ใต้ร่มธรรม

ริมระเบียงรับลมโชย => ธรรมะอินเทรนด์ - ธรรมะติดปีก => ข้อความที่เริ่มโดย: sasita ที่ สิงหาคม 18, 2010, 10:50:19 am

หัวข้อ: ใครคือ แม่... ที่ประเสริฐที่สุดในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: sasita ที่ สิงหาคม 18, 2010, 10:50:19 am
     
(http://i.kapook.com/glitter/2010/th/07/T130710_11CE.gif)

  “ท่านครับ ใครเป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลกครับ?”
       
       “โยมว่าใครล่ะ?”
       
       “ผมว่าพระนางสิริมหามายาครับ”
       
       “ทำไมจึงเป็นพระนางสิริมหามายาล่ะ? “
       
       “เพราะพระนางทรงเป็นพระราชมารดาของพระพุทธเจ้าน่ะครับ”
       
       “เหตุผลแค่นี้หรือ?”
       
       “ผมคิดว่าแค่นี้ก็พอแล้วครับ เพราะถ้าไม่มีพระนางสิริมหามายา เราก็ไม่มีพระพุทธเจ้าน่ะสิครับ”
       
       “ถ้าโยมมีเหตุผลเพียงนี้ ก็ยากที่จะบอกได้ว่า พระนางสิริมหามายา เป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลก คนที่ไม่เลื่อมใสก็มีอยู่ คนเลื่อมใสแล้วก็มีอยู่ เมื่อฟังความเห็นของโยม อาจจะหมดศรัทธาก็ได้ เพราะคิดว่าโยมมีอคติในการยกย่องนี้”
       
       “อ้าว.. หลวงพ่อทำไมพูดเช่นนี้ล่ะครับ เราเป็นพุทธศาสนิกชน ก็ควรจะยกย่องพระนางสิริมหามายาสิครับ หลวงพ่อก็ยอมรับว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐในโลกไม่ใช่หรือครับ?”
       
       “โยม.. การยกย่องพระพุทธเจ้าเช่นนั้น เพราะว่าเราสามารถปฏิบัติตนให้ได้ผลตามคำสั่งสอนที่พระพุทธองค์ ทรงวางไว้เป็นหลักพุทธศาสนา สำนึกในความกตัญญูกตเวทีที่มีอยู่ในจิตใจของเรา อันเป็นผลจากการประพฤติตนตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ทำให้เราเห็นพระมหากรุณาธิคุณอันแผ่ไพศาล สามารถสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในมวลหมู่มนุษยชาติ นี่เป็นพระคุณในส่วนพระพุทธองค์นะ โยมต้องแยกให้ถูก”
       
       “แล้วทำไมหลวงพ่อจึงไม่ยอมรับว่าพระนางสิริมหามายา เป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลกล่ะครับ”
       
       “การจะยกย่องใครนั้น จะต้องกอปรด้วยเหตุผลที่ควรแก่ความศรัทธาของผู้ได้ฟัง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเคารพยกย่องโดยไม่มีความขัดแย้งใดๆ ถ้าเพียงเท่าที่โยมกล่าวมา ก็ไม่สามารถทำให้คนฟังเกิดศรัทธาได้ โยมควรศึกษาพุทธประวัติให้ละเอียด จะทำให้ได้เหตุผลที่พอจูงใจผู้ฟังเกิดความศรัทธาคล้อยตามความเห็นของโยมได้”
       
       “ถ้าเป็นหลวงพ่อ หลวงพ่อจะอธิบายว่าอย่างไรครับ?”
       
       “ใจเย็นๆ โยม... อาตมายังไม่ได้แสดงความเห็นใดเลยนะ ที่พูดมานี้เพื่อจะแนะนำให้โยมได้ใช้วิจารณญาณ ตรึกตรองพุทธประวัติให้มากขึ้น จะได้มีเหตุผลสนับสนุน ความเห็นของโยมไงล่ะ”
       
       “แล้วหลวงพ่อจะอธิบายอย่างไรล่ะครับ?”
       
