ใต้ร่มธรรม
แสงธรรมนำใจ => ใต้ร่มบารมี สดุดีราชัน => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊กซ ที่ ตุลาคม 20, 2016, 12:53:08 pm
-
(http://media.komchadluek.net/img/size1/2016/10/16/i8eab78bjak7jchbk6bca.jpg)
"กษัตริย์จิกมี" ยก ร.9 "ผู้เป็นดั่งอัญมณีล้ำค่า"
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ทรงยกย่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช "กษัตริย์ผู้มีสายพระเนตรอันยาวไกล-เป็นดั่งอัญมณีล้ำค่าสูงสุด"
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เสด็จพระ ราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก เข้าถวายความอาลัยและถวายพวงมาลาพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พร้อมกันนี้ทั้งสองพระองค์ยังได้เสด็จฯ ไปลงพระนามและทรงเขียนข้อความถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
(http://media.komchadluek.net/img/size1/2016/10/16/hhb67je6bc9baidi8ekba1.jpg)
(http://media.komchadluek.net/img/size1/2016/10/16/hhb67je6bc9baidi8ekba2.jpg)
ความว่า แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ผู้มีสายพระเนตรอันยาวไกลอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เปรียบดุจอัญมณีอันล้ำค่าที่สุด เกล้ากระหม่อมขอถวายความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อพระมหากษัตริย์ผู้เข้าถึงปรินิพพาน ขอตั้งจิตภาวนาด้วยความมุ่งมั่น ขอให้พระองค์ทรงจุติเป็นธรรมราชาตลอดไป เพื่อประโยชน์ของสรรพสิ่งทั้งมวล (To the Incomparable, Visionary and Most Precious Jewel King, the King of Thailand, who attained Parinirvana, I would like to offer my deepest respect, and my heartfelt prayers. May Your Majesty always be born as Dharma Raja, to the benefit of all sentient beings.) ณ ห้องแดง ภายในพระบรมมหาราชวังด้วย กระทั่งเวลา 10.17 น. จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ
(http://media.komchadluek.net/img/size1/2016/10/16/bge7a9jbiabd8fdh8k5hg.jpg)
(http://media.komchadluek.net/img/size1/2016/10/16/gkb6a5fjece6gig7bc5fj.jpg)
(http://media.komchadluek.net/img/size1/2016/10/16/fc9b78d9gi5g6ib8c55ag.jpg)
(http://media.komchadluek.net/img/size1/2016/10/16/7iehk7fhji75ai85ba9i5.jpg)
(http://media.komchadluek.net/img/size1/2016/10/16/a9idgegaeaai8ajgb9kab.jpg)
จาก http://www.komchadluek.net/news/royal/246163 (http://www.komchadluek.net/news/royal/246163)
https://www.youtube.com/v/7_jIm4vYqJA
https://www.youtube.com/v/QWeeWX14Lls
https://www.youtube.com/v/MPQLWR8PndE
https://www.youtube.com/v/AGrEqajMbqU
https://www.youtube.com/v/MYlAroXGGEE
https://www.youtube.com/v/rNVeKjAjxt0
https://www.youtube.com/v/yW7iyeFpaZg
-
รายงานพิเศษ : สุขแบบภูฏานด้วยเศรษฐกิจพอเพียง เยี่ยงแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
(http://www.siamrath.co.th/files/styles/750/public/img/20161017/23da86a0efbd6a11d7b5e2b6fac1bb5b6b2461647c0e68ecb579a657a97a3004.jpg?itok=oKm3XWYM)
ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัฒน์ การพัฒนาทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ทำให้มนุษย์มุ่งไปสู่การเสาะแสวงหาความสุขทางวัตถุมากขึ้น แต่ในเมื่อทรัพยากรนั้นมีอยู่อย่างจำกัด กับประชากรโลก กว่า7 พันล้านคน คงไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของทุกคนให้ถึงจุดที่สุขสูงสุดได้ ไม่นับความต้องการที่ไม่สิ้นสุด ประหนึ่งคนที่ไม่เคยพอใจกับปัจจุบัน เมื่อมีก็อยากมีมากกว่า เมื่อได้ใหม่มาก็ยังอยากได้ที่ใหม่กว่าอีก
