ใต้ร่มธรรม
แสงธรรมนำใจ => ดอกบัวโพธิสัตว์ => วัชรยาน => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊กซ ที่ สิงหาคม 24, 2010, 09:45:47 am
-
(http://static.howstuffworks.com/gif/dalai-lama-1.jpg)
เปลวไฟในสะดือ
หนึ่งเดือนหลังการชุมนุมของเหล่าผู้รับรางวัลโนเบลที่ออสโล ผมมีโอกาสสัมภาษณ์ใหญ่ทะไลลามะที่ธรรมศาลา ระหว่างการพูดคุย ถึงวิถีแห่งการให้อภัย ทรงเล่าถึงเรื่อง ล็อบซัง เท็นซิน ว่าการให้อภัยอย่างแท้จริงช่วยให้การเติบโตทางจิตวิญญาณของเขาก้าวหน้า อย่างรวดเร็ว
" เท็นซินเป็นนักต่อสู้เพื่อการปลดแอกธิเบต เขาอาศัยอยู่ในเขตเป็มโปและเป็นหนึ่งในผู้นำของหมู่บ้าน " ทะไลลามะเกริ่น " เขาถูกทางการ จีนจับกุมและขังคุกในปี ๑๙๕๙ ต่อมาจึงหลบหนีมาอยู่ในอินเดีย เดิมทีเขาไม่มีความเข้าใจใด ๆ ในหลักพุทธธรรม เขาลองฝึกพลังร้อน ที่เรียกว่าทูโม * ด้วยตนเองในช่วงที่อายุมากแล้ว "
ระหว่างฝึกปฏิบัติอยู่ในถ้ำบนเขาเขตธรรมศาลา เท็นซินเห็นแสงสว่างจ้า สัญญาญาณแรกที่บอกให้รู้ว่าเขาก้าวหน้าขึ้นไปขั้นหนึ่งในสาย การฝึกของตันตระ เขาลองหลับตาเพื่อดูว่าแสงที่เห็นจะหายไปหรือไม่ แสงนั้นกลับส่องสว่างยิ่งขึ้น ทั้งปรากฏภาพหมู่ดอกไม้ที่สวยงาม แล้วเขาก็รู้สึกถึงไอร้อนที่เผารน ราวกับมีเปลวไฟลุกปะทุอยู่ในท้องบริเวณสะดือ เมื่อเพ่งสมาธิที่ไฟนั้น เท็นซินค้นพบว่าตนสามารถขยาย ลดขนาด และควบคุมการเคลื่อนไหวของลูกไฟนั้นได้ จึงเคลื่อนมาไว้ใกล้หัวใจ กำหนดไว้ที่นั่น และเจริญสมาธิต่อจนเข้าสู่อารมณ์ใหม่ ซึ่งเขาค้นพบว่าตนเองสามารถทนทานต่อความหนาวเย็นได้ เท็นซินงงงวยกับประสบการณ์ และความสามารถใหม่ที่ค้นพบจากการเจริญสมาธิให้เกิดพลังร้อนหรือทูโม
หลังจากฝึกปฏิบัติอยู่ราวหนึ่งปี เท็นซินพบว่าสมาธิของเขาก้าวไปอีกขั้น เขาสามารถเจริญพลังร้อนได้ง่ายขึ้นและมีพลังสูงขึ้น ทั้งสามารถนำทางพลังร้อนนั้นไปสู่แนวจักรในร่างกายได้ เมื่อใดที่ทำเช่นนั้น เขาจะเข้าสู่ภวังค์ปีติที่ดิ่งลึกและทอดยาว
ช่วงต้นทศวรรษ ๑๙๘o ทะไลลามะแนะแก่เท็นซินซึ่งเวลานั้นอายุ ๔o เศษ ให้ยึดทูโมเป็นหลักในการปฏิบัติธรรม เท็นซินจึงเดินทางไป มานาลี เมืองเล็ก ๆ บนเขาในรัฐหิมาชัลประเทศของอินเดีย เพื่อฝึกกับลามะเค็นท์เซ ผู้รู้ในศาสตร์ทูโม
" ลูกศิษย์ของลามะเค็นท์เซฝึกเจริญทูโมตลอดทั้งปี โดยใช้เทคนิคผ้าเปียก แม้ในวันที่อากาศหนาวเหน็บ พวกเขาก็แทบจะไม่ใส่เสื้อผ้า " ทะไลลามะเล่า " เขาจะเอาผ้าชุบน้ำที่เย็นเหมือนน้ำแข็ง บิด นำมาห่มตัวแล้วเข้าสมาธิ เพียงไม่กี่นาที น้ำจะระเหยกรุ่นเป็นไอ และผ้าแห้งสนิทในเวลาไม่ถึงชั่วโมง พวกเขาจะปลดผ้าออกชุบน้ำอีก นำมาห่ม ทำซ้ำอย่างนั้น ๑o - ๑๓ ครั้งต่อคืน เรื่องนี้ทำให้ ดร.เฮอร์เบิร์ต เบ็นสัน จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดสนใจ และเดินทางมาธรรมศาลา เพื่อทำการทดลองกับผู้ที่ฝึกทูโมอยู่บนภูเขา พวกเขาทึ่งกับความสามารถของเท็นซินในการเจริญความร้อนในร่างกาย จึงมาขออนุญาตฉันและเชิญเท็นซินไปทดสอบเพิ่มเติมที่ฮาร์วาร์ด "
