ใต้ร่มธรรม

คลังธรรมปัญญา => พรรณาอักษร => ระบาย พรรณาด้วย ฉันทลักษณ์ กาพย์กลอน (อิสระ) => ข้อความที่เริ่มโดย: ดอกไม้ในที่ลับตา ~ ღ ที่ กันยายน 24, 2010, 09:09:31 pm

หัวข้อ: วรรณคดีจีน กวีพุทธ – ท่าน..หวางเหว่ย “ 诗佛”。王维 ..
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกไม้ในที่ลับตา ~ ღ ที่ กันยายน 24, 2010, 09:09:31 pm
 
วรรณคดีจีน1 : หวางเหว่ย 王 维 - กวีพุทธ (http://tongtham.blogspot.com/2009/12/1_13.html) 
     


(http://i82.photobucket.com/albums/j244/marron0811/mix/200741120481823.jpg)


วรรณคดีจีน ..

กวีพุทธ – หวางเหว่ย


(http://www.sywcqxgcw.cn/userfiles/image/myj.jpg)


 鸟 鸣 涧 (เหนี่ยวหมิงเจี้ยน)
สกุณาร้องเหนือธาร . .

人 闲 桂 花 落 (เหยินเสียนกุ้ยฮัวลั่ว)
๐ คนไร้ - ไม้ดอกกุ้ย หล่นลา

夜 静 春 山 空 (เย่จิ้งชุนซานคง)
คืนสงัดวสันต์ภูผา เปล่าร้าง

月 出 惊 山 鸟 (เยวี่ยชูจิ้งซานเหนี่ยว)
จันทร์โผล่ส่องสกุณา ตระหนกตื่น

时 鸣 春 涧 中 (สือหมิงชุนเจียนจง)
แจ้วเจื่อยเสียงไปกว้าง หุบห้วยแห่งวสันต์ ๐



หวางเหว่ย กวีเอกยุคราชวงศ์ถัง

หวางเหว่ย 王 维 เป็นกวีที่มีท่วงทำนองของบทกวีเป็นอัตลักษณ์ของตนเอง ถึงขนาดเรียกว่าเป็น “สกุลช่าง” สกุลหนึ่ง  .. เขาก็เขียนอะไร ๆที่มันดูเรียบ ๆ เหมือนบรรยายทิวทัศน์ อย่างเช่นบทนี้..

วรรคที่หนึ่งบอกว่า - ในที่ซึ่งปราศจากผู้คน ดอกกุ้ยฮัวร่วงหล่นลง

วรรคที่สองบอกว่า – ที่นั้นคือบนภูดอยที่ว่างไร้ยามราตรีในฤดูใบไม้ผลิ

วรรคที่สามบอกว่า – ครั้นดวงจันทร์ออกมาฉายส่องบนฟ้า ทำให้นกตกใจ (นึกว่าสว่างแล้ว)

วรรคที่สี่บอกว่า - นกจึงพากันร้องระงมเสียงก้องลำธารยามฤดูใบไม้ผลิ

ท่านผู้อ่าน อ่านแล้วเห็นภาพสภาพแวดล้อมบนภูดอยในคืนที่เงียบสงัด ขณะนั้นเป็นฤดูใบไม้ผลิ อากาศอบอุ่น
สบาย ทันใดนั้นพระจันทร์ก้เจิดกระจ่างขึ้นมาทันทีทันใด เหล่านกภูดอยพากันตื่นร้องเสียงเจื้อยแจ้วดังก้องไปตามลำห้วย...

 . .อย่างนี้เอง ที่ปราชญ์จีนเขายกย่องนักกวีที่เขียนบทกวีได้เยี่ยมยอด และจิตรกรที่วาดภาพได้เยี่ยมยอดว่า..



(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:_I5_XdErgKPTWM::&t=1&usg=__iefDkJksgeVGJ4y-RzropRub2sM=)

“ ในกวีมีภาพ 诗 中 有 画  


ในภาพมีกวี 画 中 有 诗

  บทกวีของหวางเหว่ยแทบทุกบท เป็นตัวอย่างความสำเร็จของนักกวีที่เขียนบทกวีได้ถึงขั้น “ในกวีมีภาพ”

นี่เป็นความสำเร็จขั้นที่หนึ่ง ..

