ใต้ร่มธรรม
คลังธรรมปัญญา => หนอนหนังสือ => หนังสือสร้างกำลังใจ => ข้อความที่เริ่มโดย: แปดคิว ที่ สิงหาคม 19, 2010, 08:40:00 pm
-
หนุ่มขี้เหงาเดินทางไปหาทางเอาชนะความเหงากลางป่า พบชายลึกลับคนหนึ่ง บทสนทนาจึงเริ่มขึ้น
คุณเป็นใคร?
“ผมเหรอ… ขออนุญาตยักไหล่ทีนึง… เป็นแค่อีกคนที่จะต้องตายไป”
ชอบคิดชอบพูดเรื่องตายๆบ่อยหรือ?
“ผมถูกสอนให้คิดถึงความตายบ่อยๆ และถึงแม้จะไม่ใช่สัปเหร่อ ผมก็ได้เห็นความจริงที่ต้องยอมรับบ่อยๆ”
ถ้าศรัทธาความตายนัก จะเลี้ยงชีวิตไว้ทำไม?
“เพราะผมถูกสอนให้เตรียมตัวตายด้วยการมีชีวิตที่ดีที่สุด”
การมีชีวิตที่ดีที่สุดคืออะไร?
“มีขันติในการงดกรรมชั่ว มีความอุตสาหะในการเพิ่มกรรมดี มีความเข้าใจเส้นทางพ้นทุกข์”
ความรู้เรื่องกรรมวิบากทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร?
“ทำให้เห็นว่าผมตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกับคนอื่น ความเห็นนั้นแหละที่ทำให้แตกต่างจากคนอื่น”
แปลว่าคนที่รู้เรื่องกฎแห่งกรรมวิบากสูงส่งกว่าคนอื่นหรือเปล่า?
“ผมไม่ได้ถูกสอนเรื่องกรรมวิบากอย่างเดียว ผมถูกสอนให้มีสติแม้ขณะกำลังนั่งส้วม และจากการมีสติตอนนั่งส้วมบ่อยๆ ก็ทำให้ผมพบความจริงว่าตัวเองไม่ได้สูงส่งกว่าคนอื่นเลยจนนิดเดียว”
ถ้าวันหนึ่งคุณเดินเข้าห้องนอนแล้วเจอแบบว่าขาวสวยหมวยอึ๋มนอนแก้ผ้ารออยู่ คุณจะทำยังไง?
“ผมจะถามเธอว่าเข้าห้องผิดหรือเปล่า ถ้าเธอตอบว่าไม่ผิด ผมจะถามว่าอย่างนั้นเธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”
เสร็จแล้วคุณจะยอมให้เธออยู่ในห้องต่อหรือว่าไล่เธอออกจากห้อง?
“ผมไม่ชอบทำให้ใครเขิน ถ้าต้องทำก็จะเลือกให้เขาเขินน้อยที่สุด เพราะฉะนั้นผมจะเป็นฝ่ายเดินออกจากห้องเอง”
อือม์… จิตใจคุณสูงส่งมากว่างั้นเถอะ?
“เปล่าเลย… ผมรู้ตัวดีว่าเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่ถูกสอนให้กลัวความเดือดร้อนจากการก่อเรื่องด้วยความไม่รู้ ถ้าเรื่องสมมุติของคุณเป็นความจริง คุณนึกว่าผู้หญิงเขาไม่ต้องมีเหตุผลที่น่าระแวงอยู่เบื้องหลังบ้างหรือ?”
เหงาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?
“นานแล้ว ตอนยังไม่ทราบวิธีอยู่กับตัวเองด้วยจิตใจที่เบิกบาน”
มันทำกันได้ด้วยเหรออย่างนั้นน่ะ?
“คุณอยากให้เกิดอะไรขึ้นก็มีวิธีทั้งนั้นแหละ ใครจะทราบหรือไม่ทราบวิธีเท่านั้น”
อ้ะ! ไหนบอกวิธีแบบสั้นที่สุด ง่ายที่สุดซิ
“รู้”
หือ? รู้อะไร?
