-
คิดว่าแน่ เข้าใจแล้ว ทำไม่ได้
ฝึกต่อไป ให้ตั้งมั่น จิตกุศล
ให้รู้ไว้ ต้องเพียรต่อ ให้อดทน
สำรวจตน เพื่อพ้นตน พ้นทุกข์ใจ
ตามรู้ต่อ ปัจจุบัน ทันแค่ไหน
เพียรตั้งใจ ให้ระวัง อย่าหวั่นไหว
อาจพลาดพลั้ง ให้รีบรู้ ระวังไว
รู้จักใช้ มีสติ เกิดปัญญา
ผ่านไปแล้ว ให้ผ่านไป รู้จักคิด
ควรพินิจ คุณหรือโทษ มิกังขา
นำมาใช้ ประโยชน์สุข เหนี่ยวนำมา
เพื่อนำพา สู่ทางรอด สงบนาน
:06: :06:
คิดแทนใคร ได้อะไร ที่ไปคิด
บุญอุทิศ เมตตาจิต ผิดไฉน
คิดพูดทำ แล้วไปแล้ว ช่างปะไร
ใครเล่าใคร ก็ใจเรา เท่านั้นเอง
หากมองย้อน กลับมาทวน ก็จะเห็น
ทุกสิ่งเป็น เหตุปัจจัย ใช่ข่มเหง
มีเพียงเรา ที่สร้างเรื่อง เข้าละเลง
จะไปเพ่ง ที่อะไร ไม่พบเจอ
-
คิดให้ดี ก่อนจะทำ เพื่อกันพลาด
หากประมาท ย่อมเป็นทุกข์ ใจหลงไหล
ผลที่ได้ คือที่ทำ ไปนั่นไง
อย่าเสียใจ ให้ยอมรับ ปรับใจตน
ทำให้ดี เท่าที่ทัน ปัจจุบัน
ทุกสิ่งอัน เป็นปัจจัย เหตุส่งผล
ทำอย่างไร ก็ย่อมได้ รู้อดทน
จะผ่านพ้น ได้หรือไม่ อยู่ที่ใจ
:44: :44:
เพราะด้านชา...ปัญญา...หลงโลกอยู่
เพราะไม่รู้...หลงตน...ยังสับสน
เพราะยึดติด...สิ่งมี...ในตัวตน
เพราะหลงกล...จึงทุกข์...ทรมาน
เพราะทำเอง...ยอมรับ...กับผลไป
เพราะก่อไว้...ทำใจ...อย่าสืบสาน
เพราะต่อเรื่อง...ต่อราว...เสียยาวนาน
เพราะเพียงผ่าน...พ้นไป...วางจบลง
-
อันธรรมะ...ที่แบ่งมา...รู้ขอบคุณ
ได้เป็นบุญ...ที่ได้รู้...ได้ขวนขวาย
แม้ตัวตน...ผู้ที่ให้...ต้องมลาย
ไม่เสียดาย...ได้พบธรรม...ที่แบ่งเบา
:19: :19:
หากรู้จัก...พิจารณา...ก็จะเห็น
ทุกสิ่งเป็น...บทธรรมะ...ที่พร่ำสอน
ใจเรานั้น...เข้าไปจับ...ทุกบทตอน
รู้จักทอน...ย้อนสอนตน...ให้พ้นไป
-
ใกล้เข้ามา...แล้วนะ...ความตายนี้
เกิดมามี...เท่านี้...พอใจนะ
เท่าที่มี...แค่นี้...ตามอัตตะ
จะลดละ...แค่ไหน...เท่าที่ทัน
:yoyo019: :yoyo010:
-
พลาดไปแล้ว ให้เป็นครู เตือนพร่ำสอน
ทุกบทตอน มีคุณค่า มองให้เห็น
สิ่งใดควร และมิควร เข้าใจเป็น
รู้จักเว้น เพื่อไม่พลาด เหมือนเช่นเคย
:26: :26:
ตัวตนโผล่ ให้ได้เห็น เลือกทางไป
สงบใจ หรือหลงกล ตามใจฉัน
หากต่อเติม ก็มากเรื่อง รู้ไม่ทัน
หากปิดมัน เรื่องก็จบ สงบจัง
แต่บางที ก็จบยาก เพราะมันหลง
เฝ้าพะวง ไปตามอยาก เป็นกรงขัง
โดนพาหลอก ให้ติดใจ เป็นวงวัง
รู้ยับยั้ง เพื่อปิดเวียน เปลี่ยนที่ตน
-
แต่งได้จับใจมากค่ะ ทั้งคำทั้งความ..
ธรรมะสดใส ได้ข้อคิดมากมาย
ขอบคุณนะคะ ที่นำมาเตือนสติ :13:
-
:46: สุโค่ยแห่งบทกวีเชิงธรรมะครับ
-
เหลืออะไร...อะไร...ที่ยังเหลือ
จึงต้องเผื่อ...ทำใจ...ตามรู้หลง
แม้บางครั้ง...สับสน...พบความ...งง
จิตพะวง...กังวล...ระวังใจ
มีอะไร...รีบรู้...ดูให้เห็น
มีความเป็น...เช่นนั้น...ปล่อยจิตไหล
คุมสติ...กลับมา...ระวังไว
พลั้งพลาดไป...ให้เห็น...ความเป็นไป :37:
-
ได้คำชม...มิใช่เพื่อ...ให้เราหลง
อย่าพะวง...คำติเตียน...ย้อนดูตน
หากเป็นจริง...ดังเขาว่า...ให้อดทน
ปรับปรุงค้น...ปรับใจพ้น...ตนไม่มี
-
:yoyo106:
-
:45: ..... :13: :19: .. ขอบพระคุณ + อนุโมทนา..สาธุ ด้วยค่ะ ^^ ..กับ การ (http://www.tairomdham.net/Themes/default/images/post/wink.gif) เขียนบทกวีด้วยหัวใจ ♥ ให้เป็นธรรม .. (http://www.tairomdham.net/Themes/default/images/post/grin.gif) ของ คุณ เล็ก และ ทุกๆท่านเลยนะคะ .. ('_^)b
-
เกิดมามีทุกข์ใครว่าโชคร้ายเล่า
อย่าได้เศร้าโศกไปเลยมีสติหนา
ทุกข์เกิดนั่นแหละทางพ้นทุกข์มา
ตั้งสติจ้าเห็นไหมทุกข์มาก็ดับไป
ทุกครั้งที่ทุกข์เกิดเป็นอย่างไรเล่า
ใครล่ะเศร้าใครล่ะโศกมีบ้างไหม...
หากมีก็ให้รู้ว่ามี แต่ไม่ยึดติดที่ในใจ
แล้วจะมีใคร ได้ทุกข์นั้น เป็นไม่มี...
:42: :42:
เราต่างคน ดิ้นรน ทนกับทุกข์
อาจมีสุข เคล้าคลุก ปลุกให้หลง
เราต่างคน ถูกขัง อยู่ในกรง
ฝึกฝนตน ไม่งง ปลงทุกข์ใจ
เราต่างคน เกิดมา หาคำตอบ
รู้โดยรอบ แหวกกรอบ มอบจิตใส
เราต่างคน ไม่รู้ เพื่อฝึกไป
รู้เมื่อไหร่ คงได้ รู้ด้วยตน
เราต่างคน มีแนวทาง สร้างวิถี
เป็นวิธี กรรมมี ที่เวียนผัน
เราต่างคน ทำไว้ ได้อย่างนั้น
เพียงรู้ทัน ตั้งมั่น ทำให้ดี
-
สิ่งที่เข้ามาหาให้มีสติพิจารณา
สิ่งใดพาให้มาพบทบทวนไข
สิ่งที่เกิดขึ้นตั้งอยู่นั้นผ่านพ้นไป
สิ่งที่ใจรับไว้นั้นสักวันก็ลืมเลือน
สิ่งดีดีเข้ามามีความหมายให้จดจำ
สิ่งร้ายทำให้ใจทุกข์คอยเชือดเฉือน
สิ่งปลอมปนเป็นมายาคอยย้ำเตือน
สิ่งที่เหมือนกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่แท้ที่จริงละเอียดและแยบยล
สิ่งฝึกฝนให้ทนเรียนแก้ไขใจไม่เหลิง
สิ่งสร้างสรรค์ปัญญาช่วยหยุดหลงระเริง
สิ่งใดเพิ่งผ่านมาย่อมต้องผ่านพ้นไป
สิ่งเกาะกุมยึดติดให้ติดขัดหัดดูไว้
สิ่งเป็นไปคอยชี้แนะให้ใจได้คอยไข
สิ่งนั้นเป็นเช่นนั้นเองล้วนรู้ทันได้ด้วยใจ
สิ่งที่ไร้ปัญญาลึกตรึกตรองด้วยแจ้งจริง
:08: :08:
--------------------------------------------------------------------------------
ในความมี บางที มีที่ไหน
ในความใกล้ ใจติด จิตหลงไป
ในความไกล ห่างเกิน เดินอ้อมไกล
ในความใช่ บางครั้ง ยังมายา
ในความเปลี่ยน เรียนรู้ ดูกันไป
ในความไร้ หมั่นตรึก หมั่นศึกษา
ในความเป็น เห็นสิ่ง จริงเข้ามา
ในความกล้า พาทำ ล้ำรู้ตน
ในความสุข ทุกข์มี เปลี่ยนแปรผัน
ในความรัก จักพบ ประสบผล
ในความจำ ทำให้ ต้องอดทน
ในความวน ปนเข้า เฝ้ารู้ไป
ในความคิด จิตเกิด เปิดท่องทาง
ในความต่าง ย่างเท้า เฝ้าแก้ไข
ในความเหมือน เตือนทัน ปัญญาไว
ในความนัย ไม่มี หากรู้ทัน
-
:45:ขอบคุณนะค่ะคุณเล็ก :13:
-
ไว้อาลัย ใจตัวเอง เร่งเรียนรู้
ฝึกทนอยู่ ดูใจตน กลหลอกหลอน
มากมายคิด จิตสับสน วนเว้าวอน
สติสอน ย้อนดูใจ ให้ชัดเจน
ไตรสิกขา พาใจเสริม เติมด้วยศีล
หมั่นป่ายปีน ดีทำเพิ่ม เริ่มมองเห็น
สงบใจ ให้ผ่องใส ใจใสเย็น
ปัญญาเน้น ช่วยนำทาง กลางพอดี
ลงไตรลักษณ์ รู้จักไป ในบทสอน
ไม่แน่นอน ย้อนเป็นทุกข์ เห็นวิถี
ทุกสิ่งล้วน ป่วนใจนั้น พลันไม่มี
เห็นเช่นนี้ มีปัญญา มารู้ทัน
:19: :19:
ไม่เรียกร้อง ใดใด ให้ปวดจิต
ไม่ต้องคิด ใดใด ให้ต้องหมอง
ไม่ต้องจำ ใดใด ให้ต้องลอง
ไม่ต้องจอง ใดใด ให้ติดใจ
ไม่ต้องรู้ ใดใด ให้วุ่นวาย
ไม่ต้องทาย ใดใด ให้สงสัย
ไม่ต้องอวด ใดใด ให้หลงไป
ไม่ต้องได้ ใดใด ให้วางลง
ไม่ต้องมี ใดใด ให้ทุกข์เกิด
ไม่ต้องเปิด ใดใด ให้ต้องหลง
ไม่ต้องปิด ใดใด ให้รู้ปลง
ไม่ต้องตรง ใดใด ให้ต้องมี
ต้องเพียรทำ ใดใด ให้เสร็จผล
ต้องเพียรทน ใดใด ให้วิถี
ต้องเพียรจบ ใดใด ให้รู้ดี
ต้องเพียรที่ ใดใด ให้รู้ทัน
-
--------------------------------------------------------------------------------
เที่ยวค้นหา เท่าไหร่ ไม่เคยพบ
ไม่รู้จบ กว้างใหญ่ และไพศาล
สุดท้ายแค่ เหลือไว้ เพียงตำนาน
ไว้กล่าวขาน วนกลับ ความทรงจำ
ค้นภายนอก มากมาย ไม่มีหมด
มีไม่ลด หลายหลาก สุดถลำ
หากไม่หยุด ค้นหา เหมือนถูกอำ
จิตลอยลำ ไม่เห็น ใจข้างใน
ค้นตนเอง ให้เจอ ให้เพียรพบ
ได้รู้จบ พอใจ ไม่หลงไหล
ทุกสิ่งนั้น มายา ลวงหลอกใจ
หลงตามไป ถูกหลอก ไม่รู้จริง
ความเป็นจริง เกิดดับ อยู่เป็นนิจ
เพียงยึดติด เหตุผล ใจถูกสิง
หลงในอยาก ไม่ปล่อย เพื่อแอบอิง
เพื่อพักพิง ที่ตน เพียงพอใจ
:19: :19:
ปล่อยความคิดไหลไปดั่งสายน้ำ
แล้วเผลอทำดังคิดจิตสับสน
ทำให้มีเพราะอยากมีตัวตน
หากอดทนรู้ทันมันไม่มี
แต่ก็ยังอดใจไว้ไม่ไหว
ก็เพราะใจถูกอำสิงด้วยผี
หลงชอบชังทุกข์สุขวนย่ำยี
เป็นอย่างนี้รู้ไว้ฝึกรู้ตน
-
เพราะมีเธอ ทำให้ฉัน ได้เข้าใจ
ชีวิตใช้ ให้เป็นไป ตามที่เห็น
ทำอย่างไร ย่อมได้อย่าง ตามบำเพ็ญ
ทำให้เป็น เย็นสงบ พบความจริง
อันความทุกข์ วุ่นวายเยอะ น่าปวดหัว
หลงเมามัว แบกเอาไว้ โดนหลอกสิง
วางไม่เป็น ปล่อยไม่ได้ ไม่ยอมทิ้ง
ใจจมดิ่ง สู่ห้วงติด บ่วงผูกพันธ์
อันความสุข มาเพียงครู่ จากไปไว
ความอยากได้ เมื่อไม่ได้ ทุกข์ผวนผัน
เพียงเข้าใจ รู้จักตรึก เพื่อรู้ทัน
ทุกสิ่งอัน อย่าไปยึด เพื่อหลอกตน
อันความมี เกิดขึ้นแล้ว พิจารณา
ด้วยปัญญา มีสติ มีเหตุผล
มองให้ลึก มองให้เป็น จริงหรือกล
รู้อดทน เพื่อข้ามพ้น รู้ตามจริง
:39: :39:
เป็นเพราะเรา ยอมให้ ทุกข์เข้ามา
