ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2013, 12:12:33 am »
ต้องดูแลเพื่อนร่วมงานของเรา ต้องเข้าใจและทำใจเผื่อไว้ครับ พี่หนุ่มคงเหนื่อยน่าดู สู้ๆครับผมขอให้ศรัทธาในความดี ตราบใดที่หัวใจยังมีธรรมะ ธรรมะในใจเราจะส่งเสริมความดีให้คงไว้ซึ่งศรัทธา..
ข่าว:
เว็บใต้ร่มธรรม ตั้งขึ้นเพื่อการรวมตัวของสมาชิกและทีมงานเว็บอกาลิโก ให้มาปรึกษาพบปะพูดคุยกันก่อนเดินทางสู่เส้นทางเดิมของอกาลิโกครับ พร้อมที่จะสานต่อความดีบนโลกออนไลน์ใบเล็กๆนี้ ทุกเรื่องราวมีความเป็นไป หากพี่ๆทุกท่านได้รับข่าวสารฉบับนี้ ถ้ามีเวลา..ก็ขอให้แวะมา พักคุยธรรมะปรึกษาหารือกันเช่นกัลยาณมิตรเหมือนที่เคยมา.."ด้วยความคิดถึงอย่างยิ่ง..ถึงที่สุด ธรรมะอวยพรครับ"
ต้องดูแลเพื่อนร่วมงานของเรา ต้องเข้าใจและทำใจเผื่อไว้ครับ พี่หนุ่มคงเหนื่อยน่าดู สู้ๆครับผมข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2013, 09:25:26 am »เรื่องที่ลูกน้องไม่อยากได้ยินจากคำพูดของเจ้านาย
-http://men.kapook.com/view56796.html-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สำหรับคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งใหญ่ เช่น เจ้าของธุรกิจหรือหัวหน้างาน มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบและดูแลมากกว่าพนักงานที่เป็นลูกน้องเสมอ ดังนั้นไม่ว่าจะทำหรือพูดอะไรออกไป ควรคิดและไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสร้างความขัดแย้งกับลูกน้องได้ ในวันนี้เรามีคำพูดที่เจ้านายอย่างคุณไม่ควรพูดกับลูกน้องมาฝากกันดังนี้
1. "ผมไม่สามารถทำได้จริง ๆ"
โดยปกติแล้วทุกคนมักจะคาดหวังและเชื่อมั่นว่าคนที่มีตำแหน่งสูงอย่างหัวหน้าจะสามารถรับผิดชอบ และรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดีกว่าลูกน้องหรือพนักงานทั่วไปอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ควรพูดคำว่า ทำไม่ได้ออกมา เพราะจะทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงไปทันที แต่หากปัญหาที่เกิดขึ้นยากเกินกว่าที่จะแก้ไขได้ด้วยตัวคนเดียว เปลี่ยนเป็นการปรึกษากับคนอื่น ๆ ดีกว่า
2. "งานเป็นแบบนี้เสมอแหละ"
หากมีลูกน้องหรือพนักงานมาพูดแบบนี้คงให้ความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะแสดงให้เห็นว่าไม่กระตือรือร้นที่จะทำงาน และยอมแพ้ปัญหาตั้งแต่ยังไม่เริ่มคิดจะแก้ไข ในทางกลับกันหากคุณพูดแบบนี้ออกไป ลูกน้องคงรู้สึกไม่ต่างกัน อีกทั้งยังทำให้ความน่าเชื่อถือ และความเคารพที่ลูกน้องเคยมีให้จะลดลงตามไปด้วย
3. "กำลังภาวนาให้ตัวเองได้โบนัสอยู่เหรอ"
โบนัสเป็นเหมือนรางวัลการทำงานให้กับพนักงาน ดังนั้นพวกเขาจึงคาดหวังว่าโบนัสที่ได้รับควรมาจากความสามารถ ความทุ่มเท และผลงานที่ออกมาไม่ใช่ได้โบนัสมาเพราะโชคช่วยหรือเป็นคนโปรดของเจ้านาย ดังนั้นคำพูดแบบนี้จึงไม่ควรพูดกับลูกน้องอย่างยิ่ง เนื่องจากจะทำให้ลูกน้องเสียศรัทธาและความน่าเชื่อถือในตัวคุณ อีกทั้งอาจคิดได้ว่ามีการให้โบนัสมีความลำเอียง หรือเข้าข้างคนใดคนหนึ่งก็เป็นได้
4. "ไม่เคยมีใครมีปัญหาเลยนะ"
หน้าที่ความรับผิดชอบและความสามารถของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นปัญหาของแต่ละคนจึงแตกต่างกันไปด้วย ที่สำคัญทุก ๆ การทำงานย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นเสมอ เพราะฉะนั้นหากมีปัญหาเกิดขึ้นกับลูกน้องควรเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา หรือเรียกคนอื่น ๆ ที่มีประสบการณ์มากกว่าให้เข้าไปช่วยเหลือแทน
5. "หากไม่พอใจ ไปทำงานที่อื่น"
