(http://www.dharma-isara.onoi.org/images/stories/lp/lp001.jpg)
สมาธิลมปราณ ๗ ฐาน โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ
แสดงไว้เมื่อวันที่ ๒๐ พ.ค.๒๕๔๐
..... ปราชญ์ โบราณเค้าบอกว่า ตื่นเช้าขึ้นมา คนที่มีความคิดก้าวไกล นักบริหารที่ยิ่งใหญ่และผู้ที่มีปัญญาฉลาดหลักแหลมผ่องใส วิธีการเจริญปัญญา และ ทำให้สมองแช่มใส และ ใช้งานให้สมบูรณ์ตื่นเช้า ๆ ขึ้นมา เช้า ๆ นะไม่ใช่เช้าแก่ ๆ ยังไม่เห็นแสงอาทิตย์ มีแต่แสงสว่างแต่ยังไม่เห็นแสงอาทิตย์ ให้เงยหน้ามองไปในท้องฟ้า แล้วก็ปล่อยความคิดจิตวิญญาณเปิดกว้างไกล ใช้สายตาสำรวจ องศาในการมองให้ครบ ๑๘๐ องศา นั้นคือเปิดดวงตาให้มองกว้าง รับสัมผัสเสียงที่มีอยู่รอบ ๆ กายให้ครบทุกชนิด สูดกลิ่นรอบ ๆ กายที่มีอยู่รอบ ๆ ให้ครบทุกอย่างครบถ้วน ผิวหนังเปิดกว้างรับสัมผัสกลิ่นไอธรรมชาติและบรรยากาศรอบ ๆ อวัยวะทั้งหลายตื่นตัว ตื่นตนเตรียมที่จะเป็นคนที่จะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ใน ๒๔ ชั่วโมงข้างหน้า เมื่อฝึกอย่างนี้ทุก ๆ วัน นั่นคือคุณสมบัติของ ผู้นำ ผู้ยิ่งใหญ่ และ มันจะสั่งสอนสั่งสมอบรมสมองเซลล์ประสาททั้งหลายให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ และ เตรียมการที่จะทำงานหนักในเวลาต่อไป เหมือนกับเราติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้เพื่อที่ให้มันสูบฉีดน้ำมันเข้าไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์จนเห็นว่าพอสมควรแก่เวลาเราก็เดินเครื่องยนต์ทำงาน มันจะไปได้อย่างนิ่มนวล คล่องแคล้ว แล้วก็ กระฉับกระเฉง เมื่อเรายืนสัมผัสต่อกลิ่นไอเรียบร้อยแล้วก็ ยกขา ยกแข้ง ยกแบบชนิดที่มีจิตใจที่รู้จักควบคุมในการยก ควบคุมพลังที่หมุนเวียน และ เดินย้อนไปตามกระบวนการของอาการยก แบบสบาย ๆ บางเบา และ สดชื่นโปร่ง พร้อมกับการสูดลมหายใจอย่างยาว ๆ อ่อนโยน แผ่วเบา เป็นรสชาติของกลิ่นไอ ธรรมชาติที่เราได้ดื่มด่ำลิ้มรสมันอย่างที่เราคิดว่าเราไม่เคยสัมผัสกลิ่นไอแบบนี้มาก่อน และ เราก็จะเกิดประสบการณ์ทางวิญญาณของเราเฉพาะ ๆ ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน มันเป็นประสบการณ์ของความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น และ เบิกบาน สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ยาว ๆ ให้เต็มปอด แล้วผ่อนลมออกมาอย่างแผ่วเบา ยาว ๆ นิ่มนวล ซักหลาย ๆ ครั้งที่เราสามารถทำได้
..... ลองสำเหนียกดูสิว่าตัวเองมีอารมณ์อะไรลึก ๆ ตรงนี้บ้าง ถ้าเรายังมีลูก มีเมีย มีผัว มีบ้าน มีญาติ มีแม่ มีพ่อ และมีเพื่อนอยู่ในหัวใจ รวมทั้งการงาน ก็โยนมันทิ้งไปให้เหลือแต่ตัวเราล้วน ๆ และ อารมณ์อันสดใส สดชื่น และ เบิกบาน และเราก็จะรู้ว่ากลิ่นอายของธรรมชาติ ช่างเป็นการเสริมสร้างจิตวิญญาณของเราให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น และ เบิกบานได้อย่างเยี่ยมยอด บรรยากาศของธรรมชาติ ช่างเป็นความเร่งเร้าไฟในร่างกายให้ลุกกระพือเพื่ออยากจะได้ทำกิจกรรมยามเช้า อันสดชื่นต่อไป อย่างชนิดที่ไม่คิดว่า เหนื่อย