ใต้ร่มธรรม

คลังธรรมปัญญา => พรรณาอักษร => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 23, 2010, 04:21:05 pm

หัวข้อ: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 23, 2010, 04:21:05 pm

(http://www.wisdom-books.com/Covers/4799.jpg)(http://jizo.free.fr/Jizo/ryokan/contes_zen_de_ryokan.jpg)


เรียวกันเป็นพระเซนชาวญี่ปุ่น เกิดเมื่อ พ. ศ. 2301 และมรณภาพ พ.ศ. 2374 สถานที่เกิดของเรียวกันคือหมู่บ้านเล็กๆ ที่ อิสึโมซากิ ในเขตจังหวัดเอชิโกะ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ฝั่งทะเลด้านตะวันตกของเกาะญี่ปุ่น ปัจจุบันอยู่เขตอำเภอ นิอิงาตะ

(http://jizo.free.fr/Jizo/ryokan/ryokan_children.jpg)


เรียวกันบวชเป็นพระเซนนิกายโซโตะ เมื่ออายุได้ยี่สิบปี เมื่อแรกบวชได้ท่องเที่ยวหาประสบการณ์ และ ศึกษาหาพระธรรมไปตามที่ต่างๆ ในบั้นปลายชีวิต ท่านผู้นี้ได้ปลูกกระท่อมเล็กๆ อยู่บนภูเขาไกล้ๆ บ้านเกิด และใช้ชีวิตสมถะสันโดษอยู่ที่นั่นตราบสิ้นชีวิต

เรียวกันเขียนบทกวีไว้มากมาย บทกวีเหล่านี้ได้รับการยกย่องจากคนรุ่นหลังว่าสะท้อนความคิดแบบคนบ้านนอกญี่ปุ่นได้ดีเยี่ยม บทกวีหนึ่งของเรียวกัน ถูกนำไปอ่านโดยยาสึนาริ คาวาตะ ในวันเข้ารับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ปี พ.ศ. 2511
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 23, 2010, 04:25:44 pm
บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/597/14597/images/sphoto12/fpp66.JPG)


คนเราเมื่ออยู่ในวัยสูงอายุ ความเหงา ความเปล่าเปลี่ยว จะรุมเร้า มักทำให้
คิดคำนึงย้อนไปถึงอดีตที่ผ่านมา แล้วแปรเปลี่ยนมาเป็นความชุ่มชื่นใจ หรือ
ความเศร้ารันทด ก็สุดแท้แต่ภูมิหลังของชีวิต ว่าประสบความสุข ความสมหวัง
หรือฝ่าฟันอุปสรรคความยากลำบากของชีวิต มามากน้อยเพียงใด
 
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/597/14597/images/sphoto12/fpp68.jpg)



“รอยรำลึกที่ผ่านเลย” รวมบทกวีเซนของเรียวกัน เป็นบันทึกความรู้สึกและ
อารมณ์ขณะใช้ชีวิตบั้นปลายเพียงลำพัง ณ ชนบทแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เมื่อ
สองร้อยกว่าปีที่ผ่านมา
 
งานเหล่านี้ แฝงไว้ด้วยความเศร้า  ความอ้างว้าง ความชื่นบาน ตลอดจน
ความคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาในชีวิตอันยาวนาน
 
ทัศนะของพุทธศาสนา ได้จำแนกวิถีชีวิตมนุษย์ ออกเป็น 2 สายทางใหญ่ ๆ
 
สายทางแรก คือ แนวทางของบุคคลผู้ปล่อยตัวให้เลื่อนไหลไปกับกระแสสังคม
อันเชี่ยวกราก ชีวิตเช่นนี้จะเต็มไปด้วยการต่อสู้ แย่งชิง ฉกฉวย สิ่งที่สังคม
ยอมรับว่าเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต ได้แก่ เกียรติยศ ความมั่งคั่ง
ซึ่งมีคนเลือกเดินแน่นขนัดทั้งกลางวันและกลางคืน
 
