ความงามของตำหนิและการแลเห็นความสมบูรณ์ของความไม่สมบูรณ์ในสรรพสิ่ง คือแก่นแท้ของศิลปะแบบวะบิ-ซะบิ
วะบิ-ซะบิ คือความงามของสรรพสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ ไม่คงทนถาวร และไม่เสร็จสมบูรณ์ คือความงามของสรรพสิ่งที่สงบเสงี่ยมและอ่อนน้อม อย่างไม่ยึดติดในแบบแผนตายตัว
...นี่คือความงามในทัศนะของเซน...ในความหมายหนึ่ง วะบิ-ซะบิคือเซนของสรรพสิ่ง ผู้ที่เกี่ยวพันกับวะบิ-ซะบิในญี่ปุ่น ถ้าไม่เป็นอาจารย์แห่งพิธีชา ก็เป็นนักบวช หรือไม่ก็เป็นนักรบ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ฝึกฝนเซน และดื่มด่ำในเจตนารมณ์ของเซนอย่างลึกซึ้งทั้งสิ้น
ซะบิ ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง “ร่วงโรย”
วะบิ ในความหมายดั้งเดิม หมายถึง ความทนทุกข์ของการใช้ชีวิตเพียงลำพังในธรรมชาติ ไกลห่างจากสังคม และชวนให้นึกถึงสภาวะความรู้สึกที่ท้อแท้ ซึมเศร้า ชวนหดหู่ใจ
แต่วะบิ-ซะบิ ที่ใช้เรียกควบรวมในความหมายแห่งยุคปัจจุบันกลับมีความหมายในเชิงบวก ที่บ่งชี้ให้เห็นถึง
ความเป็นจริงแห่งชีวิตที่เรียบง่าย ชีวิตที่รุ่มรวยทางจิตวิญญาณแม้จะอยู่อย่างสมถะโดยสมัครใจ วิธีการมองสรรพสิ่งที่ล่วงพ้นไปจากคติแบบแผนที่สังคมตกลงยอมรับและยึดถือสืบต่อกันมาการมุ่งมีประสบการณ์เชิงศิลปะที่น่าตื่นใจอย่างสงัด
การเอาชนะความอลังการ ความหรูหรา ด้วยความเรียบง่ายอย่างติดดินและไม่สมบูรณ์แบบ แต่ทำให้จิตจดจ่อมีสมาธิอยู่กับ สิ่งที่มีอยู่ เป็นอยู่ และปรากฏอยู่จริง เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเข้าถึงอย่างบูรณาการสู่ธรรมชาติ ในขั้นสูงสุดของการดำรงอยู่ จนกระทั่งเข้าสู่ความศักดิ์สิทธิ์เชิงจิตวิญญาณได้อย่างเป็นไปเองโดยธรรมชาติ
การสัมผัสประสบการณ์วะบิ-ซะบิ จึงไม่อาจพบหรือสัมผัสได้ในธรรมชาติ ณ ชั่วขณะของความบานสะพรั่งและเขียวชอุ่ม แต่จะพบวะบิ-ซะบิได้ ณ ชั่วขณะของภาวะเริ่มแรก หรือการทรุดตัวพังพาบลงไป คือ
จะพบได้ในสิ่งที่ชั่วคราว ไม่แน่นอน และไม่เที่ยงแท้ เช่น บุปผาร่วง หิมะโปรย ฝนกระหน่ำ เมฆคลุ้มคลั่ง รวมทั้งสิ่งที่ยากจะมองเห็น เปราะบาง พร้อมที่จะสลายตัวไป อันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาที่หยาบกระด้าง
ผู้ที่สามารถสัมผัสประสบการณ์วะบิ-ซะบิได้ คือผู้ที่สามารถชะลอความเร็วในการเร่งรีบใช้ชีวิตลงได้ สามารถมีความใจเย็น มีความอดทน และใส่ใจพอที่จะมองอย่างใกล้ชิด ฝึกฝนศิลปะต่างๆ อันสุขุมประณีตได้เท่านั้น
วะบิ-ซะบิ คือความซาบซึ้งและแลเห็นคุณค่าในความไม่จีรังของชีวิต... ต้นไม้ยามฤดูหนาวที่เหลือเพียงกิ่งก้านแห้งเหี่ยวโรยรา หรือซากสันฐานของอาคารที่แตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยหัก และถูกปกคลุมไปด้วยตะไคร่และวัชพืชต่างๆ
วะบิ-ซะบิยังหมายถึงการเหยียบย่างบนโลกใบนี้อย่างแผ่วเบา และรู้ถึงวิธีที่จะซาบซึ้งในคุณค่ากับสิ่งใดก็ตามที่เข้ามาเผชิญหน้ากับเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสักเพียงใดก็ตาม เพราะวะบิ ซะบิจะบอกให้เราหยุดความหมกมุ่นของเราที่มีต่อความสำเร็จทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นความมั่งคั่ง สถานะทางสังคม อำนาจ และความหรูหรา แต่ให้เราหันมาเบิกบานกับชีวิตที่นี่และเดี๋ยวนี้เลย โดยไม่ถูกฉุดรั้งด้วยความยึดติดใดๆ
วะบิ ซะบิจึงเป็นเรื่องของดุลยภาพอันละเอียดอ่อน ระหว่างความรื่นรมย์ที่เราได้รับจากสิ่งต่างๆ กับความรื่นรมย์ที่เราได้รับจากความเป็นอิสระจากสิ่งทั้งหลายในเวลาเดียวกันแม้วะบิ ซะบิจะเป็นเพียงกระบวนทัศน์ทางสุนทรียภาพชนิดหนึ่ง แต่ผู้ที่นับถือในกระบวนทัศน์ทางสุนทรียภาพชนิดนี้ ย่อมสามารถใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะแบบเซนได้ อย่างไม่ถูกพันธนาการด้วยลัทธิวัตถุนิยมและบริโภคนิยมอันฉาบฉวยและตื้นเขิน
การจะทำอย่างนั้นได้ คนผู้นั้นจะต้องมีความพากเพียรและความมุ่งมั่นในการใช้ชีวิต ที่จะกล้าตัดสินใจเลือกที่จะไม่กระทำสิ่งต่างๆ เพื่อปล่อยให้สิ่งทั้งหลายเป็นไปตามครรลองของมัน เมื่อถึงเวลาจำเป็นและสมควรแก่กาล
สังคมเราในทุกวันนี้กำลังขาดแคลนประสบการณ์ตรงทางศิลปะ ที่สามารถหยั่งลึกสู่ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณได้ด้วย ชีวิตที่ขาดความสง่างามของศิลปะที่เรียบง่ายเป็นธรรมชาติ จึงกลายเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความสับสน ฟุ้งซ่าน ปราศจากพลัง
วะบิ-ซะบิจึงเป็นวิถีแห่งศิลปะแบบเซนที่คนสมัยนี้ไม่ควรมองข้าม!
..............................
เรียบเรียงจาก วิถีแห่งฟ้าของนักกลยุทธ์ สำนักพิมพ์ openbook โดย สุวินัย ภรณวลัย