       “อาตมาจำได้ว่า เมื่อครั้งที่พระบรมโพธิสัตว์จุติเป็นสันตุสิตเทวราช เสวยทิพยสมบัติอยู่ในรัตนวิมานสวรรค์ ชั้นดุสิตเทวโลก ในกาลที่ควรแก่การเสด็จลงมาจุติ ท้าวมหาพรหมและเหล่าเทวราชในสวรรค์ได้ไปกราบทูลอัญเชิญพระองค์ให้มาจุติยังมนุษยโลก เพื่อบำเพ็ญมหาบารมีเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย สันตุสิตเทวราชทรงพิจารณาถึงสิ่งสำคัญ ๕ ประการที่เรียกว่า ปัญจมหาวิโลกนะ ซึ่งได้แก่ ๑. กาลเวลา ๒. ทวีป ๓. ประเทศ ๔. ราชตระกูล ๕. พระมารดา
       
       ในที่นี้จะกล่าวเพียงเรื่องพระมารดาเท่านั้น พระองค์ได้พิจารณาด้วยทิพยญาณอันบริสุทธิไปในมนุษยโลก พบว่า พระนางสิริมหามายา ผู้เป็นพระมเหสีแห่งพระเจ้าสุทโธทนะ กรุงกบิลพัสดุ์ มีศีลและบารมีธรรมที่ได้ทรงอบรมบ่มบำเพ็ญสั่งสมมาเป็นเวลา ๑ อสงไขย และนับแต่นี้จะมีพระชนม์ชีพเหลืออีกเพียง ๑๐ เดือนกับอีก ๗ วัน ซึ่งสมควรเป็นพระมารดาได้ ทั้งจะมีพระชนม์สืบไปจากเวลาที่พระโอรสประสูติเพียง ๗ วัน สัตว์อื่นไม่อาจอาศัยคัพโภทร(ครรภ์)บังเกิดได้อีก อีกทั้งพระนางสิริมหามายาเทวีก็เป็นผู้รักษาเบญจศีลาจารวัตรอันบริสุทธิ์ พระองค์จึงทรงจุติมาในพระครรภ์ของพระนางสิริมหามายา และทรงประสูติในวันวิสาขบูชาปีนั้นนั่นเอง นี่เป็นเหตุผลเบื้องต้นนะ”
       
       “ยังมีอีกหรือครับเนี่ยะ”
       
       “ในเวสสันดรชาดก มีความตอนหนึ่งกล่าวถึงบุพกรรม ของพระนางสิริมหามายาไว้ว่า ในที่สุดแห่งกัปที่ ๙๑ นับแต่ภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า วิปัสสี เสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์ทรงประทับอยู่ ณ เขมมฤคทายวัน ในพันธุมดีนคร พระนางสิริมหามายาได้เกิดมาเป็นพระราชธิดาองค์โตของพระเจ้าพันธุมราช ผู้ครองพันธุมดีนคร พระนางได้นำแก่นจันทน์อันมีค่ามากที่ได้รับพระราชทานมาจากพระราชบิดามาบดจนละเอียดเป็นจุณและบรรจุในผอบทองคำ พระราชธิดาองค์เล็กทำมาลาปิดทรวงอกจากสุวรรณมาลาที่ได้รับพระราชทานมา แล้วนำไปทำการบูชาพุทธสรีระของพระพุทธเจ้าวิปัสสี ณ พระวิหารที่ประทับ ทั้งทรงโปรยจุณแก่นจันทน์ที่เหลือในพระคันธกุฎี ทำให้มีกลิ่นหอมไปทั่วอาราม
       
       เมื่อเสร็จกิจอันควรแก่การบูชาแล้ว พระนางได้นั่งพิจารณาพระวรกายของพระพุทธเจ้าวิปัสสี ด้วยความสุขในพระหฤทัยอันเกิดจากบุญที่ทรงกระทำแล้ว พระนางเกิดพระดำริขึ้นในพระหฤทัยว่าหญิงผู้เป็นพระมารดาของพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ ต้องเป็นหญิงงามและได้ลักษณะเบญจกัลยาณี ยิ่งกว่าหญิงใดๆในโลก จึงทำให้มีบุญได้เป็นพระมารดาของบุคคลผู้เลิศเช่นพระพุทธเจ้า เมื่อดำริเช่นนั้น แม้จะไม่เคยเห็นพระมารดาของพระพุทธเจ้าวิปัสสี มาก่อน ด้วยความเชื่อมั่นว่าพระพุทธมารดาต้องเป็นยอดแห่งอิตถีรัตนะ พระนางจึงตั้งความปรารถนาต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าวิปัสสีว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยบุญที่หม่อมฉันได้บูชาพระองค์ด้วยจุณแห่งแก่นจันทน์นี้ ขอให้หม่อมฉันได้เป็นพุทธมารดา ผู้เช่นพระมารดาของพระองค์ ในอนาคตกาลด้วยเถิด”
       
