ใต้ร่มธรรม

แสงธรรมนำใจ => ดอกบัวโพธิสัตว์ => วัชรยาน => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊กซ ที่ สิงหาคม 04, 2016, 07:30:51 pm

หัวข้อ: ลิงหลอกเจ้า ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ (น่าอ่านทั้ง 2 ฉบับ)
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ สิงหาคม 04, 2016, 07:30:51 pm
(http://www.bookicious.com/books/cutting-through-spiritual-materialism.jpg)(https://9r86yh6iat-flywheel.netdna-ssl.com/wp-content/uploads/2015/08/chogyam-bowl-300x300.jpg)

ฉบับแท้ ดั้งเดิม เป็น ภาษาอังกฤษ ของ อาจารย์ ตรุงปะ

แปลไทย ออกมาเป็น สองฉบับ คือ

(http://img.tarad.com/shop/s/su-usedbook/img-lib/spd_20091217220120_b.jpg)(http://img.tarad.com/shop/s/su-usedbook/img-lib/spd_20091217230349_b.jpg)

(http://1.bp.blogspot.com/_aOU-cxn-znE/S7q_UkhSoWI/AAAAAAAAAKY/DBLlr-MElp8/S1600-R/c.inner.jpg)

ลิงหลอกเจ้า ลอกคราบวัตถุนิยมทางศาสนา Cutting through spiritual materialism แปลโดย วีระ สมบูรณ์ และ พจนา จันทรสันติ.

เคยลงไว้ บางส่วน ลองไปอ่านได้ ตามลิ้ง ที่เหลือ ไปหาอ่านเอง ตาม หอสมุดแห่งชาติ ห้องสมุด ไม่ก็ สำนักพิมพ์เขาเลย

ลิงหลอกเจ้า : ลอกคราบวัตถุนิยมทางศาสนา ( โดย เชอเกรียม ตรุงปะ ) http://www.tairomdham.net/index.php/topic,4816.0.html (http://www.tairomdham.net/index.php/topic,4816.0.html)

ลิงหลอกเจ้า : อริยสัจสี่ http://www.tairomdham.net/index.php/topic,2611.0.html (http://www.tairomdham.net/index.php/topic,2611.0.html)

ลิงหลอกเจ้า : โพธิสัตวมรรค http://www.tairomdham.net/index.php/topic,2612.0.html (http://www.tairomdham.net/index.php/topic,2612.0.html)

ลิงหลอกเจ้า : ศูนยตา http://www.tairomdham.net/index.php/topic,2613.0.html (http://www.tairomdham.net/index.php/topic,2613.0.html)

 ลิงหลอกเจ้า : ตันตระ รูป คือ ประภัสสร http://www.tairomdham.net/index.php?topic=2615.0 (http://www.tairomdham.net/index.php?topic=2615.0)


อีกฉบับ เพิ่งแปล ล่าสุด เวอชั่นของ วิจักขณ์ พานิช (ตั้ม)

(http://www.sabuyjaishop.net/shop/bukubooks/images/t4hnb4552rtgsj55hp4i8120133820000587.jpg)

ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ
Cutting Through Spiritual Materialism

เชอเกียม ตรุงปะ บรรยาย
วิจักขณ์ พานิช แปล
คำนิยม โดย เขมานันทะ
คำนำ โดย เรจินัลด์ เรย์
สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง
พิมพ์ครั้งที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๔

ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ ไม่เพียงเปิดเผยกลลวงของอัตตาอย่างถึงแก่นเท่านั้น หากยังกระแทกกระทั้นอัตตาอย่างไม่ลดราวาศอก และสามารถสร้างความปั่นป่วนในจิตใจได้ แต่ถ้าตั้งสติให้ดี ก็จะพบว่า นั่นคือความปั่นป่วนของอัตตาต่างหาก จึงไม่ควรเดือดร้อนหรือหลงกลเข้าไปปกป้องมัน จะอ่านหนังสือเล่มนี้ให้ได้ประโยชน์ ต้องตั้งจิตไว้ก่อนว่า จะไม่ใจอ่อนต่อเสียงร่ำร้องวิงวอนของอัตตา หรือหวั่นไหวต่อความโกรธเกรี้ยวของมัน ขณะเดียวกันก็พึงอ่านด้วยใจที่เปิดกว้าง เพื่ออัตตาจะได้ถูกท้าทายและสั่นคลอนอย่างเต็มที่ โดยปราศจากการปกป้อง การอ่านหนังสือเล่มนี้จึงเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่เพียงฝึกใจให้เป็นกลางต่ออารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเท่านั้น หากยังเอื้อให้เกิดปัญญา นอกจากรู้เท่าทันพิษสงของอัตตาแล้ว ยังช่วยให้เราเห็นว่าความดีหรือคุณธรรมที่เรานึกว่ามีนั้น แท้จริงถูกอัตตาชักใยอยู่เบื้องหลังมากน้อยเพียงใด ส่วนการแสวงหาทางจิตวิญญาณที่เพียรทำอยู่นั้น อาจมิใช่อะไรอื่น หากคือการดิ้นรนทะยานอยากเพื่อปรนเปรอและพะเน้าพะนออัตตา ซึ่งเป็นยิ่งกว่านักลวงชั้นยอด เพราะกล่าวถึงที่สุดแล้วมันก็คือที่สุดแห่งกลลวงซึ่งเราทุกคนหลงเชื่อจนนึกว่ามันมีอยู่จริง ๆ

จาก http://www.visalo.org/prefaces/taluangWattuniyom.htm (http://www.visalo.org/prefaces/taluangWattuniyom.htm)

(https://primitivesoul.files.wordpress.com/2011/06/tueapril201115571_cw.jpg)

ลองอ่าน ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ (Cutting Through Spiritual Materialism)

เชอเกียม ตรุงปะ บรรยาย / วิจักขณ์ พานิช แปล
สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง, มีนาคม ๒๕๕๔

บนชั้นหนังสือหมวดธรรมะตามร้านในห้างสรรพสินค้า มีหนังสือเรียงเป็นตับว่าด้วยการบำบัดทุกข์บำรุงสุข ปกหนังสือสีสันสดใสออกไปทางแนวกุ๊กกิ๊กด้วยภาพประกอบแบ๊วๆ คนช่างตั้งแง่อาจจะเดินเลี่ยงไปอีกมุมที่มีหนังสือปรัชญาเซนและอะไรเทือกๆ นั้นยึดครองพื้นที่อยู่ พวกมันมักจะมีปกเรียบตามสกุลมินิมอลฯ สีออกน้ำตาลด้วยเยื่อกระดาษ หมึกจีน หมึกถั่วเหลือง ฯลฯ จนกระทั่งไล่เรียงไปยังคำสอนจากสำนักอันไม่จำกัดศาสนา นำทีมโดย OSHO และอื่นๆ อีกเทือกหนึ่ง

ทั้งหมดนั้นไม่ได้บอกอะไร และผมไม่ได้จะบอกอะไรคุณ

แต่หนังสือปกแดงที่กำลังจะพูดถึงนี้ น่าจะจัดพิมพ์ในรูปแบบที่ไม่ใช่หนังสือธรรมะ หลีกห่างให้ไกลจากตราสัญลักษณ์ประเภท ดอกบัว จักร วัชระ พระโพธิสัตว์แย้มยิ้ม และทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นความดีงาม

ในฐานะนักออกแบบ ผมคงจะฉีกปกหนังสือเล่มนี้ทิ้งไป ให้เปิดเปลือยเหลือแต่กระดาษบรรจุถ้อยคำข้างใน และจะดีที่สุดคือเราไม่ต้องรู้หรอก ว่าใครเป็นผู้แต่ง

