กรรมของคนขายปลา
(http://i27.photobucket.com/albums/c166/Moodaeng/Kitchen14/plasom11.jpg)
ผมเป็นคนหนองคายเรียนจบแค่ ป.6 ก็ต้องออกจากโรงเรียนเพราะครอบครัวมีฐานะยากจน เพื่อนๆรุ่นเดียวก็เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ บ้าง
ผมจึงไปเช่าสามล้อมาถีบรับส่งผู้โดยสารมีเงินเก็บสองพันกว่าบาทก็เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯและไปพักกับเพื่อนซึ่งเป็นห้องเช่าแถวๆ คลองเตย เมื่อปี พ.ศ. 2540
เพื่อนผมคนนี้ชื่อ ประเทือง ทำงานในตลาดสดคลองเตย เป็นลูกจ้างแม่ค้าขายปลาเขาชวนผมไปทำงานกับเขา บอกว่ารายได้ดีได้วันละ 100 กว่าบาท
ผมได้ยินว่ามีรายได้เป็นร้อยก็อยากทำ เพราะอยู่บ้านนอกไม่มีทางหาเงินได้มากขนาดนี้ผมจึงตกลงที่จะไปลองงานเช้าวันนั้นผมกับประเทืองตื่นตั้งแต่ตี 3 กว่าๆ
ขึ้นรถเมล์ไปถึงตลาดคลองเตยก็เกือบตี 4 แม่ค้าขายปลาสดเป็นเจ้าของแผงขายปลาใหญ่ที่สุดในตลาด แห่งนั้นคือทำปลาดุกกับปลาช่อน
ผมเห็นเขาทำปลาแล้วใจมันเสียวเลย…แล้วจะเล่าให้ฟัง
ปลาดุก ปลาช่อน......ที่แม่ค้าแกขายเป็นปลาจากบ่อเลี้ยงเขาจะเอาปลาใส่ถังสังกะสีสี่เหลี่ยมมาส่งเป็นถังๆ ปลายังเป็นๆและประเทืองเพื่อนผมมีหน้าที่ทำปลาดุกเป็นหลัก
เขาจะเทปลาดุกลงมาในถาดสังกะสีแบนๆมีขอบเป็นปลาดุกอุยเกือบทั้งหมด ตัวใหญ่และอ้วนๆ ทั้งนั้นประเทืองจะใช้เหล็กแหลมมีที่ถือเป็นไม้แทงลงไปข้างๆ ครีบบนสันหลังปลาดุกใกล้ๆ หัว
ผมถามว่าแทงทำไม เพื่อนบอกว่าแทงกระดูกสันหลังของมัน ให้มันเป็นอัมพาตดิ้นไม่ได้แต่ไม่ทำให้มันตาย จะได้ให้ลูกค้าเลือกซื้อสบายๆผมเห็นประเทืองใช้เหล็กแหลมแทงกระดูกสันหลังปลา
อย่างคล่องแคล่วว่องไวแสดงว่าชำนาญมาก วันหนึ่งๆ ประเทืองแทงหลังปลาดุกเป็นร้อยๆ ตัวส่วนปลาช่อนก็ทำแบบเดียวกัน เมื่อมีลูกค้าซื้อ
ประเทืองกับเพื่อนจะขอดเกล็ดให้เขาขอดเกล็ดมันทั้งๆ ที่ยังเป็นๆ อยู่ ยังหายใจพะงาบๆ อยู่อย่างนั้นแหละแต่มันดิ้นไม่ได้เพราะตัวแข็งทื่อ
เนื่องจากกระดูกสันหลังถูกเหล็กแหลมแทงเป็นอัมพาตไปแล้ว ประเทืองให้ผมลองทำดูผมบอกว่าขอช่วยยกลังปลา เอาปลาไปส่งให้แม่ค้าที่แผงก่อนเถอะวันพรุ่งนี้จะลงมือฝึกทำ
ทั้งๆ ที่ได้ตัดสินใจเงียบๆ ว่าผมไม่ยอมทำงานนี้เด็ดขาด
....การที่มันถูกเหล็กแหลมแทงเนื้อทะลุกระดูกสันหลังย่อมทำให้มันเจ็บปวดแสนสาหัส มิหนำซ้ำยังไม่ถูกฆ่าให้ตายทันทีให้มันรู้แล้วรู้รอดกลับถูกปล่อยนอนคอยให้คนมาซื้อมาเลือกไปฆ่ากินด้วยความทุกข์ทรมานนานตั้งครึ่งค่อนวัน
ยิ่งเป็นปลาช่อนยิ่งถูกทารุณหนักเข้าไปอีก เพราะก่อนตายถูกเขาเอามีดเลาะเกล็ดตลอดตัวออกทั้งเป็นๆมันคงจะเจ็บปวด เจ็บเนื้อหนังสุดพรรณนาทีเดียวเมื่อเกล็ดถูกคมมีดถากออกอย่างไม่ปรานีปราศรัยจนเลือดไหลซิบไปทั่วทั้งตัว ผมเห็นสภาพเช่นนี้เกิดเวทนาสงสารปลาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จะให้ทำอย่างเพื่อนมันทำไม่ได้จริงๆถึงจะได้เงินค่าจ้างตอบแทนมากแค่ไหนผมก็ทำไม่ลง หลังจากเลิกงานแล้วเราก็กลับห้องพักประเทืองบอกผมว่าเจ๊แม่ค้าเจ้าของขายปลาแกยินดีรับผม เข้าทำงานด้วย ผมอึกอักอยู่นานในที่สุดก็ตัดสินใจบอกเพื่อนไปตามตรงว่าตัวเองคิดอย่างไร ประเทืองฟังผมพูดจบเขาก็แสดงอาการโกรธขึ้นมาอย่างที่ผมคิดไม่ถึง เขาพูดห้วนๆ ว่าถ้ากลัวบาปไม่อยากทำบาปก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ พูดอย่างนี้ก็ไล่กันซึ่งๆ หน้า
.....แต่ผมไม่โกรธเขาเลย เพราะเขาไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผมแน่นอน ผมจึงลาประเทืองไปหางานทำใหม่ ก็ได้งานทำกับบริษัทแห่งหนึ่งผมทำงาน 2 ปีกว่าไม่ได้กลับบ้านเลย
พอดีบริษัทหยุดตรุษจีน 4 วันรวดผมจึงมีโอกาสไปเยี่ยมพ่อแม่และน้องๆ ที่บ้านเกิดและได้ทราบข่าวร้ายเรื่องประเทืองเพื่อนของผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปชนกับรถปิ๊กอัพที่กรุงเทพฯ
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสตรงกระดูกสันหลังนอนโรงพยาบาลเกือบ 2 เดือน ก็ออกจากโรงพยาบาล ปรากฏว่ประเทืองเป็นอัมพาตร่างกายท่อนล่างตั้งแต่เอวลงไปไม่มีความรู้สึก
ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านเฉยๆผมจึงรีบไปเยี่ยม เห็นประเทืองแล้วผมสงสารเขามากที่สุดร่างกายที่เคยล่ำสันบึกบึนผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ขาทั้งสองข้างลีบเล็กเขาทำได้แค่นั่งพิงฝากับนอน
ไปไหนต้องใช้มือถัดไป ท่าทางของประเทืองหมดอาลัยตายอยากผมทักทายพูดปลอบใจให้กำลังใจเขาอย่างดีที่สุด พร้อมกับให้เงินเอาไว้ใช้ส่วนตัวประเทืองน้ำตาคลอ
เขาขอบใจผม และบอกว่าเขาไม่ควรโกรธผมถึงกับไล่ไม่ให้อยู่ด้วยผมบอกเขาว่าผมไม่เคยคิดโกรธเคยเป็นเพื่อนกันอย่างไรก็เป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง
ก่อนจากกันประเทืองพูดกับผมว่า“เชื่อแล้วว่าบาปกรรมมีจริงๆ จากการที่แทงกระดูกหลังปลาดุกปลาช่อนให้เป็นอัมพาตบาปก็ตามมาถึงอย่างที่เห็น ต้องเป็นอัมพาต ต้องทุกข์ทรมานไปจนกว่าจะตายเพื่อนคิดถูกแล้วที่ไม่ยอมทำงานสร้างกรรม ขอให้เพื่อนเจริญๆ เถอะ
(http://ruamkatanyu.fire2rescue.com/diary/nue/archives/7726.jpg)
ที่มา http://www.sil5.net/index.asp?contentID=10000006&bid=168&title=%A1%C3%C3%C1%B5%D2%C1%B7%D1%B9&keyword=
(http://upic.me/i/p4/nk0o1.gif)
สาธุค่ะ