ไม่ว่าจะมีเจตนาใด ๆ ก็ตามไม่สมควรพูดแบบนี้กับลูกน้องอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นคำพูดที่หยาบคายและไม่ให้เกียรติลูกน้องเลย อีกทั้งยังเพิ่มความกดดันให้กับลูกน้องมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นคำพูดที่ไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไรให้ดีขึ้นมาแล้วยังอาจทำให้ปัญหามีความรุนแรงมากขึ้นด้วย จนถึงขั้นมองหน้ากันไม่ติดเลยก็ได้
6. "เนื่องจากการเงินของบริษัทติดขัด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลดเงินเดือนพนักงานทุกคน"
การเงินของบริษัทขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดการและบริหารเงินของเจ้าของธุรกิจอย่างคุณ ดังนั้นหากเกิดปัญหาขึ้นควรจะใช้วิธีอื่นแทนการตัดเงินเดือนของพนักงาน เพราะเป็นหน้าที่ของบอสที่จะต้องรับผิดชอบและแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ให้พนักงานรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและการเงินของบริษัทด้วยการตัดเงินเดือนของพวกเขา
7. "ผมเป็นคนจ่ายเงินเดือน ฉะนั้นคุณควรทำตามคำสั่งของผม"
ถึงแม้คุณจะเป็นเจ้านายในบริษัทไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถสั่งพนักงานให้ทำตามคำสั่งของคุณได้หมดทุกอย่าง เพราะบางอย่างอาจทำให้งานที่อยู่ในมือของพวกเขาเกิดความเสียหายได้ ฉะนั้นหากลูกน้องไม่สามารถทำได้จริง ๆ ควรถามเหตุผล หรือรอให้พวกเขาอธิบายจะดีกว่า
8. "ผมไม่อยากได้ยินคำพูดนี้"
ในเรื่องของการทำงานไม่มีอะไรเป็นไปตามความคิดและได้ดั่งใจไปหมดเสียทุกอย่าง ดังนั้นบางเรื่องถึงแม้คำตอบที่ได้มาจะทำให้รู้สึกไม่พอใจ ก็ควรเก็บความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ และฟังลูกน้องอธิบายที่มาที่ไปให้จบเสียก่อน หากมีข้อสงสัยให้ถามเพิ่มเติมหลังจากที่ลูกน้องพูดจบแล้ว หากเห็นว่าเขามีปัญหาจริง ๆ ลองเปลี่ยนเป็นการให้คำปรึกษาหรือแนะนำวิธีแก้ปัญหาจะเหมาะสมมากกว่า
ทั้งนี้หากลูกน้องของคุณมีปัญหาความไม่เข้าใจแทนที่จะใช้คำพูดประชดประชัน หยาบคาย หรือว่ากล่าวในทางเสีย ๆ หาย ๆ เปลี่ยนไปใช้วิธีประนีประนอม อย่างเช่น รับฟังปัญหา ให้คำปรึกษา เปลี่ยนวิธีการพูด เพื่อช่วยหากทางแก้ไขดีกว่า เพราะนอกจากจะทำให้ลูกน้องรู้สึกประทับใจในตัวเจ้านายอย่างคุณแล้ว ยังทำให้พวกเขาให้ความเคารพ ยกย่อง และช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองด้วย
-http://men.kapook.com/view56796.html-
-http://men.kapook.com/view56796.html-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สำหรับคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งใหญ่ เช่น เจ้าของธุรกิจหรือหัวหน้างาน มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบและดูแลมากกว่าพนักงานที่เป็นลูกน้องเสมอ ดังนั้นไม่ว่าจะทำหรือพูดอะไรออกไป ควรคิดและไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสร้างความขัดแย้งกับลูกน้องได้ ในวันนี้เรามีคำพูดที่เจ้านายอย่างคุณไม่ควรพูดกับลูกน้องมาฝากกันดังนี้
1. "ผมไม่สามารถทำได้จริง ๆ"
โดยปกติแล้วทุกคนมักจะคาดหวังและเชื่อมั่นว่าคนที่มีตำแหน่งสูงอย่างหัวหน้าจะสามารถรับผิดชอบ และรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดีกว่าลูกน้องหรือพนักงานทั่วไปอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ควรพูดคำว่า ทำไม่ได้ออกมา เพราะจะทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงไปทันที แต่หากปัญหาที่เกิดขึ้นยากเกินกว่าที่จะแก้ไขได้ด้วยตัวคนเดียว เปลี่ยนเป็นการปรึกษากับคนอื่น ๆ ดีกว่า
2. "งานเป็นแบบนี้เสมอแหละ"