ผมเคยเขียนรีวิวสั้นๆ ลงนิตยสาร WAY ฉบับที่ 42 ไว้ดังนี้:

แม้จะทำเป็นลืมๆ ชื่อธรรมาจารย์ทิเบตท่านนี้ไป บทบรรยายนั้นก็ยังน่าสนใจอยู่ดี เพราะมันยั่วเย้าเหล่าสาธุชนทั้งหลายจนสะอึกและหน้าชา เมื่อถ้อยคำเหล่านั้นกระเทาะลอกล่อนจนเผยความดัดจริตประดามีในตัว ‘ผู้มีศีลมีธรรม’

บรรยายที่สหรัฐอเมริกา ในยุคบุปผาชนยามที่จิตวิญญาณแห่งการแสวงหากำลังเบิกบาน แต่ช่างเหมาะเจาะกับอาการหลงทิศหลงทางทางศีลธรรมของสยามประเทศเสียจริง

. . .

ด้วยเนื้อที่อันจำกัด ประโยคสั้นๆ พวกนั้นอาจทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือธรรมะปากร้าย แต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว มันเพียงทุบทำลายความเชื่อบางอย่าง ทำให้เราสับสนงุนงงว่าอะไรกันแน่คือสิ่งที่ถูก สิ่งที่ควร

อ่านจบรอบแรกด้วยความมึนงง มีเหตุบางอย่างปะทะภายใน จนทำให้หยิบขึ้นมาอ่านซ้ำในบางบทบางตอน น่าแปลกที่ถ้อยความค่อยๆ ซึมลงไป และทางที่ดูยียวนกวนประสาทนั้น กลับเคลื่อนเผยตัวอย่างช้าๆ

สรุปสุดท้ายสำหรับหนังสือเล่มนี้ ขอยืมคำพูดของพี่คนหนึ่งในงานเสวนา “ผมคิดว่านี่ไม่ใช่หนังสือสำหรับอ่าน แต่เป็นคู่มือในการเตือนและตรวจสอบตนเอง”

จาก https://primitivesoul.wordpress.com/2011/06/21/cuttingthrough/ (https://primitivesoul.wordpress.com/2011/06/21/cuttingthrough/)

(http://waymagazine.org/wp-content/uploads/2014/03/Vichak-1.jpg)

แนะนำทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ

ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ

Cutting Through Spiritual Materialism

เชอเกียม ตรุงปะ บรรยาย
วิจักขณ์ พานิช แปล

คำนิยม โดย เขมานันทะ
คำนำ โดย เรจินัลด์ เรย์

สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง
พิมพ์ครั้งที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๔

จำนวน ๒๘๘ หน้า
ราคา ๒๐๐ บาท

หนังสือธรรมะเรต “ห” ที่ขัดต่อศีลธรรมและความสงบสุขของอัตตาอย่างแท้จริง ท้าทายความเชื่อเรื่อง “ศาสนา” ที่เคยมีมา และเปลี่ยนมุมมองต่อคำว่า “ธรรมะ” ไปโดยสิ้นเชิง ฉีกขนบงานแปลทางศาสนา ด้วยสำนวนภาษาที่เป็นกันเอง ติดดิน ตรงไปตรงมา และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่านี่เป็นหนังสือธรรมะประเภทโฆษณาชวนเชื่อ ฮาวทู หรือเสริมสร้างสุข เลิกหวังไปเลยว่าจะเป็นหนังสืออ่านง่าย แฝงคติเตือนใจ หรือให้ข้อคิดคำคม หากจะจัดเรตติ้งให้หนังสือเล่มนี้ นี่คือหนังสือธรรมะเรต “ห” ที่ขัดต่อศีลธรรมและความสงบสุขของอัตตาอย่างแท้จริง เป็นธรรมะที่จะเปิดโปงทุกแง่มุมของการหลอกตัวเอง เปิดเผยกลไกการทำงานของอัตตา สติปัญญา และความเจ้าเล่ห์ของมันอย่างถึงรากและทะลุทะลวง จนอาจถึงขั้นเป็นภัยคุกคามต่อโลกอันสงบสุขและศีลธรรมของคนดีมีธรรมะทั้งหลายเลยทีเดียว