ยังอุตส่าห์ คิดให้ ทุกข์ตามหลอน
คอยยึดติด แบกทุกข์ ใจอาวรณ์
ห่วงอาทรธ์ ร้อนใจ เผาแผดทรวง
ที่ทุกข์มี เพราะเรา ทำให้ทุกข์
เปิดกรงคุก ขังใจ ทุกข์ตามหวง
หลงแบกไว้ ให้หนัก หลงติดลวง
พันผูกบ่วง ไม่ปล่อย ทุกข์ผูกพันธ์
ทุกข์หนักอึ้ง เพราะใจ ชั่งตวงวัด
ไม่ยอมตัด ทุกข์ไป รู้จัดสรร
เห็นทุกข์แล้ว ยังหลงแบก ไม่รู้ทัน
ทุกข์ก็พัน เกาะใจ มีตัวตน
-
ยังคิดถึง ถึงคิด คิดได้ถึง
ยังตราตรึง ถึงกัน มีให้หวล
ยังซาบซึ้ง นึกถึง รู้ไคร่ครวญ
ยังสมควร สำนึก ในบุญคุณ
ควรขอบคุณ ไมตรี มิตรภาพ
ควรก้มกราบ นอบน้อม ใจหยุดหมุน
ควรตั้งจิต ให้นิ่ง ใจการุณ
ควรสร้างบุญ เพิ่มทุน ไม่วุ่นวาย
เพียงผ่านมา เพื่อพบ และจบจาก
ไม่นานพราก ห่างกัน สิ้นสลาย
พบกันแล้ว ลากัน ใจผ่อนคลาย
เกิดอยู่ตาย รู้ทัน ปัจจุบัน
ความเป็นจริง นั้นมี ให้เห็นอยู่
ให้ทันรู้ แค่ดู รู้แปรผัน
อิสระ ผ่องใส แค่รู้ทัน
ทุกสิ่งอัน แค่นั้น แค่นั้นเอง
:13: :13:
เพราะยังมี ลมหายใจ จึงได้คิด
เป็นมิ่งมิตร ติดตราตรึง ถึงความหลัง
บุญคุณนั้น รำลึกได้ ซาบซึ้งจัง
เป็นพลัง กำลังใจ ให้สู้ไป
อันอดีต เป็นประโยชน์ มุ่งสร้างสรรค์
ใจรู้ทัน ไม่เป็นโทษ จิตผ่องใส
ไม่คาดหวัง อนาคต รู้พอใจ
ไม่เป็นไร ปัจจุบัน เท่านี้พอ
:44: :44:
สิบขวบนั้น ยังเด็ก เร่งศึกษา
ยี่สิบมา ต้องการ คนช่วยไข
สามสิบแล้ว สงสัย ยึดรู้ไป
สี่สิบไว เร่งรีบ ทำแต่งาน
ห้าสิบปี เริ่มปลง ในชีวิต
มัวแต่คิด หกสิบ หยิบสงสาร
เจ็ดสิบมา ผมหงอก ผิวหย่อนยาน
แปดสิบผ่าน ป่วยไข้ รุมเร้าใจ
เก้าสิบเยือน เหมือนเตือน ปลงสังขาร
ทรมาน วังวน เร่งแก้ไข
ร้อยปีนั้น กลับเด็ก ทารกไง
คืนกลับไป เกิดตาย หรือดับพลัน
-
อันภายนอก นำใจ ให้ลุ่มหลง
ห่วงกังวล เป็นทุกข์ คร่ำครวญหา
เราต้องรู้ มีสติ พร้อมปัญญา
จะรู้ว่า อะไร ยึดติดมัน
เพราะความมี คอยหลอก ให้เป็นทุกข์
อาจเป็นสุข ชั่วคราว แล้วแปรผัน
สุดท้ายแล้ว ต้องปล่อย ทุกสิ่งอัน
ทุกสิ่งนั้น ถ้ายึด ห่วงผูกใจ
:11: :11:
เป็นอย่างไร อยากรู้ อยากจะคิด
อยากจะติด เชื่อมไป ใจห่วงหา
ที่เป็นนั้น เป็นไป ธรรมดา
เป็นมายา ควบคู่ รู้ให้เป็น
เมื่อเกิดขึ้น ย่อมดับ เพราะไม่ต่อ
หากไม่พอ ตั้งอยู่ รู้ทุกข์เข็น
เป็นประจำ เป็นไป ทุกข์เช้าเย็น
เป็นจนเห็น สิ่งเป็น รู้ปล่อยวาง
หากไม่วาง ก็ยึด ที่เป็นอยู่
หากไม่รู้ ก็หลง ต้องคอยถาง
หากไม่ได้ ไม่เป็นไร ฝึกตามทาง
หากไม่ห่าง จากธรรม รู้ได้เอง
-
อันความเจ็บ ที่กาย พิจารณา
รู้พึ่งพา เยียวยา แค่ทุกข์ขันธ์
ใจรู้จัก รักษา รู้ให้ทัน
เจ็บหายพลัน ที่ใจ เช่นนั้นเอง
เจ็บที่เกิด ยาวนาน เพราะใจปลุก
เจ็บเป็นทุกข์ ให้ทน มิโหวงเหวง
เจ็บตั้งอยู่ ให้รู้ เรานั่นเอง
เจ็บข่มเหง วังเวง ทุกข์วนเวียน
เจ็บแค่ไหน หายได้ เป็นบางช่วง
เจ็บเป็นห้วง เวลา ไม่เสถียร
เจ็บคอยเตือน ให้ใจ รู้พากเพียร
เจ็บจึงเปลี่ยน ได้เรียน ฝึกอดทน
เจ็บรู้สึก ที่ใจ ให้สร้างทุกข์
เจ็บจนจุก เพราะใจ นำเหตุผล
เจ็บใจกาย เกิดแล้ว เพราะตัวตน
เจ็บหลุดพ้น แยกได้ รู้วังเวียน
:19: :19:
หากมองดู ภายนอก ควรพินิจ
รู้จักคิด ไตร่ตรอง กรองเหตุผล
คุณหรือโทษ แยกแยะ ได้ด้วยตน
แล้วผ่านพ้น รู้คัด ตัดวางคลาย
หากมองดู ภายใน มองให้ลึก
ความรู้สึก สิ่งเดียว ใช่มีหลาย
มากระทบ ก็ดับ ก็มลาย
ที่ไม่หาย เพราะตน ยึดเอามา
หากมองดู เป็นกลาง ก็จะเห็น
ทุกสิ่งเป็น เช่นนั้น ทุกข์คอยหา
ใจไม่ทุกข์ รู้ทัน รู้กายา
รู้รักษา ตนรอด ปลอดวังวน
คิดพูดทำ นำไป ให้มีทาง
รู้สว่าง ย่อมดี มีเหตุผล
รู้แจ้งได้ ย่อมได้ ที่ใจตน
รู้อดทน พอดี พบสายกลาง
ทฤษฎี นั้นรู้ อยู่เต็มอก
แต่กลับพก แค่รู้ ทำไม่สาง
ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่รู้วาง
ฝึกตรงทาง ทำได้ พอที่ใจ
ที่เป็นอยู่ บ่งบอก ความรู้นั้น
ทุกสิ่งอัน เกิดเหตุ ผลก็ไหล
ทำอะไร พิจารณา ความเป็นไป
ตัวตนไร้ เหตุดับ ผลไม่มี
:19: :19:
เหตุภายนอก จะถูกผิด ขึ้นกับใจ
ให้เป็นไป ตามความคิด ซ้ายและขวา
อยู่ที่ใคร ตีความหมาย ให้ราคา
ประเมินมา ประเมินไป ตามสมควร
หากพอใจ ก็สบาย จิตผ่องใส
ชื่นฉ่ำใจ ยังอยากมี อยากให้หวล
ไม่พอใจ ก็แบกหนัก คิดคร่ำครวญ
ทุกข์แปรปรวน เพราะตนเอง ให้เกิดมี
หากวางเฉย สิ่งนั้นนี้ ไม่มีผล
รู้อดทน ไม่สร้างเหตุ หมดวิถี
โทษไม่มา ประโยชน์หมด ยังปราณี
เมตตานี้ ยังเหลือเหตุ และปัจจัย
-
:13: ไพเราะครับพี่เล็ก^^
-
ทุกข์เหมือนฝน มาแล้วหาย หมุนวนเปลี่ยน
สลับเวียน อยู่อย่างนั้น ให้คอยไข
หากกลัวฝน ก็หนาวสั่น เปียกกายใจ
กลัวสิ่งใด ดูให้ชัด คืออะไร
ให้รู้แน่ แยกให้ออก เพื่อรู้ทัน
เพราะสิ่งนั้น ละเอียดลึก ให้สงสัย
เข้ามาให้ เราค้นคว้า รู้ด้วยใจ
สติใช้ ปัญญาไว รู้ความจริง
:19: :19:
ตา...นอกมอง เป็นจำได้ เป็นคิดอยู่
ตา...มองดู ใจตีความ ตามที่เห็น
ตา...มองลึก ใจเข้าใจ ในที่เป็น
ตา...ในเย็น มองตื้นตื้น ตามความจริง
:39: :39:
กลับด้านคิด จิตถูกปลุก ทุกข์แปรผัน
กลับด้านกัน จิตเดิมแท้ ตื่นผ่องใส
ทุกข์หรือสุข ใจตนนั้น ไม่เป็นไร
เพียรสู้ไป ไม่หวั่นไหว สงบเย็น
หากคิดแล้ว ตามให้ทัน ในที่คิด
คิดแล้วติด คิดตามต่อ รีบให้เห็น
ควรคิดไหม คิดทำไม ให้ลำเค็ญ
วางคิดเป็น ไม่ยึดต่อ จบเรื่องราว
:47: :47:
หากทุกอย่าง รวมลงเป็น หนึ่งเดียวกัน
ธรรมสร้างสรรค์ จรรโลงใจ เป็นแก่นสาร
เกิดบรรเจิด ใจผ่องใส ใจเบิกบาน
ร่วมกันต้าน กิเลศมาร ให้พ้นไป
หากแตกแยก เป็นความคิด ที่ไม่เหมือน
ความเป็นเพื่อน เกิดเจ็บตาย ไม่สงสัย
วัฏจักร น่าสงสาร หมุนวนใจ
ช่วยกันได้ เป็นโอกาส ที่ได้ธรรม
:44: :44:
สำนึกคุณ ผู้เมตตา ช่วยบอกกล่าว
สิ่งที่ยาว เป็นวังวน ช่วยคอยไข
ให้เดินทาง ถูกและควร รู้กายใจ
สละไป เพื่อพ้นทุกข์ พ้นวังวน
สำนึกตน ผู้กำหนด ผู้รู้ทัน
ความผกผัน มิอาจกั้น ไม่เป็นผล
ทุกสิ่งนั้น เพียงแค่รู้ และอดทน
พ้นด้วยตน พ้นไม่พ้น เพียรทำธรรม
-
เริ่มสะสาง ขยะ ให้สะอาด
ไม่ประมาท รู้ทัน ไม่ทุกข์เข็น
ความมีนั้น มีอยู่ รู้ให้เป็น
สิ่งที่เห็น มีมั๊ย พิจารณา
จะว่ามี ก็มีอยู่ ดูก็เห็น
แต่อาจเว้น ไม่ดูบ้าง รู้รักษา
บางอย่างนั้น ไม่สมควร ดูด้วยตา
มีปัญญา ใจรู้ด้วย ช่วยรู้ทัน
อันขยะ แยกให้ดี มีประโยชน์
สิ่งเป็นโทษ ให้โยนทิ้ง อย่างสร้างสรรค์
อย่าเก็บไว้ ให้เหม็นหึ่ง เป็นทุกข์พลัน
ทุกสิ่งอัน ใช้ปัญญา ธรรมตามจริง
:08: :08:
บัวเกิดใน โคลนตม โผล่ขึ้นมา
เพียรอุตส่าห์ เติบโต ไปตามแรง
อุปสรรค มากมาย ต้องใจแข็ง
ปัญหาแกร่ง จึงแจ้ง ได้มีชัย
หากยอมแพ้ ยอมหยุด อยู่ที่เดิม
ไม่ยอมเติม โผล่พ้น เบิกบานใส
จมวังวน ความทุกข์ เนิ่นนานไป
เร่งเข้าใจ เพื่อรอด เห็นฟ้างาม
โผล่พ้นน้ำ ทำได้ เพราะความเพียร
ทุกสิ่งเปลี่ยน ไปได้ ไม่ผลีผลาม
ตั้งสติ ให้ดี พยายาม
รู้ตรงตาม ความจริง ทิ้งปล่อยวาง
:13: :13:
เมื่อจิตหนึ่ง นั้นอ่อนแอ พบปัญหา
จิตอ่อนล้า หาทางออก เพื่อแก้ไข
ดิ้นสับส่าย ยิ่งติดกับ ทุกข์ในใจ
ปล่อยวางไป ใช้สติ และปัญญา
ปัญหาเกิด คิดให้ดี ย่อมดีแน่
คิดพ่ายแพ้ ยิ่งอ่อนแอ ขังปัญหา
หากแก้ได้ คิดให้เป็น ความจริงมา
รู้รักษา ใจตนก่อน ย้อนดูใจ
หากติดกับ ในเรื่องราว กลับมาทุกข์
กลับมาสุข ย่อมวนเวียน จิตหลงไหล
สิ่งที่เกิด ย่อมแปรผัน ลับลาไกล
ย้อนมาใหม่ เพราะเรานั้น โง่เขลาเอง
ไม่ยอมปล่อย จ้าวอดีต ที่ผ่านแล้ว
คงไม่แคล้ว มีนั่นนี่ คิดข่มเหง
หากมีเรา ต้องมีเขา ก็วังเวง
เราระเลง หลงระเริง ไม่รู้ทัน
ไปยึดติด คาดหวังอยู่ อนาคต
ทางเลี้ยวลด ไม่แน่นอน จิตหุนหัน
เดินเมามัว ใจซวนเซ ทุกข์มาพลัน
เพราะเรานั้น ทำตัวเอง โทษใครกัน
-
--------------------------------------------------------------------------------
เมื่อไม่ได้ อย่างใจ ก็ผิดหวัง
ชีวิตพัง เป็นทุกข์ คิดสับสน
มุ่งทำร้าย สิ่งใกล้ ด้วยใจตน
ความอดทน มีขีด ที่ปัญญา
ยิ่งครุ่นคิด ทางลบ ใจยิ่งแย่
ความพ่ายแพ้ รอคอย ทุกข์หนักหนา
ครุ่นคิดบวก รอผล วันเวลา
หมั่นเยียวยา รักษา ให้รอดไป
ช่วงเวลา ช่วงนั้น ย่อมพ้นผ่าน
เป็นเพียงกาล ให้เห็น ความหวั่นไหว
หากติดกับ ยึดมา ก็ทุกข์ใจ
ระวังไว้ อย่าหลง คิดเมามัว
คิดแต่ทุกข์ คิดไป ใจสาหัส
เป็นประวัติ คนป่วย ใจสลัว
ปัจจุบัน ยังป่วย ใจหวาดกลัว
ระวังตัว ระวังใจ รู้ให้ทัน