กรรมะ เกเลก ลามะหนุ่มซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง เดินทางไปสหรัฐอเมริกาพร้อมเท็นซิน เขาเล่าให้ผมฟังว่า การเดินทางหนนั้น เมื่อปี ๑๙๘๕ ค่อนข้างยากลำบาก เท็นซินไปถึงบอสตันในอาการเมาเครื่องรุนแรง เขาเหน็ดเหนื่อยและอยากขอเลื่อนการทดลองไปจน กว่าจะหายดีและปรีบตัวได้ แต่ห้องทดลองของ ดร.เบ็นสัน มีตารางงานแน่นมาก การทดลองจึงมีขึ้นในวันรุ่งขึ้น
ในห้องทดลองที่คุมอุณหภูมิไว้ต่ำระดับห้องแช่แข็ง เจ้าหน้าที่ต่างใส่เสื้อกั๊กทับอยู่ในเสื้อคลุมแล็บสีขาว ขณะที่เท็นซินต้องถอดจีวรท่อนบน ออกจนเหลือแต่เสื้อกล้ามผ้าฝ้ายเนื้อบาง และเผชิญการทดสอบมากขั้นตอนที่ดูไม่จบสิ้น จากคำบอกเล่าของเกเลก ตลอดการทดสอบนั้น เท็นซินอยู่ในสภาพเหมือนถูกแช่แข็งดี ๆ นี่เอง
(http://www.bongaruda.de/images/tummo_w_Khandro_kl.jpg)
ในที่สุดเมื่อเท็นซินดิ่งอยู่ในสมาธิ ความต้องการออกซิเจนของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับการทำงานของระบบเผาผลาญ ในร่างกาย เขาหายใจเข้าออกเพียง ๕ - ๖ ครั้งต่อนาที จากปกติ ๑๓-๑๔ ครั้ง เมื่อทูโมได้รับการการตุ้นเต็มที่ อุณหภูมิร่างกายของ เขาเพิ่มขึ้นถึง ๑o องศา ดร.เบ็นสันเขียนในรายงานกรณีศึกษาผู้ปฏิบัติทูโม ( ศาสตร์แห่งจิต : บทสนทนาระหว่างตะวันและตะวันตก , องค์ทะไลลามะ ฯลฯ สำนักพิมพ์วิสดอม , ๑๙๙๑ ) " จากการทดลองเหล่านี้ เราค้นพบว่า กระบวนการทำสมาธินำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ทางสรีระอย่างสำคัญ ซึ่งมีผลงานโดยตรงต่อสุขภาพ ... ความป่วยไข้มักมีมีสาเหตุหรือทรุดลงจากความเครียด "
ผมทึ่งกับเรื่องราวของล็อบซัง เท็นซิน ทั้งประหลาดใจว่าผู้ที่เคยจับอาวุธขึ้นสู้เพื่ออิสรภาพและเคยสังหารผู้คน กลับสามารถพัฒนาพลัง ทางจิตวิญญาณขั้นสูงเมื่อมีอายุมากแล้วได้อย่างไร ขณะที่พระธิเบตส่วนใหญ่ที่อุปสมบทอยู่ในอาราม มักเริ่มต้นการปฏิบัติธรรมตั้งแต่อายุ ๖ - ๗ ปี
กรรมะ เกเลกเล่าว่า เท็นซินเชื่อว่า การเติบโตทางจิตวิญญาณของตนเริ่มต้นและก้าวหน้าอย่างรวดเร็วระหว่างอยู่ในคุกจีน ในช่วงที่ต้องทน ทุกข์นั้นเอง เขาเกิดตระหนักรู้ ๒ ประการด้วยกัน หนึ่ง ช่วงเวลาที่เขาทนทุกข์ทรมาณอยู่ในคุกนั้น เป็นผลกรรมที่เกี่ยวเนื่องหรืออาจเรียกได้ ว่าเป็นกรรมทันตาจากการที่เขาเข่นฆ่าชาวจีนในช่วงการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของธิเบต สอง เขาหยั่งเห็นว่า หากปล่อยให้ความเกลียดชังชาวจีน สุมรุมใจตนเอง หากมุ่งหมายแต่การแก้แค้น ก็รังจะทำให้ตัวเองเสียสติ
แม้การทารุณกรรมทางกายโดยทหารจีนจะอยู่เหนือการควบคุม แต่ที่สุดเท็นซินตระหนักว่า ทหารจีนเพียงลำพังไม่สามารถทำอะไรต่อ จิตใจเขาได้ ทางเดียวที่จิตจะได้รับความกระทบกระเทือน ก็ด้วยทัศนะและการสนองตอบของเขาเอง ในสภาพการณ์อันเลวร้ายนั้น เขาพบว่าหากสามารถปรับอารมณ์ความรู้สึกต่อผู้ที่จองจำเขาให้เป็นกลาง หรือดีกว่านั้นคือเป็นบวก เขาจะสามารถนอนหลับได้ และไม่ ว่าจะโดนทรมาณสาหัสแค่ไหน จิตเขาเองจะเป็นกำบังภัยให้หลบลี้เข้าพักได้ทุกเมื่อ
