาย ๆ ด้านของพวกเขาด้วยเวทย์มนตร์ "ศิลปะของการนิมิตฝัน "(the art of dreaming : ผู้แปล) สิ่งใดคือแก่นแท้สำหรับขณะนี้ที่ดำเนินอยู่. 

--------------////--------------------

ตัวต้นฉบับ
Preface

A flat, barren mountaintop on the western slopes of the Sierra
Madre in central Mexico was the setting for my final meeting
with don Juan and don Genaro and their other two appren-
tices, Pablito and Nestor. The solemnity and the scope of
what took place there left no doubt in my mind that our ap-
prenticeships had come to their concluding moment, and that
I was indeed seeing don Juan and don Genaro for the last time.
Toward the end we all said good-bye to one another, and then
Pablito and I jumped together from the top of the mountain
into an abyss.

Prior to that jump don Juan had presented a fundamental
principle for all that was going to happen to me. According
to him, upon jumping into the abyss I was going to become
pure perception and move back and forth between the two
inherent realms of all creation, the tonal and the nagual.

In my jump my perception went through seventeen elastic
bounces between the tonal and the nagual. In my moves into
the nagual I perceived my body disintegrating. I could not
think or feel in the coherent, unifying sense that I ordi-
narily do, but I somehow thought and felt. In my moves
into the tonal I burst into unity. I was whole. My perception
had coherence. I had visions of order. Their compelling
force was so intense, their vividness so real and their complex-
ity so vast that I have not been capable of explaining them to
my satisfaction. To say that they were visions, vivid dreams
or even hallucinations does not say anything to clarify their
nature.

After having examined and analyzed in a most thorough and
careful manner my feelings, perceptions and interpretations
of that jump into the abyss, I had come to the point where I
could not rationally believe that it had actually happened. And
yet another part of me held on steadfast to the feeling that it
did happen, that I did jump.

Don Juan and don Genaro are no longer available and their
absence has created in me a most pressing need, the need to
make headway in the midst of apparently insoluble contra-
dictions.

I went back to Mexico to see Pablito and Nestor to seek
their help in resolving my conflicts. But what I encountered
on my trip cannot be described in any other way except as a
final assault on my reason, a concentrated attack designed by
don Juan himself. His apprentices, under his absentee direc-
tion, in a most methodical and precise fashion demolished in
a few days the last bastion of my reason. In those few days
they revealed to me one of the two practical aspects of their
sorcery, the art of dreaming, which is the core of the present
work.

The art of stalking, the other practical aspect of their sor-
cery and also the crowning stone of don Juan's and don Ge-
naro's teachings, was presented to me during subsequent visits
and was by far the most complex facet of their being in the
world as sorcerers.