:19: :19:
ความรู้นั้น ไม่รู้บ้าง จะได้ไหม
รู้มากไป ก็ฟุ้งซ่าน ประสาทเสีย
รู้แล้วอวด หลงตัวเอง ใจอ่อนเพลีย
รู้จักเคลียร์ มองให้เห็น ความเป็นกลาง
เพราะมีตน นี่แหละเป็น พาหะนะ
แบกภาระ อันหนักไว้ รีบสะสาง
แบกอะไร ให้รู้พอ รู้จักวาง
รู้จักทาง สายกลางไว้ ย่อมพอดี
-
หากมีสอง มีสาม ก็ยิ่งวุ่น
ชุลมุน แตกแยก เป็นปัญหา
สามัคคี รวมใจ เป็นปัญญา
สิ่งลวงตา ลวงใจ มลายไป
สิ่งที่มี พินิจ และพิเคราะห์
ให้พอเหมาะ พอควร ตามสงสัย
พิจารณา เห็นแล้ว วางให้ไว
ระวังใจ อย่าหลง ไปยึดมัน
:31: :31:
โทษคนอื่น โทษง่าย เห็นโทษชัด
โทษเราขัด ฝืนใจ เป็นหนักหนา
โทษตัวเอง โทษได้ เป็นเมตตา
โทษมีค่า ให้เห็น เป็นบทเรียน
-
วางใจกลาง...เป็นทาง...ที่พอดี
อาจยังมี...ให้รู้...วางสับสน
ที่ยังมี...เพราะเรา...มีตัวตน
จะให้พ้น...อดทน...ไม่ยึดมา
สิ่งควรยึด...ให้รู้...ยึดไว้บ้าง
เป็นหนทาง...เพื่อปล่อย...ทิ้งกังขา
ทุกข์ไม่เกิด...ธรรมนั้น...คงไม่มา
เพียรรักษา...รู้ผ่อน...หย่อนคลายธรรม
:13: :13:
-
กว่าจะเกิด...ยากลำบาก...ต้องทนทุกข์
ดิบและสุก...ก็ฝ่าฟัน...มาหลายหน
กว่าจะได้...เกิดมารู้...ความเป็นคน
ต้องอดทน...สู้สะสม...ตั้งยาวนาน
แล้วเกิดมา...ก็กลับสร้าง...แต่ความชั่ว
มัวเมามัว...หลงกิเลส...ไฟเผาผลาญ
เบียดเบียนกัน...หลงตัวตน...เป็นทาสมาร
น่าสงสาร...ทนลำบาก...ทุกข์ขังใจ
สุดท้ายตาย...ก็กลัวตาย...ห่วงนั่นนี่
เพราะไม่มี...ความเข้าใจ...จิตหลงไหล
ไม่รู้ความ...ตามความจริง...คือสิ่งใด
จึงต้องไป...พบกับทุกข์...หลอกหลอนตน
-
ทุกข์เหมือนฝน มาแล้วหาย หมุนวนเปลี่ยน
สลับเวียน อยู่อย่างนั้น ให้คอยไข
หากกลัวฝน ก็หนาวสั่น เปียกกายใจ
กลัวสิ่งใด ดูให้ชัด คืออะไร
ให้รู้แน่ แยกให้ออก เพื่อรู้ทัน
เพราะสิ่งนั้น ละเอียดลึก ให้สงสัย
เข้ามาให้ เราค้นคว้า รู้ด้วยใจ
สติใช้ ปัญญาไว รู้ความจริง
-
กลับด้านคิด จิตถูกปลุก ทุกข์แปรผัน
กลับด้านกัน จิตเดิมแท้ ตื่นผ่องใส
ทุกข์หรือสุข ใจตนนั้น ไม่เป็นไร
เพียรสู้ไป ไม่หวั่นไหว สงบเย็น
หากคิดแล้ว ตามให้ทัน ในที่คิด
คิดแล้วติด คิดตามต่อ รีบให้เห็น
ควรคิดไหม คิดทำไม ให้ลำเค็ญ
วางคิดเป็น ไม่ยึดต่อ จบเรื่องราว
-
เมื่อกายป่วย ใจก็ป่วย ไปตามจิต
อารมณ์คิด อารมณ์รู้ เริ่มหวั่นไหว
ความสงบ ความรู้ทัน โอนเอนไป
ระวังไว้ ให้เห็นเหตุ ธรรมสอนเรา
ให้รู้จัก ความเป็นอยู่ คือใจทุกข์
ป่วยไม่สุข ใจก็เศร้า จิตก็เขลา
สติหาย ไม่รู้ทัน ปัญญาเบา
วนเวียนเก่า เข้าถาโถม ในอีกครา
จะให้ดี อดทนหน่อย คอยแยกแยะ
ค่อยค่อยแกะ ให้แยกออก ค่อยค้นหา
อันกายป่วย ใจไม่ป่วย สติมา
ขุดความกล้า ความเข้าใจ ป่วยหายเอง
-
มีตัวตน...มีทิฏฐิ...จิตตั้งมั่น
เป็นบ่วงพัน...มัดรอบใจ...ให้หลงไหล
มีเราแล้ว...พาลมีเขา...ทุกข์เผาใจ
จะมีใคร...มิได้เลย...เราไม่มี
เพียงเข้าใจ...ทำไม่ได้...ก็มีมาก
ความหลายหลาก...หลอกพาใจ...ให้คอยหนี
เดี๋ยวก็ชอบ...เดี๋ยวก็ชัง...ไม่พอดี
เพราะยังมี...ตัวยึดตน...เข้าสิงใจ
-
วันวานผ่าน กับทุกข์ แสนร้าวราน
อยู่กับกาล ปวดเจ็บ และเหน็บหนาว
เวลาผัน แปลงทุกข์ จางชั่วคราว
ใจว่างเปล่า ชาชิน กลิ่นทรงจำ
พ้นผ่านทุกข์ ลืมเลือน เหมือนเวียนผัน
ผ่านวานวัน ใจลาง ห่างเจ็บช้ำ
สุขเริ่มเข้า เฝ้าหลอน โดนครอบงำ
สุขทุกข์ย้ำ ทำใจ ให้หลงคอย
สลัดเถิด เปิดตา หาให้เห็น
ทุกข์สุขเป็น เช่นมายา ลวงหลอกสอย
หากพลาดพลั้ง หลงกล ใจเลื่อนลอย
รู้ทันถอย เห็นเหตุ ดับได้ทัน
-
ใจเดี่ยวเดี่ยว เดียวดาย หลายรู้สึก
ใต้สำนึก ตรึกตรอง ท่องหวั่นไหว
ความคิดมี โลดแล่น แสนสุดไกล
สติใช้ ได้ทัน ปัญญามา
ทุกสิ่งอย่าง อ้างว้าง อย่างเสรี
ผูกพันธ์มี เกี่ยวข้อง คล้องบ่วงหา
ยามพรากจาก ทุกข์โศก โยกอุรา
ใจเดี่ยวหนา ไร้ยึด ไม่เกี่ยวกัน
เพียงพันผูก ปลูกใจ เพื่อนร่วมทุกข์
พาเห็นคุก ขังใจ ให้เปลี่ยนผัน
ปลดปล่อยใจ หลุดพ้น จนรู้ทัน
เพียงแบ่งปัน เสรี มีเมตตา
:19: :19: :19: :19:
ใจโลเล เซโซ โผพลิกผัน
รู้ไม่ทัน พลันจม สติหาย
ส่งจิตออก นอกโพ้น โดนใจกาย
ในสุดท้าย วนกลับ มาที่เดิม
ใจโดนหลอก นับครั้ง ไม่เคยถ้วน
จิตเรรวน ปรวนแปร ทุกข์เข้าเสริม
เผลอทีไร ใจฟุ้ง มุ่งเพิ่มเติม
กิเลสเดิม ทำใจ ให้หลงไป
ตั้งสติ ตรึกตรอง ลองดูจิต
รู้ทันคิด จิตไร้ ได้แก้ไข
ปัญญามี หมั่นฝึก ตรึกตรองไว
ทางไม่ไกล มุ่งมั่น ทำได้จริง
-
:45: พี่เล็กเล่นโค้ดที่อักษรเก่งจังครับ แหม๋จับมาใส่ในบทกวี ทำให้อ่านง่ายมีมิติ มีมุมมอง สุโค่ยครับ
-
:45: ห่อนโต๊ะ? อาริกาโต้ โกซัยมัส :19:
:13: :13: :13: :13: :13: :13: :13:
-
ปัญหามา...ให้ตัดสิน...เลือกทางไป
ให้แก้ไข...ที่ใจตน...ไม่สับสน
ชอบไม่ชอบ...ตอบตัวเอง...รู้ด้วยตน
จะอดทน...หรือไม่นั้น...รู้ตัวเอง
:19: :19:
เลือกไปแล้ว...ให้ยอมรับ...ในสิ่งนั้น
ทุกสิ่งพลัน...แปรผันเปลี่ยน...เวียนเสมอ
เพียงปรับใจ...ให้คงเดิม...ไม่ละเมอ
ทุกข์สุขเจอ...เพราะมีเรา...ให้เป็นไป
:19: :19:
มีนั่นนี่ ให้ค่า ให้ความหมาย
มีมากมาย ให้มี มากความหลง
มีอย่างนี้ ให้เห็น อย่าเพิ่ง....งง
มีตามตรง รู้ตาม ความเป็นจริง
มีแบบนี้ แบบนั้น และแบบโน้น
มีปูดโปน เข้าหา ใจถูกสิง
มียึดไว้ ให้รู้ ถูกแอบอิง
มีให้ทิ้ง รู้จัก ปล่อยวางเป็น
มีอดีต อนาคต ปัจจุบัน
มีรู้ทัน บางที มีให้เห็น
มีพลาดบ้าง บางครั้ง ทุกข์ลำเค็ญ
มีบำเพ็ญ ให้ตน หลุดพ้นไป
มีอะไร มีไป มีแล้วหาย
มีมากมาย ถึงคราว ลาผลักไส
มีไม่มี ย่อมเป็น เช่นนั้นไง
อย่ายึดไว้ ให้มี ทุกข์แน่เอย
-
มีอะไร...สิ่งมี...มีให้เห็น
มีนั้นเป็น...คุณครู...คอยพร่ำสอน
มีเป็นสิ่ง...ให้รู้...พึงสังวรณ์
มีทุกตอน...ให้แจ้ง...ให้เข้าใจ
มีมาแล้ว...ยอมรับ...ในสิ่งมี
มีนั่นนี่...ให้ยึด...ให้หลงไหล
มีแล้วรู้...ระวัง...รู้จักไว
มีมีไว้...รู้ทัน...ที่มีเทอญ
-
เสมอต้น...เสมอปลาย...ทันเสมอ
อาจมีเผลอ...พลาดผิดพลั้ง...รู้ฝึกฝน
หากยอมแพ้...ไม่สำเร็จ...ไม่อดทน
มิหลุดพ้น...วังวนนี้...ไปได้เลย
วังวนทุกข์...ปลุกหวั่นไหว...ไม่ยอมเที่ยง
ความโอนเอียง...เสี่ยงกับใจ...ไม่นิ่งเฉย
มีตัวตน...แล้วยึดติด...ความคุ้นเคย
มิทันเงย...เห็นความจริง...สงบใจ
มีแต่ทุกข์...เพราะมีตน...ตามหลอกหลอน
จิตอาวรณ์...ทิ้งไม่เป็น...คุ้นหลงไหล
ฝึกสติ...และปัญญา...สังเกตไป
ตัวตนใน...ในตัวเอง...ให้รู้ทัน
-
เมื่อเดินถึงทางแยกต้องตัดสิน
ความเคยชินเป็นเหตุจึงมีผล
เลือกอะไรตั้งใจฝึกอดทน...
เพียรด้วยตนให้พ้นมุ่งมั่นไป
เดินต่อไปแม้ทางนั้นลำบาก
อาจจะยากตอนแรกหมั่นแก้ไข
ทำให้ดีทำต่อฝึกที่ใจ...
อดทนได้ไม่มียอมแพ้ภัย
มุ่งมั่นทำสิ่งใดให้สำเร็จ
ทำให้เสร็จเรียนรู้จิตผ่องใส
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะยากสักเพียงใด
ฝึกทนไว้ทำไปขยันทำ...
สิ่งที่มีพอใจเรียนรู้ตน
หมั่นฝึกฝนรู้ใจไม่ถลำ
อย่าจมทุกข์ที่เข้าทางความจำ
เป็นเสี้ยนตำทิ่มแทงเจ็บช้ำใจ
ปล่อยไปบ้างอดีตที่ข่มขื่น
ทุกข์เป็นหมื่นแสนล้านแต่หนไหน
ปล่อยไปบ้างให้ผ่านผ่านพ้นไป
รู้ทันไว้ขณะนี้ทุกข์มลาย
ได้มาเกิดต้องอดทนหมั่นต่อสู้
ทุกข์เกิดอยู่รู้ทันทุกข์ผ่านแล้วหาย
ไม่รู้ทันยึดเกาะทุกข์ทุกข์มากมาย
ทุกข์ไม่คลายเพราะไม่ดับที่ใจตน
เลือกซักทางแล้วก้าวไปทำให้ดี
อย่าไปหนีเรียนรู้ไปให้เห็นผล
เกิดมาแล้วบนกองทุกข์ต้องอดทน
เกิดเป็นคนต้องขยันหมั่นทำดี
กำลังใจสร้างขึ้นได้ทุกเวลา
ยามอ่อนล้าพักจิตใจเป็นวิถี
พักแล้วสู้มุ่งมั่นต่อปัญญามี
ทำวันนี้ให้ดีสุดแล้วดีเอง...
-
มาดึกดื่น ตื่นใจ ใคร่ครวญรู้
เกิดมาอยู่ ศึกษา ให้เห็นผล
เกิดมาแล้ว หัดดู รู้ใจตน
จงอดทน ละวาง อัตตาตัว
เวลาไหน เพราะใจ เราให้ค่า
ปรุงแต่งมา ให้มี จิตสลัว
ยังมีอยู่ รู้ไว้ ไม่ต้องกลัว
ไม่พันพัว สิ่งมี ยึดติดมัน
ลมหายใจ ยังมี ดีใจอยู่
ยังได้รู้ เฝ้าทำ สิ่งสร้างสรรค์
ทำให้ควร ทำไว้ ตั้งใจพลัน
ไม่ต้องหวั่น รู้ทัน ความเป็นไป
:19: :19:
จิตใจลังเลสงสัยหวาดระแวง...
คิดอยากแซงกลับไม่พ้นน่าสงสาร
คงวนเวียนอยู่อย่างนี้ไปอีกนาน
ปณิธานใจตั้งมั่นเพียรพยายาม...
เห็นตัวตนที่เป็นอยู่ปัจจุบัน...
เพื่อบากบั่นลดเลิกละไร้คมหนาม
ทุกข์ทิ่มแทงย่อมลดน้อยเป็นไปตาม
หลุดพ้นข้ามที่ยึดอยู่รู้ตามจริง...