ความเจริญทางเศรษฐกิจจะอาจจะวัดด้วยดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (Gross Domestic Product: GDP) นั่นทำให้ทุกคนต้องแก่งแย่งแข่งขัน เพื่อให้ได้เป็นผู้ชนะ หรือได้ยืนอยู่ในจุดที่ได้เปรียบในระบอบทุนนิยม แต่ในที่นี้ เราไม่ได้จะมาตำหนิ หรือชี้นำให้หันหลังแก่ระบบของโลก หากแต่ยังมีอีกความสุขหนึ่งที่เป็นความสุขทางจิตใจ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคา เป็นความสุขที่เรียกว่า “สุขอย่างพอเพียง”
(http://www.siamrath.co.th/files/styles/750/public/img/20161017/a04ac70b7d5322333628e481f9ea569a77a5353032ee3baa107825dc043357a9.jpg?itok=Bgq1VfH3)
ในปี พ.ศ. 2515 สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก กษัตริย์ลำดับที่ 4 แห่งราชวงศ์วังชุก ผู้ปกครองประเทศภูฎาน ทรงประดิษฐ์วลีที่แสดงความมุ่งมั่นในการสร้างเศรษฐกิจบนวัฒนธรรมที่มีพื้นฐานของคุณค่าจิตวิญญาณทางพุทธ แทนที่ค่านิยมการพัฒนาแบบตะวันตก เรียกสิ่งนั้นว่า “ดัชนีความสุขมวลรวมประชาชาติ” (Gross National Happiness: GNH) ซึ่งปัจจุบันนี้แนวความคิดนี้ก็ได้แพร่หลายออกไปทั่วโลก
แนวคิดจีเอ็นเอช ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการเคลื่อนไหวด้านความสุขสมัยใหม่ผ่านผลงานของนักการศึกษา นักการเมือง และนักเศรษฐศาสตร์ทั้งในโลกตะวันตก และตะวันออกมากมาย จนในเดือน ก.ค. 2554 สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ได้ผ่านมติที่ 65/309 โดยที่ประชุมสมัชชาทั่วไปให้ “ความสุข” เป็นหัวข้อหนึ่งของการพัฒนาโลก โดยปรัชญาของจีเอ็นเอช ประกอบด้วย 4 เสาหลักได้แก่ การพัฒนาอย่างยั่งยืน การสงวนรักษา และส่งเสริมซึ่งคุณค่าทางวัฒนธรรม การอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และการมีธรรมภิบาล
ที่จริงแล้วแนวคิดจีเอ็นเอช ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสำหรับสังคมไทย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงพระราชทานแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” ให้เป็นปรัชญาในการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาเป็นเวลานานแล้ว
โดย สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์ภูฏาน รัชกาลที่ 5 รัชกาลปัจจุบัน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน ได้เสด็จมาร่วมพิธีเฉลิมฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และได้พระราชทานสัมภาษณ์ชื่นชมพระราชดำริ แนวทางที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ใช้ในการพัฒนาประเทศ ซึ่งทรงตรัสว่า จะยึดถือแนวทางนี้เป็นแบบอย่างในการเจริญรอยตาม เช่นเดียวกับแนวทางของพระราชบิดาในการพัฒนาราชอาณาจักรภูฏาน
ทั้งนี้ ประเทศภูฏานได้ก้าวไปสู่ขั้นตอนที่สำคัญตั้งแต่ต้นปี 2543 ในการที่จะกำหนด อธิบายและวัดความสุขมวลรวมประชาชาติ เพื่อที่จะแปลงปรัชญานี้ไปสู่การปฏิบัติจริง และพัฒนาแนวทางที่ชัดเจน ที่สามารถนำไปใช้ได้ในระดับประเทศ ภาคธุรกิจ ชุมชนและระดับบุคคล ซึ่งในปี 2556 ได้มีการก่อตั้ง ศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติภูฏาน ขึ้น
(http://www.siamrath.co.th/files/styles/750/public/img/20161017/3d2fc24fdec7b5af4ccbe45cdc30ebc0987b52d38ec7f6b8c39266ffb6758189.jpg?itok=Z7d3_bVW)
ดร.ฮาวิน โต (ซ้าย)เจ้าหญิง อาชิ เคเซง โชเดน วังชุก (กลาง)มร.ฮาราลด์ ลิงค์ (ขวา)
ดร.ฮาวิน โต ผู้อำนวยการศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติ ประเทศภูฏาน กล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าวมีขึ้นเพื่อทำนุบำรุง และสืบทอดราชสมบัติรุ่นที่ 4ใน สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก กษัตริย์รัชกาลที่ 4ซึ่งทรงเป็นผู้ก่อตั้งจีเอ็นเอช โดยทรงเชื่อว่าความรับผิดชอบหลักของรัฐบาลคือ การสร้างสภาวะเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและความสุขของประชาชนในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรและประเทศที่จะเข้าใจว่า การพัฒนาที่แท้จริงต้องครอบคลุมทุกด้าน และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างไม่มีขอบเขตนั้นเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ และในรัชกาลของ พระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์องค์ปัจจุบันก็ทรงเปรียบจีเอ็นเอชเหมือน “การพัฒนากับคุณค่า” และการปฏิบัติตามแนวทางจีเอ็นเอชเป็นมโนธรรมแห่งชาติ ในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเพื่ออนาคตที่ดีกว่า
