บันทึกของกฤษณมูรติ..#1..
บรอควู๊ด ปาร์ค แฮมป์ไชร์
14 กันยายน 1973
วันก่อนกลับมาจากเดินเล่น ผ่านท้องทุ่งและแมกไม้ ยังเดินผ่านดงไม้แห่งหนึ่ง* (เป็นดงไม้ที่เต็มไปด้วยไม้หายาก รวมทั้งต้นเรดาวู๊ด ขึ้นอยู่ในสวนป่าบรอควู๊ด) ใกล้ๆกับบ้านขาวหลังใหญ่ ปีนบันไดข้ามรั้วเข้าไปในดงไม้ เรารู้สึกได้ในทันที ถึงความสงบสันติอย่างลึกล้ำ นิ่งสงัด ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว การเดินเข้าไปคล้ายเป็นสิ่งต้องห้าม เท้าที่ก้าวเหยียบลงบนดิน คล้ายจะทำลายบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ลง เสียงพูดคุยดูยิ่งจะทำลายบรรยากาศ แม้แต่เสียงลมหายใจ ไม้เรดวู๊ดต้นมหึมานั้น แลดูสงบอย่างยิ่ง ชาวอเมริกันอินเดียนเรียกมันว่า ผู้สงบเงียบ และมันก็ดูเงียบสงบจริงๆ แม้แต่สุนัขก็หยุดวิ่งไล่กระต่าย เธอคงได้แต่ยืนอยู่กับที่ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เธอคงจะต้องรู้สึกคล้ายกับตนเองเป็นผู้รุกล้ำ ด้วยเหตุว่าเธอกำลังหยอกล้อและหัวร่อ และเดินเข้ามาในดงไม้โดยหารู้ไม่ว่ามีสิ่งใดดำรงอยู่ สิ่งนั้นย่อมทำให้ประหลาดใจและตระหนกเมื่อค้นพบตระหนกต่อความรู้สึกลึกล้ำดื่มดำที่จู่โจมเข้ามาอย่างไม่คาดฝัน หัวใจก็จะเต้นแผ่วเบาลง นิ่งอึ้ง อับจนถ้อยคำด้วยความพิศวง ณ ที่แห่งนี้คือใจกลางของบริเวณทั้งหมด ทุกครั้งที่เธอเข้ามา ก็จะพบความงามและความสงบงัน ความสงบอันแสนประหลาด จงเข้ามาเมื่อเธอปราถนา และก็จะพบมันดำรงอยู่ที่นั่นเสมอ เต็มเปี่ยม ทรงคุณค่า และอยู่เหนือถ้อยคำใดๆ
ทุกรูปแบบของการทำสมาธิ อย่างจงใจ หาใช่ของจริงไม่ มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย ความพยายามที่จะฝึกสมาธิโดยจงใจ หาใช่สมาธิไม่ มันจะต้องกำเนิดขึ้นเอง หาใช่เชื้อเชิญมันมา สมาธิไม่ใช่การเล่นของจิตใจ ทั้งมิใช่ความปราถนาและปิติสุข ความพยายามทุกประการที่จะฝึกสมาธิก็คือ การขับไล่มันไป มีเพียงการตระหนักรู้ในสิ่งที่เธอกำลังคิดกำลังทำอยู่เท่านั้น ไม่มีสิ่งอื่นนอกไปจากนี้ ตัวการมองเห็นและการได้ยินก็คือการทำนั่นเอง เป็นการทำที่ ปราศจากผลได้หรือผลเสีย ความสามารถในการทำ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเห็นหรือได้ยิน สมาธิตามแบบแผนล้วนนำไปสู่ความหลงผิด สิ่งลวงและมายา เพราะความปราถนานั่นเองที่ทำให้พร่ามัวหลงทาง
นี่เป็นยามเย็นอันน่าอภิรมย์ แสงสนธยาอันนิ่มนวลแห่งฤดูใบไม้ผลิ ทออาบไล้แผ่นดิน
บันทึกของกฤษณมูรติ..#2 ..