ตามคำบอกเล่าของเกเลก เท็นซินได้เอาชนะความเกลียดชังที่มีต่อชาวจีน เขายกโทษให้คนเหล่านั้น และภายหลังยังสามารถเจริญให้ เกิดการุณยจิตอันบริสุทธิ์ต่อชาวจีน สิ่งนี้อธิบายว่าเหตุใดเขาจึงผ่านความทุกข์ยากในคุกมาโดยได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ น้อยเหลือเกิน ในช่วงท้ายของชีวิตในคุก เท็นซินหันมาเชื่ออย่างแท้จริงในอำนาจการเยียวยาจากการให้อภัย เกเลกคิดว่านั่นทำให้เท็นซินก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการปฏิบัติธรรม และการพัฒนาพลังทูโม
" เช่นนี้แล้ว การสามารถให้อภัยแก่ศัตรูมีผลต่อความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมหรือครับ " ผมถามทะไลลามะ
" ใช่อย่างไม่ต้องสงสัย " ทรงตอบ " เรื่องนี้สำคัญมาก เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่สุด สามารถเปลี่ยนชีวิตเราได้ การจะบรรเทาความเกลีดชังและ อกุศลจิตทั้งหลาย เราจักต้องเจริญเมตตาและกรุณา หากเรามีการุณจิตที่เปลี่ยมล้น และเคารพผู้อื่นอย่างจริงแท้ การอภัยย่อมเป็นเรื่องง่าย และเราจักไม่ต้องการทำร้ายผู้อื่น การอภัยช่วยโน้มนำจิตไปสู่อารมณ์ที่เป็นกุศลซึ่งจะช่วยให้การปฏิบัติธรรมก้าวหน้า "
" ท่านมีวิธีเจริญภาวนาพิเศษใดสำหรับเรื่องนี้หรือไม่ " ผมถาม
" ฉันใช้การภาวนาที่เรียกว่าการให้และการรับ " ทรงอธิบาย " ด้วยการตั้งจิตว่ากำลังแผ่กุศลจิต อย่างความสุข ความรักแก่ผู้อื่น จากนั้น กำหนดภาพในใจว่า กำลังรับเอาความทุกข์และอกุศลจิตของพวกเขาเข้ามาไว้ ฉันทำเช่นนี้ทุกวัน ฉันจะใส่ใจต่อชาวจีนเป็นพิเศษ โดย เฉพาะต่อผู้ที่ก่อกรรมทำเข็ญกับชาวธิเบต ขณะอยู่ในสมาธิฉันจะหายใจสูดเอาพิษร้ายอย่างความเกลียดชัง ความกลัว ความโหดร้ายเข้าไว้ แล้วหายใจเอาสิ่งดี ๆ ทั้งมวลออกมา อย่างความกรุณาและการอภัย ฉันรับเอาอารมณ์ที่เป็นพิษร้ายเหล่านั้นเข้าไว้ในตัว แล้วมอบอากาศ สดชื่นกลับออกมา เป็นการให้และการรับ ทั้งระวังที่จะไม่กล่าวโทษ ไม่ว่าต่อชาวจีนหรือตัวเอง การทำสมาธิเช่นนี้มีผลดีมาก มีประโยชน์ ในการลดความเกลียดชัง และช่วยบ่มเพาะจิตที่รู้จักให้อภัย "
* Tumo หรือ Tummo หนึ่งในโยคะหกของนโรปะ การภาวนาเพื่อเจริญธาตุไฟ และอาศัยธาตุไฟเข้าไปชำระล้างจักรทั้งเจ็ด ยังผลให้จิต ผ่องใส นัยหนึ่งใช้ธาตุไฟเผาล้างอวิชชา ให้จิตหยั่งเห็นและหลุดพ้นจากเหตุปัจจัยแห่งการเกิดดับ - ผู้แปล
(http://1.bp.blogspot.com/_709d-VdI3G4/SkbCKwgZQXI/AAAAAAAAAkk/Jee7ktl9hxI/s400/WisdomForgiveness.gif)
- คัดบางส่วนจาก ปัญญาญาณแห่งการให้อภัย ตอน เปลวไฟในสะดือ หน้า 72 - 78 -
- บทสัมภาษณ์ องค์ทาไลลามะ -
http://board.agalico.com/showthread.php?p=175175#post175175 (http://board.agalico.com/showthread.php?p=175175#post175175)
http://www.buddhayan.com/board.php?subject_id=270&ss= (http://www.buddhayan.com/board.php?subject_id=270&ss=)
-
อนุโมทนาค่ะ :13:
-
:13: อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับพี่มด