ส่วนอีกสายทางหนึ่ง คือ แนวทางของผู้มองเห็นความไม่เป็นแก่นสารของ
การแสวงหาสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น บุคคลเช่นนี้จะปลีกตัวออกมาจากการต่อสู้
แย่งชิง มาดำรงตนอยู่ด้วยความสันโดษในอาชีพอันสุจริต สะอาด อุทิศตน
เข้าหาความดีงามของชิวิต  ซึ่งมีคนเลือกเดินเพียงหยิบมือเดียว
 
เรียวกัน พระเซนเจ้าของบทกวี คือ หนึ่งในจำนวนคนอันน้อยนิดนั้น
 
กวีนิพนธ์ชุด “รอยรำลึกที่ผ่านเลย” นี้เป็นงานสืบเนื่องจากกวีนิพนธ์
ชุด “คืนฟ้าฉ่ำฝน”
 
 (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/597/14597/images/sphoto12/fpp67.jpg)
 
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางบทของบทกวีชุด “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
 
 
บทร้อยกรองแห่งฤดูใบไม้ผลิ
 
2
 
ค่ำวันนี้ฉันเคลิ้มหลับไป
เพราะความเหนื่อยอ่อน
ฉับพลันก็ต้องสะดุ้งตื่น
เมื่อผิวกายสัมผัสความเย็นเยือก
จากละอองหิมะ
ที่โปรยปรายลงมายามเย็นย่ำ
ห่านป่าฝูงหนึ่ง
บินร้องผ่านกระท่อมฉันไป
พวกมันคงกำลังโบกถลา
หวนคืนรวงรัง
ด้วยความเมื่อยล้า
เช่นเดียวกับคน
 
 
6
 
สองชีวิต
สงบนิ่งอยู่ในสวน
ชีวิตหนึ่งคือต้นพลัม
ที่กำลังตกดอกบานสะพรั่ง
ส่วนอีกชีวิตหนึ่ง
คือพระชรา
ผู้ผ่านความยาวนานของชีวิต
มาด้วยความเหนื่อยหนัก
 
 
13
 
ค่ำคืนนี้
ดวงเดือนสีเงิน
สะท้อนประกายแวววับ
ดังเกล็ดแก้วบนดอกพลัม
ทั้งดอกไม้และดวงเดือน
ช่างงดงาม
ประสานรับกันและกัน
ฉันเดินพลาง
สายตาทอดมองภาพธรรมชาติ
อันสวยสดตระการตาข้างทางไปพลาง
จวบราตรีกาลย่างสู่วันใหม่
จึงมาถึงกระท่อมพัก
 
 
16
 
ทุกเช้าของวันใหม่
ฉันจะเข้าไปในหมู่บ้าน
เพื่อบิณฑบาต
เช้าฤดูใบไม้ผลินี้ก็เช่นกัน
ฉันเดินออกจากกระท่อม
พร้อมบาตรน้อยในมือ
เดินออกมาได้หน่อยหนึ่ง
สายตาก็ปราดไปเห็น
ดอกไวโอเล็ตสีม่วงขึ้นอยู่เรียงราย
ริมทางเดิน
เพลินเก็บดอกไวโอเล็ต
จนลืมเรื่องบิณฑบาต
มารู้สึกตัวอีกที
ตายล่ะ ตะวันสายโด่งแล้ว
 
 
บทร้อยกรองแห่งคิมหันตฤดู
 
3
 
ฤดูกาลไถหว่าน
หมุนเวียนมาอีกครา
ยามนี้หมู่ชาวนา
ต่างพากันปักดำไถคราด
เป็นกลุ่มกลางทุ่งกว้าง
ฉันเฝ้ามองพวกเขา
อยู่เงียบ ๆ ในกระท่อม
ในใจพร่ำภาวนา
ขอองค์พุทธะผู้ทรงเมตตาธิคุณ
จงช่วยปกป้องชาวนาเหล่านี้
จากความหิวโหย
และภัยพิบัติด้วยเทอญ
 