รู้แล้วทำ ทำแล้วได้ ที่ใจนี้...
รู้ชั่วดี มีคุณธรรม สั่งสมสิง
ค่อยค่อยหลุดหมดลงเองใจจมดิ่ง
ค่อยค่อยทิ้งสิ่งที่มีปล่อยวางเอง
-
ธรรมชาติ สร้างสรรค์ จึงเป็นเหตุ
เติมด้วยเจตน์ จำนงค์ จึงเป็นผล
ความไม่รู้ ติดมา ไม่รู้ตน
ให้อดทน ฝึกรู้ รู้ตามจริง
ได้แค่ไหน ฝึกไป ทำไปเถิด
ได้มาเกิด ติดกับ บ่วงสวิง
หมั่นพากเพียร ฝึกใจ ที่เหมือนลิง
อดทนทิ้ง ตัวตน พ้นเกิดตาย
ที่เห็นชัด ปัจจุบัน พ้นทุกข์แน่
ไม่พ่ายแพ้ แก่ใจตน พ้นความหมาย
ทุกข์ที่มา ไม่เกาะยึด ใจสบาย
แยกใจกาย รู้ทันไว้ วางรู้เป็น
........
มายาโลก ฉาบไว้ เห็นลางเลือน
คอยย้ำเตือน อาทรณ์ คอยห่วงหา
หลงติดกับ ยึดไว้ ไม่อำลา
วนเวียนพา บ่วงรัด ตัดไม่ลง
ที่ยังมี เพราะใจ นั้นให้ค่า
ยึดเอามา ทำให้มี ชวนให้หลง
อยู่กับโลก ให้สมควร ควรรู้ตรง
หลุดพ้นกรง พ้นโลก รู้ตามจริง
ในความจริง ละเอียด ความเป็นกลาง
เป็นหนทาง ตรงไป ไร้ชายหญิง
ทุกอย่างล้วน สร้างมา ไว้พึ่งพิง
เพียงแอบอิง ให้รู้ แยกรู้เทอญ
........
กำลังใจ สำคัญ ควรมีไว้
อดทนไป ให้ใจ นั้นเข้มแข็ง
แม้อาจท้อ ให้สู้ อย่าอ่อนแรง
รู้จักแบ่ง แกร่งไว้ ด้วยปัญญา
แม้อาจล้ม อาจเหนื่อย รู้จักพัก
แม้อาจหนัก เกินสู้ เป็นทุกข์หนา
แม้อาจพลาด มีบ้าง บางเวลา
ให้รู้ว่า ธรรมดา แค่นั้นเอง
แล้วก็ผ่าน ผ่านไป นั่นชีวิต
เราลิขิต ทางเดิน โดนข่มเหง
หากรู้ทัน ไม่ต้อง ไปกลัวเกรง
รู้ได้เอง สิ่งนี้ ไม่เที่ยงเลย
ยึดเอามา ทนได้ ก็เป็นสุข
หากเป็นทุกข์ ทนไม่ได้ ใจไม่เฉย
สิ่งที่มี ยึดไว้ เป็นเชลย
ฝึกให้เคย รู้ไว้ ไร้ตัวตน
........
คิดเปรียบเทียบ มีอดีต อนาคต
ทางเลี้ยวลด หลงไหล วังวนหวล
ผิดพลาดไป ยึดติด จิตเรรวน
จงไคร่ครวญ ทวนใจ ให้รู้ทัน
ปัญญามี หมั่นเติม ปัญญารอบ
มีธรรมตอบ ทำไว้ จิตสร้างสรรค์
ศีลรักษา ฝึกไว้ ในทุกวัน
เราเท่านั้น พารอด วังวนเวียน
-
ระวังหู ดีหรือร้าย ใจตีค่า
ระวังตา มีอะไร เป็นแบบไหน
ระวังจมูก รับอะไร ให้เป็นไป
ระวังใจ ให้ดีไว้ ด้วยตนเอง
ระวังลิ้น อาจเกี่ยวข้อง เสื่อมสลาย
ระวังกาย อาจยึดติด ทำใจหมอง
ระวังเถิด สำรวมใจ รู้จักตรอง
ทุกข์สุขข้อง เพราะเราสร้าง มันขึ้นเอง
-
มันมาอีกแล้ว...กลับมาหา
มันพัดพาตัวตน...มีอยู่สอง
มีพอใจไม่พอใจ...ใจจดจ้อง
มีมัวหมองชื่นบาน...เท่านี้เอง
หากยังมีมัน...ก็ยังมี
เป็นสิ่งดีกับไม่ดี...ติดเท้งเต้ง
กว่าจะรู้หยั่งได้...ก็ติดเซ็ง
จิตระเลงหลงระเริงไม่รู้ตัว
ทุกสิ่งนั้น...มันมีเหตุและผล
มีตัวตนเพื่อให้เห็นความสลัว
สิ่งที่มีอย่าผยองอย่าไปกลัว
เข้าพันพัวเพื่อให้รู้...สิ่งที่มี
รู้แค่ไหน...รู้ได้ด้วยตัวเอง
อย่าไปเร่งเป็นไปตามวิถี
หมั่นพิจารณาตามธรรมวิธี
ทุกข์นั้นมีไม่แน่นอนไร้ตัวตน
-
หากรู้แล้ว แล้วก็ยัง ทำไม่ได้
ให้รู้ไว้ หมั่นเพียรฝึก ตรึกศึกษา
ควรระวัง อย่าประมาท ทุกเวลา
รีบเยียวยา เพิ่มปัญญา ตามสมควร
เวลานั้น ก็หดหาย สั้นลงแล้ว
คงไม่แคล้ว ใกล้ถึงวัน สิ้นสลาย
ยิ่งนับวัน ก็ยิ่งใกล้ ถึงความตาย
จิตผ่อนคลาย ให้รู้ทัน ไร้ตัวตน
:19: :19:
ความเป็นไป ปัจจุบัน มีนิดเดียว
แต่ที่เหลียว เห็นมากมาย จึงมาหลาย
ทั้งอดีต อนาคต ครุ่นคิดทาย
มีความหมาย เมื่อให้มี แค่นั้นเอง
มีอย่างไร มีสองด้าน ให้ตรองตรึก
พูดทำนึก เป็นอย่างไร มีรากฐาน
ด้วยปัญญา ที่สั่งสม ไปตามกาล
เวลาผ่าน ให้รู้กลาง พอดีเป็น
:13: :13:
สิ่งที่ลอง สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น
ระดับเป็น ตามปัญญา ที่สั่งสม
สิ่งที่มี สิ่งที่เป็น อาจกลึงกลม
ทุกข์อาจจม มองไม่เห็น ไม่รู้ทัน
ค่อยๆรู้ ค่อยๆฝึก ค่อยๆนะ
อย่าลดละ ความเพียรไป ฝึกสร้างสรรค์
คิดพูดทำ ในสิ่งดี ประจำวัน
หมดสิ่งนั้น วางทุกสิ่ง พ้นที่มี
-
คิดเผื่อให้ ส่งใจ คิดแทนเขา
คิดของเรา คิดไป คิดสงสัย
คิดแล้วคิด คิดแล้ว ได้อะไร
คิดทำไม เลิกคิด ติดยึดโยน
คิดให้มี จึงมี ดังที่คิด
สัมผัสจิต ผิดถูก ปรุงหัวโขน
คิดอย่างนั้น อย่างนี้ คิดแล้วโดน
คิดเหมือนโจร ย่องมา ปล้นความจริง
คิดพาเหตุ กำเนิด ทำเกิดผล
ขีดอดทน ไม่รู้ มักเข้าสิง
คิดให้รู้ หยุดเหตุ รู้พึ่งพิง
ใจรู้นิ่ง ไม่เกิดผล ให้วนเวียน
-
ต้องการให้ อะไร เป็นตามอยาก
คงลำบาก ทุกอย่าง นั้นไม่แน่
ไม่เป็นไป อย่างหวัง ใครล่ะแพ้
อย่ามัวแต่ หลงอยาก เป็นทุกข์ใจ
-
เพราะเราสร้าง เรื่องราว จึงได้เกิด
จุดกำเนิด เป็นเหตุ ปันเป็นผล
ความไม่รู้ ปูทาง แสดงตน
ความอดทน ศึกษา ละทิ้งตัว
-
คิดไม่ได้ ไม่ต้องคิด ให้ต้องคิด
ถูกหรือผิด คิดให้ค่า มุ่งสร้างสรรค์
อยู่บนโลก ไม่ติดโลก ไม่ยึดมัน
เพียงรู้ทัน ทำสิ่งควร ปันเมตตา
เป็นหน้าที่ เป็นปัจจัย ใช่ภาระ
เป็นสัจจะ เป็นวินัย มิห่วงหา
เป็นความเพียร เป็นไปตาม กรรมนำพา
เป็นอัตตา เพื่อหลุดพ้น เช่นนั้นเอง
-
เพียงเพราะว่า ความเสมอภาค ไร้เราเขา
นับถือเอา อย่างนั้นนี้ มีไม่ได้
เพียงเพราะใจ หยั่งรู้แท้ ถึงความนัย
ใครเป็นใคร นั้นไม่มี ใครไหนเลย
-
เป็นเพียงฝัน ฉากละคร ฉากชีวิต
กรรมลิขิต ความเป็นไป ย่อมแปรผัน
สิ่งใดเกิด ตั้งอยู่แล้ว ย่อมดับพลัน
ทุกสิ่งอัน นั้นไม่เที่ยง ไม่แน่นอน
-
รู้อะไร ไม่สู้ รู้ตนเอง
ตนข่มเหง ตนเอง น่าอดสู
รู้มากมาย ทำไม่ได้ มัวเฝ้าดู
คือไม่รู้ ไม่ทำ น่าเศร้าใจ
เมื่อรู้แล้ว ยังขลาด ใจเขลานัก
ไม่รู้จัก ทำใจ บ่มนิสัย...
เริ่มรู้แล้ว เร่งทำ ทุกวันไป
ได้เมื่อไหร่ ตนรู้ ได้ที่ตน...
รีบทำเถิด ทำไป ค่อยๆทำ
สิ่งใดนำ เกิดดี เร่งเพิ่มผล
สิ่งใดร้าย รู้ไว้ วางให้พ้น
เพื่อรู้ตน รู้แจ้ง ทำได้จริง...
-
คำกล่าวขาน สรรเสริญ เกิดมากมาย
คำกล่าวร้าย นินทา อย่าไปสน...
คำแค่อยู่ แล้วดับ ในบัดดล...
คำของคน ไม่มี ความหมายใด
เพียงเรารู้ แล้วจบ อยู่ที่เรา
ไม่โง่เขลา ต่อเติม เพิ่มสงสัย
ทุกสิ่งเกิด ตั้งอยู่ แล้วดับไป
จบที่ใจ ไร้ตน คนไม่มี...
ยังคงเหลือ กายา และดวงจิต
เป็นหมู่มิตร ติดตาม เป็น์ทุกข์ขี...
จะยากจน ขาดแคลน หรือมั่งมี...
สิ้นชีวี ล้วนคืน โลกมายา...
-
เพียงรู้ตน รู้ไว้ รู้ไปเถอะ
รู้เลอะเทอะ ปล่อยวาง ทิ้งทิ้งหนอ
อะไรดี ไม่ดี รู้จักพอ...
ไม่ยอมท้อ ทำได้ เท่าที่ทำ...
ใครจะคิด อะไร ช่างเขาเถิด...
เราคิดเกิด รู้ไว้ คิดแล้วหนอ...
คิดอะไร ตามรู้ ทนเฝ้ารอ...
ทุกคิดก่อ สิ่งรู้ ในใจตน...
เมื่อคิดได้ ก็ย่อม เลิกคิดได้...
ใจเย็นไว้ อย่าเครียด พลันสดใส...
ได้แค่ไหน แค่นั้น รู้ทำใจ...
เท่าที่ได้ ทำไป เท่าที่เป็น...
-
ระคายเคือง เบียดเบียน เราเขาเข้า
ต้องบรรเทา อภัย ไม่โง่เขลา
สำรวมใจ ระวัง ความมีเรา
ยังมีเก่า อดีต หลอกหลอนใจ
ผ่านไปแล้ว ช่างมัน ให้ผ่านพ้น
สู้อดทน ปัจจุบัน จิตผ่องใส
ความผิดพลาด มีได้ แก้ไขไป
ทำดีได้ ทำไว้ ไม่หวังคืน
-
อันความตาย ใกล้เข้ามา ไปตามกาล
จะยาวนาน สักแค่ไหน ย่อมมาหา
ไม่มีใคร หนีได้พ้น เลยสักครา
รีบรักษา ปัจจุบัน ก่อนตายเยือน
ทำให้ดี มีคุณธรรม ทำก่อนตาย
สิ้นสลาย ไม่เสียดาย รู้เสมือน
ทุกข์สุขนั้น มีตัวตน ไว้คอยเตือน
เป็นเหมือนเพื่อน เพื่อสอนให้ ไว้ปล่อยวาง
-
สังขารหนอ สังขาร นั้นไม่เที่ยง
จะหลบเลี่ยง อย่างไร พ้นที่ไหน
ใช้สังขาร เอาไว้ เป็นอย่างไร
ย่อมจะได้ ดั่งที่ เราใช้มัน
ใช้เยี่ยงทาส ย่อมล้า และเสื่อมถอย
ใช้อย่างน้อย รู้พอดี รู้เปลี่ยนผัน
ทุกสิ่งนั้น เกิดมา ก็ดับพลัน
ทุกสิ่งสรร สร้างมา พิจารณา
ทุกข์ทางใจ ส่งผล ให้มีทุกข์
ไม่พบสุข อ่อนแรง และโหยหา
อยากจะได้ พบสุข ในอุรา
รู้รักษา สิ่งที่เป็น ให้เข้าใจ
หากรู้ซึ้ง ที่เป็น อยู่เนืองนิจ
ภาระกิจ ทำดี ใจสดใส
แยกแยะเป็น รู้ประจักษ์ ปัญญาไว
สติใช้ ดับได้ทัน ทุกข์ไม่มี
-
มองเด็กน้อย ค่อยครวญคิด ชีวิตเริ่ม
หมั่นเพิ่มเติม ความเป็นไป ใจผ่องใส
ชีวิตผ่าน ล่วงโรยลา ไปตามวัย
ความจริงไข ได้แค่ไหน อยู่ที่เรา
หมั่นพินิจ ความไม่รู้ มีเหตุผล
ซ่อนเล่ห์กล หลอกล่อใจ ให้โง่เขลา
พอฝึกรู้ ก็หลงไหล ปัญญาเบา
ฝึกขัดเกลา ให้พอดี รู้สายกลาง
สุขหรือทุกข์ ที่มีนั้น เพราะเรายึด
มีนั้นอึด เพราะเรานั้น ไม่สะสาง
หลงเผลอใจ ไร้สติ ไม่ปล่อยวาง
ทุกข์สุขพลาง ให้จมแช่ อย่างยาวนาน
-
:13: อนุโมทนาครับพี่เล็ก^^
-
เพียงผ่านมาตั้งอยู่บนเวลาหนึ่ง
เพียงคำนึงถึงที่เป็นมุ่งสร้างสรรค์
เพียงรู้แล้ววันเวลาย่อมหมดพลัน
เพียงรู้ทันวังวนทุกข์เกิดดับไป
เพียงแค่ให้ไม่หวังคืนหลงตัวตน
เพียงผ่านพ้นโอกาสพบได้แก้ไข
เพียงเดินทานรอนแรมมาแวะพักใจ
เพียงได้ให้ไม่หวังรับกลับได้เอง
-
มาให้กำลังใจคุณ lekครับ.. :46: :13:
แม้ไม่ได้เข้ามาบ่อย แต่ก็ยังคอยแวะเวียนมาดู
ช่วยกันทำความดีกู้โลกไปด้วยกันนะครับ..
-
ขอบพระคุณ...สำหรับ...กำลังใจ
ที่มีให้...เพิ่มเติม...ความขยัน
หัดฝึกคิด...ขีดเขียน...เพื่อรู้ทัน
เพื่อแบ่งปัน...แสดง...ความเป็นไป :07: :13:
-
ฟุ้งนะฟุ้ง...ฟุ้งแล้ว...ฟุ้งแล้วฉัน
ปรุงแต่งมันส์...เรื่องราว...ปล่อยคิดไหล
มีทั้งเรา...ทั้งเขา...สุขทุกข์ใจ
หลงคิดไกล...สร้างเรื่อง...หลงมายา
คิดบางครั้ง...ก็ยิ้ม...สบายใจ
คิดต่อไป...เริ่มมั่ว...กิเลสหนา
คิดหลอกตน...เป็นทุกข์...กิเลสมา
คิดห่วงหา...อาทรณ์...ร้อนใจตน
-
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่แบ่งปันให้มา
ขอบคุณเวลาที่ทำให้เราได้พบเจอกัน
ขอบคุณที่เรายังเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น
ขอบคุณฉันที่มีโอกาสได้รู้จักกับเธอ
ขอโทษสำหรับสิ่งไม่ดีที่ทำร้ายกัน
ขอโทษกันกับเวลาที่ไม่ได้พบเจอ
ขอโทษเธอที่ระยะห่างเรายังเบลอ
ขอโทษเผลอเพราะว่าใจเราอ่อนแอ
ให้อภัยทุกสิ่งอย่างที่ผ่านมาจะได้ไหม
ให้อภัยไม่ว่าจะปวดร้าวบาดลึกจนเป็นแผล
ให้อภัยกันนะจบกันเพียงแค่นี้อย่าเหลียวแล
อภัยแค่ตอนนี้ให้จบไปจบกันสบายใจ
-
ทุกข์เพราะคิด...ถึงอดีต...หวังอนาคต
คิดไม่จบ...อยากให้เป็น...อย่างใจหวัง
คิดต่อนั่น...ต่อไปนี่...ไม่ยอมยั้ง
สติพัง...ฟุ้งซ่านไกล...ใจยึดเอง
-
ก็มีเรา...จึงเป็นทุกข์...อยู่อย่างนี้
ยิ่งอยากหนี...ยิ่งจมลึก...ผูดมัดแน่น
อยากจะรู้...ค้นข้างนอก...ยิ่งขาดแคลน
ทุกข์สุดแสน...ไม่ค้นใน...ใจตนเอง
-
ทำไม่ได้...เพราะไม่ทำ...วุ่นวายใจ
โวยวายไป...มากมายเรื่อง...เฟื่องสับสน
หวังจะแก้...ใครคนอื่น...มิใช่ตน
หวังใครพ้น...ทนให้ได้...ที่ตัวเอง
ทำเพื่อตน...ให้ได้ก่อน...สงบสิ้น
ไม่หลงกลิ่น...ตัวอัตตา...พาข่มเหง
หากยังจม...ความไม่รู้...น่ากลัวเกรง
จงรีบเร่ง...รู้ทันไป...ใจกายตน
-
:45: บทกลอนสะท้อนธรรม ขอบคุณครับพี่เล็ก
-
ความรู้สึกนึกคิดเกิดที่ใจ
มีอะไรเข้ามาทำหวั่นไหว
ใครเป็นเหตุให้คิดก็เราไง
คิดมากไปวุ่นวายผูกเรื่องราว
คิดอยู่ได้หลอกตนคิดสับสน
มีตัวตนเราเขาร้อนและหนาว
กระทบจิตกระเพื่อมกระแสวาว
คลื่นที่ยาวสักพักสงบลง
ผ่านไปแล้วคิดนั้นไม่คิดอีก
คิดเก่าหลีกใหม่มาพิศวง
หากไม่เห็นไม่ทันไม่รู้ปลง
เป็นเวียนวงกรงจักรหมุนวนไป
-
พระจันทร์กลม คล้ายดวงแก้ว แวววาวใส
ส่องแสงไฟ ต้องกระทบ ให้ได้เห็น
อยู่มองดู พิจารณา ใจใสเย็น
ทุกสิ่งเป็น เช่นนั้นเอง เป็นความจริง
เมฆลอยเคลื่อน มาบดบัง แสงจันทร์ใส
เริ่มเข้าใจ ดั่งกิเลส เข้ามาสิง
เพียงผ่านมา แล้วผ่านไป ไวเหมือนลิง
เห็นทุกสิ่ง ไม่แน่นอน มาก็ไป
:07: :07:
ทุกข์มากมาย เพียงเข้ามา แล้วผ่านพ้น
ทุกข์เวียนวน เพียงสังเกต อย่าหวั่นไหว
ทุกข์ที่ผ่าน เพียงชั่วครู่ แล้วผ่านไป
ทุกข์มีไหม เพียงหยั่งรู้ สลายทัน
ทุกข์ที่มี อาจเป็นเพราะ ยอมมีทุกข์
ทุกข์หรือสุข อาจไม่ต่าง เพราะแปรผัน
ทุกข์อะไร อาจให้เหตุ ผลอนันต์
ทุกข์หายพลัน รู้ทันทุกข์ ดับทุกข์เอย
:07: :07:
อาจยังโง่ ไม่เข้าใจ ไม่รู้ทัน
อาจยังสั่น ยังคงกลัว ยังสับสน
อาจยังยาก เพราะลังเล มีตัวตน
อาจยังจน ด้วยปัญญา สะสมไป
เพียงไม่นาน หากตั้งใจ ย่อมรู้แน่
เพียงไม่แพ้ ย่อมเห็นทาง สว่างใส
เพียงไม่หลง เห็นตามจริง หยั่งรู้ไว
เพียงเข้าใจ ให้แจ่มแจ้ง หยุดจบเป็น
:07: :07:
บนโลกนี้ มีมากมาย น่าค้นหา
ม่านมายา ที่กางกั้น ชวนหลงไหล
มองภายนอก ทำให้ลืม มองภายใน
เตือนตนไว้ ให้มองตน เห็นสำคัญ
มองให้ชัด มองให้ลึก มองให้แจ้ง
สิ่งแสดง เป็นเราเขา มีแปรผัน
หากหลงยึด ไม่ยอมปล่อย ไม่รู้ทัน
เราเขานั้น เกิดทุกข์สุข ปั่นป่วนใจ
:07: :07:
อิสระ เสรี ไม่ยึดติด
รู้สิ่งคิด มีเหตุ เนื่องด้วยผล
รู้สิ่งชอบ หมั่นทำ ด้วยอดทน
รู้ด้วยตน ทำไว้ สะสมไป
เบาสบาย รับรู้ ไม่ยึดมั่น
อาจหายพลัน รู้ไว้ ไม่หวั่นไหว
เพียงแค่รู้ ทุกสิ่งนั้น มาก็ไป
สบายใจ รู้ตื่น แบ่งแล้ววาง
-
หากโลกเรามีคนเฝ้าดูโดยรอบ
วางด้วยกรอบให้เราเป็นแสดงใส
วางตัวดีคิดพูดทำกายและใจ
แสดงไปให้คนชมสมใจปอง
หากไร้คนคอยจับผิดเขาไม่รู้
เราขี้ตู่ไร้ใครเห็นเป็นไม่หมอง
ที่แท้นั้นรู้แก่ใจทุกข์เนืองนอง
กลับไม่มองแกล้งไม่เห็นเป็นมารไป
สุดท้ายรับผลที่ทำกลับเวียนวน
กรรมแยบยลส่งย้อนกลับอย่าสงสัย
ทำสิ่งใดย่อมได้รับกลับที่ใจ
ทำเอาไว้โทษใครได้ทำไว้เอง
-
อันความร้างสงบและโดดเดี่ยว
ไร้ความเกี่ยวข้องติดหมดสงสัย
สิ่งใดเข้ารู้ทันความเป็นไป
เกิดดับได้ธรรมดาเช่นนั้นเอง
-
เธอผ่านเข้ามาทำใจฉันหวั่นไหว
แล้วจากไปไม่เคยหวลย้อนคืนกลับ
เธอจากไปแล้วจากไปไกลจนลับ
เกิดเพื่อดับปรับที่ใจตนหลุดพ้นทัน
เธอจากไปตั้งนานแล้วไม่เคยหวล
ใจเราครวญหาให้เธอคืนกลับเย้ยหยัน
รังแกทำร้ายใจตัวเองอยู่ทุกวี่วัน...
กรรมที่ฉันสรรสร้างปั้นแต่งขึ้นมาเอง
-
รู้ให้ลึกละเอียดและรอบคอบ
รู้คำตอบจากข้างในไร้สงสัย
รู้ด้วยตนด้วยซื่อสัตย์ละอายใจ
รู้ที่ใครกลับไม่ใช่รู้ที่ตน...
-
รู้ ?. . :19:
รู้หรือไม่รู้ ..อะไร จะต้องชัด
รู้ขจัดอวิชชา อกุศล..
รู้เท่าทันกิเลส..ในจิตตน
รู้ช่วยคน คือ ช่วยตนพ้นทุกข์เอย..
:45: :13: ขออนุญาตอาจเอื้อม ร่วมด้วยช่วยแจม .. :23: กวีมนัสสัมผัส จากจิต :19: ของความ"สิ้นคิด"ไร้ติดรูปแบบของความคิดทางกายภาพ (ประมาณว่า จู่ๆ ไม่ได้คิดจะแต่งกลอนเล๊ยยสักนิดค่ะ แค่กะเข้ามาอ่านบทกลอนสะท้อนจิตของเฮียตี๋เล็กเค้าเล่นๆรีเเล็กซ์เฉยๆค่ะ แต่..มิคาด พอได้อ่านกลอนเฮียเค้า.. กลอนนี้ มานก็ ปิ๊งปุ๊บ ไหลปั๊บ ออกมาจากจิต ►► ขยับหายกลายมาเป็นอักษร กลอนข้างบนนี้ แบบออโต้เอง .. โดย ปราศจาก การปรุงแต่ง นั่งคิด คำ คิดเรื่องราวที่ขีดเขียน หรือ แม้แต่ ธรรมะ ที่จะนำมาลงว่าต้องสัมผัส นั่นโน่น นี่ ..อะไรใดๆทั้งสิ้นค่ะ .. ฟังเหมือนเว่อร์ โน๊ะ แต่ ก็เป็นเรื่องจริง ที่เราเอง ก็ ไม่รู้ /หาเหตุผลไม่ได้เช่นกันค่ะ รู้แค่เพียงว่า.. มันเป็นเช่นนั้น ของมันเอง / มันเป็นเช่นนี้ เพราะ มันเป็น .. ค่ะ ^^ .. :45:
-
:07: :19:
ขอบพระคุณแม่นางคัมภีร์ไร้อักษร ข้าน้อยขอ คา รา วะ :13:
-
เขาทำเรารู้สึกใช่หรือไม่
เราทำใจคิดเองใจสั่นไหว
เราทำตนฟุ้งซ่านคิดอะไร
อย่าโทษใครโทษเราเขลาไปเอง
-
มีความรักมักห้ามใจให้กลางยาก
คิดก็มากอยากก็มายหลายสถาน
อดีตย้อนคาดหวังผลคิดจนยาน
คิดจนบานตะไทแล้วรู้ไหมเอย
-
แม้เวลาที่เหลืออยู่มีไม่มาก
ไม่ลำบากรู้พอดีทุกข์ให้เห็น
จะอย่างไรแค่ไหนนั้นอยู่ให้เย็น
พ้นทุกข์เข็นด้วยสติและปัญญา
-
มันมาหลอกเราอีกแล้วให้หวั่นไหว
ให้เผลอใจปรุงแต่งมันคิดสับสน
เราก็หลงเพลินกับมันติดเล่ห์กล
จึงวกวนหมุนเวียนไปในมายา
เพราะมีเราเขาจึงมีตามมาหลอน
ยังอาวรณ์ไม่รู้จริงยังห่วงหา
ยึดอยู่ได้ไม่ยอมเข็ดห้วงเวลา
จึงนำพาวัฎจักรไม่หยุดเวียน
-
ก็ติดใจในความอยากหลอกว่าสุข
กลับฝั่งทุกข์รอซ้ำเติมกลับไม่เห็น
ต้องเจอก่อนจึงเข้าใจในที่เป็น
สิ่งซ่อนเร้นคือไม่รู้หลงใจตน
หลงนั่นนี่เป็นของเราไม่จากกัน
พอนานวันก็เปลี่ยนผันเหตุเป็นผล
รับไม่ได้ก็เป็นทุกข์ใจร้อนรน
ทุกข์ปลอมปนเข้ามาหลอกทำร้ายใจ
ก็อยากเองจะโทษใครได้เล่านั่น
ไปเกี่ยวมันให้เกิดมีคิดหลงไหล
โทษจึงมาหมดประโยชน์ไม่ได้ไป
ทุกข์ที่ใจเพราะประมาทไม่ระวัง
ยับยั้งใจไม่ได้เลยก็ทุกข์ต่อ
วนเวียนรอซ้ำเติมใจเป็นทุกข์ขัง
ไม่มีจบไม่มีสิ้นโดนปิดบัง
ความผิดพลั้งเพราะไม่รู้ความเป็นจริง
-
ยังอยากรู้จึงไม่รู้ก็เพราะอยาก
มีหลายหลากหลอกหลอนใจให้สงสัย
ไม่พอดีจึงเป็นทุกข์ประมาทไป
หลงเข้าใจว่ารู้แล้วหลอกตัวเอง
-
เห็นความทุกข์บุกเข้ามาประชิดใจ
จะเอาไงให้เลือกไปให้สร้างสรรค์
จะยอมรับเพื่อเข้าใจแก้ไขมัน
หรือจะหันหลังหนีแบบหนีไม่พ้น
น่าเสียดายที่ไม่รู้ไม่เข้าใจ
ทุกข์อาลัยสิ่งปลอมปนหลอกทุกหน
โดนทำร้ายไม่เห็นจริงด้วยเล่ห์กล
เพราะใจตนไม่เปิดปัญญาหาความจริง
-
เพราะความรู้สึกดีดีที่เกิดขึ้น
ทำเอามึนเผลอใจจนหวั่นไหว
สุดท้ายความรู้สึกนั้นก็หายไป
เหลืออะไรไม่มีเหลืออะไรเลย
ทุกสิ่งอย่างเพียงเกิดขึ้นเป็นชั่วครู่
หากไม่รู้ก็หลงจมไม่นิ่งเฉย...