ผู้อ่านหนังสือเล่มนี้อาจรู้สึกราวกับโดนไม้ท่อนใหญ่ฟาดหัวเข้าอย่างจัง เพราะเนื้อหานำเสนอประเด็นท้าทายความเชื่อเรื่อง “ศาสนา” และเปลี่ยนมุมมองต่อคำว่า “ธรรมะ” ไปโดยสิ้นเชิง เช่น การปฏิบัติธรรมไม่ใช่หนทางสู่การพ้นทุกข์หรือสร้างสุข แต่คือการยอมรับและเผชิญทุกข์สุขตามที่เป็น ธรรมะไม่ใช่การตัดสินดีชั่ว ถูกผิด การกำจัดด้านมืดให้สิ้นซาก หรือการแบ่งแยกฝ่ายธรรมะจากฝ่ายอธรรม ไม่ใช่การพิพากษาว่าอัตตาเป็นสิ่งชั่วร้ายที่ต้องกำจัด แต่ต้องรู้ทันและเข้าใจมันอย่างทะลุปรุโปร่ง จนอัตตาไม่อาจมีอำนาจเหนือความรู้แจ้งของเราได้ เส้นทางจิตวิญญาณไม่ใช่เรื่องของการพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนดีมีศีลธรรม หรือหลีกหนีจากชีวิตแบบโลกย์ๆ แต่คือการเป็นตัวของตัวเอง ยอมรับตัวเองอย่างที่เป็น ภาคภูมิใจในความเป็นคน และตระหนักว่าศักยภาพแห่งการรู้แจ้งไม่ใช่สิ่งที่ต้องสร้างขึ้นใหม่ ทว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวเราทุกคนอยู่แล้ว

ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ นำเสนอเนื้อหาที่กระตุ้นเตือนชาวพุทธให้หันกลับมาตระหนักในเรื่อง “วัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ” อันหมายถึงการใช้หลักธรรมคำสอน เทคนิคปฏิบัติ และภาพลักษณ์สูงส่งทางจิตวิญญาณ เพียงเพื่อการหลอกตัวเอง การเสริมสร้างอัตตา หรืออัตลักษณ์ทางศาสนา ศีลธรรม ความดี บุญบารมี ปัญญาญาณ ขั้นการบรรลุธรรม ฯลฯ อย่างปราศจากการนำพุทธธรรมมาฝึกฝนปฏิบัติจริงในชีวิต

หนังสือเล่มนี้เป็นบทบรรยายธรรมชิ้นสำคัญที่สุดของ เชอเกียม ตรุงปะ ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งพุทธธรรมในหัวใจคนหนุ่มรุ่นใหม่จากธิเบต สู่ผู้คนในโลกตะวันตกอย่างไม่ประนีประนอม พุทธศาสนาในโลกตะวันตกไม่ได้มีสถานะหรือต้นทุนทางสังคมใดๆ ให้ผู้ศรัทธาหยิบฉวยมาสร้างอัตลักษณ์ทางศาสนา อีกทั้งคนส่วนใหญ่ยังรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับข้อบังคับ กฎเกณฑ์ และความรู้สึกผิดบาปจากศาสนาที่พวกเขาเคยยึดถือมาหลายชั่วคนอีกด้วย ดังนั้นก่อนเข้าสู่เส้นทางพุทธศาสนา ผู้คนเหล่านี้จึงต้องการแผนที่ที่สามารถบอกถึงหัวใจและรายละเอียดของเส้นทางทั้งหมดด้วยความเปิดเผยตรงไปตรงมา และหนังสือเล่มนี้ได้แสดงแผนที่นั้นไว้อย่างครบถ้วน