เมื่อย เบื่อ หรือ เซ็ง รูปลักษณ์แห่งธรรมชาติที่ตาเราได้เก็บข้อมูลรอบ ๆ ไว้ ช่างเป็นกระบวนการที่ปลุกให้เราเป็นผู้ที่มีวิญญาณอันแจ่มใส และ เบิกบานอย่างยิ่งใหญ่ บรรยากาศที่กระทบและ แตะต้องผิวหนังทั้งหลายในกายเราเป็นบรรยากาศที่เติมแต้ม กลิ่นอาย สี เสียง แสง ให้ชีวิตเราอย่างเป็นผู้รู้ ตื่น เบิกบาน และ แจ่มใส ช่างเป็นชีวิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุขสมบูรณ์แห่งอารมณ์สันติเยือกเย็น และ สงบ ถ้าเราไม่ได้รสชาติเหล่านี้ก็เท่ากับว่าเราใช้ธรรมชาติจักรวาล สิ่งแวดล้อม รวมทั้งชีวิตไม่เป็น สาระของการมีชีวิตถือว่าเราได้แค่ครึ่งเดียว หรือ ไม่ถึงครึ่งจำไว้ลูก อย่าพยายามก้มหน้าเมื่อตื่นขึ้นมายามเช้า คนที่ก้มหน้าตอนเช้าโบราณเค้าถือว่าเป็นพวกคนโดนธรณีสาป พวกที่ค่อนข้างไม่เอาโลก ไม่เอาเรื่อง ไม่เอาราว ไม่เอาเก๊า ไม่เอาประเทศ และ ก็มีความคิดสั้น ๆ มีความคิดอันต่ำ ๆ แล้วก็สมองปัญญาไม่แจ่มใส เป็นคนเจ้าทุกข์ อมโรค และ มีจิตใจที่ค่อนข้างหวาดระแวง วิตกกังวล และ หวาดผวาสะดุ้งกลัว พวกที่นั่งก้มหน้า เดินก้มหน้า ยืนก้มหน้า เป็นกระบวนการของการสาปแช่งตัวเอง
..... ลองดูลูกนกสิลูก ตื่นขึ้นตอนเช้า สิ่งแรกที่มันทำก่อนเบื้องต้น ก็ คือ มองไปในทิศเบื้องบนมองดูฟ้าแล้วก็ อ้าปากขอเหยื่อจากพ่อ แม่ มัน ถึงจะมีชีวิตรอด ถ้าลูกนกตัวไหนมองลงมาในทิศเบื้องล่างแล้ว คอตก แสดงว่าเตรียมตัวตาย ไม่มีโอกาสจะยืนหยัดอยู่ได้ต่อไปในโลก เมื่อเราแหงนมองดูในทิศเบื้องบนแล้ว ก็จงมองดูในทิศท่ามกลาง สายตามองตรงไปข้างหน้า แล้วเก็บสิ่งแวดล้อมของธรรมชาติ และ ดื่มด่ำกับกลิ่นไอของมันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ตอนนี้ถ้าจะเปรียบกับร่างกายเราก็เหมือนกับ ตุ่มว่าง ๆ ที่ยังไม่มีอะไรอยู่ในตุ่มนั้นแล้วก็เปิดกว้างให้มันรับกลิ่นไอของอากาศ และ อะไร ๆ ในความสดชื่นแจ่มใสเข้าไปในชีวิตวิญญาณเติมแต้มพลังของเราให้มากมวลไปด้วยสภาวะของ ผู้รู้ ตื่น และ เบิกบานคิดจะทำการงานในหน้าที่ต่อไปอย่างกระฉับกระเฉง เต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วก็ รวดเร็ว เร่งรีบ รวบรัด แล้วก็ให้ทุกอย่างมัน เรียบร้อย ด้วยการใช้พลังให้เป็น ถูกต้อง บริสุทธิ์ตรงต่อชีวิตวิญญาณที่เราได้รับประโยชน์ เดี๋ยวหลวงปู่จะสอน ลมเจ็ดฐาน ให้กับพวกเรา ซะ นิดหนึ่ง ดูว่าเราจะเรียนรู้ได้แค่ไหน ผู้ชายนั่งขัดสมาธ ขัดสมาธแบบสมาธินะ ไม่ใช่แบบนั่งล้อมวงลูก ยืดอกขึ้น ไม่ใช่ยืดคอลูก สำรวจ ตรวจดู สันหลังของเราว่า ข้อต่อของเรา นั้นมันตรงทุกข้อ ไม่ขบกันหรือเปล่าแล้วหลับตา ค่อย ๆ หลับตา ด้วยความนิ่มนวล และ เต็มเปี่ยม ไปด้วยความรู้เนื้อรู้ตัว แล้วลองดูซิใช้ความรู้สึกสำรวจดูตั้งแต่ข้อต่อต้นคอ ยันกระดูกสันหลังทุกท่อนว่ามันขบกันไหม มันตั้งตรงไหมมันเบี้ยวไหม ขยับตัวให้ได้ตรง ๆ ลูก เบี้ยวซ้ายที เบี้ยวขวาที ขยับให้ดูให้มันเข้าที่ลูก ถ้ามันไม่เข้าที่ก็ขยับอีกทีหนึ่ง ลองดูซิยืดเข้ายืดออกอก เอียงซ้าย เอียงขวาเอาให้ได้ถ้าใครไม่เข้าที่จะได้ผัวะแน่ล่ะ นั่ง อย่าให้กระดูกสันหลังขบกัน