“มีอะไรให้รู้ก็รู้”
ไม่เข้าใจ
“คุณต้องการวิธีง่ายๆ ใช้คำสั้นๆ ผมก็ตอบให้ตามต้องการไง แล้วในที่สุดคุณก็พบใช่ไหมว่ามันเป็นไปไม่ได้ คนเราชอบนึกว่าการเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตอาศัยคำเพียงไม่กี่คำ”
เอาล่ะ! อย่างนั้นขอคำอธิบายแบบละเอียดๆก็ได้
“ตอนเหงา คุณมีความเหงาให้รู้ ตอนฟุ้งซ่าน คุณมีความฟุ้งซ่านให้รู้ เมื่อคุณรู้อาการใดของจิต อาการนั้นจะหายไปให้ดูเหมือนพยับแดด”
ถ้ารู้ความเหงา รู้ความฟุ้งซ่าน แล้วมันไม่หายเหงา ไม่หายฟุ้งซ่านล่ะจะทำยังไง?
“ก็แปลว่าคุณต้องทำตามขั้นตอนแบบไม่ก้าวกระโดด”
โอเค! ไม่กระโดดก็ได้ ก้าวแรกทำยังไง?
“ผมถูกสอนให้เห็น ว่าขณะนี้ลมหายใจกำลังเป็นอย่างไร ถ้าบอกตัวเองเงียบๆได้ถูกว่าเข้าหรือออก จิตจะเลิกมองไปข้างหลัง ไม่หวังไปข้างหน้า หันมาอยู่กับปัจจุบันจริงๆ”
ต้องรู้ลมหายใจแค่ไหนถึงจะพร้อมรู้อย่างอื่น?
“จิตคุณจะบอก ไม่ใช่ผมบอก”
ถ้านานเป็นปีๆคงท้อเสียก่อนแน่
“ถ้ารู้บ้างพักบ้างสบายๆแบบไม่คาดหวังผล คุณจะเป็นคนมีความสุขทางใจที่ได้เป็นตัวของตัวเองเฉพาะหน้าไปเรื่อยๆ คนเราต้องท้อที่จะมีความสุขทางใจไปเรื่อยๆด้วยหรือ?”
พอรู้ลมหายใจจนมีความสุขทางใจจะให้ทำอะไรต่อ?
“รู้ความสุข มองตามจริงว่าความสุขไม่เที่ยง เดี๋ยวสุขมาก เดี๋ยวสุขน้อย แล้วแปรเป็นทุกข์น้อยบ้าง ทุกข์มากบ้าง มันขึ้นอยู่กับว่าใจคุณตั้งอยู่กับเหตุแห่งสุขหรือเหตุแห่งทุกข์”
พอเห็นชัดว่าสุขทุกข์ไม่เที่ยงจะให้ทำอะไรต่อ?
“นั่นแหละ คุณพร้อมจะรู้จักวิธีใช้ชีวิตอย่างไม่เหงาแล้ว พอเหงาก็รู้ว่าเหงา พอฟุ้งซ่านก็รู้ว่าฟุ้งซ่าน เมื่อจิตตื่นรู้ตลอดเวลา คุณจะไม่อ่อนแอแล้วแช่จมอยู่กับอาการชั่วคราวใดๆของจิต แต่จะเห็นมันเหมือนลมหายใจ เห็นมันเหมือนสุขทุกข์ ที่เกิดขึ้นด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วต้องดับลงเป็นธรรมดา”
ความฟุ้งซ่านต้องมีเหตุด้วยหรือ? เห็นแต่ว่าอยู่ดีๆมันก็ฟุ้ง
“คุณไม่ได้อยู่ ‘ดี’ จริงน่ะซี คุณอยู่เฉื่อยๆเรื่อยเปื่อยแบบขาดสติ เป็นการใช้ชีวิตอยู่อย่าง ‘ไม่ดี’ ต่างหาก เหตุคือความขาดสตินั้นแหละทำให้ฟุ้งซ่าน”
โอย! แค่ฟังก็เหนื่อยแล้ว แปลว่าต้องพยายามมีสติไปจนชั่วชีวิตหรือนี่?
“ไม่หรอก การปฏิบัติอย่างนี้จะนำไปสู่ชีวิตใหม่ที่คุณไม่รู้จัก ถ้าฝึกมีสติไปเรื่อยๆ คุณจะฝืนพยายามน้อยลงเรื่อยๆจนเป็นอัตโนมัติ แล้วในที่สุดคุณจะมีสติโดยไม่ต้องตั้งสติ”
จุดหมายสูงสุดของการปฏิบัติแบบนี้คืออะไร?
