ใต้ร่มธรรม
		วิถีธรรม => ไหว้พระหน้าคอม => ข้อความที่เริ่มโดย: ฐิตา ที่ ธันวาคม 28, 2015, 07:58:11 pm
		
			
			- 
				เขมาเขมสรณทีปิกคาถา
 
 พาหุง เว สะระนัง ยันติ  ปัพพะตานิ วะนานิ จะ
 มนุษย์เป็นอันมาก เมื่อเกิดภัยคุกคามแล้ว, ก็ถือเอาภูเขาบ้าง
 
 อารามะทุกรุกขะเจต์ยานิ  มะนุสสา ภะยะตัชชิตา,
 ป่าไม้บ้าง, อาราม และรุกขเจดีย์บ้าง เป็นสรณะ;
 
 เนตัง โข สะระณัง เขมัง  เนตัง สะระณะมุตตะมัง,
 นั่นไม่ใช่สรณะอันเกษมเลย, นั่น มิใช่สรณะอันสูงสุด;
 
 เนตัง สะระณะมาคัมมะ  สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ.
 เขาอาศัยสรณะ นั่นแล้ว  ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้
 
 โย จะ พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สะระนัง คะโต,
 ส่วนผู้ใดถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะแล้ว;
 
 จัตตาริ อะริยะสัจจาริ  สัมมัปปัญญายะ ปัสสะติ,
 เห็นอริยสัจจ์ ความจริงอันประเสริฐสี่ ด้วยปัญญาอันชอบ;
 
 ทุกขัง ทุกขะสะมุปปาทัง  ทุกขัสสะ จะ อะติกกะมัง
 คือเห็นความทุกข์, เหตุให้เกิดทุกข์, ความก้าวล่วงทุกข์เสียได้,
 
 อะริยัญจัฏฐังคิกัง มัคคัง  ทุกขูปะสะมะคามินัง
 และหนทางมีองค์แปดอันประเสริฐ เครื่องถึงความระงับทุกข์;
 
 เอตัง โข สะระณัง เขมัง  เอตัง สะระณะมุตตะมัง
 นั่นแหละเป็นสรณะอันเกษม, นั่นเป็นสรณะอันสูงสุด
 
 เอตัง สะระณะมาคัมมะ  สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ.
 เขาอาศัยสรณะ นั่นแล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้
 
 พระสูตรชื่อ อัคคัญญสูตร ได้ทรงแสดงความเป็นมาของสังคมมนุษย์เป็นลำดับ  โดยเริ่มแต่เกิดมีสัตว์ขึ้นในโลกแล้วเปลี่ยนแปลงตามลำดับ ตามวิวัฒนาการ  จนเกิดมีมนุษย์ที่อยู่รวมกันเป็นหมู่เป็นพวกพ้อง  จึงเกิดความจำเป็นต้องมีการปกครอง   และมีการประกอบอาชีพ การงานต่างๆกัน  วรรณะทั้งสี่ก็เกิดจากความเปลี่ยนแปลง  ทรงแสดงว่าสิ่งเหล่านี้ มิใช่เป็นเรื่องของพรหมสร้างสรรค์  แต่ทรงแสดงว่าเกิดจากธรรม (ธรรมดา, กฎธรรมชาติ)หรือเป็นไปตามกฏปฏิจจสมุปบันธรรม  ทุกวรรณะประพฤติชั่วก็ไปอบายได้  ปฏิบัติธรรมก็บรรลุนิพพานได้.
 อัคคัญญสูตร
 
 พระองค์ท่าน  เปรียบเหมือนบุคคลผู้หงายของที่คว่ำปิดอยู่,  เปิดของที่ปิด,  บอกทางแก่คนหลงทาง,
 หรือตามประทีปในที่มืด  ด้วยประสงค์ว่าผู้มีจักษุคือปัญญาจักขุจักเห็นรูปหรือเข้าใจได้นั่นเอง
 
 -http://www.nkgen.com/445.htm
- 
				-