ดร.ฮาวิน โต กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากค่านิยม 4 ด้านที่ศูนย์ฯ ในห้การสนับสนุนแล้ว ยังมีการถ่ายทอดความรู้เพื่อการเปลี่ยนผ่านการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีกว่า รวมไปถึงการรับรู้ และการเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีความพยายามที่จะพัฒนาและให้การสนับสนุนวิธีการที่ยั่งยืนและเป็นองค์รวมในการพัฒนาสังคม เพื่อให้บรรลุความเท่าเทียมระหว่างวัตถุและคุณค่าที่ไม่ใช่ทางวัตถุ และยิ่งไปกว่านั้นคือการจัดลำดับความสำคัญของความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกชีวิตบนโลก
ล่าสุด ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติ ประเทศไทย” (Gross National Happiness Centre Thailand) โดยบี. กริม ขึ้น ซึ่งนับเป็นศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติระหว่างประเทศแห่งแรกของโลก ที่ตั้งอยู่นอกประเทศภูฏาน เพื่อเป็นศูนย์จัดโปรแกรมและหลักสูตรการอบรม ด้วยแนวคิดการส่งเสริมคุณค่าและหลักการของ “ความสุขมวลรวมประชาชาติ” (GNH) สำหรับภาคธุรกิจและภาคอาชีวศึกษาในประเทศไทย
ทั้งนี้ มร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธาน บี.กริม เพาเวอร์ กล่าวว่า ยังกล่าวว่าที่มาของการริเริ่มก่อตั้ง “ศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติประเทศไทย” เนื่องด้วยเล็งเห็นว่าจีเอ็นเอสนำเสนอพื้นฐานปรัชญาที่คล้ายคลึงกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงในประเทศไทย ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในพระบรมโกศ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 โดยทั้งสองแนวคิดตั้งอยู่บนพื้นฐานของความพอประมาณ และให้ความสำคัญกับทางสายกลาง เพื่อทำให้เกิดความสมดุลและตอบสนองความต้องการของความเป็นมนุษย์ภายใต้ข้อจำกัดของผลผลิตจากธรรมชาติบนพื้นฐานที่ยั่งยืน
(http://www.siamrath.co.th/files/styles/750/public/img/20161017/f2077055e8a1c22454f4b97881d6defa14c7355087622ba28dc06b152e287fed.jpg?itok=BWm_hAIr)
เนื่องจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ไม่หยุดนิ่ง และจุดยืนทางการค้าระหว่างประเทศ ประเทศไทยและประชากรของประเทศต่างได้รับผลกระทบจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต การใช้และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ การอพยพย้ายถิ่นจากชนบทสู่เมือง และการขยายตัวของลัทธิบริโภคนิยม ท่ามกลางความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและเศรษฐกิจอันส่งผลในวงกว้าง ซึ่งจีเอ็นเอสระบุอย่างตรงไปตรงมาถึงปัญหาเหล่านั้น โดยการชี้ให้เห็นถึงคุณภาพชีวิตและการให้ความช่วยเหลือที่ไม่ได้มีรากฐานมาจากวัตถุ เป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่าความก้าวหน้าทางวัตถุไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดและไม่แม้แต่จะนำไปสู่การมีชีวิตที่ดีของคนและชุมชน
(http://www.siamrath.co.th/files/styles/750/public/img/20161017/4a6c6b4a86596d279a11b51e77e90f69ea608e51b0bf8adde35edab84552b24e.jpg?itok=RbsGiYTQ)