หากมีลูกน้องหรือพนักงานมาพูดแบบนี้คงให้ความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะแสดงให้เห็นว่าไม่กระตือรือร้นที่จะทำงาน และยอมแพ้ปัญหาตั้งแต่ยังไม่เริ่มคิดจะแก้ไข ในทางกลับกันหากคุณพูดแบบนี้ออกไป ลูกน้องคงรู้สึกไม่ต่างกัน อีกทั้งยังทำให้ความน่าเชื่อถือ และความเคารพที่ลูกน้องเคยมีให้จะลดลงตามไปด้วย
3. "กำลังภาวนาให้ตัวเองได้โบนัสอยู่เหรอ"
โบนัสเป็นเหมือนรางวัลการทำงานให้กับพนักงาน ดังนั้นพวกเขาจึงคาดหวังว่าโบนัสที่ได้รับควรมาจากความสามารถ ความทุ่มเท และผลงานที่ออกมาไม่ใช่ได้โบนัสมาเพราะโชคช่วยหรือเป็นคนโปรดของเจ้านาย ดังนั้นคำพูดแบบนี้จึงไม่ควรพูดกับลูกน้องอย่างยิ่ง เนื่องจากจะทำให้ลูกน้องเสียศรัทธาและความน่าเชื่อถือในตัวคุณ อีกทั้งอาจคิดได้ว่ามีการให้โบนัสมีความลำเอียง หรือเข้าข้างคนใดคนหนึ่งก็เป็นได้
4. "ไม่เคยมีใครมีปัญหาเลยนะ"
หน้าที่ความรับผิดชอบและความสามารถของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นปัญหาของแต่ละคนจึงแตกต่างกันไปด้วย ที่สำคัญทุก ๆ การทำงานย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นเสมอ เพราะฉะนั้นหากมีปัญหาเกิดขึ้นกับลูกน้องควรเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา หรือเรียกคนอื่น ๆ ที่มีประสบการณ์มากกว่าให้เข้าไปช่วยเหลือแทน
5. "หากไม่พอใจ ไปทำงานที่อื่น"
ไม่ว่าจะมีเจตนาใด ๆ ก็ตามไม่สมควรพูดแบบนี้กับลูกน้องอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นคำพูดที่หยาบคายและไม่ให้เกียรติลูกน้องเลย อีกทั้งยังเพิ่มความกดดันให้กับลูกน้องมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นคำพูดที่ไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไรให้ดีขึ้นมาแล้วยังอาจทำให้ปัญหามีความรุนแรงมากขึ้นด้วย จนถึงขั้นมองหน้ากันไม่ติดเลยก็ได้
6. "เนื่องจากการเงินของบริษัทติดขัด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลดเงินเดือนพนักงานทุกคน"
การเงินของบริษัทขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดการและบริหารเงินของเจ้าของธุรกิจอย่างคุณ ดังนั้นหากเกิดปัญหาขึ้นควรจะใช้วิธีอื่นแทนการตัดเงินเดือนของพนักงาน เพราะเป็นหน้าที่ของบอสที่จะต้องรับผิดชอบและแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ให้พนักงานรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและการเงินของบริษัทด้วยการตัดเงินเดือนของพวกเขา
7. "ผมเป็นคนจ่ายเงินเดือน ฉะนั้นคุณควรทำตามคำสั่งของผม"
ถึงแม้คุณจะเป็นเจ้านายในบริษัทไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถสั่งพนักงานให้ทำตามคำสั่งของคุณได้หมดทุกอย่าง เพราะบางอย่างอาจทำให้งานที่อยู่ในมือของพวกเขาเกิดความเสียหายได้ ฉะนั้นหากลูกน้องไม่สามารถทำได้จริง ๆ ควรถามเหตุผล หรือรอให้พวกเขาอธิบายจะดีกว่า
8. "ผมไม่อยากได้ยินคำพูดนี้"
ในเรื่องของการทำงานไม่มีอะไรเป็นไปตามความคิดและได้ดั่งใจไปหมดเสียทุกอย่าง ดังนั้นบางเรื่องถึงแม้คำตอบที่ได้มาจะทำให้รู้สึกไม่พอใจ ก็ควรเก็บความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ และฟังลูกน้องอธิบายที่มาที่ไปให้จบเสียก่อน หากมีข้อสงสัยให้ถามเพิ่มเติมหลังจากที่ลูกน้องพูดจบแล้ว หากเห็นว่าเขามีปัญหาจริง ๆ ลองเปลี่ยนเป็นการให้คำปรึกษาหรือแนะนำวิธีแก้ปัญหาจะเหมาะสมมากกว่า
ทั้งนี้หากลูกน้องของคุณมีปัญหาความไม่เข้าใจแทนที่จะใช้คำพูดประชดประชัน หยาบคาย หรือว่ากล่าวในทางเสีย ๆ หาย ๆ เปลี่ยนไปใช้วิธีประนีประนอม อย่างเช่น รับฟังปัญหา ให้คำปรึกษา เปลี่ยนวิธีการพูด เพื่อช่วยหากทางแก้ไขดีกว่า เพราะนอกจากจะทำให้ลูกน้องรู้สึกประทับใจในตัวเจ้านายอย่างคุณแล้ว ยังทำให้พวกเขาให้ความเคารพ ยกย่อง และช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองด้วย
-http://men.kapook.com/view56796.html-