ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: มกราคม 16, 2024, 08:56:16 pm »

กราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ : เอกลักษณ์ของพุทธทิเบต ศรัทธาอันเต็มเปี่ยม







ปกติคนไทยจะรู้จักแต่การกราบพระแบบเบญจงคประดิษฐ์ ซึ่งเป็นการโน้มอวัยวะร่างกายให้ต่ำจนแตะพื้น 5 จุด แต่ในที่นี้จะขอแนะนำให้รู้จักการกราบแบบ "อัษฎางคประดิษฐ์" เป็นท่ากราบแบบนอนราบไปทั้งตัวตามแบบฉบับของชาวธิเบต โดยให้ส่วนสำคัญของร่างกายแตะพื้น 8 จุดหรือ 8 ส่วน ได้แก่ มือทั้งสอง เข่าทั้งสอง เท้าทั้งสอง ลำตัว และหน้าผาก

สัมผัสกับพื้นดินการกราบสักการะแบบอัษฎางคประดิษฐ์ หรือ ชากเซล ในภาษาธิเบต มีความหมาย โดยคำว่า ชาก (chag) หมายถึง กายศักดิ์สิทธิ์ วาจาศักดิ์สิทธิ์

และจิตศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้าพระโพธิสัตต์ทั้งหลาย ส่วนคำว่า เซล (tsel) หมายถึงการที่เราอุทิศตนอย่างจริงจังและจริงใจที่จะก้าวตามรอยพระพุทธบาทบน หนทางอันถูกต้องมุ่งสู่การบรรลุเป็นพระโพธิสัตต์หรือพระพุทธเจ้า

วิธีการกราบจะเริ่มต้นด้วยการยืนตัวตรง พนมมือ ที่ระดับหน้าอก โดยให้นิ้วหัวแม่มืออยู่ภายในอุ้งมือเป็นรูปดอกบัว

อันเป็นสัญลักษณ์มีความหมายถึงการฝึกฝนปฏิบัติเป็นหนึ่งเดียวกันบนวิถีของ เมตตาและปัญญา อุทิศตนมุ่งสู่การรู้แจ้งเพื่อยังประโยชน์ต่อสรรพชีวิตทั้งมวล

จากนั้นให้เคลื่อนมือไปยังตำแหน่งกลางกระหม่อม หน้าผาก ลำคอ และหน้าอก อันเป็นตำแหน่งที่ตั้งของจักรที่สำคัญในร่างกาย จากนั้นเหยียดแขนออกไปข้างหน้า ย่อเข่าลงพร้อมกับเคลื่อนตัวไปข้างหน้าจนลำตัวเหยียดตรงกับพื้น

ต้องระวังไม่ให้หัวเข่าแตะพื้นก่อนที่ลำตัวจะเหยียดออกไป จากนั้นเคลื่อนลำแขนทั้งสองข้างไปด้านข้างของลำตัวตามแนวโค้งของวงกลมพร้อม กับค่อยๆ ชันตัวขึ้นบนเข่า ยืดตัวขึ้นกลับสู่ท่ายืนตรงนตอนเริ่มต้น

นักบวชชาวทิเบตจะเดินไปก้มลงกราบแบบไถพรืดไปรอบ ๆ เจดีย์พร้อมกับผ้าที่ใช้รองมือสองข้าง ผลพลอยได้ก็คือ พื้นวันทิเบตจะสะอาดมาก

ที่น่าทึ่งที่สุดคือ การจาริกแสวงบุญของชาวธิเบต ที่เทือกเขาหิมะขาว พวกเขาจะเดินทางไปด้วยวิธีการที่เรียกว่า "เดิน 3 ก้าว กราบหนึ่งครั้ง" เป็นการเดิน 3 ก้าว แล้วก้มลงกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์กับพื้นไหว้ทีหนึ่ง เป็นวิธีการของชาวธิเบตที่จะจารึกแสวงบุญ

ชาวธิเบตใช้วิธีการนี้ในการแสวงบุญทำให้มีความรู้สึกว่าสามารถที่จะเดินทาง โดยเท้าได้เหมือนคนทุกคน ทั้งขึ้นและลงรวมแล้ว 3,000 กว่ากิโลเมตร

ชาวธิเบตเดินทางจากซินหนงเสี้ยนเป็นอำเภอของเมืองซินหนง กันซือเป็น เขตปกครองตัวเองของมณฑลเสฉวนที่อยู่ในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเสฉวน ติดกับทิเบตกับมณฑลยูนาน รวมการไหว้จนมาถึงที่นี่ได้ทั้งหมด 100,000 ครั้ง คนทิเบตมีพระองค์หนึ่งอยู่ในใจตลอดเวลา
...

พระพุทธศาสนาแบบทิเบต คือพุทธศาสนานิกายวชิรยาน กำเนิดและแพร่หลายในทิเบตโดยตรง ปัจจุบันได้แพร่หลายไปในหลายประเทศ มีเอกลักษณ์เฉพาะเพราะเป็นการผสมผสานระหว่างพุทธศาสนานิกายมหายานทั้งจากอินเดียและจีน รวมทั้งอิทธิพลจากพุทธศาสนานิกายตันตระของอินเดีย จนเกิดเป็นนิกายวัชรยานขึ้น

ว่ากันว่าตามความเชื่อของชาวทิเบต จะต้องกราบไหว้ในแบบอัษฎางคประดิษฐ์ครบ 100,000 ครั้ง บนเส้นทางจาริกแสวงบุญไปยังนครลาซา ขณะที่นักบวชชาวทิเบตหลายคนเดินทางไปยังเจดีย์พุทธคยา เพื่อกราบไหว้สถานที่ตรัสรู้ให้ได้ 100,000 ครั้งเช่นกัน

นอกจากชาวทิเบตแล้ว ชาวตะวันตกที่นับถือพุทธศาสนานิกายวัชรยานมากมาย ก็เดินทางไปสักการะเจดีย์แห่งนี้ด้วยวิธีการเดียวกัน บางคนกราบอัษฎางคประดิษฐ์วนรอบองค์มหาเจดีย์ ขณะที่บางคนยึดพื้นที่เล็ก ๆ พอสำหรับตัวเองรอบนอกองค์เจดีย์ ปูผ้าผืนเท่าตัวคนแล้วเริ่มกราบไหว้ด้วยจังหวะสม่ำเสมอราวกับเครื่องจักร

ชาวพุทธไทยไม่เพียงทึ่งกับศรัทธา หากแต่อีกมุมมองของบางคนมองว่า การกราบแบบนี้ผู้แสวงบุญจะต้องมีร่างกายที่แข็งแรงพร้อมด้วย เพราะการกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์นั้นต้องใช้ทุกสัดส่วนของร่างกายรวมทั้งพละกำลังอย่างมหาศาล

ก็ว่ากันว่า การน้อมตัวลงกราบนอนราบไปกับพื้นมีความหมายถึงการที่เรายินดี อุทิศตน พร้อมเข้าสู่วัฏสงสาร เพื่อช่วยสรรพสัตว์อื่น ๆ และเมื่อเรากลับมายืนขึ้นอีกครั้ง มีความหมายถึงเมื่อนั้นเราพร้อมที่จะนำพาสรรพสัตว์อื่น ๆ ให้หลุดพ้นออกมาจากห้วงทุกข์แห่งวัฏสงสารมาด้วยกัน