แม้ Cutting Through Spiritual Materialism จะเป็นหนังสือสำคัญทางพุทธศาสนาสายวัชรยานในโลกตะวันตก และเป็นคำสอนแรกที่ เชอเกียม ตรุงปะ ถ่ายทอดในทวีปอเมริกาเหนือ ช่วงปี ค.ศ. ๑๙๗๐ และ ๑๙๗๑ แต่กล่าวได้ว่านี่เป็นหนังสือที่ “ไร้กาลเวลา” เพราะแม้จะผ่านมาถึง ๔๐ ปีแล้ว ทว่าแก่นพุทธศาสนาวัชรยานที่ได้รับการถ่ายทอดอยู่ในหนังสือเล่มนี้ยังคงสื่อสารได้กับผู้คนทุกยุคทุกสมัยและทุกวัฒนธรรม รวมทั้งสังคมไทยยุคปัจจุบันที่กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงอย่างถึงราก

บริบทของหนังสือเล่มนี้มีความคล้ายคลึงกับปรากฏการณ์ทางจิตวิญญาณที่สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่ นั่นคือคำสอนทางศาสนามักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมสิ่งที่เข้ามาก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง (ซึ่งมักถูกมองในฐานะสิ่งคุกคาม) เราจะรู้เท่าทันอำนาจการบิดเบือนคำสอนทางศาสนาของอัตตาได้อย่างไร? คำสอนทางจิตวิญญาณควรถูกนำมาใช้ในการตั้งคำถามกับความเป็นไปของสังคมและตัวเราเองอย่างไร? การแสวงหาคุณค่าทางจิตวิญญาณของคนรุ่นใหม่ควรเป็นไปในทิศทางใดจึงจะสอดคล้องกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต? เหล่านี้เป็นคำถามที่มีอยู่ในหัวใจของผู้แสวงหาสัจจะทุกยุคทุกสมัย

ในแง่สำนวนการแปล วิจักขณ์ พานิช ฉีกขนบงานแปลทางศาสนา ด้วยการใช้สำนวนภาษาที่เป็นกันเอง ติดดิน ตรงไปตรงมา และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เขาใช้ประสบการณ์จากการฝึกฝนอยู่ในสายปฏิบัติของ เชอเกียม ตรุงปะ ถ่ายทอดหัวใจสำคัญของการสื่อสารธรรมะที่ไปพ้นถ้อยคำ มีสไตล์การใช้ภาษาที่เต็มไปด้วยลูกเล่น สำนวน อุปมาอุปไมย คำประดิษฐ์ สแลง มุขตลก ยึดหลักการถ่ายทอดคำสอนปากเปล่า คือการใช้ภาษาพูด บทสนทนาโต้ตอบที่ไม่เป็นทางการ และมีความเป็นเสรีนิยมตามบริบทการสื่อสารธรรมะสู่คนหนุ่มสาวอเมริกันยุค ๗๐ ด้วยเหตุที่ว่า นั่นคือสิ่งสำคัญที่ทำให้งานชิ้นนี้มีความน่าสนใจและสามารถสื่อสารได้เหมาะสมกับบริบทที่พุทธศาสนาไทยในโลกสมัยใหม่กำลังเผชิญอยู่


(https://9kant.files.wordpress.com/2013/08/556000010157602.jpeg)

นานาทัศนะต่อ "ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ"
 
พระไพศาล วิสาโล พระนักสันติวิธี  เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต

ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ ไม่เพียงเปิดเผยกลลวงของอัตตาอย่างถึงแก่นเท่านั้น หากยังกระแทกกระทั้นอัตตาอย่างไม่ลดราวาศอก และสามารถสร้างความปั่นป่วนในจิตใจได้  แต่ถ้าตั้งสติให้ดีก็จะพบว่า นั่นคือความปั่นป่วนของอัตตาต่างหาก จึงไม่ควรเดือดร้อนหรือหลงกลเข้าไปปกป้องมัน  จะอ่านหนังสือเล่มนี้ให้ได้ประโยชน์ ต้องตั้งจิตไว้ก่อนว่า จะไม่ใจอ่อนต่อเสียงร่ำร้องวิงวอนของอัตตา หรือหวั่นไหวต่อความโกรธเกรี้ยวของมัน  ขณะเดียวกันก็พึงอ่านด้วยใจที่เปิดกว้าง เพื่ออัตตาจะได้ถูกท้าทายและสั่นคลอนอย่างเต็มที่โดยปราศจากการปกป้อง  การอ่านหนังสือเล่มนี้จึงเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่เพียงฝึกใจให้เป็นกลางต่ออารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเท่านั้น หากยังเอื้อให้เกิดปัญญา  นอกจากรู้เท่าทันพิษสงของอัตตาแล้ว ยังช่วยให้เราเห็นว่าความดีหรือคุณธรรมที่เรานึกว่ามีนั้น แท้จริงถูกอัตตาชักใยอยู่เบื้องหลังมากน้อยเพียงใด”   
 
ภาวนา แก้วแสงธรรม บรรณาธิการแพรวสำนักพิมพ์
“ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ ทำลายโลกแห่งความดีงามที่เราเคยยึดมั่นถือมั่นลงอย่างราบคาบ  เราจะกลัวตัวเองจับใจแม้อ่านไปได้เพียงน้อยนิด  หนังสือเล่มนี้บอกเราว่า ธรรมะย่อยง่ายไม่ใช่ธรรมะ การปฏิบัติธรรมไม่ใช่กิจกรรมเพื่อความรู้สึกดีหรือเยียวยาตัวเอง  อ่านๆ ไปแล้วอาจถึงขั้นเบื่อหน่ายเส้นทางไปสู่นิพพาน  ไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นพุทธศาสนิกชนด้วยความหวัง ควรสงวนไว้อ่านเฉพาะผู้นิยมความจริงอันเจ็บปวดเท่านั้น”
 
อาจารย์วันรัก สุวรรณวัฒนา  คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“เล่มนี้เขาตบหน้าเราฉาดใหญ่ดีแท้... อ่านแล้วอุทานเลยว่า ‘เชี่ย กรูถูกหลอก (อีกแล้ว) มาตลอดทั้งชีวิตเลยหรือนี่!’  ตาสว่างทางจิตวิญญาณจริงอะไรจริง  เหมาะสำหรับผู้ที่เรียกตนเองว่า ‘พุทธศาสนิกชน’ ทั้งหลายที่เข้าวัด นั่งสมาธิและเป็นคนดี”
 
อาจารย์สุรพศ ทวีศักดิ์ นักวิชาการพุทธศาสนากับสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์การศึกษาหัวหิน
“เสน่ห์ของหนังสือเล่มนี้คือการถ่ายทอดพุทธศาสนาออกมาจากชีวิตสู่ชีวิต ไม่ใช่ถ่ายทอดจากตัวบทในคัมภีร์…พุทธศาสนาที่ออกมาจากชีวิต ไม่แข็งทื่อ ไม่พันธนาการ ไม่ข่มขู่ด้วยความผิดบาป (นรก) ไม่มอมเมาด้วยบุญกุศลเพื่อความสุขส่วนตัว (สวรรค์) ทว่าชวนให้เราไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง และมองความจริงตามที่เป็นเพื่ออยู่กับสุขทุกข์ในโลกของความเป็นจริง และจัดการกับทุกสิ่งด้วยสติปัญญาของเราเอง  ผมคิดว่าสังคมเราควรมีการนำเสนอพุทธศาสนาในแง่มุมที่ทำให้เราเคารพความเป็นมนุษย์ของตนเองและคนอื่นๆ  มั่นใจในความดีงามที่มีอยู่ในตนเองและเพื่อนมนุษย์ให้มากขึ้น”
 