ในโอกาสนี้ เจ้าหญิง อาชิ เคเซง โชเดน วังชุก ประธานศูนย์มวลรวมความสุขประชาชาติ ประเทศภูฏาน ได้ทรงเข้าร่วมในพิธีลงนามสัญญาความร่วมมือก่อตั้งศูนย์ และได้ทรงมีพระดำรัสว่า การที่ค่านิยมจีเอ็นเอสถูกเผยแพร่ไปนอกประเทศภูฏานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และศูนย์ความสุขมวลรวมประชาชาติภูฏานก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะก่อตั้งศูนย์ความสุขมวลรวมฯ ระหว่างประเทศ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่พระองค์รู้สึกใกล้ชิดอย่างมาก รวมทั้งประชาชนภูฏาณเองก็มีความใกล้ชิดทางจิตใจกับประเทศไทยเช่นกัน
จาก http://www.siamrath.co.th/n/4212 (http://www.siamrath.co.th/n/4212)
-
https://www.youtube.com/v/p85H74mouyk
https://www.youtube.com/v/uN_gvJuQluY
“กษัตริย์จิกมี” เสด็จขึ้นเขาสูงกว่า 5,000 ม.เยี่ยมประชาชนภูฏานในพื้นที่ห่างไกล
(http://news.mthai.com/app/uploads/2016/10/BBDDA71B68064A88AC63DC8BDD6D72FE.jpg)
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ขณะเสด็จพระราชดำเนินขึ้นภูเขาสูง บนเส้นทางไปยังหมู่บ้านลูนานาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2559 (จากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck)
MGR Online - กษัตริย์จิกมีแห่งภูฏานเสด็จพระราชดำเนินขึ้นภูเขาสูงกว่า 5,250 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นเวลา 6 วัน เยี่ยมเยียนประชาชนชาวภูฏานในพื้นที่ห่างไกลทางตะวันตกเฉียงเหนือ พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปตั้งแคมป์ให้บริการ
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. เฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck ของสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เผยแพร่ภาพและข้อความแจ้งว่ากษัตริย์จิกมีเริ่มต้นการเดินทางขึ้นภูเขาสูงไปที่หมู่บ้านลูนานา (Lunana) หมู่บ้านห่างไกลที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศภูฏาน โดยเริ่มต้นเดินทางจากเมืองลายา (Laya) ในเขตกาซา โดยเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ยากลำบาก และได้ขึ้นชื่อว่าเส้นทางมนุษย์หิมะ โดยหมายกำหนดการเดินทางครั้งนี้มีระยะเวลาทั้งสิ้น 6 วัน
ต่อมาในวันที่ 24 ต.ค. เฟซบุ๊กของกษัตริย์ จิกมี ก็เปิดเผยว่า พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาถึงเลอดิ (Lhedi) ในเขตหมู่บ้านลูนานาตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. โดยต้องเดินทางขึ้นเขาบนความสูงกว่า 5,250 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทั้งนี้ พระองค์ทรงแวะตามจุดต่าง ๆ ที่มีราษฎรชาวภูฏานอาศัยอยู่ โดยชาวบ้านได้จัดเลี้ยง เต้นรำ และเล่นเกมต้อนรับ พร้อมกับมีฉายภาพยนตร์ภูฏานให้ชมในเวลาค่ำด้วย
ทั้งนี้ กษัตริย์จิกมี ยังได้นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปตั้งค่ายพักแรมเพื่อตรวจรักษาประชาชน ที่มิอาจเดินทางไกลเพื่อไปหาบริการทางการแพทย์
สำหรับประเทศภูฏานมีพื้นที่ประมาณ 38,394 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 750,000 คน พื้นที่ส่วนใหญ่มีภูเขาสูงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยระหว่างประเทศอินเดีย และประเทศจีน โดยบางพื้นที่มีระดับความสูงมากถึง 7,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000011098902.JPEG)
จากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
FB คิง จิกมี และ ราชวงศ์วังชุก : https://www.facebook.com/KingJigmeKhesar/posts/10154511105758260:0 (https://www.facebook.com/KingJigmeKhesar/posts/10154511105758260:0)
Wangchuck : https://www.facebook.com/WangchuckDynasty (https://www.facebook.com/WangchuckDynasty)
Jetsun Pema : https://www.facebook.com/QueenJetsun/ (https://www.facebook.com/QueenJetsun/)
The Royal Family of Bhutan : https://www.facebook.com/bhutaneseroyalfamily (https://www.facebook.com/bhutaneseroyalfamily)
จาก http://astv.mobi/A1b3cSh (http://astv.mobi/A1b3cSh)