“ที่สุดทุกข์”
เอาอะไรวัด?
“ไม่เป็นทุกข์ทางใจอีก”
หมายถึงพระนิพพาน?
“ใช่”
ฉะนั้นควรหวังพระนิพพานเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติใช่ไหม?
“ผมถูกสอนให้ ‘รู้จัก’ พระนิพพานเพื่อความ ‘เข้าใจ’ จุดหมายปลายทาง แต่ไม่ได้ถูกสอนให้หวังว่าจะต้องถึงซึ่งนิพพานเมื่อนั่นเมื่อนี่”
ใครสอนคุณ?
“ผู้ก่อตั้งพระพุทธศาสนา สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้านามว่าพระโคดม”
ถ้ายังต้องทุกข์
อย่างไรก็เป็นแค่คนธรรมดาอีกคนหนึ่ง
ถ้าดับทุกข์ได้
อย่างไรก็เป็นแค่อีกคนหนึ่งที่จะต้องตายไป
http://dungtrin.com/empty2/03.htm
-
ถ้ายังต้องทุกข์
อย่างไรก็เป็นแค่คนธรรมดาอีกคนหนึ่ง
ถ้าดับทุกข์ได้
อย่างไรก็เป็นแค่อีกคนหนึ่งที่จะต้องตายไป
:07: :07: :07: :07:
ขอบคุณงับคุงพ่อป๋า8ขา :12:
-
ต้องรู้ลมหายใจแค่ไหนถึงจะพร้อมรู้อย่างอื่น?
“จิตคุณจะบอก ไม่ใช่ผมบอก”
ผมชอบวลีนี้ครับ ขอบคุณครับพี่แทน อนุโมทนาครับ
-
:06:
i^-^ รู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของตัวเอง
-
อนุโมทนาสาธุค่ะลุงแทนแสนดี :13:
:06:
i^-^ รู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของตัวเอง
เรื่องตัวเองต้องไปถามคนอื่น เค้ารู้ดี อะจ๊ากก... จะไปอยากรู้เรื่องชาวบ้านเค้าทำไมเนี่ยย
-
เรื่องตัวเองต้องไปถามคนอื่น เค้ารู้ดี อะจ๊ากก... จะไปอยากรู้เรื่องชาวบ้านเค้าทำไมเนี่ยย
:47: นั่นแหละ เมื่อวานช่วงบ่าย เกิดอาการเบื่อ ๆ เลยแอบหนีงาน
ไปขับรถเล่นแล้วก็แวะเดินที่เซ็นทรัลจนเย็นเลย วันนี้ก็กลับสู่สภาพเดิม
ยอมรับสภาพความวุ่นวายกับงานต่อ เฮ่ออออ....ตั้งสติเริ่มตั้งใจทำงานอีกรอบ
สู้ๆ นะคะพี่ลิ แป้งยังไม่เคยเห็นพี่บ่นเบื่องานเบื่อชีวิตซักที
อาจจะเป็นเพราะ สติสตังส์ ยังครบบริบูรณ์ พร้อมรับทุกอย่างได้มั้งนะ
ข้าน้อยขอคารวะจริงๆ เลย นับถือ ๆ
-
(http://www.tairomdham.net/../../Smileys/default/47.gif) นั่นแหละ เมื่อวานช่วงบ่าย เกิดอาการเบื่อ ๆ เลยแอบหนีงาน
ไปขับรถเล่นแล้วก็แวะเดินที่เซ็นทรัลจนเย็นเลย วันนี้ก็กลับสู่สภาพเดิม
ยอมรับสภาพความวุ่นวายกับงานต่อ เฮ่ออออ....ตั้งสติเริ่มตั้งใจทำงานอีกรอบ
สู้ๆ นะคะพี่ลิ แป้งยังไม่เคยเห็นพี่บ่นเบื่องานเบื่อชีวิตซักที
อาจจะเป็นเพราะ สติสตังส์ ยังครบบริบูรณ์ พร้อมรับทุกอย่างได้มั้งนะ
ข้าน้อยขอคารวะจริงๆ เลย นับถือ ๆ
:06: พี่มะลิเค้าเบื่อจนชินแล้วครับพี่แป้ง เวลาทำอะไรชินๆก็จะไม่เบื่อ ประมาณนั้นครับ ใช่เปล่าฮะพี่มะลิสุดสวย :13: