ใต้ร่มธรรม
แสงธรรมนำใจ => ดอกบัวโพธิสัตว์ => วัชรยาน => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊กซ ที่ สิงหาคม 25, 2010, 09:30:34 am
-
วัด Rumtek ( สาย Kagyu )
วัดนี้เป็นวัดใหญ่ที่สุดของสิกขิม และมีความสำคัญมาก เพราะเคยเป็นที่ประทับขององค์ Karmapa ที่ 16 ประมุขของพุทธวัชรยานสาย Kagyu และที่นี่มีสถูปบรรจุพระธาตุขององค์karmapa ที่ 16 ด้วย
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/karmapa16.jpg) (http://gotoknow.org/file/yanuprom/p1.JPG)
Karmapa ที่ 16
องค์ karmapa ที่ 16 เคยไปยังอเมริกา มีผู้กล่าวว่าไปตามคำเชิญของท่านเชอร์เตียม ตรุงปะ รินโปเช และท่านยังเดินทางไปยังประเทศทางตะวันตกอีกหลายประเทศ ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ท่านล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง และเสียชีวิตที่อเมริกา มีกล่าวในหนังสือว่า เหตุการณ์ช่วงที่ท่านล้มป่วยและอยู่ในโรงพยาบาลนั้น มีเรื่องราวแปลกประหลาดหลายอย่างเกี่ยวกับตัวท่านที่ทำให้บรรดาแพทย์ชาวอเมริกันผู้รักษาต่างงุนงงสังสัยมาก หลังการละสังขาร บรรดาลูกศิษย์ได้นำร่างของท่านกลับมายังสิกขิม และมาทำพิธีที่นี่ ในวันนั้นเกิดสายรุ้งพาดผ่านขอบฟ้า และมีผู้บันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ด้วยกล้องวิดีโอ
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/rumtek.JPG)
หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวกล่าวถึง องค์ Karmapa ที่ 17 ซึ่งกล่าวกันว่าท่านคือ องค์ Karmapa ที่ 16 มาเกิดใหม่ แต่ปัจจุบันองค์Karmapa ที่ 17 ลี้ภัยอยู่ที่ธรรมศาลา กับท่านดาไล ลามะ
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/karmapa.jpg)
Karmapa ที่ 17
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/p2.jpg)
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/rt1.JPG)
ที่จริงแล้ววัด Rumtek เป็นวัดที่ประทับขององค์ Karmapa ที่ 16 สาย Kagyu โดยหลังจากที่ธิเบตแตก ท่านลี้ภัยมาอยู่ที่นี่ แต่ปัจจุบันวัดนี้มีทหารอินเดียเฝ้าอยู่ แต่ตัวองค์ Karmapa ที่ 17 ซึ่งมีผู้รับรองว่าคือองค์ Karmapa ที่ 16 มาเกิดใหม่ อยู่ที่ธรรมศาลา
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/rta.JPG)
วัด Phodong ( สาย Kagyu )
วัดนี้กล่าวว่า เป็นวัดแรกของสาย Kagyu ที่เริ่มมีการสร้างขึ้นในสิกขิม มีความเก่าแก่และเป็นวัดที่สวยงามอย่างมาก หนังสือบางเล่มกล่าวว่าสวยงามที่สุด
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/phodong3.JPG)
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/pd.JPG)
ที่วัดแห่งนี้ข้าพเจ้าพบเหตุการณ์ประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเมื่อเข้าไปในตัววิหารของวัด และขณะที่กำลังก้มลงกราบพระพุทธรูป พอกราบครบสามครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็รู้สึกว่าเหมือนกำลังเข้าสู่การนั่งสมาธิโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ และไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เป็นอาการที่เกิดขึ้นคล้ายๆกับตอนที่เดินเข้าไปในส่วนวิหารของวัดจอมทอง ที่เชียงใหม่ นับว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจมาก จนข้าพเจ้าต้องถามกัลยาณมิตรที่ไปด้วยกันว่า วัดนี้มีความสำคัญอย่างไร และมีความเป็นมาอย่างไร พอกลับมาเมืองไทยก็มีข้อมูลเกี่ยวกับวัดนี้ไม่มากนัก โดยทั่วไปนักท่องเที่ยวที่ไปสิกขิม ให้ความสำคัญกับวัด Rumtek มากกว่า
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/pd2.JPGPhodongb.JPG)
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/pd1.JPG)