บรอควู๊ด ปาร์ค แฮมป์ไชร์
15 กันยายน 1973
เป็นการดีที่จะอยู่เพียงลำพัง ไกลห่างจากหนทางของโลก เพราะการเดินบนทางสายนั้นก็คือการเดินเพียงลำพัง เพียงลำพังเดินลัดเลาะได้ตามทางข้างธารน้ำเชี่ยว ซึ่งส่งเสียงอึกทึก หลากล้นไปด้วยสายน้ำแห่งฤดูใบไม้ผลิและหิมะที่หลอมละลาย รับรู้ถึงความโดดเดี่ยวของแมกไม้ งดงามอยู่ในความวิเวก ความโดดเดี่ยวของผู้คนตามท้องถนน คือความเจ็บปวดของชีวิตเขาไม่เคยเข้าถึงความหมายของการอยู่เพียงลำพังเลย ห่างไกลและยากจะสัมผัสถึง การเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้นั้น ก่อให้เกิดทุกข์มิรู้จบสิ้น มีความปราถนาที่จะแสดงออกพร้อมด้วยความสับสน สิ้นหวัง ความเจ็บปวดนั่นแหละคือสิ่งที่ผู้คนที่เดินตามถนนหนทางเป็นกัน เขาไม่เคยได้อยู่เพียงลำพังเลย ความทุกข์ คือลีลาของความโดดเดี่ยวชนิดนั้น
ธารน้ำจากขุนเขาสายนั้น เต็มเปี่ยมหลากล้นไปด้วยหิมะที่หลอมละลายผสมรวมกับสายฝนต้นฤดูกาล เธอยังอาจได้ยินเสียงก้อนหินใหญ่ถูกกระแสน้ำเชี่ยวพัดพาผลักดัน มีต้นสนสูงตระหง่าน ซึ่งมีอายุห้าสิบปีหรือกว่านั้น หักโค่นลงในธารน้ำ หนทางก็ถูกน้ำพัดขาดหายไป สายน้ำขุ่นข้นด้วยโคลนตมเป็นสีฟ้า-เทา ในทุ่งหญ้าเบื้องบนดารดาษด้วยดอกไม้ป่า อากาศสดบริสุทธิ์เต็มไปด้วยความเบิกบานรื่นรมย์ บนสันเขาสูงขึ้นไปยังปกคลุมด้วยหิมะ บนธารน้ำแข็งและบนยอดเขายังปกคลุมด้วยหิมะคราวล่า มันจะยังคงขาวโพลนอยู่เช่นนั้นตลอดฤดูร้อน
นี่เป็นยามเช้าอันพิเศษสุด ซึ่งเธออาจเดินเที่ยวเล่นไปอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ไม่ทันรู้ถึงความชันของลาดเขาด้วยซ้ำ มีกลิ่นหอมอ้อยอิ่งอยู่ในบรรยากาศ หอมชัดและเข้ม ในหนทางไร้ผู้คน ไม่ว่าจะเดินขึ้นหรือเดินลงก็มีเธออยู่เพียงลำพังกับหมู่สนสีดำ และสายน้ำเชี่ยว ท้องฟ้าส่องประกายความเจิดจ้า มีเพียงขุนเขาเท่านั้นที่อาจมีสีชนิดนี้ ซึ่งเธอสามารถมองเห็นลอดผ่านพุ่มไม้และลำต้นสน ไม่มีใครมาให้สนทนาด้วย ทั้งไม่มีการหยอกล้อของจิต วิหกแมคบี้ลายขาวดำบินมาและหายลับไปในป่า หนทางซึ่งนำเราผ่านพ้นลำธารอึกทึกและความเงียบ คือทางอันสูงสุด มันไม่ใช่ความเงียบหลังจากที่กระแสเสียงสงบลง ไม่ใช่ความเงียบที่มากับอาทิตย์ยามอัศดง ทั้งไม่ใช่ความเงียบเมื่อดวงจิตดับลง ไม่ใช่ความเงียบในพิพิธภัณฑ์หรือโบสถ์ แต่เป็นบางสิ่งบางอย่างซึ่งไม่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับเวลาและสถานที่ มันไม่ใช่ความเงียบที่จิตพยายามสร้างขึ้นเอง ดวงอาทิตย์นั้นร้อนแรง และร่มไม้นั้นเย็นสบาย
เขาเพิ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ว่า ไม่มีความคิดใดๆ ผุดขึ้นมาระหว่างการเดินเลย ไม่ว่าจะเป็นถนนคับคั่งจอแจในเมื่องหรือในทางสายเปลี่ยวล้วนเป็นเฉกเช่นกัน ตั้งแต่เด็กมาแล้วที่เขาเป็นดังนี้ ไม่มีความคิดผุดขึ้นมาในดวงจิตเขาเพียงแต่เฝ้ามองและสดับฟัง ไม่มีอะไรอื่นมากไปกว่านี้ ความคิดและกระบวนการต่อเนื่องของมันไม่เคยเกิดขึ้นมาเลย ไม่มีทั้งจินตภาพ อยู่มาวันหนึ่งเขาเกิดตระหนักขึ้นได้ถึงลักษณะพิเศษประการนี้ เขาพยายามที่จะคิด แต่ไม่มีความคิดใดๆ ปรากฏขึ้นในการเดินกับใครหรือเพียงลำพัง ล้วนปราศจากกระแสความคิด นี่คือการอยู่เพียงลำพัง
เหนือยอดเขาหิมะ หมู่เมฆกำลังก่อตัวขึ้น หนาหนักและทึบทะมึนบางที ฝนอาจตกในไม่ช้านี้ แต่ในขณะนี้ดวงอาทิตย์ยังสว่างไสวและเงาบนพื้นยังคมชัด ในอากาศยังมีกลิ่นหอมผสานอยู่ และฝนจะนำกลิ่นหอมอย่างใหม่ปะปนมาด้วย จากที่นี้ไป หนทางยังห่างไกลจากกระท่อมคนเลี้ยงสัตว์
พจนา จันทรสันติแปล