(http://treybig.org/Humor/women.waiting.jpg)
or is it ......
Perfect Men waiting for the Woman....!!!
คำว่า แต่งงาน โดย นพ.สุกมล ( ขำสุดๆ + โดนมาก)...
บทความโดย นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล
ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
> ในฐานะผู้ชายดีๆ ที่หายากคนหนึ่ง ผมรู้สึกเห็นใจสตรีเพศจริงๆครับ…
> ช่วงเวลาในการเลือกคู่ของเธอทั้งหลายช่างสั้นยิ่งนัก
> เพราะช่วงอายุขัยของวัยสาวเริ่มผลิบานเมื่อประมาณ 13 ปี
> แล้วมาสุดเขตแดนเมื่อวัยสามสิบ…
> วันเกิดครบรอบ 30 จึงเป็นตัวเลข แห่งความสะเทือนขวัญ
> ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก…
>
> หลายคนไม่อยากพูดถึง คนอื่นก็ไม่ควรเอ่ยปากด้วย…
> ถือเป็นมารยาทสังคมอย่างหนึ่ง ยกเว้นพวกมีวาจาเป็นอาวุธ
> ที่ชอบถามว่า
> 'ปาอะไรเอ่ยที่ผู้หญิงกลัวที่สุด '
> เฉลย '! ปาเข้าไปสามสิบยังไม่มีผัว ' …ใครดันถาม มันผู้นั้นสมควรตาย
>
> ตอนเรียนหนังสือเป็นนักเรียนนักศึกษา
> คุณพ่อคุณแม่ก็สอนนักสอนหนาว่า
> ' อย่าริรักในวัยเรียน 'ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีจบแล้วค่อยมีแฟน '
> ทั้งๆ ที่ไอ้ตอนเรียนหนังสือมีโอกาสพบปะเพศตรงข้ามมากหน้าหลายตาก็หาได้สนใจไม่
เป็นคนประเภท ' รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน '
> ทุ่มเทชีวิตให้แก่การศึกษา…เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา
> เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน
>
> หลังจบการศึกษา ประกอบสัมมาอาชีวะ ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาว่าง
> เลือกสรร ควานหา ผู้จะมาเป็นเจ้าบ่าวในอนาคต
> ตั้งสเปกว่าต้องได้แฟนหนุ่มประเภทซูเปอร์เพอร์เฟค
> อย่างวิลลี่ แมคอินทอชหรือจอห์นนี่ แอนโฟเน่ หรืออย่างน้อยๆ
> ก็ต้องมาดแมนแฮนซั่ม หล่อล่ำดำขรึม ถึงจะได้มาตรฐาน…
ไอ้ประเภทหุ่นอัฟริกา หน้าติมอร์
> อย่าได้สะเออะหน้ามาให้เห็น…ไม่มีทางได้แอ้มหรอก
>
> จากวันเป็นเดือน - จากเดือนเป็นปี
> ความรักไม่มีวี่แววคืบหน้าแม้วันเวลา
> ผ่านไป… เพราะที่ทำงานทั้งห้องมีผู้ชายอยู่แค่ 5 คน -
> เจ้านายก็ มีเมียแล้ว… ไม่อยากตกเป็นภรรยาบุญธรรม
> สองคนดันเป็นเกย์… อีกคนยังลังเลอยู่ว่าจะเป็นดีหรือเปล่า…
> คนสุดท้ายเป็นชายแท้แต่กำลังถูกแย่งตัวระหว่างเกย์สองคนอยู่
> ไม่อยากเข้าไปเป็นมือที่สาม…นั่งรถมาทำงานก็สองชั่วโมงครึ่ง
> กลับอีกสองชั่วโมงสี่สิบนาที กลับถึงบ้าน หมดสิ้นกำลัง
> ขอนอนเอาแรงก่อน.........
>
> ขณะที่งีบหลับอย่างสนิท ภาพในความฝันที่เธอเห็นคือ
> สถาบันการศึกษาที่เธอจบมา…
> แหล่งที่มีเพศตรงข้ามชุกชุม เธอหวนรำลึกนึกถึงผู้ชายดีๆ
> ที่เขาเคยอุตส่าห์มาเฝ้าตามจีบ ตามง้อตามตื้อ
> แล้วเราเล่นตัวจนเคยตัว ในที่สุดผลประโยชน์ตกอยู่ที่เพื่อนสนิทเป็นที่เรียบร้อย…
> แหม ! ไม่น่าเลย ยิ่งคิดยิ่งเสียดายจริงจริ๊ง…ตื่นพอดี เจอโลกแห่งความจริง
>
> ดำเนินชีวิตไปแต่ละวัน ยิ่งเข้าหน้าหนาว ซองสีชมพูกลิ่นหอมๆ
> จากเพื่อนๆ
> เริ่มทยอยมา ตามหลังซอง กฐินซองผ้าป่าที่เพิ่งหมดฤดูกาล…
> พอไปในงาน ดันเจอคำถามสะกิดใจอีกว่า
> 'เมื่อไรจะถึงคิวแจกการ์ดของตัวบ้างล่ะ'...