ยังติดกับโดนหลอกหลอนเหมือนอย่างเคย
เพียงไม่เผยความจริงทิ้งตัวตน...
-
ความเป็นไปมีเรื่องราวให้รู้เห็น
จะทุกข์เข็นหรือเย็นใจมีเหตุผล
เป็นอย่างไรตนเท่านั้นรู้ด้วยตน
จะหลงกลหรือหลุดพ้นด้วยรู้ทัน
ทุกลมหายใจเข้าออกสับเปลี่ยนหมุน
สร้างบาปบุญสลับไปใจสร้างสรรค์
เป็นแบบนั้นและแบบนี้ไม่ไหวหวั่น
ทุกสิ่งพลันดับสลายสงบนิ่งที่ใจตน
-
ขอบคุณครับพี่เล็ก :45:
-
อันความรู้มากมายยึดติดมัน
เพื่อสร้างสรรค์จรรโลงหลากความหมาย
มีแบบนั้นเป็นแบบนี้มีมากมาย
ความหลากหลายไม่เป็นหนึ่งจึงวุ่นวาย
ความจริงนั้นมันมีซะที่ไหน
มีมากไปหนักเกินสติหาย
ยึดว่าตนมีปัญญาไม่เสื่อมคลาย
หลงทำร้ายตัวเองไม่รู้ตัว
อันความรู้ความเข้าใจนั้นรู้อยู่
น่าหดหู่ทำไม่ได้ช่างน่าหัว
เพราะหลงตนโดนกิเลสใจเมามัว
ช่างน่ากลัวตนไม่รู้เพราะหลงตน
-
เธอพอใจแบบเธอเข้าใจนะ
ฉันก็กะอยู่แล้วเป็นอย่างนี้
เป็นสุขอิสระอย่างเสรี
สิ่งดีดีเกิดขึ้นได้ที่ใจเรา :19:
ขอให้เธอโชคดีมีความสุข
แม้อาจทุกข์ให้ผ่านพ้นไม่โง่เขลา
มีสติปัญญาเพื่อบรรเทา
พ้นความเศร้าทุกครั้งตลอดไป :19:
ส่งความหวังดีอย่างนี้ไปให้
ส่งทางใจไม่คาดหวังคอยแก้ไข
ซ่อมแซมตนหมั่นเรียนรู้ความเข้าใจ
จิตสดใสเบิกบานด้วยสุขอันแท้จริง :19:
-
ขOข๏บคุณ!ธO..คuนี้..มๅกเล€น: .. :13:
(http://alingsupattra.files.wordpress.com/2007/06/letter1.jpg?w=328&h=816)
ขอขอบคุณ..เธอคนนี้..มากเลยนะ ^^
ฉันนั้นจะ .. เก็บทุกช่วงเวลา .. ตรงนี้ไว้..
คงสักวัน .. ฉันหรือเธอ .. คงต้องไป
แต่สัมผัส .. แห่ง :19: หัวใจเรานั้น ..ไม่มีเลือน
ณ.วันนี้ .. รักดี..ดี เหมือน ดั่งเพื่อน..
คอยตักเตือน .. เยือนจิต .. อยู่เสมอ..
ขอบคุณฟ้า .. ที่วันนี้ .. ฉันมีเธอ ..
เหมือนดังเจอ .. สิ่งล้ำค่าหา .. มานาน
รักสองเรา .. บริสุทธิ์ ..ไร้เงื่อนไข
ไม่โยงใย~ .. พันผูก .. ปลูกเหตุ-ผล
อิสระเสรี.. มีเหลือเฟือ .. มากล้น
ดั่งหลุดพ้น .. บ่วงแห่งพัน .. ธนาการ ~
[wma=300,48]http://dc106.4shared.com/img/110642923/220a312c/dlink__2Fdownload_2FxChX3Wsm_3Ftsid_3D20101102-134218-2e82e147/preview.mp3[/wma]
-
ขอโทษเธอคนนั้น ณ ที่นี้
เธอนั้นดีส่วนฉันมันโง่เขลา
ไม่เข้าใจไม่รู้ปัญญาเบา...
แต่ไม่เศร้าจะสู้พยายาม...
เพื่อเรียนรู้ความไม่รู้ที่ผ่านมา
จะเยียวยาให้ใจพ้นเสี้ยนหนาม
ไม่ติดใจจนเป็นทุกข์เข้าลุกลาม
ไม่ผลีผลามเพื่อระวังปัจจุบัน
ขณะนี้นั้นจะผ่านไปอนาคต
อดีตหดหมดไปแค่ความฝัน
ตื่นขึ้นมาพบความจริงอยู่ทุกวัน
ความแปรผันเป็นเช่นนั้นพลันจบลง
-
ณ บัดนี้...ลมหายใจ...ยังเข้าออก
มันบ่งบอก...ให้เข้าใจในความหมาย
ว่าสักวัน...เรานั้นคง...ถึงความตาย
บทสุดท้าย...คือความจริงที่แน่นอน
วันนี้เรา...ยังลุ่มหลง...อะไรอยู่...
ความไม่รู้...ยังรุมเล้า...ตามหลอกหลอน
อยากมากมาย...ปั่นป่วนให้...ใจอาวรณ์
ตัวละคร...ที่ไม่ยอม...หยุดแสดง...
-
โทษคนอื่นเห็นแล้วได้อะไร
โทษเข้าไปได้อะไรได้ที่ไหน
โทษคือโทษใช่ประโยชน์วุ่นวายใจ
โทษที่ได้โทษที่ตนอภัยเป็น
-
ไม่ว่าเรื่องราวหลายร้อยพันที่ผ่านมา
ให้คุณค่าหรือความปวดร้าวฝากไว้
ไม่ว่าใครจะเก็บเกี่ยวอะไรในสิ่งใด
เหตุปัจจัยอยู่ที่ใจผู้นั้นจะประมวล
-
เมื่อยังอยู่...ก็อยู่...อย่างที่อยู่
อยู่อย่างรู้...ดีกว่า...อยู่อย่างเห็น
อยู่อย่างอยากจมลึกฝึกให้เป็น
ไม่ทุกข์เข็นอยู่เป็นสบายใจ...
กายจะทุกข์...ปล่อยมัน...เรื่องของกาย
ให้ความหมาย...ก็รู้สึก...จึงหลงไหล
ถึงสุดท้าย...กายก็สิ้น...สลายไป
ฝึกที่ใจ...รู้ให้ทัน...สบ๊ายสบาย
-
ในความทุกข์...ย่อมมีสุข...ฉาบอีกด้าน
มองให้ผ่าน...ให้เข้าใจ...ทะลุเห็น...
ในความหนัก...ผ่อนให้เบา...ในที่เป็น
รู้สึกเย็น...เบาสบาย...ก็ที่ใจ... :19:
-
ในความทุกข์...ย่อมมีสุข...ฉาบอีกด้าน
มองให้ผ่าน...ให้เข้าใจ...ทะลุเห็น...
ในความหนัก...ผ่อนให้เบา...ในที่เป็น
รู้สึกเย็น...เบาสบาย...ก็ที่ใจ... :19:
ในความทุกข์...ย่อมมีสุข...ฉาบอีกด้าน
มองให้ผ่าน...ให้เข้าใจ...ทะลุเห็น...
ในความหนัก...ผ่อนให้เบา...วางให้เป็น
ก็จะเย็น...เบาสบาย...กายและใจ... :19:
:45: อิอิ .. ขอโทษที่บังอาจมาปรับเปลี่ยน กลอนคิดอัดฯ ของพี่เล็กค่ะ :13:
-
หนึ่งคนเหงา .. อยู่ใต้ฟ้า ของโลกกว้าง
หนึ่งคนฝัน .. เศร้าอ้างว้าง ต่างองศา
เราแลกเปลี่ยน .. อักขระ ผ่านสายตา
เส้นขอบฟ้า .. ห่างไกลกัน แค่เอื้อมใจ
:13: :13: :13: :13:
บางรอยยิ้ม ที่ไม่เคย .. ได้มองเห็น
แต่บางอย่าง ที่เป็น .. สัมผัสได้
ห่วงใยกัน ในความห่าง .. อย่างเข้าใจ
มิตรภาพ ช่างเรียบง่าย . . แต่งดงาม..
:13: :13: :13: :13:
ไม่เสาะหา .. ถึงที่มา และที่ไป
ไม่ซักไซ้ .. ให้มากมาย ในคำถาม
ไม่ระแวง . . แคลงใจ คอยติดตาม
มีเพียงหนึ่ง .. นิยาม ความจริงใจ
:27: :27: :27: :27:
ตรึงความรัก ไว้ใน .. โลกไซเบอร์
ฉันและเธอ จะพบกัน .. วันฟ้าใส
ให้มิตรภาพ แตกตัว .. อยู่กลางใจ
ให้ความรัก โอบโลกไว้ .. ทุกวันคืน
[/font]
:25: :25: :25: :25:ขอแจม..ขอแจม :12: :12:อิอิ
-
ในความทุกข์...ย่อมมีสุข...ฉาบอีกด้าน
มองให้ผ่าน...ให้เข้าใจ...ทะลุเห็น...
ในความหนัก...ผ่อนให้เบา...วางให้เป็น
ก็จะเย็น...เบาสบาย...กายและใจ...
อิอิ .. ขอโทษที่บังอาจมาปรับเปลี่ยน กลอนคิดอัดฯ ของพี่เล็กค่ะ
มิเป็นไร ไม่ถือสา แต่กลับปรบมือให้ น้อมรับด้วยความยินดี :45: ขอบพระคุณท่านแม่นางผู้เลอโฉมทั้งกายและใจ
แก้ให้ดี...มีให้แก้...ช่วยคอยไข
แก้ที่ใจ...ให้กายด้วย...ช่วยคอยเสริม
แก้ให้กัน...หมั่นช่วยกัน...ช่วยคอยเติม
แก้เพื่อเพิ่ม...คุณธรรม...ช่วยสุขใจ :19:
-
แจมด้วยกัน...ด้วยความรัก...ฉันรักเธอ
อาจละเมอ...เผลอไปบ้าง...เพราะหวั่นไหว
เธอนั้นดี...ดีกับฉัน...มากเกินไป...
ฉันจึงได้...แต่พร่ำเพ้อ...อยู่ทุกวัน...
สิ่งไม่ดี...ของเธอนั้น...ฉันไม่เห็น...
เธอนั้นเป็น...ยอดดวงใจ...ดั่งสวรรค์
มีเธอแล้ว...มีความสุข...ทุกคืนวัน...
มีเธอนั้น...ฉันยิ้มได้...ช่างสุขสันต์....
แล้วเป็นไง...ในวันหนึ่ง...ซึ่งมาถึง...
ลืมคำนึง...ความไม่เที่ยง...ย่อมแปรผัน
สิ่งไม่ดี...ความพลัดพราก...ย่อมมีกัน
นรกนั้น...รอลงทัณฑ์...ใจโง่งม...
จึงได้รู้...จึงได้เห็น...ได้เข้าใจ...
ที่เป็นไป...เพียงหลอกกัน...หวานเป็นขม
รับไม่ได้...ก็เป็นทุกข์...ใจตรอมตรม
ทนระทม...ไม่รู้ทัน...ความเป็นไป
จะจากเป็น...หรือจากตาย...จำต้องจาก
จำต้องพราก...ห่างกันไป...เตือนตนไหม
เผื่อใจไว้...ให้รู้เถิด...เกิดดับไง....
ได้ทำใจ...ไว้แต่เนิ่น...ฝึกเข้าใจ...
-
อย่าถือสา...หาความ...ให้เป็นทุกข์
จงเป็นสุข...ชื่นบาน...บุญรักษา
ธรรมสิ่งใด...ที่ควร...ทำไปมา
ธรรมพึ่งพา...ทำไว้...ได้ที่ใจ
-
ในความฝัน...มีฉัน...และมีเธอ
ความเพ้อเจ้อ...ไม่รู้...หลงหวั่นไหว
มีเธอแล้ว...มีฉัน...เป็นทุกข์ใจ
ทุกข์หายไป...สุขใจ...รู้ทุกข์ทัน
ทันเพราะคิด...พินิจ...พิจารณา
มุ่งค้นหา...เยียวยา...อย่างสร้างสรรค์
ในความคิด...จิตใส...ปล่อยรำพัน
เป็นเช่นนั้น...คิดรู้...วางปล่อยเป็น
-
รักษากาย...รักษาใจ...ตามสมควร
จิตเรรวน...ปั่นป่วนให้...ต้องสับสน
หากมั่นคง...หยัดยืนขึ้น...ด้วยอดทน
มิหลงกล...จนเป็นทุกข์...สุขปล่อยวาง
อยู่กับกาย...อยู่กับใจ...ด้วยความจริง
มายาสิง...ให้รู้ทัน...รีบสะสาง
ความเป็นไป...สองข้างทาง...อยู่สายกลาง
จิตกระจ่าง...สว่างเห็น...เป็นสุขจริง
-
การแยกแยะ...กายและใจ...ละเอียดลึก
หมั่นเรียนฝึก...หยั่งรู้แท้...เพื่อให้เห็น
เข้าใจแล้ว...ทำให้ได้...อย่างที่เป็น
ไม่ทุกข์เข็น...แบ่งแย่งยึด...หนักใจตน
อันความรู้...มีมากมาย...ทำลายใจ
เพราะหลงไป...ในความรู้...ย่อมเป็นผล
ยึดจนแย่...พ่ายแพ้แล้ว...คนหนอคน
ยังสู้ทน...ชนะใคร...ที่ไหนกัน
เกิดมาแล้ว...ให้รู้ตน...เข้าใจตัว
อย่าเมามัว...กิเลสหลอก...แยกเธอฉัน
เมื่อมีนั่น...ก็มีนี่...สู้รบพลัน
จิตไหวหวั่น...โดนหลอกแล้ว...ไม่รู้เลย
แต่ก็ดี...มีไปแล้ว...เป็นครูสอน
รู้จักย้อน...ทวนตนก่อน...ตัวตนเผย
ความผิดพลาด...มีกันได้...อภัยเลย
ทำให้เคย...ธรรมที่ใจ...ได้กับตน
-
อันทางเลือก...มีมากมาย...และหลายหลาก
ทางมีมาก...ให้เลือกไป...ให้ได้เห็น
เลือกสักทาง...ก้าวย่างไป...อย่างใจเย็น
เลือกให้เป็น...เกิดประโยชน์...เป็นสุขใจ
หากเลือกผิด...เป็นบทเรียน...เป็นครูสอน
บททุกตอน...มีคุณค่า...หากแก้ไข
ไม่ยอมรับ...กลับเป็นโทษ...รู้อภัย
ปรับที่ใด...ก็ไม่เท่า...ปรับใจตน
หากเลือกถูก...อย่าผยอง...ลำพองขน
ถูกของตน...ยึดว่าถูก...อาจสับสน
ไม่ประมาท...ให้ระวัง...รู้เล่ห์กล
ความหลุดพ้น...เพียงไม่ยึด...รู้เท่าทัน
-
ทางสายกลาง...ทางพอดี...ทางพอเพียง
มิบ่ายเบี่ยง...แม้จะทุกข์...ไม่โศกสันต์
ไม่หลงไหล...หลงเพลิดเพลิน...รู้เท่าทัน
ความสุขสันต์...หรรษานั้น...แค่นั้นเอง
:19: :19:
คนดีหรรษาคนบ้าโศกสันต์
โลกมนุษย์นี้ก็แปลกแยกกันออก
ช่วยบ่งบอกความเป็นไปในวิถี
บอกคนนี้ชั่วบอกว่าคนนั้นดี
บอกคนนี้เป็นคนไม่สมประกอบชอบใส่ไฟ
จิตมนุษย์จึงเป็นไปในวิกฤติ
วิปริตแห่งมนุษย์สุดแก้ไข
รวนเรสับสนปนเปไป
มีจิตใจเกิดประหลาดขาดข้อมูล
คนดีจึงหรรษาประสาคน
คนบ้าก็สับสนจนสิ้นสูญ
คนดีล้วนสุขสันต์การเกื้อกูล
คนบ้าจึงพอกพูนความเกียจชัง
โลกมนุษย์นี้ก็แปลกรู้แยกแยะ
รุมทึ้งแทะกักขฬะละความหวัง
คนบ้าแม้มีฝันมันก็พัง
คนดีมีมนต์ขลังยั้งความคิด.