 
9
 
หมู่เมฆพลิ้วกระจาย
ปลิววนตามสายลมพัด
กลางป่าละเมาะข้างกระท่อมฉัน
ฝูงนกดุเหว่าพากันส่งเสียงร้อง
เริงร่าสนุกสนาน
อา บรรยากาศยามนี้
ช่างเปี่ยมสุขจริงหนอ
มาเยี่ยมฉันบ้างสิท่านเอ๋ย
กระท่อมซอมซ่อหลังน้อยนี้
เปิดประตูรอท่าน
อยู่ทุกครา
 
 
10
 
ง่วงเสียแล้วสิ
ฉันเหยียดแขนขา
เอนตัวลงบนแคร่ไม้ไผ่
ตั้งใจจะงีบสักหน่อย
จวนเจียนจะเคลิ้มหลับ
พลันหูก็ได้ยิน
เสียงกบเขียดร้องรำ
แว่วมาจากทุ่งนาข้างกระท่อม
เสียงอ๊อบ ๆ โอ๊บ ๆ นั้น
ผสานเข้ากับเสียงแผ่วไพเราะ
ของหมู่นกในดงไผ่
กลายเป็นมโหรีกล่อมขับ
ให้ฉันหลับในเวลาต่อมา
 
 
บทร้อยกรองแห่งฤดูใบไม้ร่วง
 
5
 
ค่ำคืนนี้
สายลมที่แผ่วพัด
ช่างเย็นชื่นจริงหนอ
จันทร์แจ่มบนท้องฟ้าเล่า
ก็สาดส่องสวยงามนัก
มาเถิดพวกเรา
มารื่นเริงหรรษา
รับวัยชรา
ที่จะมาเยี่ยมกราย
 
 
11
 
ถัดจากวันนี้ไป
ราตรีกาลคงหนาวเหน็บ
กว่าที่เคยเป็นมา
ฤดูใบไม้ร่วงกำลังผ่านไป
คืนนี้ฉันนั่งปะซ่อมเสื้อคลุมเก่า
สำหรับใช้ในฤดูหนาว
ที่จะมาเยือนในอีกไม่กี่วันนี้
นอกกระท่อมออกไป
แมลงฤดูใบไม้ร่วง
กรีดเสียงงึมงำ
ส่องมาจากป่าหญ้ามืดมิด
 
 
14
 
สำหรับบุคคลผู้ดำรงตนอย่างสมถะ
ภายในกระท่อมน้อย
กลางป่ากว้างและเขาสูง
สิ่งที่จะเป็นเพื่อน
ในชีวิตอันสุขสงบของเขา
ย่อมได้แก่ดวงเดือนบนท้องฟ้า
มวลบุปผาสะพรั่งไพร
และขุนเขาเคลียปุยเมฆ
ที่งดงามสุดพรรณนา
 
 
บทร้อยกรองแห่งเหมันตฤดู
 
3
 
ดึกสงัดคืนนี้
ฉันนั่งฟังเสียงฝนหิมะ
ตกกระทบหลังคากระท่อม
เสียงหวีดหวิวของสายลมเจือหิมะ
ฉุดดึงความรำลึกของฉัน
ให้หวนย้อนไปหาวันคืนเก่า ๆ
สมัยที่ฉันยังเป็นหนุ่ม
นี่คือความฝันเท่านั้นหรือ
ชีวิตเอ๋ยชีวิต
ข่างผ่านเลยไปดุจความฝัน
กระแสชีวิตไม่อาจหวนคืน
เช่นเดียวกับสายน้ำ
ที่ไม่อาจย้อนไหลกลับคืนทางเดิม
 
6
 
ณ ขุนเขาแห่งตำบลเอชิโกะ
ฉันใช้ชีวิตสันโดษ
อยู่ในกระท่อมเล็ก ๆ หลังหนึ่ง
ฤดูนี้เป็นฤดูเหมันต์
ยอดเขาที่เสียดสล้างระปุยเมฆ
ขาวนวลด้วยพราวเกล็ดหิมะ
ธารน้ำแข็งที่ไหลเอื่อยเป็นทาง
ลงมาจากยอดเขา
มองเป็นสีเงินยวง
ดังสายสำลีพลิ้วลอยละล่อง
ออกมาจากปุยเมฆขาว
 
12
 
อีกวันแล้วสินะ
ที่ฉันไม่ได้เข้าไปบิณฑบาต
ที่ในหมู่บ้าน
เพราะหิมะตกหนัก
ฉันนอนเล่นในกระท่อม
ด้วยจิตใจที่แช่มชื่นเอิบอิ่ม
มองดูปุยหิมะล่องฟ้ามาอ้อยอิ่ง
ก็เพียงพอแล้ว
ที่จะทำให้ชีวิตอิ่มเต็มเปี่ยมสุข
 
 
14
 
เช้าวันนี้อากาศสดใส
ฝนหิมะที่โปรยปราย
มาตั้งแต่เมื่อคืน
หยุดไปนานแล้ว
อา ช่างเป็นโอกาสดีเหลือเกิน
ฉันจะทำอะไรดีหนอ
ออกไปตักน้ำที่บ่อหรือ
หรือว่าจะไปเก็บฟืนในป่าดี
เอ หรือจะไปหาผัก
มากินเป็นอาหารเช้า
 
 
บทร้อยกรองปกิณกะ
 
3
 
ฉันนอนอิงหมอนหญ้า
อยู่เพียงลำพังในกระท่อม
ปล่อยความฝันและจินตนาการ
ให้ลอยละล่อง
ไปสู่โลกในอุดมคติ
ที่ปราศจากเสียงร่ำไห้
ของคนทุกข์
เงียบเหงา อ้างว้าง
เหลือเกินโลกมนุษย์
 
8
 
อีกไม่กี่ปี
พระชรานามว่าเรียวกัน
จะต้องลาโลก
ไปตามกฎของความเปลี่ยนแปร
ดังดอกไม้แห้ง
ผล็อยร่วงจากต้นยามรุ่งสาง
แต่สิ่งที่พระรูปนี้
จะยังทิ้งไว้เป็นมรดกแก่โลก
อีกตราบนานเท่านาน
คือดวงใจอันปรารถนาดี
ต่อทุกคนเสมอหน้ากัน
 
13
 
รูป สี ชื่อและสัณฐาน
เป็นเพียงสิ่งสมมุติ
ที่กล่าวเรียกกันในโลก
เมื่อเงื่อนไขแห่งวันเวลามาถึง
สิ่งเหล่านี้ย่อมแปรเปลี่ยน
สูญสลายไปไม่เหลือ
 
 
14
 
คราฉันครุ่นคำนึง
ถึงความขุกเข็ญอับจน
ของเพื่อนร่วมโลก
ความระทมเศร้าของเขาเหล่านั้น
พลันละลายเข้าเกาะกุมดวงใจ
ดังว่ามันเป็นความทุกข์
 
 
15
 
ย่ำค่ำสนธยา
ฉันกับเพื่อน
นั่งสนทนากันบนหน้าผา
ท่ามกลางทิวสนภูเขา
ที่พลิ้วใบระริกเล่นลมค่ำ
 
 
19
 
ร่างกายสังขารของมนุษย์
ไม่กี่ปีก็ผุพังแตกดับ
ลงเป็นเถ้าธุลีดิน
สิ่งอันจะยังคงอยู่
ชั่วดินฟ้าแยกสลาย
ก็คือสัจธรรม
อันไม่อาจลบล้าง
ได้ด้วยพลังแห่งความแปรเปลี่ยนใด
 
 
20
 
สิ่งที่เรามองเห็นข้างหน้านั่น
คือหุ่นฟางเก่า ๆ ตัวหนึ่ง
สวมหมวกปุปะและเสื้อชาวนา
สีซีดหม่นกระรุ่งกระริ่ง
ใครเล่าหนอจะหยั่งทราบ
ว่าในความซอมซ่อเก่าปอนนั้น
หุ่นไล่กาได้ทำหน้าที่ของมัน
อย่างเต็มเปี่ยมบริบูรณ์แล้ว
 
 
21
 
ทำไมหนอ
ท่านจึงระหกระเหิน
ไปไกลเช่นนั้น
เพียงเพราะว่าท่านต้องการ
เข้าสู่แก่นแห่งพุทธสัจจะ
หยุดมองกลับเข้าไป
ในตัวเองบ้างเถิด
ท่ามกลางความป่วนปั่น
แห่งคลื่นลมชีวิต
ท่านจะเห็นความสงบเงียบ
ของมันด้วยตัวของท่านเอง
 