รศ.ดร. วีระ สมบูรณ์  ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ (ผู้แปลร่วมกับ พจนา จันทรสันติ ในฉบับแปลปี ๒๕๒๘ ในชื่อ ลิงหลอกเจ้า : ลอกคราบวัตถุนิยมทางศาสนา )
"ขอชื่นชมที่ Cutting Through Spiritual Materialism ได้รับการแปลโดยผู้ที่ผ่านการศึกษาและประสบการณ์จาก Naropa Institute มาแล้ว  ผมเชื่อว่าฉบับแปลใหม่นี้จะได้รับการต้อนรับจากสาธารณชนและมีคุณูปการมากอย่างแน่นอน เพราะเวลานี้สถานการณ์ ‘วัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ’ กำลังแพร่หลายอยู่ทั่วไปในหลายมิติทีเดียว"
 
เพ็ญศิริ จันทร์ประทีปฉาย  อดีตหัวหน้ากองบรรณาธิการนิตยสาร สารคดี / ผู้ทำหน้าที่พิสูจน์อักษรหนังสือ ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ
"ในฐานะนักเดินทางบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ผู้มีคำถามสำคัญว่า เกิดมาทำไม? อยู่ไปเพื่ออะไร? จะมีชีวิตอย่างคนธรรมดาในโลกความเป็นจริง ทุกข์จริง เจ็บจริง และนำธรรมะมาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง โดยไม่ต้องทำตัวธรรมะธัมโมได้ไหม ?…ทะลวงวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ คือหนังสือที่ตอบคำถามเหล่านั้นอย่างตรงไปตรงมา ทะลุทะลวง ไม่ดัดจริต และไม่แคร์ความรู้สึกกันเลย แถมยังท้าทายความเชื่อที่เคยมีมา และเปลี่ยนมุมมองต่อคำว่า 'ธรรมะ' ไปโดยสิ้นเชิง
 
"เมื่อเริ่มอ่าน รู้สึกเหมือนโดนไม้ท่อนใหญ่ฟาดหัวเข้าอย่างจัง และถูกลากออกจากความฝันอันสวยงามสงบเย็น เมื่ออ่านจบ รู้สึกเหมือนได้รองเท้าคู่ใหม่ที่ให้อิสรภาพและความรื่นรมย์ในการเต้นระบำไปกับชีวิตและความทุกข์…อย่างมีทิศทาง
 
"ในฐานะคนอ่านหนังสือ ผู้ไม่อินกับสำนวนโวหารสูงส่งอลังการ นี่คือหนังสือซึ่งมีสำนวนการแปลเป็นกันเองราวกับบทสนทนาในกลุ่มเพื่อนสนิท วิจักขณ์มีศักยภาพในการใช้สำนวนแปลที่ธรรมดา ทว่าเต็มไปด้วยชีวิตชีวา 'ในแบบของเขา' เพื่อสื่อสารข้อความอันไม่ธรรมดาไปยังผู้คนในโลกปัจจุบัน ทั้งยังสามารถสร้างอารมณ์การอ่านที่หลากหลาย…สนุก ตลก เจ็บแสบ ประชดประชัน ตกใจ สับสน สิ้นหวัง ฯลฯ และซาบซึ้ง จนต้องเสียน้ำตาไปหลายตอน …จะว่าไปแล้ว การเขียนหนังสือด้วยสำนวนง่ายๆ และติดดิน แต่ให้อ่านสนุกด้วย เอาเข้าจริงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป
 
"ในฐานะคนทำหนังสือ ผู้เชื่อมั่นว่าภารกิจสำคัญของวิชาชีพคือการทำงานที่มีคุณค่า นี่คืองานที่ตัดสินใจตอบรับทำในทันทีที่อ่านสองบทแรกจบลง การได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือที่เต็มไปด้วยพลังเล่มนี้ ถือเป็นความอิ่มใจครั้งสำคัญในชีวิต"

จาก http://vichak.blogspot.com/ (http://vichak.blogspot.com/)