วัด Labrang ( สาย Nyingma )
วัดนี้อยู่ไม่ห่างจากวัด Phodong มากนัก และสร้างภายหลังวัด Phodong ประมาณ 100 ปี วันที่เราไปนั้น เป็นโอกาสดีที่ทางวัดเปิดส่วนวิหารไว้ให้เราเข้าไปชมได้ เพราะโดยปกติจะเปิดปีละไม่กี่ครั้ง แต่ช่วงเวลานั้น ดูเหมือนว่าจะมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของสิกขิมแวะมาเยี่ยมชมวัด เราเลยได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมด้วย กัลยาณมิตรของข้าพเจ้าท่านหนึ่งชอบวัดนี้มาก
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/lbm.JPG)
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/labrung.JPG)
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/lb1.JPG)
หมายเหตุ ภาพจากกัลยาณมิตรร่วมทาง Sikkim Trip
http://gotoknow.org/blog/sunmoola/208217 (http://gotoknow.org/blog/sunmoola/208217)
-
วัด Dubdi
วัดนี้คือวัดที่เก่าแก่ที่สุดของสิกขิม ตั้งอยู่บนเนินเขา ของเมือง Yuksom ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของสิกขิม โดยมีพิธีสถาปนาแต่งตั้งกษัตริย์พระองค์แรกของสิกขิม ขึ้นที่เมืองนี้ และวัด Dubdi ก็ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาโดยลามะอาวุโสหนึ่งในสาม ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของกษัตริย์ราชวงค์แรกของสิกขิม
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/dd1.JPG)
วัด Tashiding ( สาย Nyingma )
ในบรรดาวัดของสิกขิมทั้งหมด ข้าพเจ้าสนใจจะไปวัด Tashiding มากที่สุด เพราะก่อนไปสิกขิมนั้น ข้าพเจ้าได้อ่านเรื่องราวของพระลามะระดับปรมาจารย์ หรืออาจารย์ของอาจารย์ท่านหนึ่งของธิเบต ที่มาละสังขารที่สิกขิม และสถูปอัฐิธาตุของท่าน อยู่ที่วัด Tashiding แห่งนี้ เรื่องราวการละสังขารของท่านน่าสนใจมากทีเดียว ( มีเขียนกล่าวถึงไว้ในหนังสือที่ชื่อว่า ประตูสู่สภาวะใหม่ ซึ่งเขียนโดยโซเกียว รินโปเช แปลเป็นไทยโดยพระไพศาล วิศาโล )
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/tc1.jpg)(http://gotoknow.org/file/yanuprom/tc2.jpg)
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/tashi.JPG)
แต่จากเรื่องเล่าและตำนานความเป็นมา กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก และเล่าต่อเนื่องกันมาว่า กูรู รินโปเช ได้หาสถานที่เหมาะสมในการทำสมาธิภาวนา ท่านได้ยิงธนูขึ้น และมันมาตกลงที่นี่ จุดนี้คือจุดที่ท่านเลือกเป็นสถานที่นั่งสมาธิภาวนาอะไรทำนองนั้น จนภายหลังมีการสร้างวัดขึ้นยังที่แห่งนี้ และอัฐิธาตุของบุคคลสำคัญของสิกขิม จะนำมาไว้ที่นี่
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/tashi1.JPG)
วัด Pemayangtse ( สาย Nyingma )
วัดนี้เป็นวัดสำคัญที่สุดของสาย Nyingma ในสิกขิม ที่นี่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสพบลามะอาวุโสรูปหนึ่ง ท่าทางท่านมีเมตตามากทีเดียว และพวกเรายังได้สนทนากับลามะวัยกลางคน ที่บอกเล่าเรื่องราว ว่าท่านเคยมาประชุมสังฆะชาวพุทธ ที่เมืองไทยเมื่อไม่นานมานี้
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/pm.JPG)
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/pms3a.JPG)
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/pmys.JPG1.JPG)
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/pms6.JPG)
ที่วัดนี้ข้าพเจ้าและกัลยาณมิตรได้มีโอกาส นั่งฟังพระลามะธิเบตสวดมนต์ทำวัตรเช้า เสียงสวดมนต์แบบธิเบต ให้ความสงบเย็นและผ่อนคลายได้มากทีเดียว
(http://gotoknow.org/file/yanuprom/pms.JPG)
http://gotoknow.org/blog/sunmoola/208249 (http://gotoknow.org/blog/sunmoola/208249)
-
:13: อนุโมทนาครับพี่มด