       พระพุทธเจ้าวิปัสสีทรงทำการอนุโมทนาแก่พระนางว่า “เธอทั้งสองได้ประดิษฐานการบูชาอันใดแก่เราในภพนี้ วิบากแห่งการบูชานั้น จงสำเร็จแก่เธอทั้งสองตามความปรารถนาที่ตั้งไว้อย่างดีแล้วเถิด” ราชธิดาทั้งสองได้ฟังพุทธพยากรณ์เช่นนั้น บังเกิดมหาปีติท่วมท้น ต่างตั้งใจสั่งสมบุญอย่างเต็มที่เรื่อยมา ครั้นเคลื่อนจากมนุษยโลกได้ไปบังเกิดในเทวโลก พระราชธิดาองค์โตเมื่อหมดกำลังบุญในเทวโลก ก็ได้ท่องเที่ยวอยู่ในมนุษยโลกพร้อมกับสร้างบารมี เพื่อเป็นพระมารดาของพระพุทธเจ้าตามที่ตั้งปรารถนาไว้ พระนางท่องเที่ยวอยู่ในสองภพภูมิเป็นเวลายาวนาน มาภพชาตินี้พระนางได้เป็นพุทธมารดา มีพระนามว่า พระนางสิริมหามายา สมดังความปรารถนาทุกประการ นี่คือเหตุผลที่สำคัญของการเป็นพุทธมารดานะ”
       
       “แล้วหลวงพ่อยอมรับว่าพระนางสิริมหามายา เป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลกได้หรือยังครับ”
       
       “โยม.. แม่ของผู้เป็นศาสดาในแต่ละลัทธิศาสนา ก็มีความสำคัญต่อศาสนิกชนเหมือนกับที่โยมคิดนะ โยมไม่คิดบ้างหรือว่า พระแม่มารีอา พระมารดาของพระเยซู ก็เป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลกได้”
       
       “ผมไม่ได้คิดเช่นนั้นเลยครับ”
       
       “นี่ไง.. ที่อาตมาพูดว่าโยมจะถูกว่าเป็นคนมีอคติ ลำเอียงเพราะรักใคร่ ชอบเป็นการเฉพาะได้”
       
       “หลวงพ่อมีเหตุผลอะไรมาแย้งผมอีกล่ะครับ”
       
       “ไม่ได้แย้งหรอก เพียงแต่ชวนให้โยมได้คิดกว้างขวาง ออกไป คนที่ไม่นับถือพระพุทธเจ้าก็อาจจะกล่าวว่า พระนางสิริมหามายาสวรรคตไปตั้งแต่เจ้าชายสิทธัตถะพระชนมายุได้ ๗ วัน ไม่ได้มีส่วนในการถวายอภิบาลเจ้าชายเลย พระนางมหาปชาบดี พระน้านางต่างหากที่เป็นผู้เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเจ้าชายมา จนสามารถบำเพ็ญบารมีได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
       
       สู้พระแม่มารีอาไม่ได้ ที่ได้อบรมเลี้ยงดูพระเยซูจนเติบใหญ่ สามารถศึกษาธรรมจนมีผู้เลื่อมใสนับถือเป็นศาสดา พระแม่มารีอาได้เห็นการเกิดและการตายของพระเยซู ได้ทำหน้าที่มารดามากกว่าพระนางสิริมหามายาเสียอีก โยมจะตอบเขาว่าอย่างไรล่ะ?”
       
       “ไม่เกี่ยวกันครับหลวงพ่อ เขาว่าพระแม่มารีอา เป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลก ก็ช่างเขา ผมก็ยืนยันว่า พระนางสิริมหามายา เป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลกเหมือนเดิม”
       
       “โยม..พระนางสิริมหามายา พุทธมารดา ผู้สวรรคตเมื่อพระโอรสอายุได้ ๗ วัน, พระแม่มารีอา มารดาแห่งพระเยซู ผู้อยู่ดูแลจนพระเยซูสิ้นพระชนม์, พระแม่อะมีนะฮฺ มารดาของท่านนบีมูฮัมหมัด ผู้ถึงแก่กรรมเมื่อบุตรอายุได้ ๖ ปี, หรือมารดาของคุรุทั้ง ๑๐ ของซิกข์ ใครเป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลก?”
       
       “อ้าว..หลวงพ่อถามอย่างนี้ ผมจะตอบอย่างไรล่ะครับ”
       
       “แล้วโยมรู้หรือยังว่าใครเป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลก?”
       