ขอบพระคุณที่มาhttp://www.dreampoem.com/forum/index.php?action=printpage;topic=8202.0
-
พยายาม...ระวังตน...ทั้งใจกาย
เผลอทำร้าย...จึงเป็นทุกข์...บ่วงวิถี
วงจรกรรม...ไม่หลุดพ้น...ไปสักที
อย่าได้มี...ความหลงไหล...ในมายา
โลกมายา...ให้หน้าที่...รับผิดชอบ
อยู่ในกรอบ...แบบไม่ติด...ไม่ห่วงหา
รู้แบ่งปัน...ตามโอกาส...คอยเยียวยา
เพื่อรักษา...ลมหายใจ...เหตุปัจจัย
เหมือนดั่งเทียน...ส่องแสงให้...สว่างจ้า
ถึงเวลา...ต้องดับลง...ตามเงื่อนไข
ชึวิตนี้...เกิดขึ้นแล้ว...ย่อมดับไป
ธรรมในใจ...เขียนเอาไว้...ให้รู้ธรรม
รู้เข้าใจ...หมั่นฝึกไป...ได้ตามรู้
แม้ยากอยู่...อดทนหน่อย...แค่ขำขำ
ทำอย่างไร...ย่อมเป็นไป...อย่างที่ทำ
ละบ่วงกรรม...ด้วยรู้ทัน...ปัจจุบัน...
-
:07: ขอบพระคุณครับพี่เล็ก
-
ยิ่งแสวงหาความสุข
จะยิ่งพบกับความทุกข์
ต่อเมื่อเข้าใจความทุกข์
จะค้นพบความสุขโดยไม่ต้องดิ้นรนแสวงหา..
-
การแสวงหาหลงไปในข้างใดข้างหนึ่ง
ส่งผลถึงการรับรู้ยึดหลักเหตุและผล
ยึดเอาไว้เป็นความเข้าใจเฉพาะตน
จึงดิ้นรนให้คนอื่นร่วมรับรู้และแบ่งปัน
แต่ความจริงนั้นความคิดคนนั้นหลายหลาก
คิดจึงมากไม่เป็นหนึ่งแต่ละคนคิดสร้างสรรค์
รวมจิตใจให้พอดีทางสายกลางแค่เพียงรู้ทัน
รวมใจกันสามัคคีเอาไว้ไม่ยึดใดให้ทุกข์เอย
-
นิสัยดื้อนิสัยรั้นนิสัยแย่
จิตขี้แพ้ไม่ยอมรับจิตสับสน
กลั่นแกล้งใครก็ไม่พ้นแกล้งที่ตน
ไม่ยอมทนก็เป็นทุกข์เท่านั้นเอง
ไม่ยอมให้อภัยเขาเราเศร้าหมอง
จิตติดข้องยึดเอาไว้ทำเป็นเหวง(ไม่รู้ไม่ชี้)
แบกทั้งทุกข์หลงทั้งสุขจิตระเลง
อลเวงน่าสงสารกรงขังใจ....
-
ดื่มด่ำค่ำคืนฝืนทนวนเวียน
หัดเรียนเขียนออกบอกให้ใฝ่หา
พูดคิดจิตสุขทุกข์เข้าเฝ้ามา
รักษายาใจให้ทันพลันสบาย
-
ใต้สำนึกตรึกออกมาให้ได้เห็น
สิ่งซ่อนเร้นจึงเปิดเผยเข้าทวงถาม
เป็นเช่นนี้ด้วยเหตุใดหลงไหลตาม
เป็นนิยามเกิดเป็นคนทนทุกข์ใจ
เหตุแห่งทุกข์นับไม่ถ้วนตลอดทาง
คอยอำพรางให้สับสนและหลงไหล
หากเพียงเผลอโดนฉุดเข้าวังวนไป
ติดอยู่ในกรงขังทุกข์นานแสนนาน
รู้สึกทุกข์ยังแบกไว้ให้หนักใจ
หลงเข้าไปให้ท้อแท้กิเลสหวาน
อีกซักพักความเลี่ยนเกิดหนีลนลาน
ทุกสิ่งผ่านหากยึดไว้ก็ทุกข์เอง
-
เป็นเพียงฝัน...สร้างบทให้...แสดง
คอยเติมแต่ง...เป็นเรื่องราว...กล่าวขาน
ตั้งแต่เกิด...ใช้ชีวิต...ยาวนาน
อยู่กับกาล...ผ่านพ้นไป...เวียนวน
มีปัญหา...ทุกข์และสุข...เข้าหา
คอยกังขา...ด้วยไม่รู้...สับสน
มีปัญญา...และสติ...อดทน
หากกังวล...ต่อเนื่องไป...มายา
-
เกิดขึ้นมาเพื่อเรียนรู้กับปัญหา
มีปัญญาเหตุปัจจัยย่อมส่งผล
ใช้ไม่เป็นย่อมเป็นทุกข์ที่ใจตน
ใช้เป็นล้นก็เป็นสุขสำราญใจ
สิ่งที่เกิดย่อมดับไปเป็นเช่นนั้น
หากรู้ทันความเป็นไปไม่หลงไหล
ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเช่นนั้นไง
สติใช้เข้าใจได้ทันท่วงที...
หากไม่ทันก็ส่งผลเป็นสุขทุกข์
บ้างก็รุกบ้างก็รับบ่วงวิถี...
ทางสายกลางบ่มเพาะต่อให้พอดี
พออย่างนี้จึงยอมรับกับความจริง
-
ไปยึดเอา...ว่าเป็นเรา...เฝ้าเพ้อฝัน
ไม่รู้ทัน...จึงหลงไหล...ใฝ่ฝันหา
หลงเพลิดเพลิน...ในวังวน...เมืองมายา
ตั้งคุณค่า...ติดในใจ...ให้ยังมี...
สิ่งที่มี...ที่ยังเหลือ...ให้ยอมรับ
อย่ากดทับ...จับหมักหมม...ไม่วิ่งหนี
ให้แก้ไข...ที่ยังมี...ให้จนดี...
ทำอย่างนี้...ทำจนตาย...สบายเอง
-
อันร่างกาย...เสื่อมตามกาล...สร้างทุกข์ให้
ทุกข์ที่ใด...ก็ที่ใจ...ทุกข์เข้าหา...
รู้ให้ทัน...ทำให้รอด...รู้เยียวยา...
รู้รักษา...ใจและกาย...ไปตามกาล
-
เห็นใครเป็น...ก็อยากเป็น...เช่นใครเขา
ลืมเห็นเรา...เป็นยังไง...เป็นได้ไหม...
หลงเพลิดเพลิน...หวังนั่นนี่...ทุกอย่างไป
พอไม่ได้...จบด้วยทุกข์...ไม่รู้ทัน...
-
เพราะมีเขา...เพราะมีเรา...เราจึงทุกข์
อยากจะสุข...เริ่มไขว่คว้า...ไปตามหวัง
เพราะไม่รู้...ก็หลงไป...จึงพลาดพลั้ง...
ไม่ยับยั้ง...จึงจมปลัก...ไปอีกนาน...
-
ยังสร้างสรรค์...สรรค์สร้างจรรโลงใจ
เผื่อให้ไป...ไปให้เพื่อพวกพ้อง
เพื่อเป็นสุข...สุขเป็นตามครรลอง
ไม่จับจอง...จองจับดับพ้นทัน
-
เพียงปรับใจ...ให้ยอมรับ...กับสิ่งนี้
ที่ยังมี...คือพอดี...มีให้เห็น...
หากพอใจ...ไม่ต้องฝืน...หมดลำเค็ญ
หากใจเย็น...รู้เท่าทัน...ก็สบาย
-
เพียงเก็บออม...ทีละนิด...จิตตื่นรู้
เพียงเฝ้าดู...ความเป็นไป...หมดห่วงหา
เพียงเข้าใจ...สิ่งที่มี...ล้วนมายา
เพียงเมตตา...ทั้งภายนอก...และภายใน
เพียงอภัย...เพราะผิดได้...กันทั้งนั้น
เพียงรู้ทัน...ยอมรับเถิด...อย่าหลงไหล
เพียงแบ่งปัน...ตามโอกาส...ควรอย่างไร
เพียงตั้งใจ...เพียรพ้นได้...เจริญเจริญ ไชโย๊ ไชโย :38:
-
ทนไม่ไหว...ก็รับมา...ให้มันทุกข์
หลอกว่าสุข...เพียงชั่วคราว...เพียงเพราะเผลอ
ตั้งใจรับ...สนองอยาก...ใจละเมอ
เพียงได้เจอ...ความเพลิดเพลิน...โง่งมงาย
แล้วเป็นไง...ดีมั๊ยนั่น...ดับไปแล้ว
ไร้วี่แวว...สิ่งถาวร...มาแล้วหาย
หลอกให้หลง...อยากได้อีก...ลืมความตาย
มีมากมาย...ต้องจบจาก...พรากนั่นเอง
รู้อย่างนี้...ยังไม่วาย...อยากได้อยู่
เพราะไม่รู้...รู้ไม่หมด...ใจมันเหวง
ยึดติดกล...หลอกล่อใจ...กลัววังเวง
จึงระเลง...ให้เป็นทุกข์...อยู่ทุกครา
-
ทุกข์แทนกัน...ได้อะไร...จากที่ทุกข์
ได้ความสุข...ที่ได้ทุกข์...ใช่มั๊ยหนา
ได้อะไร...จากที่เป็น...สติมา...
ยึดเข้าหา...เพื่อปล่อยวาง...ยอมรับมัน
เป็นปัญญา...ที่รับมา...เพื่อเป็นทุกข์
สละสุข...ที่หลอกลวง...แค่แปรผัน
วนเข้ามา...ก็แว๊ปออก...รู้เท่าทัน
ทุกสิ่งอัน...สรรค์สร้างไว้...ให้รู้ความ
-
บอกให้ทำ...เราล่ะ...ทำได้ไหม
ละอายใจ...บอกไป...ทำไม่ไหว
เพียงแต่รู้...ทำไม่ได้...น่าเศร้าใจ
ทำสิ่งใด...ให้ยอมรับ...ปรับใจพอ
-
ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร
เพราะสิ่งใดนั้นล้วนคืออนิจจัง
หากหลงกลโดนหลอกก็ทุกข์ขัง
โดนจับฝังในวังวนไปอีกนาน
เพราะยึดติดอะไรมามากมาย
จึงเสียดายหากต้องทิ้งหลงความหวาน
หวานเพียงลมกลับเกาะติดในสันดาน
ตนคือมารลวงหลอกตนให้ทุกข์เอง
-
จะหลอกตัวเองไปอีกนานมั๊ย
สร้างอะไรมากมายให้คิดถึง
มีอะไรหลายอย่างต้องตราตรึง
หากรู้ซึ้งเข้าใจแล้วจึงปล่อยวาง
หากยังยึดอยู่อย่างนี้ดีตรงไหน
ยังหลงไหลกับสิ่งลวงรีบสะสาง
รู้ตามจริงให้กระจ่างเพื่อพบทาง
นำสว่างสู่จิตใจได้พบธรรม
-
เพราะมีเรา...จึงมีทุกข์...ให้เกิดมี
ปวดกายนี้...เพราะมีกาย...ให้หลงไหล
มีความปวด...และมีกาย...วุ่นวายใจ
กายเป็นภัย...เพราะใจเรา...เอาไว้เอง
ทุกข์เพราะเจ็บ...เพราะมารปวด...มารุมเร้า
เราก็เอา...สิ่งเหล่านั้น...มาข่มเหง
เราทำร้าย...ด้วยใจเรา...ให้วังเวง
ใจสุดเซ็ง...เพราะเราเอง...ให้เป็นไป
ทุกข์ทั้งหลาย...ที่เกิดขึ้น...เพราะมีเรา
คอยมาเฝ้า...ทำร้ายใจ...ให้แก้ไข
เรามีเรา...ทุกข์ก็มี...ทุกข์ที่ใจ
เพราะเราไง...มีมันเอง...สร้างมันมา
-
อดีตผ่าน...ความทรงจำ...เริ่มจางหาย
เสื่อมสลาย...คลายสงบ...พบวิถี...
ต้องยอมรับ...กับสภาพ...ความเกิดมี
เป็นเช่นนี้...ไม่แน่นอน...เรียนรู้ไป...