23
 
หลายเดือนผ่านไป
วันเวลาคลี่คลาย
กลายเป็นอดีตทับถมกัน
วันนี้ฉันย้อนรำลึก
ไปหาความทรงจำอันเลือนราง
แต่ไม่อาจไขว่คว้า
รอยรำลึกที่ผ่านเลย
มาสู่ห้วงจินตนาการอีกครั้ง
โอ อดีตของชีวิต
ช่างยาวนานและเต็มด้วย
ความหนักเหนื่อยเหลือเกิน
 
 
 
--------------------------------
 
อ้างอิง : หนังสือ “รอยรำลึกที่ผ่านเลย” บทกวีเซนของ เรียวกัน
 พระมหาสมภาร พรมทา แปลและเรียบเรียง
 พิมพ์ครั้งแรก สิงหาคม 2526
ขอขอบคุณ พระมหาสมภาร พรมทา ไว้เป็นอย่างสูง ณ ที่นี้
 ภาพ  :     จากอินเตอร์เน็ต   ขอขอบคุณ

 
 
http://www.oknation.net/blog/surasakc/2008/08/17/entry-1 (http://www.oknation.net/blog/surasakc/2008/08/17/entry-1)

http://board.palungjit.com/f6/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99-7237.html
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 23, 2010, 04:29:51 pm
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=OuhkXxC4Ryg&feature=related[/youtube]


จะพิม บทที่เหลือ ทีละบท ใส่ภาพ ประกอบด้วย เริ่มตั้งแต่ วินาทีนี้เป็น ต้นไป จนกว่าจะจบ 4 ฤดู

ยากนะ เพราะ ข้อยใจร้อน อยากใส่พรวดเดียว ให้จบไปเลย พอเล่น ทีละ หยด นี่แหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ลองดู ล่ะ :45:

หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 23, 2010, 04:35:47 pm
(http://www.chinahighlights.com/image/news/snow-mountain.jpg)

1

ชาวบ้านพูดกันว่า
ฤดูใบไม้ผลิมาเยือนแล้ว
ท้องฟ้ายามนี้
คลาคล่ำด้วยริ้วหมอก
บนภูเขาปราศจากดอกไม้
มีเพียงหิมะสีขาว
ปกคลุมขุนเขา
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 23, 2010, 04:42:13 pm
(http://media3.washingtonpost.com/wp-srv/photo/gallery/091012/GAL-09Oct12-2828/media/PHO-09Oct12-182037.jpg)

2
 
ค่ำวันนี้ฉันเคลิ้มหลับไป
เพราะความเหนื่อยอ่อน
ฉับพลันก็ต้องสะดุ้งตื่น
เมื่อผิวกายสัมผัสความเย็นเยือก
จากละอองหิมะ
ที่โปรยปรายลงมายามเย็นย่ำ
ห่านป่าฝูงหนึ่ง
บินร้องผ่านกระท่อมฉันไป
พวกมันคงกำลังโบกถลา
หวนคืนรวงรัง
ด้วยความเมื่อยล้า
เช่นเดียวกับคน
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 23, 2010, 04:49:48 pm
(http://www.chinaodysseytours.com/tours/pictures/20-days-China-Ancient-Civilization-Tour/daybyday/mountain-huangshan1.jpg)

3

ฉันเหม่อมองบนหน้าผา
ท่ามกลางป่าสนและต้นโอ๊ค
สายตาเพ่งมองความงดงาม
ของธรรมชาติแห่งฤดูใบไม้ผลิ
รอบกายของฉันคือแพรหมอก
พริ้วแผ่วระรวยริน
เรี่ยกระจายตามสายลมอ่อน
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 23, 2010, 04:57:11 pm
(http://www.japan-i.jp/hotspring/kinki/d8jk7l0000029lua-img/d8jk7l0000029luz.jpg)

