ใต้ร่มธรรม

วิถีธรรม => จิตภาวนา-ปัญญาบารมี => แนวทางปฏิบัติธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: होशདངພວན2017 ที่ กันยายน 18, 2010, 08:57:16 am

หัวข้อ: The desire
เริ่มหัวข้อโดย: होशདངພວན2017 ที่ กันยายน 18, 2010, 08:57:16 am
(http://lh4.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TEftE_dRx7I/AAAAAAAAAvM/YKFo3xwGYWw/buddha1-1.gif)

(http://lh3.ggpht.com/_0PApGu2nb30/THd61eMCGfI/AAAAAAAAA0g/5hfWu8cv2GQ/000293.jpg)

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=6ie5F84S_sw[/youtube]

การอบรมเจริญเมตตาเป็นเรื่องละเอียด เพราะสภาพธรรมต้อง

ตรงตามความจริง คือ ขณะที่{กุศลจิต}เกิดแม้เพียงเล็กน้อยก็ต่างกับขณะที่

โลภะเกิดมาก ๆ แต่ถ้า{สติปัฏฐาน}หรือ สติสัมปชัญญะ ไม่เกิดจะรู้ได้อย่างไร

ว่า ขณะใดเป็น{โลภะ}ขณะใดเป็น{เมตตา}เมื่อไม่รู้จึงอาจเจริญโลภะแทน

เจริญเมตตาก็ได้

ฉะนั้น จึงจำเป็นจะต้องศึกษาโดยละเอียดให้รู้ลักษณะที่ต่าง

กันของโลภะและเมตตาข้อความใน{อัฏฐสาลินีนิกเขปกัณฑ์}อธิบาย

นิทเทสโลภะ{๑๐๖๕}แสดงลักษณะอาการต่าง ๆ ของโลภะที่ต่างกับ

เมตตามีข้อความว่า.....................................

ชื่อว่า ความกำหนัด เนื่องด้วยความยินดี  ชื่อว่า ความกำหนัด

นักโดยความหมายว่ายินดีรุนแรงชื่อว่าความคล้อยตามอารมณ์เพราะยัง

สัตว์ทั้งหลายให้คล้อยตามไปในอารมณ์ทั้งหลาย

นี่เป็นชีวิตประจำวันที่จะต้องพิจารณาจริง ๆ ว่าในขณะใดที่

เมตตาไม่เกิดจิตย่อมคล้อยตามโลภะไปในอารมณ์ต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา

ถ้าไม่สังเกตจะไม่รู้เลยว่าจิตคล้อยตามโลภะอยู่เสมอเมื่อมีความยินดีพอใจ

ในอารมณ์ใดก็กระทำตามความคิดตามความพอใจในอารมณ์นั้นทุกอย่าง

ในขณะนั้นรู้ได้ว่าไม่ใช่{เมตตา}เมื่อรู้ลักษณะของโลภะแล้ว

ภายหลังเมื่อเมตตาเกิดก็จะเปรียบเทียบได้ถูกต้องว่าลักษณะของ{โลภะ}

ต่างกับลักษณะของเมตตา ยกมาจาก{ธัมมนิเทส}

{โลภะ} บางเบาแทรกอยู่ในอากาศ

ฉวยโอกาสอยู่เนือง ๆ................................................... 

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

สำนักงานเลขที่ 174/1 ซอย เจริญนคร 78

ดาวคะนอง ธนบุรี

กรุงเทพมหานคร 10600 โทร 02 - 4680239
หัวข้อ: Re: The desire
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ กันยายน 18, 2010, 09:35:40 pm
 :13: อนุโมทนาครับพี่ปู
หัวข้อ: Re: The desire
เริ่มหัวข้อโดย: rain.... ที่ กันยายน 19, 2010, 01:09:43 pm
อนุโมทนา  สาธุ :07:งับพี่ปู