       “ยังครับ.. หลวงพ่อทำผมสับสนไปหมดแล้วครับ”
       
       “ที่อาตมายกมารดาของศาสดาในแต่ละศาสนามากล่าว ก็เพื่อบอกให้รู้ว่า แม่ของเราเป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุด ในโลก โยมจะเถียงไหม?”
       
       “ทำไมกล่าวอย่างนี้ล่ะครับ”
       
       “โยมคิดดูเถิดว่า ที่โยมได้มานั่งคุยกับอาตมานี้ได้ เพราะใครเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนมา”
       
       “แม่ผมครับ”
       
       “แล้วตอนนี้โยมจะบอกได้หรือยังว่าใครเป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลก?”
       
       “ได้แล้วครับ ผมไม่กล้าแย้งหลวงพ่อเลย แม่ผมก็ต้องเป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลก แม่ของหลวงพ่อก็เป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลก? บอกใครๆในโลก ก็ไม่มีใครแย้งหรอกครับ เขากลับจะยกย่องอีกว่าเป็นคนมีกตัญญูกตเวที”
       
       “เมื่อรู้ว่าแม่ของตนเป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลกโยมเคยทำคุณตอบแทนท่านบ้างไหม?”
       
       “ทำครับ ผมทำตามหน้าที่ที่บุตรพึงต่อพ่อแม่ครับ เอาตามทิศ ๖ เลยครับ ที่ว่า ๑. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ ๒. ช่วยทำธุรกิจการงานของท่าน ๓. ดำรงวงศ์สกุล ๔. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท ๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน ทำทุกวันเลยครับ”
       
       “โยมโชคดีมากนะที่ได้อุปถัมภ์พ่อแม่ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ พระพุทธเจ้าท่านต้องใช้พุทธานุภาพเสด็จไปโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ พระสารีบุตร ต้องใช้เวลาสุดท้ายของชีวิตไปโปรดมารดาให้มีความคิดเห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม พระโมคคัลลานะต้องไปโปรดมารดาในนรก และยังอีกหลายองค์นะ คิดดูซิโยม ทุกท่านนั้นต้องบำเพ็ญบารมีมากเพียงใดจึงสามารถแทน คุณมารดาบิดาได้ปานนั้น”
       
       “จริงครับหลวงพ่อ ลมหายใจช่วงสุดท้ายบั้นปลายชีวิตของพ่อแม่ผม ผมต้องทำให้ท่านสุขสราญใจไปตลอด จนถึงที่สุดครับ”
       
       “ดีแล้วโยม แม่ที่ทำหน้าที่แม่อย่างสมบูรณ์ ก็ควรได้รับผลของการทำหน้าที่แม่ตอบแทนจากบุตรผู้ประเสริฐ แม่ที่ไม่ได้ทำหน้าที่แม่ ยามแก่เฒ่าชราลงก็ต้องรับวิบากกรรมชั่วของตนให้อยู่แบบลำบาก เต็มไปด้วยทุกข์สารพัด ลูกที่ได้บุญคุณจากแม่ แต่ไม่เหลียวแลตอบแทนคุณท่าน ก็ได้รับวิบากกรรมชั่วมากกว่าหลายเท่า ทั้งได้รับการรังเกียจจากสังคม ได้รับการไม่แทนคุณของลูกตน ก็ต้องทนมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างทุกข์ทรมาน นี่ล่ะกรรมของคน ที่ไม่มีใครแก้ไขได้เลย”
       
       “ขอบพระคุณหลวงพ่อมากนะครับ ที่ช่วยให้ผมได้ตระหนักว่า แม่ของผมเป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุดในโลก”
       
       “โยมมีสิ่งที่ประเสริฐอยู่ในบ้าน ต้องหมั่นดูแลกราบไหว้อยู่เสมอนะ ก่อนจะมากราบไหว้อาตมาหรือพระที่วัด ควรจะกราบไหว้พระอรหันต์เจ้าชีวิตที่บ้านก่อนทุกเช้าค่ำ ดูแลปรนนิบัติท่านตามกำลังสามารถ อย่าให้ท่านมีความ ทุกข์ตรอมตรมใจเลย ครานี้ไปวัดไหนไหว้พระพุทธหรือ พระสงฆ์ ก็จะมีความรู้สึกมั่นคง มีอานิสงส์มาก หน้าตาก็ผ่องใส มีความสุข เป็นมหานิยมของสังคมได้เลย”
       
       “จริงหรือครับหลวงพ่อ”
       
       “จริงซิ ถ้าโยมทำได้อย่างที่อาตมาพูดนี่ โยมได้รับผลอานิสงส์หมดเลย”
       
       “เพราะอะไรครับ?”
       