4

เช้าฤดูใบไม้ผลิ
ฉันเดินออกจากกระท่อม
ออกหาเก็บผัก
พลันหูก็ได้ยิน
เสียงไก่ป่าขันขับ
เป็นลำนำเสนาะหู
แล้วช่วงหนึ่งของความนึกคิด
จินตนาการของฉัน
ก็ล่องลอยกลับไปหา
อดีตเก่าที่ผ่านมา
อันสลักตรึงตราเป็นดังรอยรำลึก
ในความทรงจำ
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 23, 2010, 05:10:14 pm
(http://hsudarren.files.wordpress.com/2007/02/plum-flower.jpg)

5

ลมฤดูใบไม้ผลิ
แผ่วผ่านมาอ้อยอิ่ง
ต้นพลัมออกดอกเป็นทิวสะพรั่ง
ยามลมแผ่วรำเพยพัด
กลีบดอกน้อยนั้น
จะพริ้วผวา
ร่วงผล็อยจากต้น
ลีลาที่ดอกพลัมนั้นร่วงหล่น
ดูประสานกลมกลืน
ดังจะสอดทำนองรับ
บทเพลงที่แผ่วหวาน
ของนกอุกูอิสุตัวน้อยบนกิ่งไม้นั้น
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 23, 2010, 05:19:31 pm
(http://2expertsdesign.com/images/pictures-photos/24-autumn-tree.jpg)

6
 
สองชีวิต
สงบนิ่งอยู่ในสวน
ชีวิตหนึ่งคือต้นพลัม
ที่กำลังตกดอกบานสะพรั่ง
ส่วนอีกชีวิตหนึ่ง
คือพระชรา
ผู้ผ่านความยาวนานของชีวิต
มาด้วยความเหนื่อยหนัก
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 23, 2010, 05:27:56 pm
(http://farm4.static.flickr.com/3225/2834095421_546fec5a10.jpg?v=0)


7

กระแสแห่งวันเวลา
ผ่านผันไปดุจความฝัน
ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว
ความฝันนั้นก็ล่องลอย
ลับหายไป
ในความว่างเปล่า
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ กันยายน 23, 2010, 09:58:25 pm
ครบเครื่องเรื่องเซนเลยนะครับพี่มด  :13: อนุโมทนาครับพี่
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 25, 2010, 09:35:24 am
(http://www.thelensflare.com/large/field-of-sunflowers_46532.jpg)


8

ณ เชิงเขายาฮิโกะ
เด็กชาวบ้าน
วิ่งเล่นสนุกสนาน
กลางดงดอกไม้
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 25, 2010, 09:51:42 am
(http://us.123rf.com/400wm/400/400/ailin/ailin0906/ailin090600207/5098835.jpg)

9

ฉันมัวเก็บดอกไวโอเล็ต
ที่ขึ้นตามริมทาง
เพลินเสียจนลืมบาตรทิ้งไว้
อา เจ้าบาตรน้อยของฉัน
ป่านนี้เจ้าคงโดดเดี่ยว
เพราะถูกเจ้าของทอดทิ้ง
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 25, 2010, 09:58:25 am
(http://farm2.static.flickr.com/1377/540528192_6362f7a3aa.jpg?v=0)

10

เอาอีกแล้ว
ฉันลืมบาตรอีกแล้ว
ใครที่เดินผ่านไปมา
กรุณาอย่าหยิบมันไป
ฉันต้องขออภัยเจ้าอีกครั้ง
เจ้าบาตรน้อยของฉัน
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 27, 2010, 03:52:55 pm
(http://static.desktopnexus.com/thumbnails/70655-bigthumbnail.jpg)

11

ฤดูใบไม้ผลิเริ่มแล้ว
ทุ่งกว้างและพฤกษ์ไพร
ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันนานา
บางแห่งก็เขียว
บางตอนก็เหลือง
งดงามยิ่งนัก
มาเยี่ยมฉันบ้างสิท่านทั้งหลาย
แล้วท่านจะได้ยล
ความวิจิตรแลลาน
ของป่าฤดูใบไม้ผลิ


หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 27, 2010, 04:02:53 pm
(http://1.bp.blogspot.com/_mszlkyM8t8o/S-Lj5gQCE8I/AAAAAAAAF1I/emU5Wg3wyfs/s1600/koson_bird_spring_4.jpg)

12

นกฤดูใบไม้ผลิ
โบยบินกลับสู่รวงรัง
คราเย็นย่ำ
บนพุ่มพฤกษ์หนาทึบ
แว่วเสียงสกุณาเจื้อยแจ้ว
ล่องลอยตามสายลมอ่อน
อา สุขจริงหนอสนธยากาลนี้
ขอเหล้าสาเกให้ฉัน
อีกซักถ้วยซิเพื่อนเอ๋ย

หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 27, 2010, 04:04:31 pm
(http://www.panhala.net/Archive/Moon%20over%20Mount%20Rundel.jpg)


13
 
ค่ำคืนนี้
ดวงเดือนสีเงิน
สะท้อนประกายแวววับ
ดังเกล็ดแก้วบนดอกพลัม
ทั้งดอกไม้และดวงเดือน
ช่างงดงาม
ประสานรับกันและกัน
ฉันเดินพลาง
สายตาทอดมองภาพธรรมชาติ
อันสวยสดตระการตาข้างทางไปพลาง
จวบราตรีกาลย่างสู่วันใหม่
จึงมาถึงกระท่อมพัก

หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 27, 2010, 04:06:37 pm
(http://www.orientaloutpost.com/usa/n2972.jpg)

14

ขุนเขาสูงเสียดเมฆ
ยามนี้ปกคลุมด้วยหมอกหนานัก
และป่าเชอรี่พราวดอกแดงสด
มองสิท่าน
มองดูความมหัศจรรย์
อันเกิดจากธรรมชาตินั้น

หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 27, 2010, 04:10:57 pm
(http://blueridgeblog.blogs.com/photos/uncategorized/cherry.jpg)

15

ชีวิตหนอชีวิต
ทำอย่างไรจึงจะลืม
ความงดงามของเจ้าได้
ฤดูใบไม้ผลิเยี่ยมผ่านมาเยือนแล้ว
ดอกเชอรี่บนภูเขาบานสะพรั่ง
รอรับการมาเยือนของลมฤดูใบไม้ผลิ
อา นี่แหละหนอความงดงาม
ของสิ่งที่เรียกว่าชีวิต


หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 30, 2010, 05:21:06 pm
(http://zentofitness.com/wp-content/uploads/2009/06/1531979022.jpg)

16
 
ทุกเช้าของวันใหม่
ฉันจะเข้าไปในหมู่บ้าน
เพื่อบิณฑบาต
เช้าฤดูใบไม้ผลินี้ก็เช่นกัน
ฉันเดินออกจากกระท่อม
พร้อมบาตรน้อยในมือ
เดินออกมาได้หน่อยหนึ่ง
สายตาก็ปราดไปเห็น
ดอกไวโอเล็ตสีม่วงขึ้นอยู่เรียงราย
ริมทางเดิน
เพลินเก็บดอกไวโอเล็ต
จนลืมเรื่องบิณฑบาต
มารู้สึกตัวอีกที
ตายล่ะ ตะวันสายโด่งแล้ว
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 30, 2010, 05:42:25 pm
(http://allwomenstalk.com/wp-content/uploads/2010/02/10-things-that-cause-premature-skin-aging/sun-exposure_things-cause-premature-skin-aging.jpg)


17

ฤดูใบไม้ผลิปีนี้
วันวานช่างผ่านผันไปรวดเร็วนัก
ณ ป่าไม้ใต้ศาลเจ้าแห่งนั้น
ฉันกับเด็ก ๆ วิ่งเล่น
กลางแสงอันอบอุ่นแห่งดวงตะวัน
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 30, 2010, 05:45:08 pm
(http://www.hickerphoto.com/data/media/24/sp_F76T2493.jpg)