> 'โถ! การ์ดแต่งงานน่ะพิมพ์เสร็จแล้ว
> เหลือแต่ชื่อเจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้เลือกว่าจะเป็นใคร
> เพราะครั้งนี้เขาเปลี่ยนระบบเลือกตั้งใหม่ ยังงงๆเรื่องปาร์ตี้ลิสต์อยู่เลย'
> เอ๊ะ…เกี่ยวอะไรกัน!…ในใจก็คิดว่า '
> ก็ฉันอยู่เป็นโสดนี่มันไม่ดียังไง หนักกระบาลใครรึเปล่า'
>
> เคยตั้งคำถามกันไหม…ว่าทำไมต้องแต่งงาน (กันด้วย!)…
> คำตอบจากเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้วหรืออยากจะแต่งงานอาจมีหลากหลาย…
> 'อยู่คนเดียวมันว้าเหว่ อยากมีใครสักคนไว้แก้เหงา ' …รายนี้เห็นผู้ชาย เป็นตัวคลายเหงา
> 'รายได้ไม่พอใช้ หาคนช่วย (หาเงิน) ' …ผมกลัวมาช่วยผลาญเงินมากกว่า
> 'อยากมีลูก ก็ต้องหาพ่อก่อนสิ '…เกิดได้ลูกแล้วจะทิ้งพ่อรึเปล่าเนี่ยะ
> 'โรงงานพร้อมแล้ว ขาดผู้ประกอบการ'…เจ้าของคำตอบกำลังหาผู้ร่วมลงทุนฯลฯ
>
> อันว่า ' ชีวิตคู่ ' อยู่ไปเพื่อสิ่งใด ?
> ชีวิตคู่ คือ การเติมเต็มซึ่งกันและกัน
> ดังนั้นเมื่อมีชีวิตสมรสแล้วครึ่งหนึ่งของ ชีวิตเราจะหายไป
>
> ในส่วนที่ขาดจะมีครึ่งชีวิตของอีกฝ่ายมาเติมแต่งแห่งพื้นที่ว่างนั้น
> ขณะที่ครึ่งชีวิตของเราที่หาย ก็มิได้สูญสลายไปไหน มันก็ไปเติมที่ว่างของคู่เรานั่นเอง
>
> จุดมุ่งหมายของ การแต่งงานคือ
> การใช้ชีวิตคู่ให้มีความสุขมากขึ้นและมีชีวิตที่ดีขึ้น
> เมื่อเป็นสามีภรรยาแล้วต้องมีความสุขมากกว่าตอนอยู่คนเดียว
> ถ้าตอนอยู่ด้วยกันแล้ว มีแต่ความทุกข์ ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน
> ก็ไม่รู้ว่า จะแต่งงานไปหาพระแสงดาบคาบค่ายที่ไหน…อยู่คนเดียวมันส์กว่า
>
> ชีวิตคู่ต้องเกื้อกูลกันและกัน ความก้าวหน้าของสามี ภรรยาต้องมีส่วน
> อย่างน้อยก็ปลอบใจในยามที่สามีเครียดจากการงาน
> ชีวิตภรรยาถ้าไม่คิดเอาดี ในทางโลกก็เจริญในทางธรรม
> กำลังใจต้องได้จากสามีเช่นกัน
> อย่างน้อยก็อย่าหาทุกข์มาสุมเพิ่ม…
> ถ้าคู่รักของเราประกอบมิจฉาอาชีวะ ติดเหล้า เล่นการพนัน
> โกงบ้านกินเมือง ชีวิตอีกฝ่ายก็เหมือนตก นรกทั้งเป็น
>
>
> เพราะฉะนั้นเวลาเลือกแฟน
> แทนที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องรูปร่างหน้าตา
> ฐานะการเงิน ยี่ห้อรถเก๋งที่ใช้อยู่ ฯลฯ
> เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขแค่สองข้อที่จำแสนง่าย คือ
> หนึ่ง - สุขใจยามอยู่ใกล้ชิด
> สอง - คู่ช่วยคิดชีวิตก้าวหน้า
> เพราะชีวิตคู่คือการเติมเต็มชีวิตแก่กันและกัน
> หาใช่เป้าหมายเพื่อการเสริม เพิ่มความเสียว
> เพราะอยู่คนเดียวก็เสียวได้ ไม่ง้อใครให้เสียเวลา
> ไม่เสียชาติเกิดหรอกครับ ถ้าคุณจะใช้ชีวิตเป็นโสด
> ถือคติประจำใจว่า 'อยู่เป็นโสด ดีกว่ามีผัวเลว'
:16:
:22: http://parp6372.spaces.live.com/blog/cns!C023D51BF13B3D70!258.entry