ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 10:14:47 pm »รวบแท็กซี่หื่น ชิงทรัพย์-หมายข่มขืน ลูกค้าสาวขาประจำ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3
รวบแท็กซี่ ชิงทรัพย์-พยายามข่มขืน แม่ค้าสาวลูกค้าขาประจำ ก่อนที่จะขับรถหลบหนี และทิ้งผู้เสียหายไว้ข้างทางในสภาพเหลือแต่กางเกงใน
วานนี้ (30 มิถุนายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังจับกุม นายไพฑูรย์ หน่อแก้ว อายุ 28 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ตามหมายศาลจังหวัดสมุทรสาคร ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2554 ข้อหาชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะ พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ที่ ซ.ลาดหญ้า5 แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้าตลาดนัด โดยผู้เสียหายได้โทรศัพท์ให้ผู้ต้องหามารับ เพื่อไปส่งยังตลาดนัดโรงเกลือ แต่ระหว่างทางผู้ต้องหาอ้างว่าจะต้องแวะเติมแก๊ส ซึ่งเมื่อผ่านถึงริมถนนพุทธสาคร ผู้ต้องหาได้หยุดรถแล้วข้ามมาเบาะหลัง พร้อมทั้งขู่เอาเงิน และพยายามขืนใจผู้เสียหาย โดยถอดเสื้อผ้าจนเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว อีกทั้งยังมาถามผู้เสียหายว่า อยากจะให้ใช้ถุงยางไหม ผู้เสียหายพยายามอ้อนวอน แต่ผู้ต้องหาไม่ฟังเข้าตบตี และปลุกปล้ำผู้เสียหาย ก่อนที่ผู้เสียหายจะขว้างกระเป๋าทิ้งลงข้างทาง แล้วใช้จังหวะดังกล่าววิ่งหลบหนีไปในโพรงหญ้า ส่วนผู้ต้องหาเมื่อได้กระเป๋าแล้วขับรถหลบหนีไปรวดเร็ว ทาง น.ส. เอ เมื่อเห็นผู้ต้องหาหนีไปแล้ว จึงลุกมาโบกรถ แต่ไม่มีใครจอดรับเพราะคิดว่า น.ส. เอ เป็นบ้า เนื่องจากใส่กางเกงในเพียงตัวเดียว จนกระทั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านมาจึงขับรถไปส่ง น.ส. เอ เพื่อเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีเพื่อจับกุมคนร้าย
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ทำให้ น.ส. เอ ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ถึงขั้นดื่มยาพิษฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่เพื่อน ๆ ช่วยเหลือจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลไว้ได้ทัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับจากศาลเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา จากการสอบสวน ผู้ต้องการได้รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยทำงานเป็นพนักงานขายเครื่องใช้สำนักงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และเคยถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์มาแล้ว โดยศาลให้จำคุก 1 เดือนแทนค่าปรับ และอยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดี จึงหารายได้โดยการขับแท็กซี่ ก่อนที่จะลงมือชิงทรัพย์ น.ส. เอ ซึ่งเป็นลูกค้าประจำที่เรียกใช้บริการบ่อย ๆ โดยได้ชิงทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 17,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ทั้งนี้เป็นเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้พนัน และหนี้บัตรเครดิต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เดลินิวส์ , เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3
-http://hilight.kapook.com/view/60322-
.
http://hilight.kapook.com/view/60322
.
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3
รวบแท็กซี่ ชิงทรัพย์-พยายามข่มขืน แม่ค้าสาวลูกค้าขาประจำ ก่อนที่จะขับรถหลบหนี และทิ้งผู้เสียหายไว้ข้างทางในสภาพเหลือแต่กางเกงใน
วานนี้ (30 มิถุนายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังจับกุม นายไพฑูรย์ หน่อแก้ว อายุ 28 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ตามหมายศาลจังหวัดสมุทรสาคร ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2554 ข้อหาชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะ พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ที่ ซ.ลาดหญ้า5 แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้าตลาดนัด โดยผู้เสียหายได้โทรศัพท์ให้ผู้ต้องหามารับ เพื่อไปส่งยังตลาดนัดโรงเกลือ แต่ระหว่างทางผู้ต้องหาอ้างว่าจะต้องแวะเติมแก๊ส ซึ่งเมื่อผ่านถึงริมถนนพุทธสาคร ผู้ต้องหาได้หยุดรถแล้วข้ามมาเบาะหลัง พร้อมทั้งขู่เอาเงิน และพยายามขืนใจผู้เสียหาย โดยถอดเสื้อผ้าจนเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว อีกทั้งยังมาถามผู้เสียหายว่า อยากจะให้ใช้ถุงยางไหม ผู้เสียหายพยายามอ้อนวอน แต่ผู้ต้องหาไม่ฟังเข้าตบตี และปลุกปล้ำผู้เสียหาย ก่อนที่ผู้เสียหายจะขว้างกระเป๋าทิ้งลงข้างทาง แล้วใช้จังหวะดังกล่าววิ่งหลบหนีไปในโพรงหญ้า ส่วนผู้ต้องหาเมื่อได้กระเป๋าแล้วขับรถหลบหนีไปรวดเร็ว ทาง น.ส. เอ เมื่อเห็นผู้ต้องหาหนีไปแล้ว จึงลุกมาโบกรถ แต่ไม่มีใครจอดรับเพราะคิดว่า น.ส. เอ เป็นบ้า เนื่องจากใส่กางเกงในเพียงตัวเดียว จนกระทั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านมาจึงขับรถไปส่ง น.ส. เอ เพื่อเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีเพื่อจับกุมคนร้าย
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ทำให้ น.ส. เอ ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ถึงขั้นดื่มยาพิษฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่เพื่อน ๆ ช่วยเหลือจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลไว้ได้ทัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับจากศาลเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา จากการสอบสวน ผู้ต้องการได้รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยทำงานเป็นพนักงานขายเครื่องใช้สำนักงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และเคยถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์มาแล้ว โดยศาลให้จำคุก 1 เดือนแทนค่าปรับ และอยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดี จึงหารายได้โดยการขับแท็กซี่ ก่อนที่จะลงมือชิงทรัพย์ น.ส. เอ ซึ่งเป็นลูกค้าประจำที่เรียกใช้บริการบ่อย ๆ โดยได้ชิงทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 17,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ทั้งนี้เป็นเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้พนัน และหนี้บัตรเครดิต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เดลินิวส์ , เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3
-http://hilight.kapook.com/view/60322-
.
http://hilight.kapook.com/view/60322
.