       “เพราะทุกคนที่รู้จักกับโยม ล้วนต้องรู้ถึงคุณงามความดีที่เกิดจากความกตัญญูกตเวทีของโยม ทุกคนก็ยอมรับโดยสนิทใจว่าโยมเป็นลูกที่ดีของแม่พ่อ โยมต้องไม่ทำความชั่วให้ท่านทุกข์ใจ โยมต้องทำแต่ความดีให้ท่านสุขใจ พ่อแม่ของโยมจึงผ่องใสแช่มชื่นได้ตลอดเวลา ทุกคนต่างยอมรับโยมว่าเป็นคนดีของสังคม สมดังคำที่ว่า ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี นะ”
       
       “ขอบพระคุณหลวงพ่อมากครับ ได้เวลาต้องลากลับไปทำกิจของตนแล้วครับ ขอกราบลาก่อนนะครับ”
       
       “ขออนุโมทนากับโยมด้วยนะ ที่มีแม่เป็นคนที่ประเสริฐที่สุดในโลก เจริญพร”
       
       (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 117 สิงหาคม 2553 โดย พระพจนารถ ปภาโส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม)

 
หัวข้อ: Re: ใครคือ แม่... ที่ประเสริฐที่สุดในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ สิงหาคม 18, 2010, 01:47:46 pm
:13: หลายๆคนตามหาพระอรหัตน์ ตามหาจนตลอดชีวิตก็ไม่เจอสักทีเพื่อให้เราได้บรรลุธรรมนั้น
แต่บางท่านก็ลืมไปว่า พระอรหัตน์อยู่กับเราตลอดเวลาแล้ว คุณพ่อ คุณแม่ และผู้มีพระคุณที่ดูแลเรา คือพระอรหัตน์ที่เราสมควรกราบว่าบูชาก่อนอรหันต์ใดๆในโลกครับ

อนุโมทนาครับผม ขอบคุณครับพี่แป้ง
หัวข้อ: Re: ใครคือ แม่... ที่ประเสริฐที่สุดในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมรักษ์ ที่ สิงหาคม 19, 2010, 12:50:28 am
ผู้ให้ชีวิต ให้การศึกษา ให้ธรรมะ ใหุ้คุณธรรม ให้เราเป็นคนอย่างสมภาคภูมิ
สิ่งตอบแทนคืออะไร ท่านไม่รู้ ท่านไม่ต้องการ

ท่านต้องการเห็นเราเป็นคนดีในสังคมไทย และพัฒนาสังคมไทยให้ดำรงต่อไปด้วยความดี

เงินมหาศาลหรือคำกล่าวใดๆจะให้เอ่อล้นขอบสมุทรมหานทีสีฑัณดร ก็เทียบไม่ได้กับ

น้ำใจของแม่ หญิงผู้เข้มแข็งที่สุด ในชีวิตผม :13:
หัวข้อ: Re: ใครคือ แม่... ที่ประเสริฐที่สุดในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ สิงหาคม 19, 2010, 05:56:31 am
:27:
 :13:   :19:   :13:

เคยอ่านเจอที่ว่าพระอรหันต์ สวมเสื้อคลุมกลับข้าง
เพราะรีบมาเปิดประตูรับลูก
ที่เค้าไปตามหาพระอรหันต์นอกบ้านน่ะค่ะ..

ขอบคุณน้องแป้งมากมายนะคะ.. สำหรับการแบ่งปัน..
 :13:   :19:   :13:

อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะ...
 :45: :45: :45:
หัวข้อ: Re: ใครคือ แม่... ที่ประเสริฐที่สุดในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ สิงหาคม 19, 2010, 06:17:45 am

(http://www.bloggang.com/data/0518/picture/1234862786.jpg)

คำสอน..ของแม่


(http://www.mobileapples.com/Assets/Content/Wallpapers/Babygirl.jpg)

เสียงที่เคยได้ฟังยังคงอยู่
เฝ้าอุ้มชูเลี้ยงดูมิรู้หน่าย
คอยฟูมฟักด้วยรักลูกมากมาย
มิท้อใจขอให้ลูกได้ดี


(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:HH71QV2O5PtRSM)