ยังมีความสำเร็จของกวีขั้นที่สองอีก

นั่นคือ “สื่อสร้างจินตนาการได้ไม่จำกัด”

คุณลักษณะของบทกวีที่ต่างจากคำประพันธ์ประเภทอื่น ๆ ก็คือ “บทกวีใช้คำจำกัด สื่อสร้างจินตนาการไม่จำกัด”
อ่านบทกวีบทนี้แล้ว ผู้อ่านร้อยคนก็มีจินตนาการได้มากกว่าร้อยอย่าง เพราะคนอ่านก็อาจจะมีจินตนาการได้มากกว่าหนึ่งอย่าง

หวางเหว่ยนับเป็นนักกวีที่ประสบความสำเร็จถึงขั้นที่สอง
ความสำเร็จขั้นที่สามของบมทกวี คือผู้อ่านบรรลุธรรม หรือตระหนักรู้ในเรื่องธรรมชาติของความเป็นมนุษย์
การตระหนักรู้ธรรมชาติของมนุษย์ มิใช่เรื่องของศาสนาพุทธนิกายเซนฝ่ายเดียว
ศาสนาอื่น ปรัชญาอื่น ๆ ก็อาจทำให้เข้าถึง ตระหนักรู้ธรรมชาติของมนุษย์ได้เช่นกัน


(http://gb.cri.cn/mmsource/images/2009/03/27/chnxn2009032701.jpg)


หวางเหว่ยนั้น นักประวัติศาสตร์มองว่า ท่านเป็น “กวีพุทธํ”

“กวีเต๋า” คือเถาหยวนหมิง

“กวีบู๊เฮี้ยบ” คือหลี่ไป๋

“กวีขงจื๊อ” คือ ตู้ฝู่

ในกวีบทข้างต้น สื่อคำสอน “เซน” ( ฌาน , หรือ ธฺยาน) ด้วย แม้จะตีความยากสำหรับผู้เริ่มศึกษา แต่สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับจริตแบบเซนแล้ว ซึมซับเข้าใจไม่ยาก

สองวรรคแรก สื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียวของชีวิตเรากับธรรมชาติ ความสงัดวิเวกของสภาพแวดล้อมบนภูดอยยามใบไม้ผลิ ดอกไม้ร่วงหล่นอย่างเงียบ ๆ แต่เป็นฉากแสดงความเคลื่อนไหวในบรรยากาศที่สงบเงียบ อาจทำให้จิตใจเราตื่นรู้ เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ในทันทีทันใดนั้น
เปรียบเหมือนพระจันทร์สาดส่องขึ้นอย่างฉับพลัน

ขอให้สังเกตนะครับ “หวางเหว่ย” ใช้คำว่า “พระจันทร์ออกมา” 月 出 ถ้าใช้คำแค่เพียง “แสงจันทร์ 月 亮” บทกวีนี้จะจืดลงไปเยอะ คือไม่สื่อถึงการปรากฏขึ้นของพระจันทร์อย่างฉับพลันทันที
แสงสว่างของดวงเดือนทำให้นกตื่น !

นั่นคือการตระหนักรู้ บรรลุธรรมของจิตมนุษย์นั่นเอง . .
       




  โดย : ทองแถม นาถจำนง  เวลา - 12:01 (http://img2.blogblog.com/img/icon18_edit_allbkg.gif) (http://www.blogger.com/post-edit.g?blogID=3985276214491470525&postID=2528388255961519514)   




:13: (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/884/26884/blog_entry1/blog/2008-09-02/comment/311032_images/2_1250778126.gif)ขอขอบพระคุณและร่วมอนุโมทนาที่มาของข้อมูลทั้งหมดจาก : บล๊อก ของ คุณ ทองแถม  นาถจำนง ..  (http://tongtham.blogspot.com/2009/12/1_13.html) ภาพประกอบจาก internet   มา ณ. ที่นี้ด้วยค่ะ .. ^^





หัวข้อ: Re: วรรณคดีจีน กวีพุทธ – ท่าน..หวางเหว่ย “ 诗佛”。王维 ..
เริ่มหัวข้อโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน ที่ กันยายน 24, 2010, 10:49:46 pm
 :yoyo101: ขอบคุณศิษย์พี่น้ำฝนครับ เขียนกวีพันอักษรร้อยเรียงภาพได้น่าอ่านมากๆ