กษัตริย์จิกมีเยือนพื้นที่ห่างไกลของภูฏาน ตรวจ “ธารน้ำแข็ง” ที่อาจละลายสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000011184101.JPEG)
ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
MGR Online - พระมหากษัตริย์หนุ่มของภูฏาน เสด็จถึงหมู่บ้านที่ใหญ่และห่างไกลที่สุดทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชน และตรวจสอบธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็ง อันเป็นต้นตอของแม่น้ำสำคัญหลายสาย แต่ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายกับชาวบ้านกรณีละลายเข้าท่วมพื้นที่
วานนี้ (28 ต.ค.) เฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck ของสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เผยข่าวสาร และแพร่ภาพ ระบุ กษัตริย์จิกมี ซึ่งเริ่มต้นเสด็จพระราชดำเนินขึ้นภูเขาสูงไปที่ลูนานา (Lunana) พื้นที่ห่างไกลที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศภูฏาน ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยล่าสุด พระองค์เสด็จถึงธันซาหมู่บ้านที่ใหญ่และห่างไกลที่สุดของเขตลูนานา โดยเมื่อวันที่ 27 ต.ค. เสด็จเยือนธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็งหลายแห่ง ประกอบไปด้วย Thorthomi Rapstreng และ Lugge
ทั้งนี้ ธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็งดังกล่าว ถือเป็นต้นธารของแม่น้ำหลักหลายสายของภูฏาน แต่ในอีกทางหนึ่ง อาจก่อให้เกิดอันตรายให้กับประชาชนได้ในกรณีที่น้ำแข็งละลายจนกลายเป็นน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยเหตุน้ำท่วมใหญ่ครั้งล่าสุดในพื้นที่ดังกล่าว เกิดขึ้นในปี 2537 ด้วยเหตุนี้สภาวะความเปลี่ยนแปลงของธารน้ำแข็ง รวมไปถึงการหดและขยายตัวของทะเลสาบน้ำแข็ง จึงมีความสำคัญและเป็นเรื่องต้องบริหารจัดการ แม้จะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก โดยเฉพาะในยุคที่เกิดภาวะโลกร้อน และภูมิอากาศมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
เฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck ระบุว่า กษัตริย์จิกมีได้พบปะ และหารือกับเจ้าหน้าที่ผู้คอยตรวจสอบสถานการณ์ของทะเลสาบ ทั้งยังได้ตรวจการณ์สภาพของธารน้ำแข็งด้วยพระองค์เอง พร้อมกับนักธารน้ำแข็งวิทยา
ต่อจากนี้ กษัตริย์จิกมี จะออกจากธันซา เพื่อเสด็จพระราชดำเนินข้ามหุบเขา Rinchenzoe la ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 5,350 เมตร ไปยัง Sephu มณฑลตงซา อนึ่ง ครั้งหลังสุดที่กษัตริย์จิกมีเสด็จเยือนหมู่บ้านห่างไกลในลูนานา รวมไปถึงธารน้ำแข็งสำคัญทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศภูฏาน ก็ต้องย้อนไปในปี 2551
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000011184102.JPEG)
ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000011184103.JPEG)
ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000011184104.JPEG)
ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000011184105.JPEG)
ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000011184106.JPEG)
ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000011184107.JPEG)
ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000011184108.JPEG)
ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000011184109.JPEG)
ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000011184110.JPEG)
ภาพจากเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck
เพิ่มเติม https://www.facebook.com/KingJigmeKhesar/posts/10154522696088260 (https://www.facebook.com/KingJigmeKhesar/posts/10154522696088260)
จาก http://astv.mobi/ALGRjOg (http://astv.mobi/ALGRjOg)
ถึงกับจุก!! สาเหตุที่ “กษัตริย์จิกมี” เเละชาวภูฏาน ทรงนับถือในหลวงของเรา มากๆนั้นเพราะสาเหตุเหล่านี้!!