-
เขียนเก่งจังค่ะ
นอกจากจะได้ความเพราะแล้วยังได้ข้อธรรมอีกด้วยนะคะ
อนุโมทนา สาธุ กับกุศลที่ได้แบ่งปันให้ธรรมเป็นทานในกระทู้นี้ด้วยค่ะ
^^
-
:45: คุณดอกโศก
ได้รับมา...ก็ปันไป...เป็นความคิด
เนรมิตร...ติดเอามา...เป็นความฝัน
ขีดเขียนวาด...ระบายออก...เป็นร้อยพัน
หมื่นความมัน...สรรค์สร้างไว้...ก่อนตายไป
-
เค้ามายา...เรามายา...ต่างก็รู้
หลอกให้ดู...หลงมัวเมา...แสดงเห็น
ใจเขารู้...ใจเรารับ...ความร้อนเย็น
ทุกสิ่งเป็น...เหตุปัจจัย...เกี่ยวข้องกัน
-
อายุเพิ่มขึ้น กายเสื่อมลง ใจลดลง
เริ่มรู้ปลง ความเป็นไป ตามที่เห็น
ผ่านบทเรียน บททดสอบ ทั้งร้อนเย็น
ทุกสิ่งเป็น เช่นนั้นเอง เพียงรู้ทัน
-
ไม่ใช่หนี เพียงปล่อยวาง
แค่ความว่างเข้าทายทัก
แค่เข้าใจอย่างประจักษ์
รู้จักพักอย่างพอดี...
-
ความรู้สึกนึกคิดที่ปรุงแต่ง
เพราะมีแหล่งนำพามาให้คิด
ความคุ้นเคยทำให้ยังยึดติด
คือชีวิตที่วนเวียนนิจนิรันดร์
-
เราผลักใจ...ไปคิดถึง...เขาคนนั้น
รู้ไม่ทัน...จึงหลงผิด...จิตสับสน
เราเขานั้น...ต่างเกิดมา...ไร้ตัวตน
เราอดทน...สร้างตัวตน...ยึดติดกัน
ความไม่รู้...ทำให้ทุกข์...หลงสุขยิ่ง
ไม่รู้จริง...นั้นสงบ...แต่แปรผัน
ความเปลี่ยนแปลง...เป็นเช่นนั้น...เพียงรู้ทัน
ไม่ต้องหวั่น...ปัจจุบัน...พร้อมเผชิญ
-
ในความวุ่นวายและสับสน
ต่างดิ้นรนเอาตัวรอดและแก้ไข
ยิ่งดิ้นยิ่งหมุนวนทุกครั้งไป
สงบใจให้ปล่อยวางผ่อนคลายใจ
ที่แก้ได้ก็แก้ไปให้ถ้วนทั่ว
ไม่ขลาดกลัวทำที่ได้จิตสดใส
แก้ไม่ได้ก็ให้พ้นผ่านเลยไป...
ไม่ต้องใครที่ไหนใคร...ใครนะเออ
กลับมาสู้หยุดเบียดเบียนดีสร้างสรรค์
รู้แบ่งปันไม่เบียดเบียนกรรมไม่เผลอ
ทุกสิ่งผ่านเข้ามาหาให้พบเจอ...
เราละเมอเพ้อรำพันสรรค์สร้างเอง
-
ทำก่อนตาย...ตายก่อนธรรม...อะไรก่อน
กลับมาย้อน...มีหลังก่อน...วอนรู้เห็น....
ความเป็นจริง...วนเวียนอยู่...ทุกข์เช้าเย็น
ในความเป็น...สลับตาย...วังวนเวียน...
-
แค่ผ่านมา...เพื่อวาดเขียน...เพียรสร้างสรรค์
เพื่อแบ่งปัน...ความเป็นไป...ทุกข์หรรษา...
สิ่งที่เห็น...ภายนอกเปลือก...โลกมายา...
เพียรค้นหา...ลึกเข้าไป...ในความจริง...
-
:13: อนุโมทนาครับพี่เล็ก
-
ทนไม่ได้...ก็ปล่อยไป...ตามที่คิด
ยังยึดติด...คิดมากมาย...คิดให้เห็น
คิดอะไร...รู้ไหมเล่า...คิดให้เป็น
คิดรู้เว้น...ทันแยกแยะ...แวะเวียนไป
-
คิดข้างเดียว...เหลียวย้อนคิด...ติดใจหวล
จิตแปรปรวน...ใฝ่เฝ้าเพ้อ...เผลอใฝ่ฝัน
อยากให้เป็น...กลับไม่ได้...ทุกสิ่งอัน...
ทุกสิ่งนั้น...มันไม่เที่ยง...ได้อย่างใจ.....
ไม่เป็นไป...อย่างที่คิด...ก็จึงทุกข์....
คิดอยากสุข...กลับหม่นหมอง...จิตหวั่นไหว
หลงพร่ำเพ้อ...คิดให้สุข...คิดออกไกล...
วนกลับไป...ให้เป็นทุกข์...เช่นผ่านมา....
-
เปลี่ยนชื่อไป...เท่าไหร่...เปลี่ยนได้หมด
ความเคี้ยวคด...ลดเลี้ยว...หฤหรรษ์...
แต่งเติมเรื่อง...มากมาย...มีร้อยพัน...
สุดท้ายนั้น...รู้ให้ทัน...ความเป็นไป...
-
ร้อนอะไร...ใจร้อน...เผาที่ตน
ใจร้อนรน...อยากได้...ทำให้เห็น
จับจองไว้...เป็นของเรา...จนลำเค็ญ
เป็นทุกข์เข็น...มันไม่มี...ของของใคร
-
ที่ไปแล้ว...ก็ไป...ตามทางเดิน
เรายังเพลิน...ยังอยู่...จึงยังเห็น
ความเป็นไป...ตั้งไว้...สิ่งที่เป็น
ทุกข์ลำเค็ญ...แค่ไหน...รู้ปล่อยวาง
ธรรมะมี...ยังอยู่...แสดงไว้
เลือกเอาไป...ใช้เอง...เพื่อสะสาง
สิ่งติดขัด...ค่อยค่อย...ไปตามทาง
แสงสว่าง...จากธรรม...เริ่มเบ่งบาน
เรายังอยู่...ระวัง...อย่าประมาท
เกินหรือขาด...พินิจ...ใจห้าวหาญ
รู้อภัย...ยอมรับ...หมั่นทำทาน
ได้พบพาน...ที่ทำ...ธรรมนั่นเอง
-
เจอปัญหา...เป็นทุกข์...หรือคนดี
พักตรงนี้...ก่อนนะ...ค่อยสู้ใหม่
ทิ้งอดีต...ขมขื่น..ทำร้ายใจ...
หาสุขไหน...ให้เจอ...ที่ใจตน
แค่เราเจอ...ก็เป็นสุข...รู้จักคิด
อย่ายึดติด...สิ่งเป็นทุกข์...รู้เหตุผล
เพียงผ่านมา...ก็ผ่านไป...ไม่ร้อนรน
เกิดเป็นคน...ให้อดทน...จนเจอจริง
เกิดอยู่ตาย...ผ่านมา-ไป...เพียงเข้าใจ
ความสดใส...ให้เบิกบาน...สุขหนุงหนิง
ความรันทด...ทุกข์เศร้าหมอง...ขจัดทิ้ง
พักพึ่งพิง...ที่ใจตน...สุขมากมาย...
ยามสุขนั้น...ไม่หลงเริง...จนเผลอไผล
รู้จักใจ...ลมเข้าออก...จึงไม่หาย...
รู้สักวัน...ลมมีหยุด...ถึงวันตาย...
สละกาย...ไปสักวัน...สบายใจ...
-
เห็นซากหนึ่ง...ซึ่งย่อยยับ...ดับสลาย
ถึงความตาย...ไม่หายใจ...ร่างดับสูญ
ค่อยค่อยคืน...กลับสู่ธรรม...อย่างอาดูร
ธรรมเกื้อกูล...กันและกัน...ให้เห็นจริง
-
ดีใจแล้ว...ที่ได้พบ...กันวันนั้น
ช่างเป็นวัน...อันสุขศรี...สมรศร
แต่วันนี้...ไม่มีแล้ว...ใจร้าวรอน
ใจโอนอ่อน...ทุกข์กลับย้อน...กร่อนจิตใจ
ทุกข์ที่เธอ...ไม่เหมือนก่อน...ในวันนั้น
เข้าใจกัน...คอยห่วงใย...ช่วยแก้ไข
แต่วันนี้...เธอจากไป...สิ้นเยื่อใย
ทำร้ายใจ...เพราะยึดติด...คิดครอบครอง
ความคิดเรา...ทำร้ายตน...น่าอดสู
ความไม่รู้...ทำร้ายใจ...มีเจ้าของ
อยากได้มา...อยากมีไว้...คิดจับจอง
น้ำตานอง...เมื่อไม่ได้...ทุกข์เผาใจ
ปลงเสียเถิด...ในความมี...หนีไม่พ้น
สักวันตน...ต้องพลัดพราก...ต้องทนไหว
ใจกายเรา...ยังต้องจาก...ตามกลไก
หมดอะไร...หมดทุกอย่าง...ไม่มี...มี
-
แค่วันหนึ่ง...ซึ่งสรรสร้าง...และปั้นแต่ง
เป็นวันแห่ง...ซึ่งความหมาย...สุขสดศรี
รื่นเริงใจ...แบ่งปันกัน...เร้าใจดี...
วันที่มี...ก็ผ่านไป...ผ่านหมดวัน...
ความสุขนั้น...ผ่านไปเร็ว...เสียเหลือเกิน
กำลังเพลิน...กลับหายไป...สุขแปรผัน
สลับเปลี่ยน...เป็นวังวน...รู้ให้ทัน...
ทุกสิ่งอัน...เราเท่านั้น...ผูกเรื่องเราว...
-
ส่งความสุข...ด้วยความรัก...มอบให้ไว้
ตรึงจิตใจ...ยามปรุงแต่ง...จิตโหยหวล
วันนี้เป็น...อย่างไรนั้น...ใจแปรปรวน...
ยังเรรวน...ไปตามมี...ที่อยากเป็น...
เป็นอย่างไร...ตามที่มี...มีเท่านี้...
อย่างพอดี...มีพอเพียง...รู้ทุกข์เข็ญ
ยอมตรากตรำ...รับให้ได้...อย่างใจเย็น
แม้ลำเค็ญ...ต้องอดทน...ในสิ่งควร...
-
หมดอะไร...ให้ต้อง"งง"...และสงสัย
หมดเป็นไป...เพราะเข้าใจ...ไม่หลงหา
หมดอาลัย...มิยึดติด...ในอัตตา...
หมดแล้วหนา...ความอยากเอา...เผาจิตใจ
-
ส่งใจออก...ไปคิด...สิ่งหลากหลาย
มีมากมาย...เอามา...ช่างสรรค์หา
หลงยึดติด...สิ่งผิด...หลงอัตตา
หลงนำพา...ใจไป...ไกลเกินจริง
-
ย้อนกลับมา..ดูตน..ดีที่สุด
รู้จักหยุด..เป็นไป..เชิงสร้างสรรค์
เพียงแค่รู้..เข้าใจ..เพียงรู้ทัน
ความจริงนั้น..ผันผ่าน..เลยผ่านไป
-
วนกลับมา...หาอีกครั้ง...พลั้งพลาดอีก
ด้วยเพราะปีก...ไม่แข็งแรง...แซงไม่ไหว
อีกทั้งใจ...ยังไม่แกร่ง...แหว่งโหว่ไป
แต่ยังไง...ไม่ย่อท้อ...เพียรต่อไป
-
วนมาอีกเป็นอย่างนี้เนิ่นนานนัก
อุปสรรคหลายหลากล้นวนเข้าหา
สู้ฝ่าฟันผันแปรเปลี่ยนกาลเวลา
ความจริงมาปัจจุบันรู้ให้ทัน...
ทั้งอดีตตามหลอกหลอนวอนให้เห็น
ให้ใจเย็นอนาคตอย่าสับสน...
อย่าคาดสูงให้พอดีไร้กังวล...
ไม่เปปนปรุงมายาหลอกใจตัว...
-
เมื่อผ่านไป ยังคงจำ นำมาคิด
ยังยึดติด มีตัวตน น่าสงสาร
หลงสร้างเรื่อง เฟื่องฟุ้งหา แค่วันวาน
คงเนิ่นนาน สานไปต่อ ยาวยืดไกล
ยังไม่ถึง ก็คิดก่อน หวังโน่นนี่
อยากให้ดี ได้ดังใจ สมองไหล
มัวสร้างทุกข์ เป็นแต่ทุกข์ ไม่ใช่ใคร
เรานี่ไง สร้างให้เหตุ เป็นตัวตน
เพราะไม่รู้ จมกับสิ่ง มายาหยาบ
เหมือนถูกสาป เพราะเป็นกรรม มันส่งผล
หากทำดี มีศีลธรรม หมั่นฝึกฝน
รู้อดทน ใช้สติ ได้ปัญญา
-
ยังยึดมั่น ถือมั่น ในตัวตน
ยังคงวน และเวียน น่าสงสาร
ยังไม่รู้ ยังโง่ มาเนิ่นนาน
ยังคงสาน ไม่เห็น ความเป็นจริง
จะคงยัง อย่างนี้ อีกนานไหม
จะถามใจ ให้คิด สิ่งใดสิง
จะหลงกล มายา หรือหยุดนิ่ง
จะเห็นจริง ในจริง ไร้สิ่งใด
-
ทุกข์เพราะมีตัวตนเราคิด
คิดเพราะจำสิ่งต่างๆอดีตปัจจุบัน
จำเปรียบเทียบอดีตปัจจุบัน
เกิดโลภโกรธหลงให้เป็นทุกข์
-
อิ อิ อิ แอบ มาส่อง :45:
-
พ่อทำดี...มากล้น...เกินบรรยาย
น่าใจหาย...พ่อไป...ให้หวั่นไหว
ย้อนความดี...พ่อทำ...เป็นแรงใจ
รอยพ่อให้...มุ่งมั่น...หมั่นทำดี
พ่อเหน็ดเหนื่อย...ไม่ท้อ...สู้ด้วยใจ
เมตตาให้...ประชา...นั้นสุขี
ทุ่มทั้งใจ...ทั้งกาย...แลกชีวี
เพราะพ่อนี้...เมตตา...ห่วงปวงชน
แม้จากลา...ความดี...นั้นยังอยู่
ผุดให้ดู...เป็นบุญ...เป็นเหตุผล
ทำสิ่งใด...ย่อมได้...ในบัดดล
เป็นวังวน...เป็นธรรม...เช่นนี้แล
-
ลองลองดู รู้ไหม ใครหนอคิด
มองมองจิต เห็นไหม ใครหนอหลง
ตรองตรองใจ ทันไหม ใครหนอ..งง
ไปไปตรง สงสัย อย่าได้มี
-
ชีวิตใช้เวลามาเนิ่นนาน
พ้นวันผ่านเรัยนรู้ข้อสงสัย
สติปัญญาบ่มเพาะกันไป
สิ้นหายใจเมื่อไหร่จึงรู้เอง
ทุกข์สลับสับเปลี่ยนมากหรือน้อย
ทุกข์มาบ่อยจิตใจโดนข่มเหง
ทุกข์ไม่พ้นยึดตนคนระเลง
ทุกข์จนเซ็งโง่เง่าเต่าล้านปี