18

ชีวิตของฉันนี้
ผูกพันอยู้กับของสองสิ่ง
คือเหล้าสาเกหนึ่ง
กับดอกไม้บานอีกหนึ่ง
ชีวิตในวันนี้
มีเหล้าสาเกกับมวลปุบผาเป็นเพื่อน
วันพรุ่งนี้
ทุกอย่างยังเช่นเดิม
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 30, 2010, 05:48:21 pm
(http://www.whatdigitalcamera.com/imageBank/b/BEECH-TREES-IN-FOG-11.2.107.jpg)


19

ท่ามกลางปุยหมอกสลัวราง
และรัศมีอบอุ่นของดวงตะวัน
แห่งฤดูใบไม้ผลิ
ฉันกับเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน
เริงเล่นกลางทุ่งหญ้า
ทั้งฉันและเด็ก
ไม่มีใครต้องการ
ให้วันเวลาอันสนุกสนานนั้น
ค่ำมืดลงเลย
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 30, 2010, 05:54:11 pm

(http://www.permissionresearch.com/images/pr/pre_en_flowers_large.jpg)


20

วันนี้ฉันตั้งใจ
จะเข้าไปชมดอกพีชบาน
ที่ในหมู่บ้าน
แต่เมื่อผ่านมาทางแม่น้ำ
ก็ได้พบเห็นดอกไม้ป่า
บานสะพรั่งริมลำธาร
เป็่นอันว่าวันนี้ทั้งวัน
ฉันไปไม่ถึงหมู่บ้าน
เพราะมัวแต่เฝ้าชม
ดอกไม้บานอยู่ฝั่งแม่น้ำนั้น
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ กันยายน 30, 2010, 05:57:07 pm
(http://i243.photobucket.com/albums/ff273/tuulabruno/1flowerBuddha.jpg)


21

ในบาตรของฉัน
ดอกไม้ป่าที่เก็บมา
คลุกเคล้าผสมผสาน
เข้าเป็นหนึ่งเดียว
กับองค์พุทธะ
ผู้เป็นจอมแห่งไตรโลก
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ ตุลาคม 09, 2010, 08:48:12 pm
(http://www.saintremy.com/images/ART%20ROSE%20SIGAL%20IBSEN/Cherry%20Tree%20203.jpg)

22

เมื่อกระหาย
ฉันระงับความกระหายนั้น
ด้วยเหล้าสาเก
บ่ายวันนี้หลังจากดื่มแล้ว
ฉันออกจากกระท่อมมานอนเล่น
ใต้ต้นเชอรี่กลางทุ่ง
ดอกเชอรี่พริ้วระริก
กลางสายลมอ่อน
ช่วยขับกล่อมให้ฉันเคลิ้มหลับ
ครู่หนึ่งผ่านไป
โลกทั้งโลกของฉัน
ก็พลันเรื่อรางกลายเป็นความฝัน
อันงดงามแสนหวาน
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ ตุลาคม 09, 2010, 09:33:57 pm
(http://www.thermopolis.com/upload/image/big_spring_large.jpg)

23

มวลไม้ป่าข้างกระท่อมฉัน
ชวนกันตกดอกออกช่อ
รอรับแขกผู้มาเยือน
อันได้แก่ฤดูใบไม้ผลิ
ใบไม้แห้ง
ที่หลงเหลือจากฤดูใบไม้ร่วง
ยามนี้ไม่มีให้เห็นแม้ใบเดียว
ป่าทั้งป่าดาดาษด้วยดอกและใบอ่อน
ฉันเองก็รู้สึกสดชื่นบันเทิงใจ
เร่งรีบเข้าไปในหมู่บ้าน
เพื่อพบกับเด็ก ๆ
หัวข้อ: Re: บทกวีเซนของเรียวกัน … “รอยรำลึกที่ผ่านเลย”
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊กซ ที่ ตุลาคม 13, 2010, 09:27:58 pm
(http://th03.deviantart.net/fs32/300W/i/2008/224/d/d/Under_the_Willow_Tree_by_Anica_SP.jpg)


24

ใต้ต้นหลิวร่มครึ้ม
ฉันกับเพื่อน
นั่งร้องเพลงพลาง
หัวเราะพลาง
วันเวลาที่เคลื่อนคล้อยไป
ช่างเปี่ยมด้วยความสุข
อันเกิดจากมิตรภาพ
แท้จริงเชียว