ความฉลาดแม่อาจวาดไม่ได้
ลูกต้องใช้หัวใจใส่แต้มสี
ประสบการณ์ก้าวผ่านเนิ่นนานมี
ทางวิถีแห่งชีวีที่มีมา


(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:O30z1_xrNlDDkM)

แม่อยากให้ใจลูกคิดถูกต้อง
จงไตร่ตรองพิศมองผองปัญหา
ทางสายกลางคือทางสร้างปัญญา
รักศรัทธาความดีที่เจ้าทำ

(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:cPll7DCfb-VLbM:http://www.desicomments.com/dc1/01/71914/71914.jpg)

เมื่อลูกเห็นใครลำเค็ญอย่าเข่นข้อง
เข้าทำนองไม้ล้มก้มเหยียบย่ำ
เฝ้าคิดร้ายกับใครไม่ควรทำ
ลูกจงจำถ้อยคำแม่ย้ำเตือน


(http://farm1.static.flickr.com/127/412336658_3201354e01_m.jpg)

จงก้าวเดินเผชิญจิตลองผิดถูก
เมื่อคิดผูกต้องลุกกระตุกเงื่อน
ด้วยตัวเราเท่านั้นอย่าฟั่นเฟือน
หากเลอะเลือน เงื่อนตายได้อายตัว


(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ByOrlpkjooOWFM)

จงเรียนรู้สร้างทางอย่างอดกลั้น
มิหวาดหวั่นวิตกอกสลัว     
ใช้สมองตรองพิศอย่าคิดกลัว
ดีหรือชั่วตัวเราย่อมเข้าใจ


(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:sWR_W-bqaEpBnM:http://www.babydon.com/wp-content/uploads/2009/03/baby19.jpg)

ลูกมีสิทธิ์ คิดฝันทุกวันวี่
แต้มชีวีสีสันอันสดใส
แม้นไม่อาจวาดฝันได้ทันใด
สู้ต่อไปอย่าแพ้แก่ใจตน   


(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:4vtKEsMhKfJDOM)

ยามใดสุขเผื่อทุกข์เข้าปลุกปลอบ
นี่คือกรอบครอบใจได้ทุกหน
ทางชีวิตลิขิตวางอย่างแยบยล
เพื่อหลุดพ้นกิเลสทุกเภทภัย


(http://files.myopera.com/kasrafr/albums/782727/thumbs/7504_Cute_Baby_Girl_4.jpg_thumb.jpg)

           แม่อยากให้ยิ้มไว้ทั่วใบหน้า             
ใครว่าบ้าอย่างงและสงสัย     
        ยิ้มชื่นบานยิ้มได้ไม่อายใคร       
ยิ้มสดใสนำชีวิตจิตเบิกบาน


(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:2H3F70pQsp7kXM:http://s4.hubimg.com/u/274187_f520.jpg)

มีสิ่งหนึ่งพึงจำในคำแม่
ความจริงแท้แน่วแน่ไม่แปรผัน
พูดโกหกเหมือนตกนรกพลัน
ทุกข์อนันต์มหันต์ภัยดั่งไฟฟอน


(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:IFDQ-3A7S7HKIM:http://www.baby-pictures.org/wp-content/uploads/2009/07/Cute-Muslim-Baby-Girl1-480x358.jpg)

กำลังใจแม่ให้ไม่มีหมด
มิเลี้ยวลดจำจดทุกบทสอน
พระคุณแม่จริงแท้และแน่นอน
ประนมกรอ่อนแนบแทบเท้าเอย


โดย... เทียนหยด


(http://www.buddhapoem.com/images/wbques_1251349973/__MamaFootWai%20452.jpg)


(http://submitresponse.co.uk/tumble/wp-content/uploads/2008/12/monkey-3.jpg)
 :14:  ถ้าทำดีไม่ได้ก็อายลิง...

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem127773.html (http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem127773.html)
หัวข้อ: Re: ใครคือ แม่... ที่ประเสริฐที่สุดในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ สิงหาคม 09, 2011, 07:17:14 pm


(http://i.kapook.com/glitter/2011/th/08/T020811_08CC.gif)

 :12:  :06:

หัวข้อ: Re: ใครคือ แม่... ที่ประเสริฐที่สุดในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ฐิตา ที่ สิงหาคม 11, 2011, 01:14:39 pm

(http://image.ohozaa.com/i/841/eLGFx.gif)

(http://www.bloggang.com/data/youaremyworld/picture/1223569510.gif)

(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTr_Oe30z9U9saE5oYh3q99wKXZOoxd1XtZ_KgVyypRr5ISNGLiRg)