ในหลวงของเรา…จากไลน์เพื่อนตื่นขึ้นมายังวังเวง..แต่ได้รับคำตอบที่ค้างคาใจมานานแบบง่ายๆซื่อๆว่าเหตุใดภูฎาณจึงสั่งหยุดงานทั้งประเทศวันที่14ตุลาคม59ก่อนไทยที่อาจจะยังตั้งหลักกันไม่ได้เหตุใดคิงส์จิ้กมี-พระราชินี..จึงเสด็จฯมาเป็นประเทศแรก
(http://jaizaa.com/wp-content/uploads/2016/10/14716244_1207239762655045_4727545143989827900_n.jpg)
ผมสงสัยระคนงงๆ กับประชาชนชาวภูฏานอยู่เล็กน้อย มาถามคำถามกับตัวเองว่า ถ้าพระมหากษัตริย์ประเทศอื่นเสด็จสวรรคต ผมซึ่งเป็นประชาชนไทย จะแสดงความอาลัยแบบเดียวกับประชาชนภูฏานแสดงต่อพระเจ้าอยู่หัวของเรามั้ย คำตอบคือ ไม่น่าจะ แล้วชาวภูฏาน ทำทำไม ?
คำตอบข้อสงสัยเพิ่งมาถึงวันนี้
(http://jaizaa.com/wp-content/uploads/2016/10/14725543_1207239772655044_908446847586322791_n.jpg)
ครั้งหนึ่งที่สำนักตรวจสอบคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ ที่ผมได้ทำงานอยู่ มีข้าราชการจากหน่วยงานปศุสัตว์จาก ภูฏาน มาเรียนรู้งานที่สำนักฯ เมื่อครบกำหนดเวลา ก่อนกลับผมได้มอบเมล็ดพันธุ์ข่าวพระราชทาน (The Royal Seed) แก่ข้าราชการจากภูฏานผู้นั้น เธอรับถุงพันธุ์ข่าวเล็ก ๆ ที่ผมยื่นให้ พร้อมกับพูดคำว่า “ขอบคุณ” (Thank you) ด้วยเสียงเครือ ๆ และบอกกับผมว่า
(http://jaizaa.com/wp-content/uploads/2016/10/Image.jpg)
ชาวภูฏาน ได้รับสิ่งที่พิเศษจาก คิง ภูมิพล อีกแล้ว ถึงตอนนี้ น้ำตาเธอก็ซึม ๆ แล้วก็เล่าให้ผมฟังว่า กษัตริย์จิกมี่ได้รับความรู้มากมายมาจาก พระเจ้าแผ่นดินภูมิพล ผู้นี้ โดยเฉพาะการเกษตร การปศุสัตว์ และ ประมง และทุกครั้งที่กษัตริย์จิกมี่ นำไปทำตามแล้วสัมฤทธิ์ผล พระองค์จะเขียนเป็ฯ กิตติกรรมประกาศ หรือแจ้งต่อราษฏรภูฏานว่า “ทั้งหมดนี้เราได้รับมาจากกษัตริย์ภูมิพลแห่งประเทศไทย” ผมนี่จุกในอกไปเลยครับ
(http://jaizaa.com/wp-content/uploads/2016/10/KingJigmeKhesar03_1.jpg)
จาก http://jaizaa.com/2016/10/24/ (http://jaizaa.com/2016/10/24/) ถึงกับจุก-สาเหตุที่-กษั/
https://www.facebook.com/fongsanan.chamornchan (https://www.facebook.com/fongsanan.chamornchan)